ความคิดเห็นที่ 1 แต่แล้วผมกับไอ้ตุ้ยก็โคจรเจอกันที่มหาวิทยาลัยเปิดของรัฐ ที่ซุ้มจังหวัดไอ้ตุ้ยเจอผมครั้งแรกดูเสียฟอร์มที่มากเจอผมที่นี้ ผมยิ้มอย่างมีชัย เป็นไงได้มาเรียนที่เดียวกับคนที่เอ็งคิดว่าโง่ สุดท้ายก็คือกันหละผมหัวเราะ พวกเราจับกลุ่มน้องใหม่ปีหนึ่งด้วยกัน เรารู้จักเพื่อนใหม่ ไอ้ป้อ ไอ้ตุ้ย ไอ้หลอ แก้ว แมว ติ๋ง ต่าง อุ๋ม แหม่ม น้ำ มด ทราย สังเกตดูกลุ่มผมหนักผู้หญิงเป็นพิเศษ จึงไม่ต้องแปลกใจที่รุ่นพี่ผู้ชายจะดูแลกลุ่มเราแค่ไหน เช่นเดียวกับไอ้ตุ้ย กิตติศัพท์เรื่องผู้หญิงผมได้ยินมันมานานแล้ว มันก็ขยันโปรยเสนห์แม้แต่เพื่อนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน จากคุณ : จั๊กเด๋ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 15:18:49

ความคิดเห็นที่ 2 เปิดเทอมสองไอ้ตุ้ยหายหน้าไปทั้งสองเทอม ผมมาเจอมันตอน Summer เราพึ่งทราบความจริงตอนนี้เองว่า ฐานะทางบ้านมันไม่ค่อยดี พี่ชายที่เคยส่งเสียมาเรียน เจอวิกฤติเศรษฐกิจประกอบกับมีลูกพึ่งเกิดมา จึงหมดปัญญาที่จะส่งควายมาเรียน ไอ้ตุ้ยสารภาพกับพวกเราอย่างหมดเปลือก ทำให้พวกเรารู้สึกเห็นใจในชีวิตมัน ไอ้ตุ้ยมีรายได้จากการเป็นพนักงานเก็บโต๊ ของ FAst Food รายจ่ายแทบไม่มีเพราะมันยานเกาะตลอด ไอ้ตุ้ยใช้วิธีการเรียนด้วยการอยู่ยานเกราะ ไปอาศัยเพื่อนคนนั้นที่ เพื่อนคนนี้ ไอ้ตุ้ยก็เคยมาขออาศัยนอนบ้านผมเหมือนกันแต่เป็นช่วงระยะสั้น ไอ้ตุ้ยก็ยังไม่ทิ้งนิสัยเจ้าสำเอียง ขี้เกียจนอนมาเหมือนเดิม แต่มันก็ฉลาดเมื่อรู้ว่า เจ้าของบ้านจับทางถูกก็รีบย้ายไปอาศัยกับคนอื่น จากคุณ : จั๊กเด๋ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 15:21:15

ความคิดเห็นที่ 3 ไอ้ตุ้ยกับไอ้ป้อมานั่งรอผมที่ซุ้มจังหวัดที่มหาวิทยาลัยอยู่แล้ว สีหน้าไอ้ตุ้ยรื่นเริงมากมันบอกว่ามีคนต้องการวงไปเล่นที่ PUB มันอยากจะฟอร์มวงขึ้นมา เลยมาปรึกษาผมผู้กว้างขวางในวงการ (ว่าไปนั้น) ผมเลยต้องไปชมรมดนตรีของมหาวิทยาลัย ที่นั้นเราได้เพื่อนร่วมอุดมการณ์ พี่อ๋อย ผู้คล้ำหวอดในวงการศึกษาเรียนมา 8 ปีแล้วยังไม่จบ เลยได้รับตำแหน่งหัวหน้าวงไป พี่อ๋อยรับหน้าที่ช่วยหานักดนตรีให้ ดังนั้นวงเราจึงสมบูรณ์ทุกตำแหน่ง ไอ้ตุ้ยรับหน้าที่นักร้องนำอย่างภาคภูมิ พี่อ๋อยหัวหน้าวงและคีย์บอร์ด ซูลูเล่นกลอง ฟ้าลั่นเล่นเบส ส่วนผมกับไอ้ป้อรับบทกีตาร์ แต่ผมจะยกภาระอันยิ่งใหญ่ให้ไอ้ป้อแทน โดยผมขอลงตัวเสริมแล้วกัน อยากเรียนให้จบก่อนค่อยว่ากัน จากคุณ : จั๊กเด๋ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 15:23:52

