Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Return of the Angel บทที่ 5  

บทนำ

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8132496/W8132496.html

บทที่ 1

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8135726/W8135726.html

บทที่ 2

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8140382/W8140382.html

บทที่ 3

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8148294/W8148294.html

บทที่ 4

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8163837/W8163837.html



ยามเช้า สุภางค์เตรียมอาหารใส่ปิ่นโตให้ลูกสาว พลางมองปัญชยาซึ่งกำลังทานข้าวและดูแลน้องภูมิ เด็กชายผัดแป้งหน้าขาววอก ดูสะอาดสะอ้านเวลาสวมเสื้อกางเกงตัวใหม่...ที่ปัญชยาซื้อให้อีกเช่นเคย

เขาส่ายหน้าช้า ๆ โดยไม่สบตา เมื่อปัญชยาชวนเขาไปที่แผนก

“ทำไมล่ะจ๊ะ น้องภูมิจะได้ไปอยู่กับแม่พีชทั้งวันเลยไง...ที่ทำงานน้าปังมีแต่น้า ๆ ป้า ๆ ใจดีนะจ๊ะ”

หนูน้อยก้มหน้านิ่ง สุภางค์ได้ที พูดเสียงดังว่า “ไม่อยากไปเจอแม่ใจยักษ์น่ะสิ เพื่อนแกเองก็คงไม่อยากให้ลูกไปเกาะแข้งเกาะขาที่ที่ทำงานหรอก ดูท่าทางก็รู้”

“แล้วน้องภูมิจะอยู่บ้านเฉย ๆ เหรอ ไม่เบื่อหรือลูก” ปัญชยาพยายามใจเย็น

“ไม่เบื่อครับ” เด็กชายตอบค่อย ๆ

“แกก็ซื้อพวกสมุดภาพระบายสี ของเล่นมาทิ้งไว้เหอะน่า เด็กมันคงอยู่ของมันได้ อย่ากังวลนักเลย” สุภางค์ว่า ลูกสาวถอนใจเฮือก จิบน้ำแล้วเอ่ยกับมารดา

“ถ้างั้นแม่ก็ดูแลเขาดี ๆ ละกันนะ อย่ามัวออกไปคุยกับน้าพรข้างบ้านล่ะ” หล่อนลุกคว้ากระเป๋าและปิ่นโต ก่อนนึกถึงอุบัติเหตุเล็ก ๆ ที่หน้าซีคลาสเมื่อวาน

รอยถลอกเลือดซิบ แปรเปลี่ยนเป็นรอยแผลแข็ง ๆ ปัญชยาอดก้มมองหัวเข่าตัวเองไม่ได้ พร้อมกับที่นึกภาพชายหนุ่มตัวสูงในชุดทำงานมาดยียวนคนนั้น

ช่าง...คงไม่เจอกับเขาอีกแล้ว

ร่างบางเดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ หากพอหญิงสาวหันมาทางประตูบ้าน ก็เห็นเด็กชายยืนมองอยู่ ใบหน้าเล็กที่มีดวงตากลมโตดูน่ารักไร้เดียงสา

“น้าปังไปทำงานนะ” หล่อนโบกมือ และเขาก็โบกมือน้อย ๆ ตอบ แม้ไม่มีรอยยิ้ม แต่ปัญชยารู้ดีว่าเด็กชายไว้วางใจและอบอุ่นปลอดภัยที่อยู่กับหล่อน...มากกว่าแม่ของตัวเอง...หรือเปล่านะ

เอ...แล้วถ้าพิชาวดีไม่คิดจะรับน้องภูมิกลับไป เด็กชายก็ต้องอยู่กับปัญชยาแบบนี้ไปเรื่อย ๆ อย่างนั้นหรือ

.................................................................................................

“อะไรนะ ย้ายไปทำงานตึกโน้น...”

ปัญชยาร้องดัง ดรสายักไหล่ ขณะนั้นเป็นเวลาสายมากแล้ว แต่ยังไร้เงาพิชาวดี

“ก็เพื่อนของปัง เขาไปร้องเรียนท่านอธิบดีว่าถูกหัวหน้าลวนลาม ถ้าไม่ย้ายหล่อน ก็ต้องย้ายหัวหน้า สาว่ายายนั่นคงไปทำกระบิดกระบวน ออดอ้อนท่านอธิบดีจนใจอ่อน...”

“แต่...” เพื่อนสาวขัด ลดเสียงเบาลง “แต่พีชเขาบอกปังว่าหัวหน้าลวนลามเขาก่อนจริง ๆ นะสา เลี้ยวรถเข้าโรงแรมด้วย แต่พีชไม่ยอม...”

