ความคิดเห็นที่ 1 |
. บทที่ 11
สายธารยืนมองระกระบะคันเก่าค่อยๆ เลี้ยวเข้าสู่ถนนเลียบแม่น้ำเมย ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใดร่างกายของเธอจึงติดตรึงอยู่กับที่ มีเพียงสายตาเท่านั้นที่ทอดตามรถคันนั้นไปจนกระทั่งลับหาย
เสียงถอนหายใจดังพร้อมๆ กับเท้าขยับเขยื้อนเข้าไปในร้านค้าหัวมุมถนน จากนี้ต่อไปภาพที่เคยเห็น เหตุการณ์ที่เคยสัมผัส ก็คงเป็นได้แค่เพียงความทรงจำ...
ความทรงจำที่ไม่อาจลบเลือนไปจากใจ
อาการของหญิงสาวคงเหมือนกับต้องมนตร์สะกด ป้าเจ้าของร้านเฝ้ามองอยู่นานจนกระทั่งสงสัย
หนูน้ำเป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ
นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกตัวจนสะดุ้ง
โอ๊ะ ขอโทษทีจ้ะ ไม่นึกว่าจะตกใจ แม้แต่คนกล่าวคำขอโทษก็พลอยตกใจไปด้วย เห็นเดินเหม่อเข้ามาแล้วยืนเฉยอยู่ตั้งนานสองนาน
เหรอคะ สายธารไม่รู้จะพูดอะไรที่ดีกว่านี้ และเธอก็ไม่รู้ตัวจริงๆ ว่าได้ทำอะไรลงไปบ้าง
ท่าทางจะพักผ่อนน้อยอีกละสิ ป้าเจ้าของร้านเดา ก่อนยื่นหลังมือมาแตะหน้าผากของสายธาร ตัวไม่ร้อน แต่ระวังจะไม่สบายนะ อากาศยิ่งเปลี่ยนๆ อยู่ด้วย
แทนที่คำเตือนด้วยความห่วงใยของนางจะทำให้สายธารรู้สึกดีขึ้น กลับทำให้เธอตกไปอยู่ในภวังค์อีกครั้ง...
ก่อนรุ่งสาง มีคนเคยพูดทำนองนี้กับเธอ และบัดนี้คนๆ นั้นได้จากไปแล้ว
การจะได้พบกันอีกไม่ใช่เรื่องยาก เธอรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่จะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อรู้อยู่เต็มอกว่าทัศนคติของทั้งสองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เธอเลือกที่จะลาจากในวันที่ยังมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน
หนูน้ำ ป้าเจ้าของร้านเรียกชื่อสายธารอีกครั้ง นางเริ่มจะมั่นใจแล้วว่าหญิงสาวผู้อยู่ตรงหน้านี้ไม่ได้ไม่สบายกาย หากกำลังไม่สบายใจ ดื่มกาแฟร้อนๆ สักถ้วยมั้ย ป้าจะชงให้ หรือจะเป็นเครื่องดื่มเย็นๆ ดี
ไม่ละคะ ขอบคุณ คราวนี้เธอไม่สะดุ้ง แต่ก็ยังตอบตะกุกตะกัก น้ำ... เอ่อ... ขอเป็นขนมดีกว่า
อ้อ... ขนมของเด็กๆ
ป้าเจ้าของร้านยิ้มให้ แล้วพอดีมีลูกค้าเข้ามาในร้าน นางจึงเดินไปต้อนรับ ปล่อยให้สายธารเลือก ขนม ได้ตามสบาย
หญิงสาวหยิบขนมขบเคี้ยวไปหลายชนิด ชนิดละหลายถุง เธอทราบดีว่าของเหล่านี้มีคุณค่าทางโภชนาการน้อย แต่เธอก็ทราบอีกนั่นแหละว่ามันมีค่าทางจิตใจสำหรับเด็กๆ ซึ่งวันๆ แทบจะไม่ได้ลิ้มรสตามที่ใจต้องการเลย
นานๆ ได้กินสักที คงไม่ส่งผลต่อสุขภาพสักเท่าใด
ปกติเป้หลังใบย่อมก็ใหญ่เกินตัวสายธารพอดูอยู่แล้ว พอมีถุงขนมเพิ่มในมือทั้งซ้ายขวา และออกมายืนรอรถอยู่ริมถนน ก็ยิ่งทำให้เธอตัวเล็กลง
แม้นานๆ จะมีรถยนต์แล่นผ่านมาสักคัน แต่สายธารก็มั่นใจว่าเธอจะกลับไปถึงที่พักของเธอได้ในไม่ช้า หญิงสาวรอรถอยู่เพลินๆ ก็รู้สึกเหมือนมีใครมากระตุกถุงขนมในมือของเธอจากทางด้านหลัง เมื่อหันไปก็พบว่ามีคนดึงถุงขนมอยู่จริงๆ
ใครคนนั้นคือคนที่เธอคิดว่าจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว
คุณดอย...