ความคิดเห็นที่ 4 3 ปี ผมเรียนจบมหาวิทยาลัยแบบ งง ในช่วงสมัยนั้น งานหายากมาก ผมก็หางานไม่ได้สักที่ รองเท้าพังไปคู่ก็แล้ว รับปริญญาก็แล้ว งานก็ยังไม่มีเลย ผมนั่งถอนหายใจ เสียงโทรศํพท์ดัง ตอนแรกนึกว่ามาจากบริษัทที่สมัครงานไว้ กลายเป็นเสียงไอ้ตุ้ยติดต่อมา บอกว่ากำลังหามือกีตาร์มาเล่นแทนไอ้ป้อ เพราะที่บ้านเรียกกลับไปช่วยธุรกิจที่บ้าน เตี่ยไม่พอใจมากที่ส่งมาเรียนแต่ดันแอบมาเล่นดนตรี และที่สำคัญตอนนี้ได้งานเล่นประจำที่โรงแรมเปิดใหม่ในต่างจังหวัด จากคุณ : จั๊กเด๋ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 15:24:12

ความคิดเห็นที่ 5 นับตั้งแต่นั้นมา ผมเลยมายึดอาชีพนักดนตรีเต็มตัว ยอมรับเลยว่า รายได้ต่อเดือนสูงกว่าเงินเดือนพนักงานบริษัทถึง 2-3 เท่า ไอ้ตุ้ยพัฒนาหน้าตาและฝีมือไปไกลพอสมควร ทำให้ผมผู้มาใหม่ต้องกดดันในการปรับตัวให้ทันเพื่อน บ่อยครั้ง คำไอ้ตุ้ยมันชอบพูด เรียนไปทำไมปริญญา จบมาก็หางานไม่ได้ ถึงหาได้ก็น้อยกว่าเล่นดนตรี สู้เสียเวลาในการพัฒนาฝีมือดีกว่า.....ผมฟังดู ก็รู้สึกคล้อยตามมัน .....ถึงว่า ทั้งวง ไม่มีใครเรียนจบปริญญาสักคนเลย....งานนี้โดนผมเต็มๆเลย จากคุณ : จั๊กเด๋ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 15:24:36

ความคิดเห็นที่ 6 ระยะเวลาปีกว่าที่มาเล่นดนตรี พวกเราเล่นดนตรีเข้าขากันดีมาก โดยเฉพาะไอ้ตุ้ยมีมุขเด็ด ลีลาอ้อนสาวของมัน ทำให้มันเป็นหนุ่ม Hot แห่งจังหวัด ชื่อเสียงวงดนตรีเราเป็นที่รู้จักทั้งในจังหวัดเราและข้างเคียง แต่เริ่มมีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นกับผมคือ ผมเริ่มแพ้ควันบุหรี่ และของมึนเมาทั้งหลาย จนกลายเป็นนักดนตรีอนามัยในสายตาของเพื่อน ที่มุ่งเน้นทุกอย่างที่ผมแพ้ จากคุณ : จั๊กเด๋ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 15:25:39

ความคิดเห็นที่ 7 ความฝันของพวกเราเริ่มเจิดจรัสอีกครั้ง เมื่อพี่อ๋อยส่ง Demo เพลงให้ค่ายเพลงดังในกรุงเทพ ตามจริงพี่อ๋อยแกไม่บอกเราว่าแกส่งไปหลายครั้งแล้วไม่ผ่าน ครั้งนี้ผ่าน.....ความฝันของเราเป็นจริง ทางค่ายเพลงให้เราเตรียมตัวไป Audition อีก 2 เดือนข้างหน้า.....ความฝันเราเริ่มจะเป็นจริงแล้ว...พวกเราตื่นเต้นกันมาก เราซ้อมหนักกันทุกวันในช่วงหนึ่งเดือนแรก จนกระทั้งในวันหยุดพักของเรา เรื่องก็เกิดตามมา มีผู้ชายสูงอายุเดินเข้ามาติดต่อความประสงค์ของพบไอ้ตุ้ย แต่ดูจากสีหน้าและแววตาคงไม่ใช่ค่ายเพลงที่มาติดต่อไอ้ตุ้ยเป็นศิลปินเดียวแน่เพราะคำพูดว่า "ผมจะมามันใหม่ บอกมันด้วยลูกผู้ชายต้องกล้าทำ กล้ารับ บอกมันด้วยว่าฉันพ่อเปิ้ลนะ" แล้วก็เดินจากไป ปล่อยให้พี่อ๋อยยืน งง เป็นไก่ตาแตก จับต้นชนปลายไม่ถูก จากคุณ : จั๊กเด๋ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 15:26:26

