ความคิดเห็นที่ 1 |
คืนนั้นหลังจากได้กล่าวลาและฝากฝังโฮชิโนะกับเหล่าข้ารับใช้ที่มาจากบ้านโอริโมโนะด้วยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มาซาบุโร่จึงกลับไปที่ห้องเพื่อลงมือเก็บเสื้อผ้าของตน หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเมื่อนึกถึงการเดินทางในวันรุ่งขึ้น ภาพปิศาจที่กัดกินเพื่อนทั้งเป็นหวนกลับเข้ามาในความทรงจำ มาซาบุโร่ถอนใจออกมาก่อนจะล้มตัวลงนอน
จะเกิดอะไรขึ้นกับข้าก็ไม่เป็นไร ขออย่าให้นายท่านกับคุณหนูได้รับอันตรายเท่านั้นก็พอ
ข้ารับใช้จากบ้านโอริโมโนะพึมพำก่อนจะปิดเปลือกตาลงและหลับสนิทภายในเวลาอันรวดเร็ว
เสียงนกร้องเพลงขับขานอย่างร่าเริงบ่งบอกถึงเวลาอรุณรุ่ง มาซาบุโร่ลืมตาตื่นและลุกขึ้นชำระล้างหน้าตา หลังจากผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเขาจึงหอบสัมภาระไปกล่าวอำลาต่อเจ้าบ้านฟูจิวาระอีกครั้งซึ่งโทอิจิโรก็ได้มอบเสบียงอาหารให้กับเขาพร้อมกับกล่าวคำอวยพร
ขณะกำลังเดินไปที่ประตู มาซาบุโร่ก็ต้องชะงักเมือ่ได้ยินเสียงร้องเรียกของเด็กสาวจากทางด้านหลัง เขาหมุนตัวหันกลับไปมองและพึมพำด้วยความแปลกใจ
คุณหนูโฮชิโนะ
จะไปโดยที่ไม่ร่ำลาข้าสักคำก่อนหรือ เด็กสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ข้ารับใช้ของนางค้อมตัวลงพร้อมกับกล่าว
ข้ากลัวว่าจะเป็นการรบกวนคุณหนูขอรับ
เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ใช่คนนอนตื่นสาย โฮชิโนะพูดเสียงห้วน นางมองข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์นิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงยื่นมือออกไป รับไปสิ
อะไรหรือขอรับ มาซาบุโร่ถามพลางรับของที่อยู่ในมือเด็กสาว เขาเบิกตากว้างเมื่อพบว่ามันคือถุงเครื่องรางคุ้มภัยที่โฮชิโนะพกติดตัวเป็นประจำ นี่มัน ของสำคัญของคุณหนูนี่ขอรับ ข้าไม่บังอาจรับไว้ ได้โปรดนำกลับคืนไปเถอะขอรับ
ข้ารับใช้จากบ้านโอริโมโนะกล่าวเสียงระรัวขณะค้อมตัวลงและยื่นถุงเครื่องรางส่งให้กับนายหญิงน้อยแต่โฮชิโนะกลับส่ายหน้า
ข้าให้เจ้า นางผลักมือเขากลับ เอาไว้ป้องกันตัวและเพื่อให้เดินทางโดยปลอดภัย
แต่
มันอาจจะมีค่าเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับสิ่งที่เจ้ากำลังทำให้ข้า แต่ช่วยรับไว้ด้วยเถอะนะมาซาบุโร่
โฮชิโนะพูดด้วยน้ำเสียงเชิงอ้อนวอน มาซาบุโร่มองนายหญิงน้อยของตนก่อนค้อมตัวลงและกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ
ขอบพระคุณคุณหนูมากขอรับ
ข้าจะออกไปส่งเจ้าจนถึงทางแยก เด็กสาวกล่าวแต่มาซาบุโร่รีบห้าม
นอกบ้านฟูจิวาระมีแต่อันตราย กรุณาอย่าออกไปเลยขอรับ
แต่ข้าไม่อยากให้เจ้าไปเพียงลำพัง ขอเดินไปเป็นเพื่อนสักหน่อยก็ยังดี