“ยายนั่นอาจโกหก หรือไม่ก็พูดเกินจริงนะปัง ผู้หญิงแบบนั้น คงไปให้ท่ายั่วยวน หัวหน้าถึงเข้าใจว่าหล่อนจะนอนด้วย ผู้หญิงดี ๆ ที่ไหนจะไปกับผู้ชายที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกทั้งวันแบบนั้นล่ะ หัวหน้าก็เลยคิดว่าหล่อนง่ายน่ะสิ...”

เพื่อนร่วมแผนกคนอื่น ๆ เงยหน้าขึ้น เพราะดรสาเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ ปัญชยาจึงตัดบท หยิบแฟ้มงานมาเปิด

“เอาเถอะ แต่ถ้าเขาอยากย้ายไปตึกโน้น ก็ตามใจเขา” ดรสาว่า “อยู่ที่นี่ก็อึดอัดเพราะเข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้”

ประโยคนั้นแฝงนัยบางอย่าง ต่ายฟังแล้วหัวเราะ ก่อนสาว ๆ จะหันมองหนุ่มโน้ต ผู้ชายคนเดียวในแผนก “อกหักหรือเปล่าจ๊ะ” ต่ายแซว

“อกหักตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะครับ” หนุ่มตัวป้อมพูดเขิน ๆ “พอเห็นเขาไปกับหัวหน้า ผมก็รู้เลยว่าเขาไม่มีทางมองผมหรอก”

ปัญชยาฟังแล้วรู้สึกแปลก ๆ ในใจ...นั่นสินะ...แม้หล่อนไม่อยากมองเพื่อนในแง่ร้าย แต่พิชาวดีคงสนเฉพาะผู้ชายที่ดูภูมิฐาน หน้าที่การงานดีเท่านั้น

หญิงสาวหันมองโต๊ะทำงานของสาวสวย มันว่างเปล่าเช่นเมื่อวาน เหมือนกับรู้ว่าจะไม่มีใครมานั่ง...

.................................................................................................

“อะไรล่ะปัง”

พิชาวดีรับสายเหมือนรำคาญ หล่อนไม่อยากเสวนากับอีกฝ่ายเพราะน้องภูมิ มันเป็นเหมือนชนักติดหลังอยู่ สาวสวยไม่อยากเห็น ไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเด็กชายอีก อย่างน้อยก็ระยะนี้...ที่พิชาวดีกำลัง ‘ก่อร่างสร้างตัว’ ที่นี่...ในเมืองหลวง เมืองแห่งความบันเทิงเริงใจ เมืองที่จะมอบ ‘โอกาสใหม่ ๆ’ แก่ชีวิตหล่อน

“พีชลืมของไว้ที่โต๊ะ จะมาเอาไหม หรือจะให้ปังเอาไปให้ พอดีปังจะไปส่งเอกสารที่ตึกนั้น”

เสียงใสของเพื่อนทำให้ความรู้สึกผิด แล่นวูบขึ้นมาจับใจสาวสวยนิดหนึ่ง...นิดเดียวเท่านั้น หล่อนคิดว่าปัญชยาจะโทร.มาเซ้าซี้จับผิดว่าหล่อนจะหนีหน้า จะปัดภาระเรื่องน้องภูมิ...

“เอ้อ...ไม่เป็นไร เดี๋ยวพีชไปเอาตอนเลิกงานละกัน” เสียงพิชาวดีอ่อนลง หล่อนลังเลนิดหนึ่ง ก่อนถามเพื่อนว่า “น้องภูมิงอแงไหม ซนไหม”

“ไม่เลยจ้ะ แกเรียบร้อยออก นี่ตอนเย็นปังจะพาไปซื้อสมุดภาพ ดินสอสี แล้วก็จิ๊กซอว์ให้แกไว้เล่นแก้เหงา”

คนฟังโล่งใจที่ปัญชยาไม่ได้พาเด็กชายมาที่ทำงาน หากพอถูกชวนให้ไปด้วยกัน สาวสวยก็ตัดบทเสียงห้วนแล้ววางสาย

เรื่องอะไรจะไป...เงินก็ให้ไปตั้งห้าพัน อยากจะซื้ออะไรให้ก็ซื้อไปสิ...

สาวสวยหย่อนโทรศัพท์ใส่กระเป๋า เมื่อเช้าตอนไป ‘ร้องเรียน’ กับท่านอธิบดี เจอเลขาฯ หนุ่มหล่อหน้าห้อง เลยแลกเบอร์กันไว้ ตอนเย็นจะลองขอให้เขาพาไปทานอาหารญี่ปุ่นเสียหน่อย

.................................................................................................

