Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องเล่าสยองของข้าพเจ้า ตอน ข้อเท้าใคร  

สามารถติดตามอ่านเรื่องเล่าสยองของข้าพเจ้า
และนิยายเรื่องอื่นๆได้ที่ blog ของมูนนี่ค่ะ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever

ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านมากๆค่ะ^/|\^

ตอน ผีโพรงที่ลำตะคอง (หลอนครั้งแรก)
ตอน ผีโพรงที่ลำตะคอง (ฝูงผีบุก)
ตอน ผีทวงสมอง
ตอน ช่วยด้วย
ตอน หัวใคร ในทะเล
ตอน ทำไมพี่ถึงไม่ช่วยผม!
ตอน กลิ่น
ตอน เขามาเตือน
ตอน วิญญาณป่าที่เขาใหญ่
ตอน เขามานำทาง
ตอน เหงามั้ยจ๊ะ
ตอน ผีถ้วยแก้ว
ตอน ผีที่อินเดีย ตอนแรก
ตอน เขา....มาเกาะที่ไหล่
ตอน ท่อนแขนใครบนหาดทราย
ตอน ผีที่อินเดีย(ภาคสองเสียงในความมืด)
ตอน ความอัศจรรย์บนนากาก็อต
ตอน พรายทะเล
ตอน มือสีขาว
ตอน ผีที่ดินเดีย ภาคเจอผีที่เนปาล
ตอน ผมเป็นทหารช่าง
ตอน ผีอำ
ตอน เส้นทางสนธยา
ตอน เงาดำที่ศรีลังกา
ตอน ขอข้าวอีก!
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8041465/W8041465.html
ตอน ใครที่วิ่งเข้ามา
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8064925/W8064925.html
ตอน ศีรษะสยองขวัญ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8092509/W8092509.html
ตอน เสียงที่วิ่งรอบรถ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8122337/W8122337.html
ตอน อะไรวิ่งอยู่บนหลังคา
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8146949/W8146949.html
ตอน วิญญาณที่มากับกระถางกุหลาบ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8173589/W8173589.html

เรื่องที่ 32

ข้อเท้าใคร
 
คนส่วนใหญ่มักไม่เชื่อเรื่องภูตผีหรือจิตวิญญาณ เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่สามารถมองเห็นกันได้โดยง่าย กลวิธีร้อยแปดจึงถูกคิดค้นขึ้น บางคนอ้างว่าสามารถมองเห็นวิญญาณได้ด้วยวิธีของเขาในขณะที่หลายคนกระทำแบบเดียวกันกลับมองไม่เห็นอะไร ตัวพี่เองไม่ค่อยชอบลองอะไรแบบนั้นเพราะเข็ดกับความอุตริของตัวเอง

หากเป็นคนรุ่นเก่า วิธีที่จะทำให้มองวิญญาณเห็นก็จะเป็นพวกเอาน้ำตาสุนัขหรือหมานี่แหละมาป้ายตา ช่างไม่กลัวติดโรคพิษสุนัขบ้ากันบ้างเลย บางคนก็อุตส่าห์ไปสรรหาเถ้ากระดูกผีมาทาหน้าโดยไม่คิดว่านั่นอาจจจะทำให้ติดโรคร้ายบางอย่างได้ หรืออย่างพิสดารที่สุดเห็นจะเป็นการลงไปนอนในโลง งานนี้พี่ใจไม่กล้าพอขอผ่านก็แล้วกัน

อ้าว แล้วตกลงจะเล่าเรื่องอะไรกันแน่

ก็เรื่องการมองเห็นวิญญาณนี่แหละค่ะ เพียงแต่วิธีการนี้เป็นเรื่องเล่ามาตั้งแต่ครั้งเก่าก่อน ไม่มีใครพิสูจน์ได้จิรงจังว่าหากทำแล้วจะมองเห็นจริงหรือไม่ ซ้ำมันยังเป็นการะกระทำที่ไม่ค่อยแพร่หลายนัก แต่คิดว่าบางคนคงเคยได้ยิน

นั่นก็คือการไปนั่งรอใต้บันไดบ้านของคนตาย

หลายคนคงนึกไม่ออกเพราะบันไดสมัยใหม่จะเป็นแบบปิดทึบและตั้งอยู่ภายในตัวบ้าน แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัดหรือบ้านทรงไทยสมัยเก่า บันไดจะเป็นแบบโปร่งและตั้งอยู่ด้านนอก ยิ่งถ้าเป็นบ้านของคนที่มีฐานะปานกลางลงไป ตัวบ้านจะค่อนข้างเตี้ย บันไดก็จะมีเพียงห้าหรือหกขั้นเท่านั้น แต่ก็พอที่จะให้เด็กซนๆหรือวัยรุ่นที่ชอบเล่นอุตริไปนั่งเล่นข้างใต้ได้