โฮชิโนะกล่าวอย่างดื้อดึง สีหน้าของมาซาบุโร่แสดงความหนักใจขึ้นมาในทันที เขาขยับเตรียมจะห้ามนายหญิงน้อยของตนอีกครั้งแต่ต้องชะงักเมื่อเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น
ข้าจะไปส่งเขาเอง
ทั้งโฮชิโนะและมาซาบุโร่ต่างหันกลับมามองด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นฮารุคาเสะก้าวเข้ามาหา
ทำไมเจ้าถึง...โฮชิโนะกล่าวเสียงแผ่วก่อนจะทำสีหน้างอง้ำขึ้นมาทันที ไหนบอกว่าไม่สนใจ
ข้าพูดว่าไม่สามารถทำตามที่เจ้าขอได้ ชายหนุ่มตอบศิษย์ตัวน้อย นางขมวดคิ้ว
แล้วมันต่างกันตรงไหน เด็กสาวพูดพร้อมกับเมินหน้าหนี ฮารุคาเสะอมยิ้มในหน้าก่อนจะหันไปทางมาซาบุโร่และยื่นของสิ่งหนึ่งให้
นำของสิ่งนี้ติดตัวไปด้วย
พู่ไหม ข้ารับใช้จากบ้านโอริโมโนะพึมพำด้วยความประหลาดใจขณะที่มองด้ายสีแดงที่ถูกมัดเป็นกลุ่มคล้ายพู่ห้อยที่ประดับบนพัดของฮารุคาเสะ โฮชิโนะมองพู่สีแดงสดในมือของ มาซาบุโร่ที่กำลังสะบัดไปมา นางหันหน้าไปที่ชายหนุ่มทันที
ไหนเจ้าบอกว่าทำเครื่องรางไม่ได้
ข้าเขียนยันต์ไม่ได้ต่างหาก ฮารุคาเสะกล่าวเสียงเรียบก่อนจะเลื่อนสายตากลับไปยัง มาซาบุโร่ นี่เป็นไหมที่ข้าดึงมาจากพู่ของพัดประจำตัว แม้จะมีพลังไม่เท่ายันต์ของพวกนักพรต แต่ก็มีอำนาจพอที่จะคุ้มครองเจ้าให้รอดพ้นจากอสูรชั้นต่ำได้
ขอบพระคุณคุณชายเป็นอย่างมากขอรับ มาซาบุโร่กล่าวพร้อมกับโค้งกายลงต่ำ อีกฝ่ายยิ้มก่อนจะหันไปทางโฮชิโนะ
เจ้าไปที่ห้องฝึกและซ้อมท่ารำไปจนกว่าข้าจะกลับ
แต่ เด็กสาวทำท่าจะแย้ง ฮารุคาเสะยกมือห้ามพร้อมกับกล่าวเสียงดุ
เดี๋ยวนี้
โฮชิโนะเม้มปากและหันไปมองมาซาบุโร่ทันที เขารีบพูดขึ้น
กรุณาทำตามที่อาจารย์ของท่านบอกเถิดขอรับ
ตกลง เด็กสาวกล่าวอย่างยอมจำนน นางมองข้ารับใช้ด้วยความเป็นห่วงก่อนจะเลื่อนสายตาไปที่ฮารุคาเสะอีกครั้งจากนั้นจึงเดินกลับเข้าไปด้านใน มาซาบุโร่มองนายหญิงน้อยของตนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงหันไปกล่าวกับชายหนุ่ม
สายมากแล้ว คงต้องขอลาคุณชาย
ข้าจะเดินไปส่ง ฮารุคาเสะกล่าวเสียงเรียบแต่อีกฝ่ายกลับสั่นหน้า
จะเป็นการรบกวนคุณชายมากเกินไป แค่พู่ไหมที่ท่านให้มานี่นับเป็นความกรุณาอย่างมากแล้ว
ข้าไม่อยากให้โฮชิโนะเป็นกังวล ชายหนุ่มพูดอย่างเคร่งขรึมพลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เริ่มมีแสงสว่างรำไร รีบเดินทางเสียตั้งแต่ตอนนี้จะได้ถึงบ้านโอริโมโนะก่อนค่ำ
ขอรับ มาซาบุโร่กล่าว เขาค้อมตัวลงเล็กน้อยเมื่อฮารุคาเสะก้าวนำออกจากบ้านฟูจิวาระ จากนั้นทั้งสองจึงเดินตามกันไปโดยไม่มีการสนทนากระทั่งถึงทางแยก ฮารุคาเสะจึงหยุดและหันไปกล่าวกับข้ารับใช้ของบ้านโอริโมโนะ
ข้าส่งเจ้าได้เท่านี้ จงเร่งเดินทางให้เร็วที่สุด ห้ามหยุดพักหรือแวะทักทายผู้ใดระหว่างทาง ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าอาจจะมีภัย
ขอบพระคุณคุณชายที่เตือน ข้าน้อยจะระวัง มาซาบุโร่กล่าวพร้อมกับค้อมตัวลง ฮารุคาเสะมองเขานิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวเสียงเรียบ
ขอให้โชคดี
มาซาบุโร่ค้อมตัวลงอีกครั้งดุจเป็นการส่ง เขามองชายหนุ่มที่กำลังเดินห่างออกไปอยู่ครู่หนึ่งจึงหมุนตัวหันไปในเส้นทางกลับสู่บ้านตระกูลโอริโมโนะ มาซาบุโร่ถอนใจออกมาอย่างหนักหน่วงก่อนจะตัดสินใจเริ่มต้นออกเดิน
แม้จะเป็นการเดินทางอย่างเร่งรีบ แต่ด้วยอากาศที่เริ่มย่างเข้าสู่ฤดูหนาวทำให้เวลากลางวันนั้นแสนสั้น มาซาบุโร่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีด้วยความกังวลขณะที่พยายามเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นแต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ทัน เขามองบรรยากาศรอบตัวที่เริ่มมืดสลัวลงอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในเสื้อและกำพู่ไหมที่ได้รับมาจากฮารุคาเสะแน่น ในใจของมาซาบุโร่ภาวนาขอให้เขาเข้าเขตชุมชนก่อนค่ำ เขาแหงนมองท้องฟ้าอีกครั้งและขบกรามแน่นขณะที่ก้าวเร็วขึ้นจนเกือบจะกลายเป็นวิ่ง ภาพฝูงปิศาจที่บุกเข้ามาทำร้ายเมื่อหลายวันก่อนหวนกลับเข้ามาอีกครั้ง หัวใจของมาซาบุโร่เต้นแรงด้วยความหวาดกลัว
เจ้าจะรีบไปไหนกัน
เสียงทุ้มห้าวของใครบางคนร้องถาม มาซาบุโร่สะดุ้งสุดตัวและหยุดชะงัก เขากวาดตามองรอบตัวอย่างระวังและผวาเยือกอีกครั้งเมื่อเห็นเงาตะคุ่มของใครคนหนึ่งปรากฏขึ้นที่พุ่มไม้ข้างทาง
ใคร
เขาร้องถามเสียงสั่น เสียงหัวเราะแผ่วต่ำดังมาจากร่างที่กำลังก้าวออกมา มาซาบุโร่ขยับตัวถอยหลังเมื่อเห็นอีกฝ่ายมายืนขวางทางเอาไว้ ชายผู้นั้นแสยะยิ้ม ดูเหมือนข้าจะทำให้เจ้าตกใจ ดวงตามองกลับมาอย่างดุดัน ข้ารับใช้ของบ้านโอริโมโนะพยายามข่มความกลัวขณะร้องตอบ
ข้าไม่ได้ตกใจ เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าจะมีใครมาซุ่มซ่อนอยู่ข้างทางต่างหาก
ข้าไม่ได้ซุ่มซ่อน แต่มารอเจ้า ชายลึกลับกล่าวเสียงเรียบ มาซาบุโร่ถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเห็นไอสีดำแผ่กระจายออกมาจากฝ่ายตรงข้าม เขาก้าวถอยหลังพลางกลั้นใจถาม
ข้าไม่รู้จักเจ้า
แต่ข้ารู้จักเจ้าดี ชายผู้นั้นตอบพร้อมกับโบกมือ เงาสีดำขนาดใหญ่ไหววูบออกมาจากพุ่มไม้และตรงเข้าไปล้อมมาซาบุโร่เอาไว้ เขามองด้วยดวงตาเหลือกลาน
ป...ปิศาจ
ถูกต้อง ชายลึกลับตอบ มาซาบุโร่ขบกรามแน่นขณะกวาดตามองปิศาจสามตัวที่ยืนรอบตัวเขา
แกต้องการอะไร
ข้ารับใช้บ้านโอริโมโนะข่มใจถาม อีกฝ่ายหัวเราะพร้อมกับยื่นมือออกมาข้างหน้า
พวกเราไม่เคยปล่อยให้อาหารหลุดมือ ดวงตาแดงก่ำเบิกโพลง คงคิดว่าหนีไปที่นั่นแล้วจะรอดใช่ไหมเจ้ามนุษย์หน้าโง่
เจ้าหัวหน้าปิศาจขยับมือ
ฉีกมันให้เป็นชิ้น!
มาซาบุโร่ร้องลั่นเมื่อปิศาจทั้งสามกางกรงเล็บออกและกรูกันเข้าไปหาเขาด้วยท่าทางหิวกระหาย เขาพยายามจะวิ่งแต่ปิศาจตนหนึ่งรีบเข้าไปขวาง มันคว้าชายเสื้อของมาซาบุโร่เอาไว้และส่งเสียงร้องคำรามออกมาขณะที่ตวัดกรงเล็บเข้าใส่อกเสื้อของเขาหมายจะควักหัวใจ เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังลั่นเมื่อแขนข้างนั้นถูกตัดขาด เจ้าปิศาจปล่อยร่างของเหยื่อก่อนจะใช้มือข้างที่เหลือกุมแขนที่ขาดด้วน หัวหน้าปิศาจถึงกับตกตะลึงและตะโกนถาม
เกิดอะไรขึ้น
ปิศาจที่เหลือต่างมองหน้ากัน มันจ้องเส้นไหมสีแดงที่พุ่งออกมาจากเสื้อของมาซาบุโร่และกวัดแกว่งไปมาราวกับมีชีวิตด้วยความตกใจ หัวหน้าปิศาจคำราม
แค่เส้นด้ายเท่านั้น ฆ่ามันเดี๋ยวนี้!
สิ้นเสียงสั่ง ปิศาจทั้งสองต่างขยับตัวหมายจะเข้าไปขย้ำมาซาบุโร่ให้แหลกคามือ แต่เพียงแค่มันทั้งสองกระดิกปลายนิ้วเท่านั้น ด้ายสีแดงก็ตวัดเข้าใส่พวกมันตัดร่างอัปลักษณ์ออกเป็นชิ้นภายในชั่วพริบตา หัวหน้าปิศาจถึงกับร้องลั่นด้วยความโกรธจัด มันพุ่งเข้าใส่มาซาบุโร่ทันทีเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เส้นด้ายสีแดงเหวี่ยงสะบัดกลับมา มันฟาดใส่ร่างสูงใหญ่และเฉือนออกเป็นสามท่อนอย่างรวดเร็ว ข้ารับใช้จากบ้านโอริโมโนะมองซากร่างที่ร่วงลงไปกองกับพื้นด้วยความตระหนก เขาจ้องเส้นสายสีแดงที่กำลังหดหายเข้าไปในเสื้อของตนพร้อมกับพึมพำ
เกิดอะไรขึ้น
มือที่สั่นเทาล้วงเข้าไปในอกและดึงพู่ไหมที่ฮารุคาเสะมอบให้ออกมา มาซาบุโร่นิ่วหน้าด้วยความแปลกใจเมื่อพบว่าเส้นด้ายมรณะที่เคลื่อนไหวราวกับมีชีวิตเมื่อครู่ บัดนี้กลับกลายเป็นกลุ่มไหมสีแดงดังเดิม
นี่มันอะไรกัน
ต้องถามว่านี่เป็นพลังอะไรกันแน่มากกว่า เสียงต่ำทุ้มน่าสะพรึงดังแทรกขึ้น มาซาบุโร่สะดุ้งอีกครั้ง เขารีบหันกลับไปมองทางด้านหลังและจ้องปิศาจร่างยักษ์ที่กำลังก้าวเข้ามา มันจ้องมนุษย์ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าด้วยดวงตาวาว
พลังของพู่ไหมนั่นไม่ได้เกิดมาจากเวทหรือบทสวด แต่เป็นพลังธรรมชาติพิสุทธิ์ของพวกเทพมารชั้นสูง มันส่งเสียงคำรามในลำคอขณะที่ยื่นมือออกไปข้างหน้าและหดกลับทันทีเมื่อพู่ไหมกลายสภาพเป็นด้ายมรณะอีกครั้ง อสรูร้ายส่งเสียงคำราม
นี่ไม่ใช่ด้ายธรรมดา มันจ้องมาซาบุโร่เขม็ง คนที่มอบให้กับเจ้ามันเป็นใครกัน
ฟูจิวาระ ฮารุคาเสะ นักนาฏกรรม เสียงหวานแต่เย็นเยียบดังมาจากยอดไม้สูง อสูรร่างยักษ์และมาซาบุโร่ต่างแหงนหน้าขึ้นไปมองพร้อมกัน ดวงตาของเจ้าปิศาจร้ายทอประกายวาวน่ากลัวขณะที่เอ่ยปากถามผู้ที่กำลังนั่งกระดิกหางอยู่บนกิ่งไม้อย่างสบายอารมณ์
เบียคโกะ มันแสยะปาก เจ้ามาที่นี่ทำไม
*/*/*/*/*/*
ฮารุคาเสะในศาลฟูจิน
| จากคุณ |
:
moony (Moony_Lupin)
|
| เขียนเมื่อ |
:
9 ส.ค. 52 11:01:58
|
|
|
|