เตชินทร์มาปรากฏตัวหน้าแผนกตอนห้าโมง ดรสากรี๊ดกร๊าดประสาสาวทะเล้น หล่อนคุยฉอเลาะกับชายหนุ่มรุ่นพี่ ขณะที่ปัญชยายิ้มขำ ก้มหน้าก้มตาเก็บของ

“เมื่อวานอุตส่าห์นัดกันดิบดี แต่อดเพราะปังมีธุระ วันนี้พี่ไม่ยอมหรอกนะ หัวเด็ดตีนขาดต้องพาปังไปกินข้าวให้ได้”

เขาพูดกลั้วหัวเราะ หากคำพูดนั้นทำให้หญิงสาวแก้มร้อนผ่าว ยามสบตากับเพื่อนคนอื่น ๆ ที่มองมาพร้อมยิ้มกว้าง

หล่อนรู้ว่าทุกคนสนับสนุนให้หล่อนคบกับเตชินทร์ แต่อดรู้สึกอายระคนอึดอัดใจไม่ได้

“พี่เต้จะรอหน้าตึก ให้ปังขี่รถเอาของไปไว้บ้านก่อน หรือจะออกไปเลยคะ”

“พี่ตามปังไปบ้านดีกว่า ไม่ได้สวัสดีน้าสุหลายวันแล้ว”

“ตามใจค่ะ”

หล่อนสะพายกระเป๋า ร่างบางในชุดเดรสสีชมพู มีเข็มขัดสีม่วงเส้นโตรัดเอวคอด กับเรือนผมยาวที่มัดเป็นหางม้าหลวม ๆ ทำให้เตชินทร์ยิ้มภูมิใจ คิดเอาเองว่าปัญชยาแต่งตัวสวย เพราะรู้ว่าเขาจะมารับ

ชายหนุ่มแทบประคองปัญชยาเดินลงมาหน้าตึก หากยังมิทันจะเดินแยกกันไปที่รถ ก็มีเสียงทักดังขึ้น

“ปังจะไปไหน”

พิชาวดีนั่นเอง หญิงสาวสวมเสื้อสีขาวคอกว้าง กับกระโปรงพลีทสีชมพูสั้นจู๋ เดินฉับ ๆ ตรงมา ท่าทางเหมือนเหน็ดเหนื่อยและหงุดหงิด

แต่พอเห็นหนุ่มร่างสูง หน้าตาหล่อเหลาผมเรียบแปล้ ท่าทาง ‘มีเงิน’ ข้างกายปัญชยา สาวสวยก็ชะงักไป

เตชินทร์ก็เช่นกัน เขาตะลึงมองหญิงสาวผู้มีใบหน้าสวยงดงามตรงหน้า ให้ตาย...สาวทั้งกรมก็สวยสู้ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้...เธอเป็นใครกัน

เขาหันมองปัญชยา เพราะได้ยินสาวสวยเรียกขาน...เพื่อน...ของปัญชยางั้นหรือ

“จะกลับบ้านน่ะ พีชมาเอาของเหรอ”

พิชาวดีแสร้งเดินช้า ๆ เข้ามาหาเพื่อน “ก็ใช่น่ะสิ ตึกนั้นไม่ค่อยมีคนล่ะปัง พีชเง้า...เหงา...” หล่อนส่งสายตาไปทางชายหนุ่มข้างกายปัญชยา แต่แวบเดียว มิให้เพื่อนสาวทันสังเกต

ความจริงคือหนุ่มเลขาฯ ที่หล่อนหมายจะคั่ว มี ‘ภรรยา’ มารอรับถึงห้อง ตอนที่พิชาวดีเดินเข้าไปหา หล่อนเลยหน้าแตก เดินหน้างอมานี่ไง...

“ถ้างั้นไปหาน้องภูมิไหมล่ะ”

พิชาวดีหน้าถอดสีกับประโยคซื่อ ๆ ของปัญชยา หล่อนรีบพูดว่า “แล้วนี่ใครเหรอ” สาวสวยยิ้มหวานใส่เพื่อน และเผื่อแผ่รอยยิ้มบาดใจไปยังเตชินทร์ซึ่งยืนมองอยู่ “แฟนปังเหรอจ๊ะ”

“ไม่ใช่หรอก รุ่นพี่น่ะจ้ะ ชื่อพี่เต้” ปัญชยาบอกชื่อหน่วยงานของชายหนุ่ม

“แล้วจะไปไหนกันเหรอ” สาวสวยทำท่าอยากรู้...ไม่หรอก...หล่อนไม่ได้จะเข้าไปแทรก หาเรื่องตามไปด้วยแน่ หล่อนไม่ใช่คน ‘ตะกราม’ รีบร้อนตะครุบเหยื่อขนาดนั้น

ในเมื่อแค่มอง...ก็รู้แล้วว่า ‘พี่เต้’ ของปัญชยาสนใจหล่อน แววตาไหวระริก บ่งบอกความทึ่งและชื่นชมของชายหนุ่มน่ะ...มองออกไม่ยากหรอก แค่นี้พิชาวดีก็พอใจแล้ว...เดี๋ยวค่อยคิดเดินเกมทีหลัง...

ก็ปัญชยาบอกเอง...ว่าเป็นรุ่นพี่...ไม่ใช่แฟน...แม้จะดูออกว่าสองคนกำลังคบหากันก็เหอะ...

แฟนคนอื่น สามีคนอื่น สาวสวยก็เคยแย่งมาแล้วนี่นา

“เอ้อ...ปังมานี่ก่อน พีชมีเรื่องจะคุยด้วยนิดหนึ่ง ไม่นานหรอกค่ะพี่เต้” หล่อนจับมือเพื่อน พร้อมหันไปพูดเสียงหวานกับชายหนุ่ม เตชินทร์ยิ้มเขิน ๆ ยิ่งถูกอีกฝ่าย ‘ทิ้ง’ สายตาให้เขาก็ยิ่งทำหน้าไม่ถูก

ปัญชยาแทบปลิวตามมือเพื่อนมาหยุดยืนข้างรถคันน้อยของหล่อน

“ปัง พีชอยากขอร้องปัง”

คนฟังเลิกคิ้ว พิชาวดีนึกริษยาเพื่อนสาวขึ้นมาวูบหนึ่ง ที่มีผิวเนียนสวยใสราวผิวเด็ก แม้ยามไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม ใบหน้านวลของปัญชยายังผ่องงามชวนสัมผัส

หล่อนเม้มปาก ก่อนเอ่ยชัด ๆ ด้วยความมาดมั่นว่า “เรื่องน้องภูมิ พีชอยากให้ปังช่วยเก็บไว้เป็นความลับได้ไหม อย่าบอกใครว่าแกเป็นลูกของพีช”

“ทำไมล่ะ” ปัญชยาถามทันทีด้วยความแปลกใจ

“พีชมาอยู่ที่นี่เพราะอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่” สาวสวยพยายามวางท่าเคร่งเครียด “ผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตของพีช ส่วนมากรับไม่ได้ที่พีชมีลูกติด...พากันรังเกียจน้องภูมิ วันหนึ่งข้างหน้าถ้ามีใครสักคนที่รักพีชจริง ๆ พร้อมดูแลพีชไม่ว่าพีชจะเป็นยังไงมาก่อน และทำให้พีชแน่ใจในตัวเขาได้แล้ว พีชถึงจะบอกเรื่องน้องภูมิกับเขา ปังคงเข้าใจพีชนะ”

ปัญชยางุนงง “เราบอกเขาแต่แรกจะไม่ดีกว่าเหรอพีช เราจะได้รู้ว่าเขาคิดยังไงกับเรา ถ้าเขาทิ้งไปก็แสดงว่าเขารักแต่เรา ไม่รักลูกของเรา เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาคบกับคนใจร้ายแบบนั้น”

“ปังก็คิดแบบปัง พีชก็คิดแบบพีช” พิชาวดีเสียงสูง หน้าสวยเริ่มหงิก “พีชเจอผู้ชายมาเยอะกว่าปัง” หล่อนว่า “พีชรู้สันดานผู้ชายดี ถ้าไม่ถึงที่สุด พีชก็ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องลูกหรอก พีชเจ็บมาเยอะนะปัง...”

ท้ายประโยคเสียงเครือเพราะเจ้าตัวน้ำตารื้น ปัญชยาไม่แน่ใจว่านั่นคือการแสดงของสาวสวยหรือเปล่า แต่หล่อนก็ถอนใจ ถึงยังไงก็รู้สึกเห็นใจเพื่อน

“เอาเถอะ ยังไง ๆ ปังก็ขอให้พีชเจอคนที่ใช่เร็ว ๆ ละกัน”

คนฟังยิ้มดีใจ บีบมือปัญชยาแรง ๆ แสร้งปาดน้ำตา “ขอบใจนะปังที่เข้าใจเรา มาอยู่ที่นี่พีชยังไม่มีเพื่อน มีปังสักคนค่อยอุ่นใจหน่อย...”

ร่างเพรียวบางที่สูงกว่าปัญชยานิดหนึ่ง เดินกรายผ่านเตชินทร์ขึ้นตึกไป เขามองตามสาวสวยตาละห้อยทีเดียว

กิริยานั้นไม่พ้นสายตาของปัญชยาไปได้ หล่อนวางของลงในตะกร้าหน้ารถ และขี่ออกมาเงียบ ๆ พอชายหนุ่มรู้สึกตัวหันมา เขาก็ร้องตะโกน “อะไรกันปัง ไม่รอพี่เลยนะ”

หญิงสาวเอี้ยวคอมอง ก่อนส่งยิ้มหวานให้

จากคุณ : BAHAMAS
เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 00:44:13




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com