แล้วมันเกี่ยวกับผียังไง

พี่เคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่เล่าให้ฟังว่า คนตายจะย้อนกลับมาบ้านภายในสามวันเจ็ดวัน โดยเขาจะเดินวนรอบตัวบ้านก่อนจะก้าวขึ้นบันไดไปดูข้าวของเครื่องใช้และกลับไปที่อันควรก่อนรุ่งสาง ระหว่างนั้นหากทุกคนได้ยินเสียงอะไรก็ห้ามทัก ห้ามหันไปมอง ให้ทำเฉยเสียอย่าไปสนใจไม่อย่างนั้นวิญญาณจะพาเรากลับไปด้วย แต่ถ้าใครเกิดอยากจะเห็นหรือพิสูจน์ว่าคนตายกลับมาจริงหรือไม่ก็ให้ลงไปนั่งใต้ถุนบ้านหลังบันได รอจนกระทั่งฟ้าเริ่มสางก็จะเห็นเท้าของคนตายก้าวลงจากบ้าน แต่ห้ามเอ่ยปากทักหรือส่งเสียงอะไรออกมา ไม่อย่างนั้นแล้ววิญญาณจะก้มหน้าลงมามองและลากตัวเราไปด้วย

ได้ยินเท่านี้ก็หัวหดแล้วล่ะค่ะ จำได้ว่าตอนเด็กๆเวลาไปช่วยงานบ้านไหนพี่จะพยายามนั่งห่างบันไดมากที่สุด ก็กลัวจะเห็นคนตายออกมาจากโลงแล้วเดินเพ่นพ่านไปมานี่นา

เรื่องมันมาเกิดตอนยายของพี่เสียชีวิต งานศพจัดที่ต่างจังหวัด สมัยก่อนนิยมตั้งสวดกันที่บ้าน สามหรือเจ็ดวันก็ว่ากันไปตามฐานะหรือแล้วแต่เจ้าภาพสะดวก ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนลุงจะสวดให้ยายแค่สามวัน พ่อกับแม่ก็ค้างที่นั่นจะกระทั่งถึงวันเผาและเก็บกระดูก

ในวันสวดคืนที่สามอันเป็นคืนสุดท้าย เด็กๆซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องก็เกิดความสงสัยว่ายายจะกลับมาจริงไหม ตกดึกพวกเราที่มีกันอยู่สามสี่คนจึงแอบลงจากบ้านไปนั่งซุ่มใต้บันไดแล้วนั่งตบยุงรอกันไปเรื่อยจนใกล้เวลาพระบิณฑบาตก็ยังไม่เห็นมีอะไร พวกเราจึงสรุปกันว่ายายคงไม่ได้กลับมาบ้าน ตอนที่กำลังจะออกจากใต้ถุนอยู่ๆเรือนก็ไหวยวบตามมาด้วยเสียงบันได้ที่เป็นไม้ลั่นดังเอี๊ยด พวกพี่พร้อมใจกันหันไปดูและได้ทันเห็นข้อเท้าของใครบางคนกำลังก้าวลงจากบ้าน ขอย้ำว่าแค่ข้อเท้าเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่นเลย มันก้าวลงบันได้ช้าๆทีละขั้น และจางหายไปกับความมืดทันทีที่แตะพื้นดิน

พวกพี่ทำยังไงน่ะเหรอ

นั่งตัวแข็งอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูกสิคะ พอได้สติเจ้าตัวต้นคิดก็แหกปากร้องไห้โฮ จากนั้นพวกพี่ก็ร้องตามเล่นเอาคนทั้งบ้านแตกตื่นตกใจรีบวิ่งลงมาดู พอรู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นเท่านั้นพวกพี่ก็โดนดุกันยกใหญ่ ตอนสายหลวงตาที่ผู้ใหญ่ไปนิมนต์มาถึงท่านก็ประพรมน้ำมนตร์ให้และสั่งสอนอีกรอบ พวกพี่เลยถามว่าข้อเท้าที่เห็นน่ะเป็นใคร

หลวงตาตอบว่า ยายของพวกเราไง แกเป็นห่วงลูกหลานเลยกลับมาดู

*/*/*/*

สำหรับเรื่องดวงไฟที่ริมรั้วซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับกระสือสามารถไปอ่านได้ที่บล็อคของมูนนี่ค่ะ

วันนี้คงไม่ได้คุยเพราะต้องเตรียมตัวไปอบรมวันพรุ่งนี้ ขออนุญาตยกยอดไปวันศุกร์หน้านะคะ

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ

จากคุณ : Moony_Lupin
เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 17:45:13




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com