ความคิดเห็นที่ 1   ชมจันทร์จันทร์กระจ่างฟ้า            ประภาพราว  ยิ่งเฮย งามเด่นดารดาษดาว                  กระพริบพร้อม เรียงรายเรื่ออร่ามราว                 พลอยเพชร  มณีแฮ อันประดับห้วงมหรรณพ์ล้อม        รุ่งหล้าเรืองสวรรค์ ฯ จากคุณ : จิ้งจอกเวหา (the darkknight) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 22:12:10

ความคิดเห็นที่ 2 นวลหน้าน้อง จ้องจันทร์ นภันต์ฉาย กรุ่นกลิ่นกาย หอมหวล ชื่นชวนไฉน แสงส่องสวย สาดซ่าน ดาษดารใด งามงดเงียบ เปรียบไป เนื้อในนาง ดาวดื่มด่ำ ล้ำล่วง ดื่นดวงแด ศศิแซ่ แสงสรวง รังรวงร่าง เนียนหน้านวล อวลอิ่ม พริ้มเพราพราง กระจับจีบ จูบจาง เบาบางปลิว จากคุณ : BestChild เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 22:19:46

ความคิดเห็นที่ 3 จดจ้องจันทร์ แจ่มจ้า อ้าแย่แล้ว เกร็ดกายแก้ว กรีดกราย จะตายไหม ขอดขัดขาด คลาดเคลื่อน ไส้เลื่อนบรรลัย* ผิวเผือดผัน พรรณไพร อะไรกันตรู ตราบตาติด ปลิดปลด จะอดไม่ไหว กรามกรรไกร กรอกกริ้ว หน้ากิ่วถึงหู เหือดแห้งหาย พลิกพร่างพราย ในปากตรู โฮกฮากฮู้ววว หอนเห่า เรากลายพันธุ์ *ขออนุญาตหลุดกรอบนะคะ ฮี่ๆ จากคุณ : BestChild เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 22:28:15

ความคิดเห็นที่ 4   ดาวดื่นตาประภาแพรวแนวสรวงสวย จันทร์แจ่มด้วยดั่งมณีที่สูงลิ่ว ลอยเด่นงามอร่ามเรืองเนื่องแถวทิว เผลอนับนิ้วเหนือคณากว่าจำนวน ดาวเดือนใดไหนเล่าที่เฝ้าหมาย พร่างพราวพรายเพี้ยงมณีที่ทั่วถ้วน ครั้นชื่นชมภิรมย์พลันหวั่นเกินควร เกรงว่าจวนจากไกลในรุ่งวัน ฯ จากคุณ : จิ้งจอกเวหา (the darkknight) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 22:33:46

ความคิดเห็นที่ 5   ก่อนพลัดพรากจากนภาว่ายั้งก่อน เพื่อขอพรเพียงใจได้สุขสันต์ ขอแหวนแก้วแพรวมณีที่อัศจรรย์ ล้ำค่านั้นเหนือคณาควรค่ามี ก่อนจากฟ้านภาสรวงทั้งปวงเล่า โปรดเยี่ยมเหย้าอย่าจากพรากหน่ายหนี ครั้นสิ้นแสงแรงตะวันอันฤทธี โปรดปราณีเยือนฟ้าอีกคราคราว ฯ จากคุณ : จิ้งจอกเวหา (the darkknight) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 22:40:57

ความคิดเห็นที่ 6 หวานได้อีก^^ สวัสดีค่ะแวะมาอ่าน..เขียนแบบนี้ไม่ได้ตามเคย จากคุณ : คนเบื้องหลัง เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 07:52:42

ความคิดเห็นที่ 7 ชมจันทร์กระจ่างฟ้า..............................อำไพ นวลเด่นด้วยดาวใส...............................รอบล้อม แสงพราวดั่งงามใจ................................กระจ่าง นาพี่ เพลินชื่นวงแขนอ้อม..............................โอบไว้อุ่นทรวง สวัสดีค่ะคุณ จิ้งจอกเวหา (the darkknight)(กรอบ ที่..1) . . .... จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 10:46:12

ความคิดเห็นที่ 8 ยามจันทร์ส่อง มองมาพาชื่นหวาน ดาวนับพัน รายล้ม เหมือนกล่อมขวัญ ชื่นฤทัย ใจสาว ที่พราวพรรณ ดั่งเย้ยจันทร์ ยามชื่น รื่นอารมณ์ ภิรมย์เร้า  เคล้าคู่ ดูจันทร์ฉาย ระยิบพราย แสงดาวครวสุขสม รอยรัก สัมผัสไว้ ได้ชื่นชม เพียงจูบพรม แผ่วพริ้ว หวิวตัวเบา ดีจ้าน้อง  BestChild จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 11:01:43

