ความคิดเห็นที่ 1 |
เด็กนั่นใครเหรอปัง
เตชินทร์เอ่ยถามขณะปัญชยาก้มสวมรองเท้า หลังนำข้าวของไปเก็บในบ้านแล้ว น้องภูมิกำลังนั่งดูการ์ตูนในทีวี ตรงหน้าเด็กชายมีสมุดคัดลายมือที่สุภางค์ไปขอมาจากโรงเรียนประถมใกล้กรมฯ
ลูก...ของเพื่อนน่ะค่ะ เขาฝากไว้ชั่วคราว หญิงสาวตอบเรียบ ๆ ไปกันเถอะค่ะ ปังหิวแล้ว
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว โอ้...พี่นึกขึ้นได้ว่าต้องไปรับเอกสารที่ซีคลาส เดี๋ยวรุ่นน้องมันจะกลับบ้านไปก่อน ปังทนหิวนิดนะ
คำว่าซีคลาส ทำให้ปัญชยาฉุกคิดถึงเรื่องเมื่อวานขึ้นมาอีก หวังว่าวันนี้หล่อนคงไม่ซุ่มซ่ามไปวิ่งตัดหน้ารถใครเข้าอีก แค่เมื่อวานก็แย่พอแล้ว
กว่าจะฝ่ารถติดมาถึงสาขาใหญ่ของรถยนต์ยี่ห้อหรูได้ก็ค่ำพอดี ปัญชยานั่งรออยู่ในรถ ส่วนเตชินทร์เดินปนวิ่งเข้าไปในตึก บรรยากาศเงียบสงัด คงเพราะพนักงานกลับบ้านไปเกือบหมดแล้ว
เกือบสิบนาทีชายหนุ่มยังไม่มา หญิงสาวจึงเปิดประตูก้าวลงจากรถ บริเวณนั้นเป็นลานกรวดขาวโพลน ล้อมรอบด้วยอิฐมอญเป็นรูปกลมดิก มีหญ้าสีเขียวปูพรมไว้บางส่วน
ปัญชยาเดินช้า ๆ บนถนนคอนกรีตเตียนโล่งเลียบลานกรวด แสงไฟเหนือศีรษะสาดจับสุนัขตัวโตสีดำกำลังดมฟุดฟิดขุดคุ้ยบางอย่างอยู่ลนลานกรวด ปัญชยาหยุดมอง
หล่อนยิ้มเอ็นดู ร้องเรียกมัน เด็กดี...มานี่มา
มันหันมาทำตาโปนใส่ ก่อนเอียงคอมองหญิงสาวเหมือนจะงงงวย ท่าทางนั้นทำให้หล่อนขัน หญิงสาวย่อตัวลงมามะ...มานี่
สุนัขตัวสูงเกือบเอวทำท่าลังเล หากพอเห็นแววตาอ่อนโยนใจดี มันก็เหยาะเข้าใส่ ร่างเล็กบางเซไปเล็กน้อยเมื่อถูกสุนัขวิ่งเข้าหา มันกระดิกหางกุด ๆ เลียหน้าเลียตาหล่อนราวกับรู้จักรักใคร่มานาน
ไอ้บุช...ไอ้หมาชีกอ มานี่!
เสียงห้าวดังจากประตูกระจกใสบานใหญ่ข้างตึก ปัญชยาชะงักหันไปมอง
เขา...เจ้าของรถคันที่เฉี่ยวหล่อนเมื่อวาน
อิศวเรศยิ้มบาง ร่างสูงใหญ่ในเสื้อเชิ้ตสีเข้ม กางเกงขายาว เดินอาด ๆ ตรงมาหาร่างบางที่ย่อตัวประคองสุนัขของเขาอยู่ เจ้าบุช ผละไปหาผู้เป็นเจ้าของทันที
ชายหนุ่มเห็นตั้งแต่ตอนที่หล่อนลงจากรถแล้ว และไม่คิดว่าผู้หญิงหน้าสวย ผิวใส เอวบางร่างน้อยคนนี้จะเอ็นดูเจ้าหมาหน้าตาน่ากลัวของเขาลง แถมเจ้าบุชยังกระดิกหางกุดใส่หล่อน วิ่งเข้าหาเหมือนรู้จักกันมาก่อนอย่างนั้นแหละ ทั้งที่ยามปกติ มันไม่เคยยอมให้ใครแตะต้องตัวมันด้วยซ้ำ แม้แต่ แว่น เพื่อนสนิทของเขา
ปัญชยาแก้มร้อน รู้สึกอายที่ถูกสายตากรุ้มกริ่มมองมา หล่อนคงดูตลกสินะ ที่เล่นกับสุนัขตัวโตเหมือนเด็ก ๆ
