ความคิดเห็นที่ 1 |
บทที่ 10
ว่าไงเมษ ตัวยุ่งไม่อยู่กรุงเทพฯ เหงาไหม โปรดิวเซอร์มือทอง เดินถือแก้วกาแฟหอมกรุ่นเดินเข้ามาอย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะเริ่มต้นบทสนทนาแรกกับลูกน้องคนสนิท
มาแต่เช้าเลยพี่นอ เมียไม่บ่นเหรอกลับดึกตื่นเช้าแบบนี้ เมษแซวยิ้มๆหลังจากที่รับรู้ว่าคนที่เดินเข้ามาเป็นใคร
เอาน่า ขออนุญาตเค้าไปแล้วไง นรเศรษฐ์หัวเราะชอบใจ ใครจะแซวเขาว่ากลัวภรรยา ไม่เพียงแต่จะไม่เก็บมาใส่ใจ แต่กลับหัวเราะชอบอกชอบใจไปเสียอย่างนั้นทุกทีไป เมษมีหรือจะไม่รู้ว่านรเศรษฐ์รักภรรยาและครอบครัวของเขามากเพียงไร นี่ถ้าไม่เห็นว่าสนิทสนมกันเป็นอย่างดีเธอก็คงไม่กล้าแซวเล่นแบบนี้เหมือนกัน
ไม่รู้ป่านนี้ถึงเชียงใหม่แล้วหรือยัง เมษมองดูนาฬิกาตั้งโต๊ะอันเล็กที่วางเอาไว้ไม่ไกลนัก นรเศรษฐ์ลากเก้าอี้มานั่งลงไขว่ห้าง พลางยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ
เมษ พี่ถามอะไรหน่อยสิ
ค่ะพี่ เมษละมือจากแป้นคีย์บอร์ด ก่อนที่จะหันไปรอฟังว่านรเศรษฐ์จะพูดอะไรกับเธอ
เมษว่า สองคนนั่นเขาเป็นยังไง
แล้วจากสายตาพี่นอ พี่ว่าเค้าเป็นยังไงล่ะ เมษย้อนถามกลับไปบ้าง หนูน่ะ มีคำตอบให้พี่อยู่แล้ว แต่ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า พี่เราจะคิดยังไง
พี่ก็ไม่ยังไงหรอก ทีแรกก็รู้สึกเบาใจนะว่า ดีจริงที่น้ำต้นกับนนท์เข้ากันได้ดี ทำให้การทำงานมันง่ายขึ้นเยอะ แต่พักหลังพี่เห็นตัวติดกันเป็นเงา มีคนนึงก็ต้องมีอีกคนนึงอยู่ด้วยตลอด นรเศรษฐ์ชั่งใจก่อนจะเอ่ยออกมาว่า ก็เลยค่อนข้างแน่ใจว่ามันคงต้องมีอะไรมากกว่านั้นแล้วล่ะ
พี่นอว่าไงล่ะคะ
พี่ก็ไม่ว่าไงหรอก
อ้าว... เมษมีสีหน้าประหลาดใจขึ้นมา
ทำไมล่ะ
ก็... แปลกใจนิดหน่อยน่ะพี่ พอได้เห็นสีหน้าของคู่สนทนาที่มีศักดิ์เป็นทั้งหัวหน้าและเหมือนจะเป็นพี่ชายอยู่กลายๆ ดูไม่เป็นทุกข์ร้อนอะไรกับเรื่องที่กำลังพูดคุยกันเลยสักนิด เมษก็อดยิ้มกว้างออกมาไม่ได้
เห็นอย่างนี้พี่ไม่ใช่พวกจิตใจคับแคบนะเมษ
เปล่าเลยพี่ หนูไม่เคยคิดเลยนะว่าพี่จะเป็นคนใจแคบหรืออะไร เมษว่า แต่พี่ต้องเข้าใจนิดนึง นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ชายปกติทั่วไป โดยเฉพาะคนที่มีลูกมีเมียแล้วอย่างพี่จะยอมรับได้ง่ายๆไงคะ แล้วที่ผ่านมาหนูก็ไม่รู้ว่าพี่นอมีทัศนคติกับเรื่องแบบนี้ยังไง
โธ่เอ๊ย เมษ ทำงานในวงการนี้ก็น่าจะเห็นๆกันอยู่ ไอ้เพื่อนๆที่รู้จักคบหากันอยู่นี่ก็มีไม่น้อยที่เป็น พี่ก็ไม่เห็นต้องเดือดร้อนอะไรเลย