ความคิดเห็นที่ 9 ความคิดเห็นที่ 3     จดจ้องจันทร์ แจ่มจ้า อ้าแย่แล้ว เกร็ดกายแก้ว กรีดกราย จะตายไหม ขอดขัดขาด คลาดเคลื่อน ไส้เลื่อนบรรลัย* ผิวเผือดผัน พรรณไพร อะไรกันตรู ตราบตาติด ปลิดปลด จะอดไม่ไหว กรามกรรไกร กรอกกริ้ว หน้ากิ่วถึงหู เหือดแห้งหาย พลิกพร่างพราย ในปากตรู โฮกฮากฮู้ววว หอนเห่า เรากลายพันธุ์ *ขออนุญาตหลุดกรอบนะคะ ฮี่ๆ จากคุณ : BestChild     เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 52 22:28:15   ................................................................... ยังไม่ใช่วันพระจันทร์แดงซะหน่อย แปลงร่างซะแล้วน้องเรา เพิ่งหวานอยู่ หยกๆ....เฮ้อ!.. . . .... จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 11:04:43

ความคิดเห็นที่ 10 แลจันทร์วันแหว่งเสี้ยว..............................แสงเลือน วันแห่งเงาเหงาเยือน.................................หยอกเย้า วันเธอห่างจางเหมือน.................................จันทร์ปิด กระจ่างคือความเศร้า..................................แจ่มแจ้ง ในใจ จากคุณ : เสกคาถา เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 13:04:50

ความคิดเห็นที่ 11 พระจันทร์สุดสวยงามเมื่อยามเหงา พระจันทร์เศร้าคราเราเศร้าหม่นหมอง มองจันทร์สวยหรือเศร้าเย้ายวนมอง ตามครรลองสะสมอารมณ์จินต์ ความจริงจันทร์มิได้สวยสูงส่ง ล้วนลานโล่งผสานรูปหุบเหวหิน เพียงมองไกลฉาบแสงแต่งชีวิน แสงสูรย์สิ้นจันทร์ย่อมลับดับโรยลา จากคุณ : สาละวิน เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 14:50:25

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ จิ้งจอกเวหา (the darkknight)(4-5) .............. ดาวกระพริบ ระยิบพราย ประกายเลิศ เดือนบรรเจิด รัศมี สีสดใส ประดับฟ้า ราตรี ศิวิไล กระจ่างใน เวหา พาแสงนวล ชวนหลงไหล ในยาม ความมืดมิด ดาวสถิตย์ ฟากฟ้า พาใจหวน คะนึงถึง คราวหนึ่ง ซึ้งคำครวญ ที่เย้ายวน ท้าแสง แห่งจันทรา แม้ใกล้รุ่ง จรุงใส คล้ายจันทร์จาก สุรีย์ฉาย ทายทัก ริมฟากฟ้า ทั้งดาวเดือน เลือนลับ ดับแสงลา สุรีย์พา ฉาบแสง แห่งทิวา อย่าโศกเศร้าอาดูร ใช่สูญจาก สุริยา ลาพราก จักคืนหา ราตรีเยือน เดือนกลับ ไม่ลับลา พร้อมพร่างดวงดารา มาคู่เคียง/... ขอบคุณมากมายค่ะ ที่มาฝากบทกวีที่ไพเราะไว้ที่นี่ จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 18:08:31

ความคิดเห็นที่ 13 ความคิดเห็นที่ 6     หวานได้อีก^^ สวัสดีค่ะแวะมาอ่าน..เขียนแบบนี้ไม่ได้ตามเคย จากคุณ : คนเบื้องหลัง     เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 07:52:42   .................. หวัดดีค่ะคุณคนเบื้องหลัง ก็พยายาม เป็นอย่างยิ่งค่ะ กลัวว่าจะออกแนวเศร้าอีก อยากหวานแบบเต็มๆบ้าง..อิอิ . . .... จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 18:15:04

ความคิดเห็นที่ 14 ความคิดเห็นที่ 10     แลจันทร์วันแหว่งเสี้ยว..............................แสงเลือน วันแห่งเงาเหงาเยือน.................................หยอกเย้า วันเธอห่างจางเหมือน.................................จันทร์ปิด กระจ่างคือความเศร้า..................................แจ่มแจ้ง ในใจ จากคุณ : เสกคาถา   เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 13:04:50   .................. โหย..ท่านเสกฯ นี่กะ จะไม่ให้ สุ หวานเลยรึงัย จันทร์เพ็ญลอยเด่นฟ้า........................ดูงาม ไยท่านเห็นเป็นความ.........................แหว่งเสี้ยว ใครกันที่จรยาม................................จันทร์ส่อง มองผิดเป็นบิดเบี้ยว...........................ย่อมรู้แก่ใจฯ ตอบแบบ งงและก็งง ขอบคุณที่แวะมาค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 52 21:26:36 แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 52 18:26:02 จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 18:25:09

ความคิดเห็นที่ 15 ค่ำคืนหวานวันวานพึ่งผ่านพ้น ดวงกมลยังชุ่มฉ่ำกับคำหวาน สัญญารักผูกพันกันเนิ่นนาน จันทร์แจ่มฟ้าเป็นพยานซาบซ่านใจ ค่ำคืนนี้พี่ยืนอยู่เดียวดาย จันทร์เฉิดฉายยังคงสว่างไสว ดวงยิหวาของพี่อยู่ที่ใด จันทร์ช่วยบอกน้องให้หวนคืนมา พี่จะรอคนดีอยู่ที่เก่า แม้จะมีเมฆเงาเฝ้าห่วงหา ไม่เคยลืมคำมั่นที่สัญญา รสรอยรักเสน่หากลางแสงเดือน ... จากคุณ : ลำน้ำ C เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 20:37:27

ความคิดเห็นที่ 16   ขอพรหนึ่งซึ่งน้อยเฝ้าคอยขอ ย่อมเพียงพอแก่ใจหาใดเหมือน แท้ที่ชมภิรมย์ปองมองดาวเดือน เพื่อย้ำเตือนนวลอนงค์จงฟังความ อันเนื้อความยามใดที่ใครกล่าว เพียงครู่คราวเกลื่อนกร่นจนล้นหลาม อย่าเผลอไผลใจหลงตรงถ้อยงาม จนลืมยามย่ำอื่นแม้คืนวัน แล้วชมจันทร์พรรณพิไลดาวใหญ่น้อย ดั่งเฝ้าคอยผู้ใดให้กล่าวขวัญ- ถึงความงามยามคืนชมชื่นพลัน ย่อมสุขสันต์เสมอแท้แม้หมายปอง ดาวกระพริบระยิบระยับประดับสรวง ดาวมากดวงจันทร์เด่นเห็นงามผ่อง แสงดวงดาวพราวจันทร์อันเรืองรอง เฝ้าเมียงมองปรารถนายามราตรี จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 21:42:24

ความคิดเห็นที่ 17 งาม. จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 23:34:30

ความคิดเห็นที่ 18 ยามจากไกลหัวใจไห้โหยหา แหงนมองฟ้าแจ่มจันทร์จรัสศรี ประดับฟ้าจับจองห้องราตรี เหมือนใจพี่มีเจ้าประทับครอง แสงจันทร์อวลนวลเย็นนัยนา ชื่นชีวาเราให้คลายหม่นหมอง ซับน้ำตาเถิดหนาอย่าไหลนอง เราทั้งสองเห็นกันในจันทร์เพ็ญ จากคุณ : กำแพงเขย่ง เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 06:02:40

ความคิดเห็นที่ 19 พร่ำพรอด  กอดรัก  ในฝัน    คืนวัน   ผ่านไป  ไม่เหมือน    ความรัก ในฝัน  ลอยเลือน    สเทือน  สท้อน    อารมภ์    ในฝัน   ฉันเธอ     งดงาม    ชุ่มฉ่ำ  ความรัก      เสมอ    ให้รัก  มากล้น    ปรนเปรอ   เลิศเลอ เพ้อพ้อ  คลอเคลีย   ยามตื่น  ชื่นหาย  กลายโศก   วิโยค     อาลัย      ใจหมอง   ขาดแรง แห่งรัก     มาครอง   หวังปอง   รสซึ้ง       ครึงใจ     คอยนับ  ทิวา     ลาจาก     ลำบาก อดทน หม่นไหม้     ต่ำต้อย  ด้อยค่า    ร้าใจ     คอยใน    ราตรี     มีเธอ จากคุณ : boon-m1 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 06:13:35

ความคิดเห็นที่ 20 ...........ใครเอ่ยแอบให้กิ๊ฟ แต่ยังไม่ กระซิบ ส่งคำหวาน อยากเห็นถ้อยร้อยกลอนกานท์ (คุณ)แม่ใจดี สานส่งใจ... คุณหมอวฤก ท่านพจน์ ขอบคุณทั้งหมด สดใส น้ำจิตผูกมิตร เยื่อไย สุ..ซาบซึ้งใจ ทุกคน.. ... ขอบคุณค่ะคุณแม่ฯ คุณหมอ คุณพจน์ และทุกท่านที่มามอบกิ๊ฟให้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 11:32:12 จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 11:20:50

ความคิดเห็นที่ 21 อืม..สุฯคาด ท่านสาละวินผิดไปงานนี้ นึกว่าจะมาแบบ หวานแหว๋วซะอีก งั้นสุ ตอบแบบนี้นะคะ..ไม่รู้จะตรงประเด็นมั๊ย .. จันทร์สวยงาม ยามแสงส่อง มองไกลโพ้น เปรียบใจคน ที่แอบแฝง แรงไปมั๊ย ยามต่อหน้า แย้มยิ้ม อิ่มละไม อ่อนหวานให้ ลุ่มหลง คงเหมือนจันทร์ ในภาพแท้ ใช่งาม ตามปรากฏ ดั่งมองไกล ใสสด ปลดเปลื้องฝัน เปรียบคนแสร้ง แกล้งทำดี  ที่หลอกกัน แท้เหมือนจันทร์ ที่ขรุขระ ใช่จะงาม/... ***************************** เราเห็นพระจันทร์ ลอยเด่นอยู่บนฟ้า มองกี่ครา  ก็งาม  ยามส่องแสง ดาวกระพริบ ล้อมไว้ คล้ายกำแพง ศศิแสง นวลผ่อง ดั่งทองทา ที่แท้แสง แฝงทาบ ฉาบภายนอก เพียงแค่หลอก ให้ยล เสน่หา ใช่งามผ่อง ดั่งทองทาบ อาบสายตา เพียงหินเหว ลวงค่า สายตาคน/.. ขอบคุณที่แวะมาค่ะ จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 13:16:01

