Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สองคู่ซี้และตำนานฟัวกราส์  

เรื่องนี้แต่งไว้นานแล้วค่ะ แต่งแบบจับแพะชนแกะ แล้วเอามาปัดฝุ่นใหม่

เลยไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

รบกวนเพื่อนๆช่วยแนะด้วยนะคะ

----------------------------------------------------------------------

ณ ร้านอาหารระดับ 5 ดาว ใจกลางกรุงเทพมหานครแห่งหนึ่ง...

"เฮ้ย!วัตร ข้าถามจริงๆเถอะนะ"ธีถามขึ้นหลังจากที่อาหารของเพื่อนหน้าใสมาเสิร์ฟที่โต๊ะ

"ถามอะไร" วัตรตอบเพื่อนพร้อมกับทำหน้างง

"ก็...ไอ้ ฟัวกราส์ ฟัวกรอ อะไรของเอ็งเนี่ย มันอร่อยมากนักเหรอวะ ข้าเห็นเอ็งมาร้านนี้ทีไร ต้องสั่งทุกที"

ธีพูดไปก็ทำหน้าพะอืดพะอมไป "มันดูแหยะๆเลี่ยนๆจะตาย"

"เออสิ...มันก็คงจะอร่อยกว่าสลัดมังสวิรัติของเอ็งแน่ๆ"

วัตรพูดพร้อมกับหยิบส้อมเอื้อมไปจิ้มมะเขือเทศในจานของเพื่อนเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ แล้วจึงพูดต่อไปว่า

"แล้วทำไมเอ็งต้องมองอาหารในจานของข้า แล้วทำหน้าแบบนั้นด้วยวะ รู้ไหมว่ามันเสียมารยาท"

"เปล๊า" ธีปฏิเสธเสียงสูง "ข้าแค่คิดว่า...ถ้าเอ็งรู้ถึงวิธีการที่จะเลี้ยงยังไงให้ไอ้ตับเนี่ย

มันใหญ่กว่าตับธรรมดาถึงห้าเท่านะ เอ็งอาจจะหันมากินมังสวิรัติแบบข้าก็ได้"

"เล่าไปสิ" วัตรบอกเพื่อนพร้อมกับจิ้มฟัวกราส์ที่ตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆเข้าปาก แล้วก็ทำหน้าเหมือนกำลังจะขึ้นสวรรค์


"อันดับแรกนะเว้ย"ธีส่งสายตาหมั่นไส้ไปยังวัตร พร้อมกับความคิดที่อยากเตะเพื่อนเข้าสักเปรี้ยง

"คนเลี้ยงก็จะเลี้ยงเจ้าพวกห่านที่น่าสงสารทั้งหลายเนี่ย ไว้ในกรงแคบๆ

มันจะได้ไม่ต้องขยับตัวออกกำลังกายมาก จะได้อ้วนไวๆ แล้วเวลาเขาให้อาหารนะ เขาให้ยังไงรู้ไหม"

"ยังไงวะ" วัตรถามขึ้นทันควัน

มือก็หยิบส้อมจิ้มมะเขือเทศในจานของเพื่อนเข้าปากอีกรอบ ปากก็บอกไปว่า "ไอ้มะเขือเทศนี่ก็อร่อยดีเหมือนกันนะ"


ธีส่ายหน้าก่อนจะเล่าต่อ

"เขาก็...จะจับที่คอมัน" ธีทำท่าจับที่คอตัวเองไปด้วย

"แล้วก็สอดท่อเข้าไปทางปากของมัน จากนั้นก็จะปล่อยอาหารผ่านทางท่อนั่นแหละ

ป้อนเข้าไปให้มันกินเยอะๆ ตับจะได้ทำงานหนักๆ บางตัวกินมากไปก็อ้วนจนเดินไม่ได้

บางตัวก็กินจนอ้วก แล้วพอกินมากก็ปล่อยของเสียออกมามากตูดก็พังอีก บางตัวทนไม่ได้ก็ตายไปเลย

ทีนี้พอมันได้ระยะแล้วนะ เขาก็จะฆ่ามัน ผ่าเอาตับออกมา ตัวไหนตัวนั้น...