คีรียืนยิ้ม พยักหน้า เขาปลดของในมือเธอออกมาอย่างง่ายดาย เมื่อฝ่ายนั้นเอาแต่ยืนตกตะลึง
มา... ผมช่วยถือ ของเยอะแยะอย่างนี้แล้วจะขึ้นรถถนัดหรือครับ
สายธารยังคงพูดไม่ออก ทว่าสายตาของเธอเต็มไปด้วยคำถามมากมาย
ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะครับ ผมแค่อยากจะไปส่ง
เป็นเวลาร่วมๆ หนึ่งนาทีกว่าสายธารจะตั้งหลักได้
ก็... คุณดอยกลับไปพร้อมๆ อาจารย์มนตรีกับเด็กๆ แล้วไม่ใช่เหรอคะ
หญิงสาวกวาดสายตาไปทั่ว รอบๆ ตัวไม่มีใครอื่นอีก นอกจากเขากับเธอ ไม่มีแม้กระทั่งรถกระบะเก่าๆ ของครูสุทิน
ผมจะไปส่งคุณน้ำ คีรียังยืนยันคำเดิม
ส่งน้ำ... ที่ไหนเหรอคะ
คุณน้ำจะไปที่ไหน ผมก็ไปส่งที่นั่นแหละครับ
อย่าเลยค่ะ น้ำเกรงใจ
สายธารปฏิเสธความหวังดี พร้อมกับยื่นมือไปขอถุงขนมคืน แต่นอกจากจะไม่ได้แล้ว ถุงอีกใบในมืออีกข้างก็ถูกเขาแย่งไปถือให้อีก
อย่าเกรงใจไปเลยครับ ผมอยากไปส่งคุณน้ำจริงๆ
ใจหนึ่งของเธอรู้สึกปลาบปลื้มยินดี หากอีกใจหนึ่งกลับรู้สึกหวั่นเกรง ที่ๆ เธอจะไป เป็นสถานที่ซึ่งคีรีมีความรู้สึกในแง่ลบ
น้ำกลับเองได้ค่ะ แถวนี้น้ำไปไหนมาไหนคนเดียวจนเคยชินแล้ว
สีหน้าของคนฟังสลดลง ก่อนตัดพ้อ
ก็ไหนคุณน้ำยอมรับผมเป็นเพื่อนแล้วไงครับ
สายธารใจอ่อนยวบไปกับน้ำเสียงบ่งบอกถึงความน้อยอกน้อยใจ เธอนิ่งเงียบสักพักก่อนกล่าวคำหนักแน่น
ก็ได้ค่ะ แต่น้ำมีข้อแม้... ถ้าอยากไปส่งน้ำจริงๆ คุณดอยต้องปฏิบัติตาม
ได้ครับได้ ชายหนุ่มรีบรับปากทันที คุณน้ำบอกมาเลย ผมยินดีทำตามข้อแม้ทุกประการ
สายธารพยักหน้าช้าๆ ก่อนสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด แล้วค่อยๆ ระบายออกมา
คุณดอยไปส่งน้ำแล้ว ห้ามรีบกลับเป็นอันขาด ต้องอยู่กับน้ำจนถึงตอนเย็นๆ ตกลงไหมคะ
คีรีตาค้าง ถึงเขาจะมั่นใจอยู่ก่อนแล้วว่าข้อแม้ของเธอต้องไม่ทำให้เขาลำบากใจ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นข้อเสนอที่สุดวิเศษเช่นนี้ มีหรือที่เขาจะไม่อยากอยู่กับเธอนานๆ
เขาอยากจะตอบตกลงกับเธออย่างนี้ทุกๆ วันเลยด้วยซ้ำ
รถที่จอดรับคีรีกับสายธารเป็นรถกระบะเก่าๆ รุ่นราวคราวเดียวกับรถของครูสุทิน คีรีแน่ใจว่าเขากับเธอไม่ได้ยกมือขึ้นโบก แต่เจ้าของรถผู้อารีก็จอดรถแล้วชักชวนให้ไปด้วยกันโดยยังไม่ทันได้สอบถามเลยด้วยซ้ำว่าจะไปที่ไหนกัน
น้ำใจไม่เคยเหือดหายไปจากผืนดินไทยเลย ไม่ว่าจะอยู่ในยุคใดสมัยใด
คีรีกระโดดขึ้นกระบะท้ายรถตามด้วยสายธาร หลังจากที่เธอบอกเจ้าของรถว่าเธอขออาศัยไปลงที่ใด
ลมแรงกลางแดดจัดพัดปะทะใบหน้าของสายธารทำให้เส้นผมยาวปลิวระหน้าผากเกลี้ยงสะบัดล้อลม คีรีมองด้วยความตื่นตะลึง สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า งดงามราวกับภาพในฝัน เขาพร่ำบอกกับตัวเองนับสิบหนว่า การตัดสินใจเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมานั้นสำคัญเสียเหลือเกิน และที่สำคัญกว่านั้นคือ เขาตัดสินใจได้ถูกต้อง
เสียงเครื่องยนต์ระกระบะของครูสุทินคำรามลั่น เมื่อคีรีผู้เป็นคนขับไม่ยอมเปลี่ยนจากเกียร์สองไปเป็นเกียร์สามและเกียร์สี่ เขาขับอย่างเหม่อลอยจนกระทั่งมนตรีต้องเอ่ยปากเตือน...
เตือนสติให้รู้ตัว และเตือนตัวให้รู้ใจ
เราขับรถเองดีกว่า นายอย่าขับต่อไปอีกเลย
มนตรีบอกเพื่อนหลังจากที่เขาเห็นอาการของฝ่ายนั้นแล้ว
ดีเหมือนกัน เรารู้สึกเปลี้ยๆ อย่างไรชอบกล
คีรีรู้ว่าเขาใช้คำไม่ตรงกับความรู้สึกนัก ร่างกายยังเป็นปกติ มีแต่ใจเท่านั้นที่อ่อนเพลีย
มนตรีดีใจที่เพื่อนไม่ดื้อดึง หน้าที่ขับรถไม่เพียงต้องรับผิดชอบชีวิตตนเองเท่านั้น ยังมีชีวิตผู้โดยสารและผู้ร่วมใช้เส้นทางร่วมอีกด้วยที่ต้องรับผิดชอบ
พอสลับที่นั่งกันแล้ว สิ่งแรกที่มนตรีทำก็คือ เลี้ยวรถกลับไปทางเดิมที่เพิ่งเดินทางจากมาเมื่อสักครู่
นายจะขับไปไหน
คีรีเอ่ยถามด้วยความสงสัย ไม่ต่างจากพวกนักศึกษาที่นั่งกันอยู่กระบะหลังซึ่งมองหน้ากันเลิกลั่ก
เดี๋ยวก็รู้
มนตรีตอบสั้นๆ ก่อนเหยียบคันเร่งจมลงไปอีกเพื่อเพิ่มความเร็ว เพียงชั่วอึดใจรถก็มาถึงสามแยกทางเข้าอุทยานแห่งชาติแม่เมย
ที่สามแยกนั้นว่างเปล่า... ไม่มีผู้คน
กลับมาทำไม ลืมอะไรรึ
คีรีสอบถาม ในขณะที่สายตากวาดมองไปรอบๆ บริเวณ
ไม่ได้ลืมอะไรหรอก เราขับมาส่งนาย
ส่งเรา... คีรีทวนคำ ยิ่งสงสัยไปกว่าเดิม มาส่งทำไมที่นี่ เราจะกลับไปหมู่บ้านพร้อมนายกับเด็กๆ
นายไม่ได้ไปกับเราหรอก เรารู้... หัวใจของนายอยู่ที่นี่ น้ำเสียงของมนตรีจริงจัง ไม่มีวี่แววพูดเล่นเลยแม้แต่น้อย เขาพยักพเยิดไปที่หัวมุมถนน คุณน้ำเธอซื้อของอยู่ในร้านนั้น
คีรีมองตามไป มองเห็นหญิงสาวร่างเล็กกำลังเลือกหยิบของอยู่ภายในร้าน แล้วหันกลับมามองเพื่อน มนตรีรู้ใจของเขาพอๆ กับที่เขารู้ หรือบางทีอาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะอย่างน้อยก็รู้ว่าเวลานี้สมควรจะทำอะไร
ขอบใจนายมากเพื่อน คีรีตบบ่ามนตรีเบาๆ ก่อนเปิดประตูก้าวลงจากรถ เขาโบกมือให้เพื่อนซึ่งค่อยๆ ขับรถแล่นออกไป ในขณะที่สายธารกำลังก้าวออกมาจากร้านค้า
----มีต่อ---->
| จากคุณ |
:
นายตั๋ม เจ้าสำราญ (คั่วกลิ้ง)
|
| เขียนเมื่อ |
:
14 ส.ค. 52 12:08:27
|
|
|
|