ความคิดเห็นที่ 1 |
ต่อ...
อืมม...
เธอทำเสียงในลำคออันอ้วนกลมด้วยความเอ็นดู หลังจากนั้นทั้งสองจึงเริ่มสั่งอาหารทำง่ายๆ มารับประทาน เพราะถึงแม้สมหมายจะมีเวลาแต่ก็ไม่มากนัก ระหว่างรับประทานอาหาร ก็มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของ เอมเมอเรส - อาย อยู่เป็นระยะๆ โดยมีเจ๊กิมเข้าร่วมแสดงทัศนะด้วยอีกคน แม้จะเป็นเพียงการฟังเล่นๆ ฆ่าเวลาระหว่างรับประทานอาหาร แต่ก็ทำให้เปลวเทียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ เอมเมอเรส - อาย จากทั้งสองมากขึ้น โดยเฉพาะเจ๊กิมที่เรียกได้ว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ เอมเมอเรส - อาย คนหนึ่งเลยทีเดียว แม้จะยังไม่เคยมีใครเห็นตัวจริงของ เอมเมอเรส - อาย ก็ตาม
หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้วด้วยความอนุเคราะห์ของเจ๊กิมที่ปอกผลไม้ล้างปากให้รับประทานกันอย่างไม่เสียเงินเพิ่ม ทั้งสองก็ล่ำลาหญิงวัยกลางผู้เป็นเจ้าของร้าน แล้วเตรียมพร้อมที่จะเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงต่อไป
เดี๋ยวข้าจะไปส่งเอ็งให้ถึงบ้านย่าของเอ็งเลยทีเดียวนะไอ้เปลว สมหมายบอกกับเปลวเทียนก่อนที่จะออกรถ รถกระบะคันเก่ายังคงแล่นด้วยความเร็วสูงอย่างเช่นที่ขับมาตลอดเวลาตั้งแต่เช้า ในไม่ช้าเปลวเทียนก็เริ่มเห็นถนนที่มีขนาดกว้างขึ้นกว่าเดิมและที่อยู่อาศัยที่เป็นตึกสูง เขามองดูบรรยากาศของชานเมืองที่อยู่รอบๆ ตัวด้วยความตื่นเต้น
เมื่อเข้าสู่เขตชานเมืองเต็มตัว รถของสมหมายก็ต้องลดความเร็วลงเนื่องจากมีจำนวนรถที่หนาแน่นมากขึ้นกว่าเดิม จนกระทั่งอีกไม่นานต่อจากนั้นรถของสมหมายก็เป็นอันต้องจอดสนิทอยู่กับที่เมื่อการจราจรติดขัดอย่างหนัก เปลวเทียนที่นั่งอดทนรอไม่ไหวเขาค่อยๆ โผล่หน้าให้พ้นขอบหลังคาขึ้นมาสังเกตการณ์จราจรโดยรอบ นอกจากท้ายรถที่มีแต่เพียงแสงไฟสีแดงอันยาวเหยียดออกไปเบื้องหน้าก็ไม่พบอย่างอื่นอีก เด็กหนุ่มก้มหน้าลงมาพูดคุยกับชายคนขับ
โห...ลุง สมเป็นกรุงเทพจริงๆ มีรถติดต้อนรับกันตั้งแต่ชานเมืองกันเลยนะนี่
สมหมายได้ยินคำพูดนั้น จะหัวเราะก็ไม่ถูก จะเคร่งเครียดก็ไม่ใช่ เขาพูดโต้ตอบกลับมา
จะบ้าเรอะ...กรุงเทพนะรถเยอะก็จริงอยู่ แต่ข้าว่ามันติดแบบผิดปกติไปสักหน่อยนะ สงสัยจะมีรถชนกันกระมัง
นานๆ ครั้งรถถึงค่อยๆ เคลื่อนออกไปได้ทีละน้อย ทั้งสองนั่งแหง่วอยู่บนรถจนกระทั่งเวลาผ่านไปสองชั่วโมงกว่า และแล้วทั้งสองก็พบกับตัวต้นเหตุที่ทำรถติดกันยาวเหยียดขนาดนี้ มันเป็นไปอย่างที่สมหมายคาดการณ์เอาไว้ว่าต้องมีการเกิดอุบัติเหตุขึ้นอย่างแน่นอน...แต่ดูเหมือนว่าอุบัติเหตุครั้งนี้จะร้ายแรงกว่าที่สมหมายคาดเอาไว้หลายเท่านัก
แม่เจ้าโวย...นี่มันอะไรกันนี่ สมหมายร้องอุทานด้วยความตกละตึงออกมาทันทีเมื่อเห็นภาพอุบัติเหตุที่อยู่เบื้องหน้าอย่างชัดเจน
ส่วนเปลวเทียนที่อยู่บนระดับสูงกว่า เขาเห็นภาพเหตุการณ์ตั้งแต่ยังเป็นภาพเล็กๆ จนกระทั่งในขณะนี้ภาพเหตุการณ์มันอยู่ไม่ห่างไกลจากเขาสักเท่าใด เด็กหนุ่มที่นั่งคุกเข่าแล้วโผล่เพียงใบหน้าให้พ้นหลังคาขึ้นมามองดู เขาได้แต่นั่งอ้างปากค้างโดยไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากปากของตนเอง
....จบ chapter 1-3
--------------------------------------------- คำขออภัยจากคนต้นคิด(ผู้เขียน) ถึงผู้อ่าน
- ต้องขออภัยนะครับที่ครั้งนี้ก็ยังพิมพ์(เขียน)น้อยอยู่เช่นเดิม เนื่องจากว่า ต้องไปเตรียมตัวสอบก่อน ประมาณ 2 อาทิตย์ กลัวว่าตัวเองจะหายไปพร้อมกับผลงานของตัวเอง เลยเอามาลงเอาไว้เบื้องต้นก่อน
- คราวหน้าขอรับรองว่าจะพยายามพิมพ์(เขียน)ให้เยอะกว่านี้ ส่วนตัวอักษรบางครั้งพิมพ์ไปมึนไป ก็ต้องรบกวนผู้อ่านช่วยพิสูจน์อักษรไปในตัวด้วย
- ขอบพระคุณที่กรุณาติดตามอ่านเรื่องนี้ครับ พล็อตเรื่องนั้นคิดเอาไว้จบแล้วประมาณ 20 chapter เหลือแต่การพิมพ์(เขียน)รายละเอียดซึ่งผมจะพยายามตั้งใจเขียนให้จบ
| จากคุณ |
:
Monkey {D} Gap
|
| เขียนเมื่อ |
:
9 ส.ค. 52 22:05:02
|
|
|
|