ตับมันใหญ่สุดๆ แต่ก็ทรมานมันสุดๆเหมือนกัน" ธีหยุดมองหน้าเพื่อนนิดหนึ่งก่อนจะบ่นแกมประชดว่า

"เฮ้อ...:-)นตาดำๆพวกนี้ ไม่รู้ไปทำเวรทำกรรมอะไรมาถึงได้ซวยแบบนี้

ต้องทรมานเพื่อสนองตัณหาพวกช่างกินของแปลกแบบเอ็ง" พูดจบแล้วธีก็ถอนหายใจออกมาดังๆอีกครั้ง


"อ่าว...พูดแบบนี้ก็สวยสิไอ้ธี"วัตรร้องขึ้นพร้อมกับทำเสียงจึ๊กจั๊กแบบตำหนิกลายๆ

"ข้าจะบอกเอ็งให้นะเว้ย ข้อมูลของเอ็งน่ะมันเป็นข้อมูลตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหาโน้น

กรุณากลับไปตรวจสอบข้อมูลมาใหม่ด้วยนะครับเพื่อน สมัยนี้เขาไม่เลี้ยงให้ทรมานแบบนั้นแล้ว

อีกอย่างไม่ใช่แต่ห่านฟัวกราส์หรอกนะที่ทรมาน ปลาไหลต้มเปรตเอย ไก่กะทิเอย แกงส้มปลาช่อนลูกกรอกเอย

สมองลิงเอย เต่าเปลือยเอย วิธีกินพวกนี้น่ะทรมานกว่าเป็ดกะห่าน นี่เป็นไหนๆ แถมเวลาจะกินก็ต้องทำตอนที่มันยังไม่ตายด้วย

ประมาณว่าให้มันค่อยๆตายน่ะ แล้วเอ็งว่าไอ้พวกที่กินของที่ข้าว่ามา กับตับฟัวกราส์ของข้าอันไหนมันโหดกว่ากันวะ"


"มันก็จริง...แต่เอ็งคิดดูนะ จะกินเพื่อให้ตัวเองอิ่ม แล้วยังต้องไปเดือดร้อนสัตว์โลกอีกเหรอวะ

เขาเกิดมาเป็นอาหารให้พวกเราแล้ว ยังจะไปทรมานเขาอีก" ธีต่อว่าอย่างไม่เห็นด้วย

"หยุดเลยนะไอ้ธีหยุดเลย...ไอ้สมาชิกกิตติมศักดิ์กลุ่มอนุรักษ์สัตว์"

วัตรร้องห้าม แล้วก็รีบหาเรื่องมาแย้งเพื่อนโดยเร็ว

"ถ้าเอ็งยังคิดแบบนี้นะ เอ็งก็ลองมาฟังเรื่องที่ข้าจะเล่าให้เอ็งฟังมั่ง เผื่อเอ็งจะได้เลิกยุ่งกะเรื่องกินของข้าซะที"

"ตามสบายเลย" ธียักไหล่ "ข้าจะฟังซิว่าไอ้เรื่องเล่าของเอ็งมันจะน่าสนใจขนาดไหน"

ได้ยินดังนั้นวัตรจึงเริ่มเล่าทันที

"เรื่องมันมีอยู่ว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว..."