ความคิดเห็นที่ 8 ไอ้ตุ้ยหายสาบสูญ ไร้ร่องรอยจากห้องพัก จนพวกเราคิดว่ามันคงถูกเก็บไปแล้ว แต่มีคนเห็นไอ้ตุ้ยขึ้นรถทัวร์กลับกรุงเทพไปเมื่อเช้ามืด หลังจากที่ไอ้ตุ้ยไปแล้ว หลายสิ่งที่ไม่รู้ก็รู้ หลายสิ่งที่ไม่คิดก็มาให้คิด ไอ้ตุ้ยนอกจากมีไปคู่กรณีเป็นสาว รวมทั้งน้องเปิ้ลเป็นหนึ่งในนั้นด้วย ยังมีเรื่องไอ้ตุ้ยโกงแชร์หมอนวด เอาทองเพื่อนนักร้องไปขาย ค่าห้องเช่าก็ไม่จ่ายมา 4 เดือนแล้ว แต่ที่แสบมาที่สุด มันขโมยเครื่องมือหากินเราเอาไปขายด้วยเท่าที่มันจะหยิบฉวยไปได้ ของผมก็โดนมันชุด Effect ก็ไปกับมัน จากคุณ : จั๊กเด๋ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 15:27:21

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนนี้วงของเราอยู่ในช่วงขาลง ชื่อเสียงที่ทำมาเริ่มเน่า บ่อยครั้งมีกลุ่มชายฉกรรจ์แปลกหน้ามานั่งเฝ้าหน้าเวที คงไม่มาเที่ยวแน่ พอไม่มีนักร้องนำก็ขาดแม่เหล็กดึงดูด พี่อ๋อยต้องวิ่งหานักร้องมาแทนไอ้ตุ้ย แต่อย่างว่า ไอ้ตุ้ยมันฝีมือเกินมาตราฐานเลยหาคนมาแทนมันยากเหมือนกัน ยังไม่ทันจะแก้ปัญหาได้เลย ฟ้าลั่นประสบอุบัติเหตุจากรถมอเตอร์ไซด์ผู้หญิงชน (ไม่รู้ว่าวงผมจะเกี่ยวพันกับผู้หญิงอีกแล้ว) ฟ้าลั่นต้องเข้าไอซียู บางคนสงสัยว่า แค่มอเตอร์ไซด์ผู้หญิงชนไม่น่าจะเป็นไรมากนะ แต่มันเจอรถเก๋งที่สวนมาอีกเลนขับโดยผู้หญิงซ้ำอีกซิ เลยหนักเลย เขาว่าโชคดีนะที่เป็นผู้หญิงถ้าเป็นผู้ชายเขาว่าตายแล้ว จากคุณ : จั๊กเด๋ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 15:28:29

ความคิดเห็นที่ 10 วงเราเริ่มเป็นง่อยรับประทานเรื่อยๆ ทางโรงแรมจะขอนำวงใหม่มาเล่นเป็นบ้างช่วง พร้อมกับบอกว่าจะเลิกสัญญากับเราอีก 3 เดือน พี่อ๋อยเครียดมาก บางครั้งแกก็นั่งเพ้ออยู่คนเดียว บางครั้งแกไม่ยอมนอนนั่งแต่งเพลงจนเช้า แต่เริ่มมาหนักเมื่อแกสามารถพูดภาษาเทพ พวกเราเลยลงความเห็นส่งแกไปโรงพยาบาลประจำจังหวัด ทางโรงพยาบาลลงความเห็นว่าแกเป็นบ้า แต่พวกเราลงความเห็นว่า แกโดนของ.... จากคุณ : จั๊กเด๋ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 15:29:03

ความคิดเห็นที่ 11 ผมรับหน้าที่ติดต่อกับค่ายเพลงเพื่อขอยกเลิกการ Auditon ท่ามกลางข่าวร้ายยังมีข่าวดี โชคดีที่เพลงของวงเรามีคนสนใจซื้อเพลงไป Arrange ใหม่ทำให้ผมมีเงินนิดหน่อย ที่จะเอาไปรักษาฟ้าลั่น กับอาการพี่อ๋อยได้บ้างส่วน....วงเราก็ยุบไปโดยไม่มีการบอกลาแฟนเพลง....ผมต้องรีบขนย้ายเครื่องดนตรีเพราะทางโรงแรมต้องการเครียส์พื้นที่เพื่อรองรับวงดนตรีวงใหม่....อันไหนขายต่อได้ก็ขาย....เพื่อหาเงินเป็นค่ารักษาพยาบาล อันไหนเอากลับได้ก็เอากลับ....พวกเราสบตากันก่อนแยกย้ายไปคนละทิศละทาง จากคุณ : จั๊กเด๋ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 15:29:42