แต่นี่เรากำลังพูดถึงน้ำต้นอยู่นะคะ เมษหยั่งเชิงอีกครั้ง
ก็... นรเศรษฐ์ยักไหล่อย่างไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร น้องมันก็คน ถ้ามันจะรักใครชอบใครก็เป็นสิทธิ์ของมัน
แล้วพี่ไม่กลัวเหรอคะว่า นักร้องหนุ่มที่พี่ปั้นขึ้นมากับมือ จู่ๆก็เกิดมีรสนิยมชอบผู้ชายขึ้นมาเสียอย่างนั้น
เป็นเมื่อก่อนก็อาจจะกังวลหน่อย นรเศรษฐ์จิบกาแฟต่อ แต่ตอนนี้ดูเอาสิเมษ ว่านักร้อง ดารา นักแสดง ในบ้านเราเนี่ย มีแบบนี้กี่คน พอเวลาผ่านไป พี่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเขาจะแตกต่างจากเราตรงไหน แค่รสนิยมของเราไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง แล้วบอกตามตรงนะ เขาหันไปพูดกับเมษ เคสน้ำต้นเนี่ย พี่แทบไม่เป็นห่วงอะไรเขาเลย
เพราะอะไรคะพี่
เอาตรงๆนะ เราก็รู้จักเด็กของเราดีอยู่แล้ว ว่าเขาเป็นยังไงเป็นเด็กดีแค่ไหน พี่เชื่อในการตัดสินใจของต้นนะ อีกอย่างดูนนท์สิ พี่เองเป็นผู้ชายแท้ๆ พี่ยังถูกใจเด็กคนนี้เลย มันมีอะไรไม่รู้ชวนให้ดึงดูดใจ แถมที่ผ่านมา พอได้พูดคุยกันบ่อยๆ พี่ก็เห็นแล้วว่า นนท์เป็นเด็กดีขนาดไหน ถึงไม่แปลกใจเลยถ้าต้นมันจะชอบนนท์ขนาดนั้น ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตามน่ะนะ แล้วก็อีกอย่าง... นรเศรษฐ์ยักไหล่ทำท่ายียวนขึ้นมา ถ้าไอ้ต้นมันจะเป็นอะไร มันก็ไม่ได้เป็นบนหัวกะบาลใครนี่หว่า พี่ปั้นมันขึ้นมาให้เป็นนักร้องที่ดี มันก็ได้ทำหน้าที่ของมันไปแล้วอย่างดี ที่เหลือก็เรื่องของมัน คนเรามันก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้างสิ
โอ้โห เมษทำตาโต
อะไรของเอ็งอีกวะเมษ นรเศรษฐ์ทำเสียงฮึดฮัดเมื่อเห็นปฏิกิริยาของลูกน้องสาวที่ทำหน้าทึ่งออกมาอย่างไม่ปิดบัง ฉันพูดผิดตรงไหน
ไม่ผิดจ้ะพี่ แค่ทึ่งในความคิดของพี่น่ะ เมษหัวเราะพรืดออกมา ถ้าไม่ได้มาคุยกันแบบนี้ เมษจะคิดไม่ถึงเลยนะ
แต่เราก็จะไปคาดหวังให้ทุกคนคิดแบบนี้ไปทั้งหมดไม่ได้หรอก เรื่องนี้พี่ก็รู้ ว่าแต่เอ็งล่ะ ตกลงคิดยังไงกับสองคนนี้บ้าง นรเศรษฐ์ใช้สรรพนามที่แสดงถึงความสนิทสนมที่ใช้กับเมษอยู่บ่อยๆ
หนูมองออกตั้งแต่แรกแล้ว เมษว่ายิ้มๆ
ผู้หญิงนี่เซ้นส์เรื่องแบบนี้แรงนะ นรเศรษฐ์ทึ่ง