ยังไม่ทันที่วัตรจะเล่าต่อเสียงธีก็แทรกขึ้น

"เรื่องของแกก็ตั้งแต่พระเจ้าเหาเหมือนกันละว้า  แล้วที่ว่านาน...นานขนาดไหนวะ เอ็งพอจะจำได้ไหม"

ธีพูดแล้วก็หัวเราะในลำคอ พร้อมกับส่งยักคิ้วล้อเลียนไปที่เพื่อน

"เอ้ ไอ้นี่อย่าเพิ่งขัดสิวะ เรื่องพระเจ้าเหาน่ะข้าขอโทษเอ็งก็ได้"วัตรร้องขึ้นอย่างขัดใจ

"นานขนาดไหนเอ็งก็ไม่ต้องไปสนใจหรอก มันนานมากก็แล้วกัน แล้วจะฟังต่อไหมเรื่องที่ข้าจะเล่าน่ะ"

"ฟังสิฟังไม่ขัดแล้ว เล่าต่อสิ"ธีหัวเราะแล้วยิ้มกว้างพร้อมยกมือขึ้นเป็นเชิงยอมแพ้ให้เพื่อน

วัตรจึงส่งค้อนขวับอย่างจริตของหญิงสาวให้เพื่อนครั้งหนึ่งก่อนที่จะเริ่มเล่าอีกครั้ง...


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีประเทศเกษตรกรรมที่สวยงามน่าอยู่มากประเทศหนึ่ง ชื่อว่าประเทศ "แสนสุข"

ประเทศนี้มีทรัพยากรอยู่มากมาย และไม่มีภัยธรรมชาติร้ายแรงเข้ามารบกวนอีกด้วย

ประชากรของประเทศแสนสุขนี้จึงมีความเป็นอยู่กันอย่างมีความสุขมาก จนได้รับฉายาว่า "แสนสุขเมืองยิ้ม&"

ไม่ว่าประเทศอื่นๆจะประสบภัยจากธรรมชาติร้ายแรงกันขนาดไหน แต่ประเทศนี้ก็ยังอยู่ได้อย่างสงบสุข

จนมีเวลาเหลือที่จะเอามาคิดพัฒนาประเทศได้อย่างไม่มีติดขัด

สร้างความอิจฉาตาร้อนและความน้อยเนื้อต่ำใจ ให้ประเทศอื่นๆเป็นอย่างมาก

 
อ้อ...ลืมเล่าไปตอนที่ประเจ้าสร้างประเทศต่างๆนั้น

ทุกประเทศที่สร้างถ้ามีด้านบวกแล้วต้องมีด้านลบอยู่ด้วยเสมอ

เพื่อเอาไว้ถ่วงดุลกัน ไม่ให้สงบสุขมากจนสามารถพัฒนาประเทศล้ำหน้าเพื่อนบ้านมากนัก

แต่ตอนที่ท่านกำลังสร้างประเทศแสนสุขอยู่นั้น

ถุงเก็บอุปกรณ์ก่อสร้างท่านเกิดไปเกี่ยวกับอะไรก็ไม่รู้จนขาด ของตกแต่งสารพัดอย่างในด้านบวก

ไม่ว่าจะเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติเอย อาหารอันอุดมสมบูรณ์เอย

ฤดูกาลที่สมดุลเอย ก็เลยหล่นปุ๊ลงมาอยู่ประเทศนี้จนหมด


แต่ด้วยความที่เป็นประเทศสุดท้ายที่สร้างแล้ว แถมตัวสร้างในด้านลบเช่น

ภัยต่างๆที่ร้ายแรงจากธรรมชาติ จำพวกแผ่นดินไหว

พายุที่รุนแรง ก็ไม่รู้ว่าหมดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ท่านก็เลยปล่อยเลยตามเลยไม่คิดที่จะแก้ปัญหา

ขี้เกียจสร้างขึ้นใหม่เพราะต้องใช้เวลานาน

แถมตอนนี้ก็ใกล้เวลาเลิกงานของท่านแล้วด้วย

อีกอย่างท่านต้องการกลับบ้านไปหาลูก หาเมียเต็มทีแล้ว ก็เลยทิ้งงานไว้ตรงนั้นก่อน

คิดเอาไว้ว่าจะมาสร้างต่อทีหลัง แต่ก็ลืมไปเลย...

แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 52 14:49:01

แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 52 14:48:27

แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 52 14:43:51

 
 

จากคุณ : จุหลัน
เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 14:42:48




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com