ความคิดเห็นที่ 12 ผมกลับมากรุงเทพก็เริ่มหางานทำ และสามารถหางานทำจนได้ คราวนี้ผมมานั่งนึกว่า ผมโชคดีเพียงไรที่ไม่ทิ้งการเรียน ทราบว่าเพื่อนหลายคนกลับมาเรียนต่อ ..... ไอ้ป้อ หลังจากกลับไปบ้านสักพักก็กลับมาเรียนจนจบไปทำงานธนาคารได้เมียเป็นพยาบาลแต่อยู่ไม่นานก็ออกไปขายประกันทั้งคู่....... ฟ้าลั่น หลังจากที่รอดตายไปแล้ว ก็กลับไปช่วยที่บ้านทำสวนที่จันทร์ ก่อนมายึดอาชีพขายเทปที่หน้ามหาวิทยาลัยที่เราเรียน......ซูลู ดูจะรุ่งกว่าเพื่อน กลับมาเรียนจนจบ สอบเข้าปลัดอำเภอได้.......ส่วนพี่อ๋อย ได้ข่าวว่าแกออกจากโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้ไปเล่น Flok Song เพลงเพื่อชีวิต ที่อำเภอหนึ่งตามตะเข็บชายแดนไทยกัมพูชา....         ครั้งแรกที่ผมเห็นไอ้ตุ๋ย ออกโทรทัศน์ คำพูดออกจากปากผมโดยไม่คิดเลย "ไอ้ตุ้ย เพื่อนกูไม่รักมอสระอึงหว๊ะ" จากคุณ : จั๊กเด๋ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 15:31:23

ความคิดเห็นที่ 13 เหมือนมาจากชีวิตจริงเลยอ่ะ ตกลงนี่คือเรื่องที่แต่งขึ้นใช่ไหมเนี่ย ชอบการดำเนินเรื่องแบบนี้ค่ะ อ่านแล้วเข้าใจง่ายดี จากคุณ : t.tays เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 12:05:41

ความคิดเห็นที่ 14   อ่านแล้วไม่ชอบค่ะ ไม่รู้คนเขียน เขียนเพื่ออะไร โกรธ แค้น อิจฉา อยากแฉ หรือเขียนเล่นๆ คะ แล้วตุ้ยในที่นี้ มีตัวตนจริงมั้ย แล้ว ใช่ตุ้ย ที่พวกเรารู้จักกันดี จากเวทีประกวดร้องเพลงระดับประเทศหรือเปล่า การเลือกลงข้อความที่นี่ ผู้เขียนก็ต้องยอมรับนะคะ ว่าเป็นการบอกเล่ามุมของผู้เขียนคนเดียว โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้รับความยุติธรรมที่จะได้พูดในมุมของเค้าด้วย ถึงนี่คือเรื่องจริงทุกคำ แต่คนเราไม่มีใครดีร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือทำถูกต้องเสมอทุกครั้ง แม้แต่ตัวดิฉัน หรือเจ้าของกระทู้นี้เอง โดยเฉพาะช่วงชีวิตวัยรุ่น เราอาจทำผิดต่อใครได้ง่ายๆ แต่ทุกคนก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป แล้วใช้เป็นบทเรียน จะได้ไม่ทำผิดซ้ำ 2 แต่...ถ้าไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง อยากให้คุณเลือกให้อภัยเค้า ดีกว่าเลือกเจ้าคิดเจ้าแค้นนะคะ ตราบใดที่คุณยังคิดถึงเรื่องนี้ซ้ำๆ หรือจะเอาอะไรมาแฉอีก ก็เท่านั้นค่ะ ไม่มีประโยชน์กับชีวิตคุณเลยค่ะ ทุกข์เองจะทุกข์ใจเปล่าๆ เอาเวลาไปพัฒนาตัวเอง แล้วทำสิ่งดีดีให้กับชีวิตคุณเองดีกว่าค่ะ แล้วอย่าโทษคนอื่น ว่ามีผลต่อชีวิตเรา เราคนเดียวเท่านั้น คือคนกำหนดชีวิตเราเอง นี่คือความจริง เพราะไม่มีใครเอาปืนมาจ่อหัว ว่าเราต้องทำอะไรหรือต้องไม่ทำอะไร บางคนโชคชะตาพาไปให้ดาว แต่บางคนดิ้นรนแค่ไหนก็อาจไปไม่ถึงฝัน เราก็ต้องยอมรับอย่างเต็มใจ แล้วพยายามสู้ต่อไปเพื่อชีวิตเราเองดีกว่า มีคุณค่ากว่าเยอะ แล้วดีกว่าการมาพูดถึงเรื่องเดิมๆ ที่ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นตรงไหนเลยค่ะ ููโชคดีนะ^^ จากคุณ : นิจ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 17:06:45 A:210.4.143.66 X: