Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ระเบียงบ้านนี้สีขาว  

“อีหนูตาล…อีหนูตาลเอ้ย มีใครอยู่ไหมน่ะ” แว่วเสียงคุ้นหูลอยมาหากแต่ราวกับมาจากดินแดนที่แสนไกล แต่ก็ก็ดังเพียงพอจะทำให้ “อีหนูตาล” ที่ถูกเรียกถึง ขยับตัวด้วยความงุนงงเล็กน้อย
“ป้าเหวงเหรอจ้ะ มีอะไรให้ตาลช่วยเหรอจ้ะ” หน้าขาวๆโผล่พ้นออกมาจากระเบียงบ้านสีขาวนวลต่างจากบ้านอื่นในละแวกนี้
“ไม่มีอะไรมากมายหรอกอีหนู ข้าแค่แวะเอาขนม กับผลไม้มาฝาก ได้ยินว่าเองจะได้ไปร่ำไปเรียนกรุงเทพฯกะเขานิ” ความตื้นตันใจปรี่ขึ้นมาในอกของ “อีหนูตาล” ของป้าเหวง ถึงแม้จะคุ้นเคยกับความมีน้ำใจของคนแถวนี้ แต่มันไม่เคยทำให้เธอสามารถหยุดรู้สึกดีๆ ที่มีต่อน้ำใจของคนแถวนี้ได้เลย สิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำความกลัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น… เพราะพรุ่งนี้แล้วสินะ ที่เธอต้องไปสานต่อความฝันในมหาวิทยาลัยที่เลื่องชื่อ ณ เมืองที่ใครๆขนานนามว่า “กรุงเทพฯ” ตาลหันไปมองระเบียงบ้านสีขาวด้วยความรักและคุ้นเคย พร้อมกับแวบคิดไปว่า อย่างน้อยการไปหาประสบการณ์จากแดนอื่น อาจทำให้ระเบียงสีขาวของเธอเลื่อมพรายไปด้วยหลากสีสันแปลกใหม่ที่แต่งแต้มชีวิตให้เธอ หากแต่เธอเชื่อมั่นว่า พื้นสีของระเบียงนั้นจะยังคงมีความเป็นสีขาวในใจเธอตลอดไป


ตรินกาญน์ ก้าวเข้าบริเวณพื้นปูนสี่เหลี่ยมที่ล้อมรอบไปด้วยโต๊ะและเก้าอี้ไม้ยาวทาสีฟ้าอย่างเก้ๆกังๆ มีเสียงห้าวๆถามดังมาว่าเป็นรุ่นน้องของกรุ๊ปนี้หรือไม่ ซึ่งเธฮคงไม่มีคำตอบอื่นใดนอกไปจากคำว่าใช่ เพราะชื่อกรุ๊ปนั้นดูไม่ต่างจากสิ่งที่เธอจดมาซักเท่าไหร่ หลังจากเหลือบมองไปรอบๆ สายตาของเธอก็พยายามแยกกลุ่มเด็กใหม่ออกด้วยเสื้อผ้าที่เห็นได้ทันทีว่าเป็นชุดที่เพิ่งถูกหยิบใช้เป็นครั้งแรก ผสมหน้าตาตื่นๆ (เหมือนเธฮ) จากนั้นก็สาวเท้าเข้าไปหาเด็กสาวคนหนึ่งที่เธอรู้สึกถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็น
“ หวัดดีจ้ะ เราชื่อตาลนะ เธอชื่ออะไรน่ะ” ตาลส่งรอยยิ้มบางๆไปให้
“ เราเหรอ อ๋อ! เราชื่อจูนน่ะ นั่งด้วยกันสิ” จูนว่าพลางขยับพื้นที่ข้างๆให้ จูนเป็นสาวน้อยร่างบาง ผิวขาวจัด แต่มีอะไรบางอย่างที่บอกได้ว่า เธอไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มคนที่เรียกว่าไฮโซ ทำให้ตาลรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้ โดยเฉพาะเมื่อแอบได้ยินเสียงรุ่นพี่สาวๆกระซิบให้กันพร้อมทำหน้าเบ้ว่า ปีนี้รุ่นน้องเราทำไมดูเฉิ่มเชยได้ถึงขนาดนี้ แย่จัง

นับจากวันนั้น ตาลกับจูนก็กลายเป็นสองสาวที่ตัวติดกัน และมิตรภาพที่งอกงามนั้นก็ไม่เคยหยุดเบ่งบานแม้หลังจากทั้งสองจบการศึกษา และแยกย้ายกันไปทำงานตามสายงานที่ตนได้เรียนมา

ขณะที่ตาลกำลังนั่งเอกเขนกในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆที่บางคนก็เรียกว่าคอนโด ถึงแม้จะยังคงมีอีกหลายคนพร้อมใจกันเรียกมันว่าแฟลต! แต่ไม่ว่าใครจะเรียกมันว่าอะไร ตาลก็ไม่สน เพราะไอ้ห้องสี่เหลี่ยมแคบๆนี้ เธอหามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอเอง ตาลตะปบเข้าที่มือถือที่ส่งเสียงกรี๊ดๆเสียดแทงโสตประสาทอยู่ พร้อมกับเสียงคุ้นเคยของจูนแว่วมาตามสาย
“ ตาลๆ รู้มั้ยวันนี้เราเจอใคร ” น้ำเสียงของจูนไม่สามารถปิดความตื่นเต้นได้ ซึ่งถ้าให้ตาลเดา ก็คงไม่พ้นเรื่องของหนุ่มๆที่เข้ามาทำให้หัวใจดวงน้อยๆของเจ้าหล่อนระชุ่มกระชวยละมั้ง
“ วันนี้มีหมอฝึกหัดใหม่เข้ามา หน้าตากิ๊กมากกกกกกกก” เจ้าหล่อนลากเสียงยาวประกอบ
“ แล้วไงจ๊ะ เขาขอเธอแต่งงานแล้วเหรอจ๊ะ” ตาลแอบจิกด้วยความขำ
“ บ้า! ตาลพูดอะไรก็ไม่รู้ เค้าแค่ขอติดรถกลับบ้านเท่านั้นเอง” จูนตอบด้วยความปลื้มใจสุดๆ
“ เฮ้! อย่าบอกนะว่าเขาจีบเธอตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ไวไฟเหมือนกันนะพ่อหนุ่มคนนี้ เอ! แต่เธอว่าเขาเป็นหมอฝึกหัดใหม่ใช่มั๊ย” ตาลถามหลังจากเพิ่งนึกได้
“ใช่ แบบว่า เอ่อ น้องเค้าอายุน้อยกว่าเรานิดหน่อยน่ะ” น้ำเสียงของจูนฟังดูอ้อมแอ้มยังไงชอบกล
“ไอ้น้อยกว่าน่ะ มันเท่าไหร่ละ” ตาลถามด้วยน้ำเสียงคาดคั้น
“แหม! ก็ไม่เท่าไหร่หรอก แค่เจ็ดปีเอง” คราวนี้เสียงเธอเริ่มอ่อยจริงๆ
“ไอ้บ้าจูน เจ็ดปีเค้าไม่เรียกว่า ไม่เท่าไหร่หรอกนะ แกจะหลอกเด็กเหรอ” ตาลแทบจะกระโดดเข้ากัดหูเพื่อนถ้าสามารถทำได้
“ก็ ก็ ก็เด็กมันน่ารักน่ะ ไม่เอาละ ไม่คุยด้วยแล้ว” ว่าแล้วแม่เพื่อนตัวแสบก็ชิงวางหูใส่ ทำเอาตาลทำได้แค่ขมุบขมิบปากด่าสรรเสริญเพื่อนจากระยะทางไกล

หลังจากนั้น จูนก็มีแต่เรื่องของน้องแมคมาเล่าให้ฟังไม่เว้นแต่ละวัน ถึงแม้ตาลจะพยายามเตือนเพื่อนด้วยความเป็นห่วง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ค่อยสนใจฟังซักเท่าไหร่ พอว่างพักกลางวันไม่มีคนไข้ พ่อหมอแมครูปหล่อก็จะแวะไปยังห้องฝ่ายการเงิน พาป้า เอ้ย! สาวจูนไปทานข้าวอยู่ด้วยเป็นนิจสิน 3 เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก ไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้สาวจูนสามารถเข้านอกออกในบ้านของหนุ่มแมคได้แล้ว และก็เป็นความไม่น่าเชื่อที่ทำให้ตาลใจชื้นขึ้น เพราะไม่อยากให้จูนต้องผิดหวังกับรักครั้งนี้ โอมเพี้ยง! ขออย่าให้เป็นอย่างที่เธอคิดเล้ย!

“ตาลๆ เราอยากหาชุดใส่ไปงานน่ะ” เสียงจูนส่งข้ามสายมาด้วยน้ำเสียงสดใส
“ เออ! เราชื่อตาล ไม่ใช่ตาลๆ ไอ้เพื่อนคนนี้มันเป็นอะไรวะ ดีใจทีไร ต้องมีเบิ้ลชื่อซะทุกที ว่าแต่จะใส่ไปงานอะไรล่ะ”
“ งานแต่งงานน่ะ เอ่อ คือว่า แมคกับคุณแม่เค้าชวนเราไปงานแต่งงานของลูกเพื่อนคุณแม่เค้าน่ะ” เสียงเจ้าจูนฟังดูขวยอายน่าหมั่นไส้
“ โอ้โห ฟังดูสุดยอดไปเลย เหมือนกับแกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเค้าเลยนะ” ตาลอดดีใจแทนเพื่อนไม่ได้
“ ตกลงแกยอมไปช่วยชั้นเลือกชุดใช่มั๊ย” เจ้าจูนคาดคั้น
“ แหม ของมันแน่อยู่แล้ว เพื่อเพื่อน น้อยกว่านี้ได้ยังไง เนอะ”

ถ้าเป็นไปได้ ตาลคงไม่อยากรับสายๆนี้จากจูนเลย
“ ตาล เรา เอ่อ…” เสียงจูนตะกุกตะกักมาตามสาย ขณะที่ตาลพยายามเงี่ยหูฟัง เพราะกำลังพยายามทรงตัวอยู่บน BTS
“ เออ ว่าไง มีอะไรให้เราช่วย” อุ๊บ! ส่งเสียงดังไปนิด คนบน BTS ต่างหันมามองเป็นตาเดียวกัน ตาลส่งสายตาขอโทษขอโพย พร้อมหันหลังให้กลุ่มคน
“ ตาล เราไม่รู้จะพูดว่ายังไงดี…” ตาลสำเหนียกได้ว่าต้องมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเพื่อนแน่ๆ พร้อมกับใจหายวูบ ได้แต่ภาวนาขอให้เรื่องที่ตนเคยนึกเป็นกังวลมาตลอดอย่าได้เกิดขึ้น
“ จะให้เราไปหามั๊ย” ตาลว่าอย่างรู้สถานการณ์ว่าตอนนี้เพื่อนคงต้องการตนอย่างที่สุด

จากคุณ : ส้มเกลี้ยง
เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 12:03:13 A:125.213.229.170 X:




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com