ความคิดเห็นที่ 22 แสงจันทรางค์ จ่างสะท้าน ธารกระทบ ใจสยบ สบจ้องลัด จรัสฟ้า ใคร่ครองคบ ประคบประโลม โน้มจันทรา ลอยจากฟ้า มาดินพื้น ชื่นใจกาย สะพรั่งพธูพลิ้ว พลอดพล่าน ผสานผสม กายกอดกลม ก่ายกัน กระสันกระสาย เคล้าคลอไคล้ ใคร่ครอง คะนองคลาย แสงเสียดทราย เส่าศัพท์ สลับสลอน แสงจันทร์จ๋า ซาจันทร์แจ้ง ..แรงร้อนรัก ให้รู้จัก หากรู้ใจ ..ไยค่อนค้อน ธรรมดารัก ถักมาดาร่ำ ..ใคร่มิคลอน น้อ บังอร นอนบังอ้อ ..ล้อกันไป ยากจักแยก ..รักจากใคร่ ไล่จักคลัก วาบไหวรัก ..ใคร่หนุ่มสาว คราวนุ่มใส่ หยางแลหยิน ..ไผได้ยิน ผินได้ไย ข้าวมันไก่ ..ไร้แตงกวา ลาแต่งไกว มัชฌิมา-ปฏิ-ปทาหนา พบเพื่อลา มาเพื่อเรียน เพียรแสวงให้ เดินสายกลาง จ่างผสาน คานแกว่งไกว รู้แจ้งไซร้ ไม่ตึงหย่อน สอนสมดุล... ................................................................... คำพาใจถักถ้อย ..ร้อยภาษา ขานขับซับวาจา .....เตลิดบ้าง ประสงค์มุ่งหมายมา คลายเครียด นาแม่ ลิขิตขีดแง้มง้าง แต่งแต้มใจสนาน ขึ้นกลอนจบโคลง ขืนโก่งจบคลอน...เหมือนความรัก จากคุณ : black in black เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 13:36:53

ความคิดเห็นที่ 23 หวัดดีค่ะ พี่ ดีเจ ดีใจจัง เย้ๆ วันนี้ได้อ่านกลอนหวานๆพี่ ดีเจด้วย อิอิ..นาน น๊านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจะมีสักครั้งเน๊าะ .................... อย่าลืมถ้อยสัญญา พาฝากฝัน ใต้แสงจันทร์ คืนเพ็ญ ที่เด่นใส น้องยังจำ คำมั่น แม้วันไกล ฟ้าอำไพ ใครพลอดพร่ำ ย้ำวาจา ค่ำคืนนี้ มีจันทร์ฉาย ส่งใจถึง ยังติดตรึง ซึ้งวลี ที่พร่ำหา มองจันทร์นวล ครวญคะนึง ถึงพี่ยา จะหวนมา ถ้าถึงวัน มั่นภิรมย์ กลับมาอยู่ เคียงพี่ ไม่หนีจาก สัญญารัก พี่อย่าทำ ช้ำขื่นขม รอยรักเก่า เคยเย้า เคล้าเชยชม พี่อย่าปล่อย น้องตรม ซมโศกา/... ..ขอบคุณมากนะคะ.. ... จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 14:22:34

ความคิดเห็นที่ 24 ม่ายมีแรงเขียนกลอน... แวะมาทักทายค่ะ พี่สุนันยา จากคุณ : teansri เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 17:04:03

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) สวัสดีอีกครั้งค่ะ กลอนเพราะมา แฝงคำสอนไว้ด้วย ขอบคุณมากค่ะ .................................. ถ้อยคารมคมหวาน ที่ขานไข ล้วนจากใจ ให้จนทร์เห็น เป็นสีกขี ยามเดือนฉายนภาผ่องท้องราตรี ดาวแสงสี ที่งามพริ้ม ยิ้มรับความ เป็นพยานรักให้ ไม่ถ่ายถอน อีกขอพร เดือนดารา มาล้นหลาม ในคืนที่ ดาวลอยเลื่อน เกลื่อนฟ้างาม ระเรื่อสี อ่อนคราม ย้ำสัญญา ท้องฟ้างาม ยามนี้ สีจันทร์ส่อง ฉาบสีทอง อ่อนนวล ชวนหรรษา ชมเชยชื่น มิฝืนจิต จุมพิตพา ไม่เกินกล้ำ ไปกว่า  ค่าผูกพัน ดาวระยิบระยับประดับสรวง เดือนเด่นดวง ขอรักนี้ มีสุขสันต์ แม้ยามห่าง ฝากใจซึ้ง ส่งถึงกัน รักนิรันดร์ วันสมปอง ครองคู่เชย/... ..   แหะๆมาแก้สัมผัสค่ะ . . . .... แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 21:23:15 จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 21:05:15