มาธุระอีกแล้วหรือครับ อิศวเรศเอ่ยถามยิ้ม ๆ พลางลูบหัวหมา
ค่ะ หญิงสาวลูบแขนตัวเอง มีคราบน้ำลายของเจ้าบุชเปรอะไปหมด ชายหนุ่มหัวเราะ
ไปล้างตรงสวนหย่อมเล็ก ๆ นั่นสิครับ มีก๊อกน้ำอยู่หลังกระถางต้นไม้
เขาชี้มือ แต่ก็เดินนำหล่อนไป ปัญชยาจึงเดินตามไปอย่างเสียมิได้ บริเวณนั้นมืดสลัว แต่พอมองเห็นได้ลาง ๆ อิศวเรศเปิดก๊อก เขาก้มมองร่างเล็กที่นั่งยอง ๆ ล้างมือล้างแขน
ผิวหล่อนเนียนใสไร้เครื่องสำอาง เสี้ยวหน้าด้านข้างก็น่ามอง พวงผมหางม้าแผ่สยายเต็มแผ่นหลังบอบบาง
คุณเป็นแฟนพี่เต้เหรอ
ชายหนุ่มถามตรง ๆ ด้วยความอยากรู้ และค่อนข้างมั่นใจว่าคำตอบคือใช่...หากก็ต้องประหลาดใจเมื่อหญิงสาวตอบเรียบ ๆ ว่า
ไม่ใช่ค่ะ พี่เต้เป็นรุ่นพี่ของฉัน
จริงเหรอครับ
ปัญชยาเงยหน้าขึ้น นึกในใจว่าแค่คำถามแรกของเขาก็เสียมารยาทพออยู่แล้ว นี่ยังจะมาย้อนถามอีก
ปกติหญิงสาวมักชินกับสายตาชื่นชอบ และ การชวนคุย ของผู้ชาย แต่ทุกคนที่เคยพบเจอ มักเกรงสายตาเย็นชา และท่าทางเฉยเมยของหล่อน จนต้องล่าถอยไปเอง ไม่เคยมีใครต่อปากต่อคำ ท่าทางยียวนเหมือนผู้ชายตรงหน้านี่
ถึงเขาจะไม่ได้สนใจหล่อนก็เถอะ ยังไงก็เสียมารยาทที่มาถามเรื่องส่วนตัวกันแบบนี้
หล่อนลุกยืน ร้องอุทานเบา ๆ เมื่อเจ็บตึงแผลถลอกที่หัวเข่า อิศวเรศย่นคิ้ว เป็นอะไรครับ
เจ็บแผลนิดหน่อยค่ะ หญิงสาวก้มลงลูบคลำรอยแผลเบา ๆ
แผล...จากที่ล้มเมื่อวานหรือเปล่าครับ ชายหนุ่มเป็นห่วง
เออใช่...เมื่อวานหล่อนล้มต่อหน้า แต่เขาไม่ได้เข้าไปช่วย เพราะเหตุนี้หรือเปล่านะ หล่อนถึงได้มองเขาด้วยสายตาเย็นชาไม่เป็นมิตร
ก็เขาตกใจจนทำอะไรไม่ถูกนี่นา...แถม เกิดมาไม่เคยเห็นคนสวยหิ้วปิ่นโต...เลยต้องยืนมองให้เต็มตาเสียหน่อย
เมื่อวานขอโทษที่ไม่ได้ช่วยเหลือตอนคุณล้มนะครับ ผมมัวแต่ตกใจ
ไม่เป็นไรค่ะ ฉันซุ่มซ่ามเอง ปัญชยาเงยหน้าขึ้น
เจ้าบุชซึ่งเดินตามหลังมากระดิกหางเข้าใส่อีก
คุณเป็นผู้หญิงคนแรก ที่หมาผมยอมให้จับ...ไม่สิ มันวิ่งเข้าใส่คุณด้วยซ้ำ อิศวเรศว่า คุณแอบไปทำความรู้จักกับมันตั้งแต่เมื่อไรครับ
หล่อนไม่ตอบ เดินสะบัดมือเลี่ยงกลับไปที่รถ มีเจ้าบุชวิ่งตาม
แน่ะ...เห็นไหม ๆ มันติดคุณแจเชียว ร่างสูงเดินตามไปติด ๆ เขารู้สึกสนุกที่ได้ตื๊อคุยกับหล่อน
นาน ๆ ครั้งจะเจอผู้หญิงที่ทำท่าเหมือนไม่อยากเสวนากับเขา
ปัญชยาเดินไปหยุดข้างรถ ลูบหัวเจ้าหมาตัวโตเบา ๆ มันหลับตาพริ้ม อิศวเรศเอ่ยอีกว่า
เขาว่าสัตว์น่ะ...มันจะรู้ว่าใครใจดีหรือใจร้ายใช่ไหมครับ
คงอย่างนั้นมั้งคะ หล่อนตอบโดยไม่มองหน้าเขา
ใบหน้าคมคายแต้มยิ้ม เอื้อมมือไปลูบคอสุนัขของตนเบา ๆ วันหลังมาเล่นกับมันอีกสิครับ ผมไม่หวงหรอก ผมพามันมาเกือบทุกวัน อยู่คอนโดฯ มันดูเหงา ๆ
คำพูดของเขาฟังดูไม่ใช่การจีบ ปัญชยาจึงรู้สึกวางใจขึ้น
ถ้าวันนี้ฉันพกปิ่นโตมา มันคงได้กินกระดูกหมู กระดูกอ่อนน่ะค่ะ เหลือจากทานมื้อกลางวัน... หญิงสาวชะงักเมื่อนึกได้ว่า ท่าทางชายหนุ่มจะเป็นคนมีฐานะ เขาคงไม่อยากรับน้ำใจเป็นเศษกระดูกหมูเหลือ ๆ ให้หมาเขาหรอก เอ้อ...หมาคุณคงกินอาหารเม็ด... หล่อนจะต่อว่า แพง ๆ ก็เกรงใจ
ไม่เฉพาะอาหารเม็ดหรอกครับ บุชมันกินได้ทุกอย่าง กระทั่งมะม่วง มังคุด กล้วยแขก มันตะกละจะตาย
ปัญชยายิ้มขำ และรอยยิ้มบนดวงหน้าเรียวใต้แสงไฟ ก็ทำให้อิศวเรศใจเต้นแรง เขาจ้องหน้าขาวนวลผ่องที่มีแววตาอ่อนโยน และรอยยิ้มอ่อนหวานของหล่อนอย่างตกตะลึง
คุยอะไรกันเหรอ
เตชินทร์ถามเสียงดัง สีหน้าไม่พอใจนัก เพราะเขายืนมองอยู่ตรงประตูตั้งนานแล้ว
อิศวเรศ รู้เชิง รุ่นพี่ เขาค่อย ๆ ดึงปลอกคอสุนัข ลากให้มันออกห่างปัญชยาเงียบ ๆ
รอนานไหมปัง... เตชินทร์เดินมาที่รถ เขามองรุ่นน้องสาว และมองอีกหนุ่มที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่จริง ๆ แล้วกำลังจดจำชื่อของหล่อน...หญิงสาวที่เขาชักถูกชะตา...
ไม่หรอกค่ะ พอดีได้เล่นหมาของคุณคนนี้แก้เบื่อ
มันไม่กัดเอาเหรอน่ะ เตชินทร์ยังหน้าหงิก มองเจ้าบุชที่จ้องตอบมาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
ไม่กัดหรอกครับพี่เต้ หมาผมน่ารักจะตาย ยิ่งมาเจอคนใจดีอย่างคุณปัง... อิศวเรศถือวิสาสะเรียกชื่อหญิงสาว พร้อมส่งสายตาท้าทายลึก ๆ ไปยังหนุ่มรุ่นพี่
ไปกันเถอะ ปังคงหิวมากแล้ว เตชินทร์ดันร่างบางขึ้นรถปิดประตูโครม ไม่เปิดโอกาสให้หนุ่มรุ่นน้องพูดอะไรได้อีก แต่ตอนรถคันหรูแล่นจากมา อิศวเรศก็โบกมือให้ปัญชยาพร้อมยิ้มกว้าง
มันคุยอะไรกับปัง
ปัญชยางุนงงกับน้ำเสียงห้วนจัดของรุ่นพี่ ก็ไม่ได้คุยกันมากมายหรอกค่ะ แค่คุยเรื่องหมาของเขา
ทำเป็นเอาหมามาล่อสาว ๆ น่ะสิ ไอ้หมอนี่มันเจ้าชู้จะตาย มันเป็นรุ่นน้องของพี่เอง วัน ๆ ดีแต่หลีสาว ปังอย่าไปหลงคารมมันเชียวนะ
แต่ปังว่าหมาน่ากลัวแบบนั้น สาว ๆ คงไม่กล้าเข้าใกล้มากกว่านะคะ หญิงสาวว่า ก่อนหัวเราะเบา ๆ เมื่อนึกถึงคำพูดของชายหนุ่มเจ้าของหมา
เตชินทร์เม้มปาก ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้น
| จากคุณ |
:
BAHAMAS
|
| เขียนเมื่อ |
:
6 ส.ค. 52 00:45:04
|
|
|
|