Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องนี้ไม่มีชื่อ  

เม็ดฝนร่วงกระทบใบไม้ดังเปราะแปะ ฝนเพิ่งขาดเม็ดไปไม่นานหากละอองฝนยังพรั่งพรม ย่ำค่ำลึกเข้าไปในซอยเปลี่ยวแสงไปจากเสาไฟฟ้าข้างทางส่องสลัว ร่างหนึ่งเดินซัดเซออกมาจากพงหญ้าริมทาง ดูอ่อนแรง กระปลกกระเปลี้ย เดินไม่ถึงครึ่งก้าวก็ถลาซบลงบนพื้นที่ฉ่ำไปด้วยน้ำฝน นานชั่วอึดใจร่างนั้นก็ค่อยๆ ใช้แขนประคองตัวขึ้นนั่ง ดึงเข่าเข้าหากันแล้วซบหน้าลงนิ่งนานอยู่เช่นนั้น

    เสื้อผ้าขะมุกขะมอนเปรอะไปด้วยคราบดินโคลน เศษไม้ใบหญ้าติดตามเนื้อตัวและผมเผ้า กระเซอะกระเซิง ทำให้ร่างๆ นั้นดูไม่ต่างจากซากของเหลือใช้ที่ถูกปล่อยทิ้ง ไร้สิ้นความต้องการและคุณค่าใดๆ

    แสงไฟหน้ารถวิ่งเข้ามาสาดกระทบ เสียงแตรกระแทกกระทั้นดังสนั่นก่อนผ่านเลย ละอองน้ำสาดกระจายกระทบร่างที่ยังคงเฉยนิ่ง เสียงแกรกๆ ดังมาตามพื้นที่ชื้นแฉะ หญิงสูงวัยดันรถเข็นผ่านตรงมา ล้อที่ฝืดเคอะไปด้วยสนิมทำให้ต้องออกแรงดัน ขาที่อ่อนแรงทำให้ลากแกรกละไปตามพื้น เสียงครางแผ่วเบาแว่วเข้าหู นางหยุดรถเข็นหันมองซ้ายขวา เงาตะคุ่มสั่นระริกไหวอยู่เบื้องหน้า ใจหนึ่งกลัวใจหนึ่งสงสัยใคร่รู้ ชั่งใจอยู่ชั่วครู่จึงเดินเข้าใกล้ ร่างเล็กๆ นั่งซบหน้าอยู่บนเข่า ผมยาวยุ่งเหยิงคลุมทั้งศีรษะ ยาวเกือบถึงพื้น เสื้อผ้าสีคล้ำเปื้อนเปรอะ เปียกชื้น นางยื่นมือแตะ ไอร้อนผ่าวผ่านกระทบมือ หันมองซ้ายขวามีแต่ความมืด
    'ปล่อยไว้ใครจะเหลียวแล'
   
    ในความรู้สึกมึนชาของหญิงสาว ความปวดร้าว เหน็บชาทำให้ไม่อาจดิ้นรนเมื่อร่างถูกยกประคองขึ้น เธอกรีดร้อง แขนขาพยายามเตะถีบดิ้นรนสุดเรี่ยวแรงที่ยังเหลืออยู่ หากเสียงนั้นดัวแผ่วแค่พ้นลำคอ อู้อี้ แขนขากระตุกไหว หญิงสูงวัยประคองกึ่งลากไปที่รถเข็นใช้แขนข้างหนึ่งเขี่ยข้าวของเกะกะไว้เสียข้างหนึ่ง แล้วค่อยๆ วางร่างไร้สติลงอย่างเบามือ
    'ไปบ้านก่อนแล้วค่อยว่ากัน' นางพูดกับตัวเอง

    บ้านเป็นเพิงไม้อัด ยกพื้นสูงตีทึบทั้งสี่ด้าน เว้นช่องไว้เป็นหน้าต่างสองบานกับประตูด้านหน้าอีกหนึ่งบาน "ไว้ปิดกันขโมย" คนลงแรงสร้างให้บอก ในขณะที่นางหัวเราะเบาๆ พูดว่า
    "คงมีอะไรให้มันหร็อก"
    "ว่าได้หรือแม่ คนเดี๋ยวนี้จานชามเก่าๆ มันยังขโมยเลย"
    "ถ้ามันอยากได้ก็ให้มันไป เดี๋ยวแม่หาเอาใหม่"
    "แม่ก็เป็นอย่างเนี้ยะ" บ่นพลางจัดแต่งประตูให้เข้าที่ ด้านหน้าเป็นชานเล็กๆ ที่คนเป็นลูกบอกให้ไว้เป็นที่นั่งเล่นรับลม
    "ไฟฟ้าก็ไม่มี ลมก็ไม่ค่อยเข้า ถ้าร้อนแม่ก็ออกมานั่งรับลมที่นี่ก็แล้วกัน"

    มือที่เอื้อมไปไขกุญแจจากที่คล้องสั่นระริกด้วยความรู้สึกแปลบปลาบ นานจนเกือบครบปีคนสร้างบ้านไม่เคยเยี่ยมกรายมาให้เห็น ครั้งสุดท้ายก็เพียงแวะเข้ามาบอก
    "ฉันจะไปออกเรือทะเลหาปลากับเขานะแม่ คงเป็นเดือนแหละถึงจะกลับ แล้วฉันจะเอาปลามาฝาก" นางเฝ้ารอจากหนึ่งเดือนเป็นสองเดือน สามเดือน เหลืออีกเดือนเดียวจะครบปี ข่าวคราวลูกชายยังเงียบหาย
   
    ตะเกียงน้ำมันถูกจุด แสงสว่างเรืองสาดกระจาย
    "ตะเกียงนี่แม่ระวังนะ ตกหล่นขึ้นมาไฟจะไหม้บ้าน" ลูกยังเตือน น้ำตาแม่ซึมเป็นประกายต้องแสงไฟ ใจแม่ห่วงกังวลลุกจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร นางละความคิดคำนึง เร่งเดินไปยังมุมห้องที่มีเครื่องนอนวางซ้อนทับกันไว้ คลี่กางออกแล้วเดินไปช้อนประคองร่างเล็กๆ บนรถเข็น ไม่มีแรงต้านแรงขืนใดๆ คอห้อยพับอ่อนไปมา ไอร้อนผ่าวกระจายทั่วร่าง นางวางลงบนฟูก "หนู" นางเรียกพลางเขย่าตัวเบาๆ ไร้อาการตอบสนอง 'หรือตายแล้ว' นางกังวลร้อนใจรีบเอานิ้วอังใกล้จมูก ลมอุ่นเบาหวิวต้องกระทบนางดีใจกระวีกระวาดถิดเสื้อผ้าที่เปียกชื้นของหญิงสาวออก

    รอยข่วนกัด รอยแดงช้ำไปทั่วทั้งใบหน้าและร่างกาย คาบเลือด คาบคาวที่ไหลเปรอะบริเวณขา ทำให้หัวใจของหญิงสูงวัยกระตุกวาบ
    "โธ่เอ๋ย"
    มือหยาบกร้านลูบเช็ดให้อย่างเบามือจนสะอาดเอี่ยม คลี่ผ้าห่มคลุมให้แล้วหยิบยาแก้ปวดแก้ไขใส่ปากตามด้วยน้ำ ร่างเล็กแบบบางนอนสงบ ไม่ไหวติง ใบหน้าเรียวซูบซีด ผมยาวยุ่งเหยิงแผ่สยายเต็มหมอน
    "ลูกเต้าเหล่าใคร พ่อแม่ไปไหนเสีย"

    ในความรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่น เสียงหัวเราะ เสียงสบถ พูดคุย เสียงลมหายใจปะปนไปด้วยกลิ่นเหงื่อ กลิ่นเหม็นเปรี้ยวฉุนเฉียว มือไม้ของใครต่อใครเปะปะไปตามร่างกาย ขยี้ขย้ำรุนแรง หญิงสาวดิ้นรน กรีดร้อง ฝ่ามือหน้าหนักกระแทกกระทบใบหน้าเต็มแรง น้ำคาวอุ่นๆ ทะลักกลบปากล้นปรี่ไหลออกจากมุมปาก
    "เฮ้ย เบาหมือหน่อยโว้ย เดี๋ยวจะช้ำเสียหมด" เสียงหนึ่งห้าม เสียงหัวเราะประสานครื้นเครง
    ความเจ็บแปลบแทรกลึกเข้าไปในความรู้สึก แรงกระแทกกระทั้นขึ้นลงครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้เจ็บปวดแทบขาดใจ ร่างกายท่อนร่างของหญิงสาวด้านชาแทบไร้ความรู้สึก เธอกรีดร้องโหยหวน ดิ้นรนขัดขืน แขนทั้งสองของหญิ้งสาวถูกตรึงแน่น ใบหน้าถูกจับประคองน้ำขมๆ ถูกกรอกรินเข้าปาก
    "ยา กินเสียจะได้หายไวๆ"
    มือหยาบวางทาบลงบนหน้าผากอุ่น
    "หลับเสีย ไม่ต้องกลัวนะ"
    น้ำเสียงปลอบประโลม ปราณี ร่างเล็กๆ หยุดทุรนทุราย

(ขอจบตอนที่ 1 ไว้แค่นี้ก่อนนะ สนใจตั้งชื่อให้จะขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง)

จากคุณ : Prapatsara
เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 18:00:51




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com