ความคิดเห็นที่ 26 ความคิดเห็นที่ 17     งาม. จากคุณ : พจนารถ๓๒๒     เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 52 23:34:30   ถูกใจ : สุนันยา ................... ว๊า...ท่านพจน์ พูดไม่หมด เลยไม่รู้ว่า อะไรงาม... ดังนี้ค่ะ..อิอิ.. . .. จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 21:11:29

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ กำแพงเขย่ง หวัดดีค่ะ .. เราจะไม่ เห็นกัน ในจันทร์เพ็ญ เราจะอยู่ ตัวเป็นเป็น เห็นกันได้ เราจะรัก ด้วยภักดี อย่างนี้ไป เราจะรัก ด้วยเยื่อใย หมายผูกพัน สัญญาใจ ใต้แสงทอง ของจันทร์สวย ขอดลช่วย สานสองใจ ให้สุขสันต์ ได้เคียงคู่ อยู่เคียงใจ สายสัมพัน ชั่วชีวิต จะมี กันและกัน ตลอดไป/.. .....ขอบคุณ ที่แวะมานะคะ..... . ... จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 21:20:37

ความคิดเห็นที่ 28 หวัดดีค่ะ คุณ boon-m1 ... เหตุใด  ต้องรอ พ้อฝัน คืนวัน นั้นย่อม สดใส มีเธอ มีฉัน คู่ไป เคลียคลอ มั่นหมาย ภิรมย์ ชมชื่น ใช่เพียง คืนฝัน หากรัก ผูกพัน สุขสม ฤาปล่อย ให้คอย ช้ำตรม ขื่นขม ระทม เดียวดาย มองจันทร์ บนฟ้า สุดสวย มอบรัก ให้ช่วย สืบสาน สัญญา รักให้ ชื่นบาน ตราบนาน เท่านาน สองใจ ได้กอด พลอดพร่ำ คำรัก ฟูมฝัก ไม่ขอ หวั่นไหว เท่านี้ ก็แสน สุขใจ อยู่ใกล้ ยอดชู้ คู่ชม/... . . ...ขอบคุณ ที่พยายามหวามค่ะ...อิอิ. . . .. แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 18:10:32 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 09:31:07 จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 21:47:13

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีค่ะคุณ  black in black .......................... จันทร์พร่าง กระจ่าง นภางาม แสสอดทาบ นวลทอง ดูผ่องใส มีสองร่าง นั่งพิง อิงอุนใน ดวงฤทัย ซาบซึ้ง คลึงเคล้าคลอ ผสมสาน หวานพลอด โอบกอดลัด รอยสัมผัส ไม่จาง ห่างเลยหนอ แสงนลวแทรก ใช่แยกใจนวลละออ สองใจขอ จันทร์เด่น เป็นพยาน แสงจันทร์เห็น...เส้นจันทร์แห่ง...อย่าแฝงถ้อย อีกดาวลอย....ดอยหลีกอ้าว...พราวแสงสาน กระพริบแสง...แผลงสระกริบ...หยิบยื่นนาน สานดวงใจ...ใสดั่งจาน...แก้วเจียรนัย สัญญารัก....ศักดิ์ลายัน...จันทร์รับรู้ รักที่อยู่....รู้ที่หยัก...หักใจไหว อย่าให้ช้ำ...ย้ำใช้ห่า..ถ้าเปลี่ยนใจ ค่าก็ไร้...ใครก็ล้า....ถ้าเปลี่ยนแปรง/.. ................................................ สานสายใยผ่านถ้อย............................คำโคลง เพาะบ่มเชื่อมใจโยง.............................เพื่อนพ้อง คิดบ่อยอยากคิดโคลง..........................ผวนเพื่อ หนุกแล หยอกเล่นเป็นพี่น้อง.............................อย่าได้เกรงใจฯ.. โอย...กว่าจะจบปวดหัวมากๆขอพารา ด้วยค่ะ ถ้าผวนผิด ต้องขอ อภัย อย่างแรงด้วยนะคะ... . . .... จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 10:43:02

ความคิดเห็นที่ 30 ความคิดเห็นที่ 24     ม่ายมีแรงเขียนกลอน... แวะมาทักทายค่ะ พี่สุนันยา จากคุณ : teansri     เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 17:04:03   ..................... หวัดดีจ้ะ น้องเทียนสี   ไม่มีแรงก็มานั่ง เป็นแรงใจ กันก่อนน๊า .. จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 10:47:34

ความคิดเห็นที่ 31 กระแจะจันทน์กลิ่นเจ้า.......................................ประดับนวล กระจ่างจันทร์จับชวน..........................................ชื่นเคล้า ประคองกอดเกยครวญ........................................คลึงแม่ ระรื่นรสจรดเช้า.................................................อิ่มห้วง หฤทัย  ............................................................................   อิ่ม อิ่ม อิ่มเลยจ้าเจ้าข้าเอ้ยยยยยยยยยยยยยย  เอ่ออออ!อึ๊ก!!แฮ่ม จากคุณ : เสกคาถา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 11:05:13

ความคิดเห็นที่ 32 กระแจะจันทน์กลิ่นเย้า......................ยวนฉม ชายพ่ายยามดอมดม........................ยิ่งแล้ว งามเอยแค่ยามชม........................... ชวนชื่น ใจแล ยามห่างกายนางแก้ว........................ ไป่สิ้นกลิ่นนวล มาต่อคุณเสกคาถาหน่อยค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 15:34:54 จากคุณ : คุณแม่ใจดี เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 15:33:47

ความคิดเห็นที่ 33 เพราะนะ ใครว่าดวงจันทร์ไม่สวย รับได้ ใครว่าดวงใจไม่สวย ขอค้านสุดตัว นะ จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 15:51:11

ความคิดเห็นที่ 34 อิงแอบแนบอกให้..................................อุ่นทรวง โอบอยู่ทามกลางดวง..............................เด่นฟ้า จันทร์เรืองส่องดั่งสรวง.............................ดาวประดับ ไอกรุ่นแสงอรุณหล้า...............................เบิกฟ้าสุขใจฯ.. .................................................................................... ท่านเสกฯนะท่านเสกฯ  โคลงบทเดียว ทำสุเครียดซะเกือบครึ่งวัน ฝากไว้ก่อนเหอะ...วันหลังต้องเอาคืน..เชอะ. . . . ... จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 16:06:40

ความคิดเห็นที่ 35 คุณแม่ขา... ทำไมไม่มาเร็วกว่านี้ สักหน่อยคะ สุเครียดซะ ........ ขอบคุณแม่ฯช่วยชี้.........................คำชม สุไม่รู้คำนิยม................................ชื่นเย้า ร้อยถักดั่งใจคม.............................คิดต่อ ถ้อยต่างยังห่างเฝ้า.........................คิดข้อคำโคลงฯ ..ขอบคุณ มากค่ะคุณแม่ฯ.. .. จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 16:33:15

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ แสงแรก ประดับดิน สวัสดีค่ะ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ   แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 16:35:53 จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 16:34:58

ความคิดเห็นที่ 37 หอมวจีกว่าเนื้อ........................พรรณราย เลิศจริตพิชิตชาย.....................ชื่นพ้อง หอมกระแจะชโลมกาย...............เพียงกลิ่น หนักแน่นสนิทน้อง.........................นั่นแล้ กิริยา เสน่หาห่มให้.............................รำพึงหวน ชายห่างยังรัญจวญ.....................ค่ำเช้า มองจันทร์แจ่มจรัสชวน................คะนึงอยู่ อนงค์อื่นบ่แอบเคล้า....................ขบคล้อง นอกใจนวล ........................................................................... ขออนุญาตต่อท่าน คุณแม่ใจดีนะขอรับ เสกคาถายังอ่อนด้อยในเรื่องโคลง คงได้มีโอกาสเรียนรู้จากท่านคุณแม่ใจดีบ้างนะขอรับ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 00:53:51 จากคุณ : เสกคาถา เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:48:13

ความคิดเห็นที่ 38 หวานเอยใครกล่าวถ้อย....................รำพึง เสพวจีหวนคำนึง..............................จิตน้อง คราจันทร์ส่องคิดถึง.........................ยามจาก พี่เฮย แสงปลั่งใจกลับข้อง.........................หวั่นลิ้นลมชาย เย็นพระพายแผ่วพริ้ว........................ปัดหมาง กลับอุ่นในใจนาง.............................แน่แท้ มองจันทร์เด่นนภางค์........................ฉายอยู่ เดือนคู่นภาแล้.................................เช่นชู้เคียงขวัญ ค่อนข้างจะแปลกใจที่เห็นคุณเสกคาถาออกตัวแบบถ่อมตนขนาดนั้น... แก้สระบ่อยจัง.. แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 08:07:12 แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 07:53:37 แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 07:52:38 จากคุณ : คุณแม่ใจดี เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 07:51:26

ความคิดเห็นที่ 39 จันทร์กระจ่างพร่างฟ้าดาราประดับ เลิศระยับวับวาวราวสวรรค์ หวนคำนึงถึงคืนชื่นชีวัน เธอและฉันชวนชมจันทร์ใต้ฟ้าพราว จันทร์คืนนี้มิมีแผกคืนนั้น ดาวนับพันยังลอยเลื่อนเกลื่อนห้วงหาว ดาวโอบเดือนเพื่อนชิดเชยเผยวับวาว ฟ้าสกาวจันทร์เพ็ญเด่นนภา เดือนมีดาวเคียงคู่อยู่ไม่ห่าง ฉันกลับร้างไร้คู่เสน่หา เธออยู่ไหนใยลืมสิ้นทิ้งสัญญา มองจันทรายิ่งเหว่ว้าล้าฤทัย ฉันยืนอยู่ใต้ฟ้าน้ำตาหลั่ง ความหวังพังสิ้นหมดที่สดใส ลมหนาวพัดบาดเนื้อเถือถึงใจ ร่ำพิไรเพียงใดไร้คนแล ยิ่งมองเดือนเคียงดาวหนาวจับจิต ยิ่งชวนคิดสะกิดใจให้เกิดแผล ใจบอบช้ำถูกทำร้ายจนพ่ายแพ้ รักผันแปรไร้ทางแก้ให้กลับคืน ค่ำคืนนี้ฉันอยู่เดียวเปลี่ยวและเหงา ฟ้าสีเทาเศร้าหม่นฉันทนฝืน ยืนมองดาวร้าวเพียงใดใจกล้ำกลืน ทนขมขื่นคืนค่ำนี้ไม่มีเรา ดึกดื่นคืนค่ำย้ำ.............ใจหนาว คำมั่นวันจันทร์พราว.......เด่นฟ้า เคยฝากรักกับดาว.........พราวพร่าง ลืมฤา ใยปล่อยน้องคอยล้า......พี่ไร้ปรานี         แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 22:31:21 จากคุณ : เรียวรุ้ง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 22:02:07

ความคิดเห็นที่ 40 คุณเสกเคยฝากถ้อย.......................ชมมา บอกผ่านสุนันยา.............................ยิ่งแท้ นามคุณแม่ฯนั้นนา...........................ชมชื่น กระจ่างถ้อยโคลงแก้........................ตอบโต้ดั่งใจ ใครอ่านย่อมรู้ซึ้ง.............................คำคม เสกฯท่านจึ่งนิยม.............................ถ่อมถ้อย คำโคลงส่งแม่ชม.............................ใจจ่อ จ้องจด นำเรียงร้อย..........................กล่อมด้วยใจงามฯ. จริงๆนะคะคุณแม่ ท่านเสก แอบกระซิบสุไว้ค่ะ. . .... จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 14:39:00

ความคิดเห็นที่ 41 คุณเรียวรุ้งสวัสดีค่ะ สุแต่งแนวหวาน หน่อยช่วงนี้ คุณเรียวรุ้ง อย่าเพิ่ง แย่งซีลเศร้า ไปนะคะ ..อิอิ (ล้อเล่นค่ะ) .... เห็นนางครวญชวนให้ คะนึงหา ดวงจันทราแสนงาม ยามฟ้าใส เหตุใดหนอโฉมเจ้า จึงเหงาใป หรือฝังใจ ในอดีต ติดตรึงตรา พร่ำพิไร ใจท้อ คลอความเหงา น้ำตาพราว หลั่งไหล ร่ำไห้หา ยามเดือนเคลื่อนอยู่ หมู่ดารา แต่คลับคลาย นัยนา น้ำตาริน หรือรักสิ้น ถวิลห่วง ดวงใจหาย สูญสลาย ไกลห่าง ดั่งจันทร์วิ่น แสงสว่าง กระจ่างฟ้า พาพังภินท์ เมื่อรักสิ้น เหมือนแรงล้า พาตรอมตรม หรือดีต รักย้อน ตอนเดือนฉาย สลายไป ทำให้ ใจขื่นขม ต้องอยู่เดียว เปลี่ยวเหงา เศร้าระทม ด้วยรักหวาน กลายขม ระทมใจ เมื่อเห็นจันทร์ สะพร่าง พรางคิดถึง ถ้อยรำพึง คราวก่อน เคยอ่อนไหว เขาลืมสิ้น ไม่เหลือ แม้เยื่อใย เศร้าฤทัย เมื่อเห็นจันทร์ วันคืนเพ็ญ/.. ................................................... นวลเอยเผยโศกเศร้า..........................อาลัย หมองจิต หน่วงฤทัย............................เปลี่ยมเฝ้า กังวลอยู่ หนาวใจ...............................จับจิต คนคู่เชยชิดเจ้า...................................บัดนี้ลาเลือนฯ ขอบคุณ มากนะคะ คุณเรียวรุ้ง  ที่แวะมาสร้างสีสรรค์ .... จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 15:16:10

ความคิดเห็นที่ 42 ยิ่งมายิ่งหวานด้วยกานท์กลอน เอนกายนอนชมจันทร์หลับฝันหวาน ............................................... ................................................ จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 10:15:53

ความคิดเห็นที่ 43 ความคิดเห็นที่ 42     ยิ่งมายิ่งหวานด้วยกานท์กลอน เอนกายนอนชมจันทร์หลับฝันหวาน ............................................... ................................................ จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน     เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 10:15:53   ******************************** ยิ่งมายิ่งหวานด้วยกานท์กลอน เอนกายนอนชมจันทร์หลับฝันหวาน ฝันคะนึง ถึงยอด เยาวมาลย์ ชื่นสราญ ใต้แสงสี ศศิธร/... สวัสดีค่ะคุณ แสงแรก ประดับดิน     ขอบคุณ ที่แวะมาค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 52 15:19:23 จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 14:51:43

ความคิดเห็นที่ 44 เหมือนอุ่นไออวลในสรรพสิ่ง พระจันทร์เสี้ยวลอยนิ่งเหนือสิงขร เหมือนแหล่งหล้ารับรู้ว่าฟ้าอาทร ชาวนาครรักจรจากมาฝากใจ ลุกขึ้นมาแต่งกลอนก่อนจะเช้า .......................................... ............................................. ........................................... จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 02:43:58

ความคิดเห็นที่ 45 คุณสุ ฮะ แหะ แหะ ขออนุญาต เลียน ล้อ   ต่อ เล็ก ๆ  นะฮะ . . . ยิ่งมา ยิ่งหวาน ด้วยกานท์กลอน เอนกายนอน ชมจันทร์ หลับฝันหวาน ฝันคะนึง ถึงยอด เยาวมาลย์ ชื่นสะราญ ใต้แสงสี   ศ ศิ ธ ร . ตากระผม นะฮะ . . . จั ด ป า ย  .  .  . ยิ่งเมา ยิ่ง เละ แท้ แม้กานท์กลอน เอนกายนอน กลางแดด ที่แผดผลาญ ฝันคะนึง ถึง หมูหัน เมื่อวันวาน หากเหน็บมา จัก แทะ สะราญ . .  ใต้แสงตระวัน. หยอกล้อเล่น เปน อัชฌาศรัย อย่าได้ถือสาหาความกันเลย นะ ขอรับ. แฮ่ . . . . . . . จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 03:41:43

ความคิดเห็นที่ 46 ความคิดเห็นที่ 44     เหมือนอุ่นไออวลในสรรพสิ่ง พระจันทร์เสี้ยวลอยนิ่งเหนือสิงขร เหมือนแหล่งหล้ารับรู้ว่าฟ้าอาทร ชาวนาครรักจรจากมาฝากใจ ลุกขึ้นมาแต่งกลอนก่อนจะเช้า .......................................... ............................................. ........................................... จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน     เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 02:43:58   .................................................... เหมือนอุ่นไออวลในสรรพสิ่ง พระจันทร์เสี้ยวลอยนิ่งเหนือสิงขร เหมือนแหล่งหล้ารับรู้ว่าฟ้าอาทร ชาวนาครรักจรจากมาฝากใจ ลุกขึ้นมาแต่งกลอนก่อนจะเช้า....(คุณแสงแรกฯ) คลายความเหงา ที่คะนึง พึงสงสัย..(สุนันยา) เยาวมาลย์ ที่ฝันซึ้ง ตรึงหทัย เธอเป็นใคร กันหนอ พะนอจันทร์/... ดีใจจัง ที่คุณแสงแรก ฯ แวะมาอีก ขอบคุณนะคะ จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 09:19:20

ความคิดเห็นที่ 47 ความคิดเห็นที่ 45     คุณสุ ฮะ แหะ แหะ ขออนุญาต เลียน ล้อ   ต่อ เล็ก ๆ  นะฮะ . . . ยิ่งมา ยิ่งหวาน ด้วยกานท์กลอน เอนกายนอน ชมจันทร์ หลับฝันหวาน ฝันคะนึง ถึงยอด เยาวมาลย์ ชื่นสะราญ ใต้แสงสี   ศ ศิ ธ ร . ตากระผม นะฮะ . . . จั ด ป า ย  .  .  . ยิ่งเมา ยิ่ง เละ แท้ แม้กานท์กลอน เอนกายนอน กลางแดด ที่แผดผลาญ ฝันคะนึง ถึง หมูหัน เมื่อวันวาน หากเหน็บมา จัก แทะ สะราญ . .  ใต้แสงตระวัน. หยอกล้อเล่น เปน อัชฌาศรัย อย่าได้ถือสาหาความกันเลย นะ ขอรับ. แฮ่ . . . . . . . จากคุณ : พจนารถ๓๒๒     เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 03:41:43 *********************** คุณพจน์คะ แสงตะวัน ร้อนแรง ใช่แสงดาว หากว่าเมา หลบร้อน นอนใต้ถุน..(บ้าน)   แทะหมูหัน กี่จาน แล้วแต่คุณ สุจะลุ้น คอยดู  อยู่ไม่ไกล .....หากบ้านหมุนจะ เป็นเพราะเหตุใดหนอ อิอิ ดังนี้ค่ะ ขอบคุณ ที่มาหยอกล้อ เล่นกันตามประสาเพื่อนนะคะ .. จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 09:33:15