ก็ไม่ทุกคนหรอกนะพี่นอ อย่างเมษเนี่ย มันเป็นความสามารถพิเศษน่ะ นรเศรษฐ์พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย สองคนนี่เขาดึงดูดกันมาตั้งแต่แรกที่ได้เจอกันแล้ว อีกอย่างเมษน่ะใกล้ชิดต้นขนาดนี้ เมษจะไม่รู้เชียวหรือว่าน้องเป็นคนเก็บความรู้สึกไม่เก่งเลย เวลาชอบอะไร หรือถูกใจใคร ต้นมันจะหยุดตัวเองไม่ค่อยได้ ว่างเป็นต้องพูดถึงตลอด แล้วดูสิ ตั้งแต่รู้จักกันมา ยังไม่เคยเห็นต้นติดใครหนึบขนาดนี้มาก่อน
เห็นด้วยเลย
ระยะหลังมันก็เกิดเรื่องอะไรขึ้นด้วย ก็ยิ่งได้เห็นว่าทั้งต้นทั้งนนท์เขาผูกพันกันมากด้วยอะไรบางอย่างบอกไม่ถูกนะพี่
แต่ไม่รู้เป็นยังไงนะ ไอ้คู่นี้นี่ เวลาพี่มองดูสองคนอยู่ด้วยกันแล้วมันไม่รู้สึกขัดตาเลย กลับรู้สึกดีไปซะงั้น พี่ว่า ส่วนหนึ่ง มันก็วางตัวกันดีด้วยแหละ ไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียด พี่ถึงไม่ว่าอะไรไง ถ้ามันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆนะ ใครก็ว่ามันไม่ได้หรอก
ถามจริงๆนะพี่นอ พี่เป็นห่วงว่ามันจะเป็นข่าวขึ้นมาหรือเปล่า เมษไม่รู้นะ มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แต่ใครจะไปรู้ใช่ไหมพี่ ยังไงต้นมันก็คนของประชาชนน่ะ
ห่วงนิดหน่อย แต่ไม่มาก ถ้ามีอะไรขึ้นมาเราก็คงต้องช่วยน้องเต็มที่อยู่แล้ว พี่นะ อะไรที่ดีกับน้องทุกคน พี่ไม่เคยห้าม มีแต่จะช่วย แล้วเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเสียหายนะ เอ่อ... ในความคิดของพี่หรอกนะ แต่ถ้ามีอะไรล่ะก็ พี่อยากให้เมษรู้ไว้เลยว่า พี่พร้อมจะช่วยน้องเสมอ
เมษไม่ห่วงสองคนนี้ เท่ากับคนรอบตัวเขาหรอก เมษถอนหายใจอย่างอดกังวลขึ้นมาไม่ได้
แต่ตอนนี้มันก็ยังไม่มีอะไรใช่ไหม เมษส่ายศีรษะเบาๆ ถ้างั้นก็อย่าเพิ่งไปกังวลกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึง นรเศรษฐ์ยื่นมือไปขยี้ศีรษะของเมษเบาๆ พี่ก็ฝากสองคนให้เราดูแลหน่อยก็แล้วกัน
เมษเลิกคิ้วขึ้นอย่างที่ทำจนติดเป็นนิสัยเวลาที่นึกฉงนสงสัยอะไรขึ้นมา
หมายความว่ายังไงคะพี่
เออ จริง นรเศรษฐ์ว่า พี่ยังไม่ได้บอกเมษนี่นา ไป... ว่าแล้วโปรดิวเซอร์อารมณ์ดีก็ลุกขึ้นยืน เขาผลักเก้าอี้ออกไปเบาๆ ก่อนจะถือแก้วกาแฟที่เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งในตอนนี้ขึ้นมา
งั้นเราไปคุยรายละเอียดกันหน่อย
เมษจึงได้แต่ลุกเดินตามหัวหน้าของตัวเองออกไปทั้งกึ่งอยากรู้และกึ่งประหลาดใจเมื่อเห็นท่าทางที่เต็มไปด้วยลับลมคมในนั้น
***********************
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 52 16:14:08
| จากคุณ |
:
fingers-crossed
|
| เขียนเมื่อ |
:
9 ส.ค. 52 16:13:03
|
|
|
|