หิมะแรก
|
|
๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๑
นาจ๊ะ ที่ปักกิ่งหิมะตกแล้วเมื่อเช้านี้เอง อุณหภูมิประมาณลบเจ็ดองศาจ้ะ ถือว่ายังไม่หนาวที่สุด หิมะที่ตกครั้งแรกเป็นฝอย ๆ คล้ายฝุ่นขนาดใหญ่สีขาว มองจากห้องเรียนชั้นห้าไปที่ลานจอดรถข้างล่างเห็นพื้นถนนเหมือนโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งอย่างไรอย่างนั้น เพื่อนนักเรียนคนไทยในห้องคนหนึ่งบ่นว่าหิมะที่นี่ไม่น่าตื่นเต้นเหมือนในหนัง รังแค ของเธอยังจะใหญ่เสียกว่า สาวน้อยรัสเซียคนสวยประจำห้องบอกว่าอย่างนี้ที่บ้านเธอยังไม่เรียกว่าหิมะ คุณพี่สาวจากโซลเห็นด้วย ว่าแล้วก็ทำมือเป็นสัญลักษณ์โอเคแต่ปรับขนาดวงกลมระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ให้เห็นว่าก้อนที่เรียกว่าหิมะควรมีขนาดใหญ่แค่ไหน หนุ่มอินโดนีเซียขี้เล่นเขียนบนกระดานด้วยอักษรจีนตัวโตแปลเป็นไทยได้ความว่า หิมะตกแล้ว พวกเราเหล่านักเรียนพากันชื่นชมและติชมหิมะแรกในปักกิ่ง(และสำหรับบางคนอย่างเราก็เป็นหิมะแรกในชีวิตด้วย)อย่างออกรสชาติ ช่วงนี้หลายคนคอยลุ้นว่าอากาศจะหนาวไปถึงไหน เพื่อนอินโดอีกคน เจอหน้ากันทีไรเป็นต้องรายงานสภาพอากาศ วันนี้ลบกี่องศาแล้ว หิมะจะตกวันไหน วันนี้มีลมแรงอย่าซักผ้า(เพราะถ้าตากข้างนอกลมอาจจะพัดไปตกที่อพาร์ตเม้นท์หน้าหอพักได้) พรุ่งนี้ออกไปเที่ยวได้มีแดดดี อาทิตย์หน้าอากาศหนาวมากนะระวังเป็นหวัด ฯลฯ บางวันรายงานอากาศไปถึงภูมิภาคอื่น ๆ ในประเทศจีน แกว่าทุกวันต้องดูรายงานอากาศในอินเตอร์เน็ต น้องถงอู (ถงอู แปลว่าเพื่อนร่วมห้องจ้ะ ห้องในที่นี้คือห้องพักในหอพักนักศึกษาต่างชาติที่นี่ ไม่ใช่ห้องเรียนนะจ๊ะ) ก็ดาวน์โหลดโปรแกรมบอกอุณหภูมิอากาศไปแปะไว้ที่เดสก์ทอปของคอม อยากรู้ว่าตอนนี้ปักกิ่งกี่องศาก็เหลือบไปดู บทสนทนายอดฮิตประจำวันของทุกคนเห็นจะไม่พ้นเรื่องอากาศนี่แหละ เราเองไม่ได้ใส่ใจถึงขนาดต้องรู้ว่าอุณหภูมิเท่าไร รู้แต่ว่าหนาวมากหนาวน้อย วัดเองด้วยความรู้สึก กับบอกได้ว่าวันนี้อากาศดีไม่ดี ถ้าดีก็คือท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีเมฆ ถ้าไม่ดีก็คือฟ้าหลัว ฝุ่นละอองในอากาศแยะจนสามารถมองพระอาทิตย์ได้ด้วยตาเปล่า นาก็คงเคยได้ข่าวว่ามลพิษในอากาศที่นี่เป็นปัญหามาก ช่วงโอลิมปิกนักกีฬาจากต่างประเทศบางประเทศถึงขนาดใส่หน้ากากกันฝุ่นลงจากเครื่องบิน ทางคณะผู้จัดงานโอลิมปิกต้องขอร้องว่าอย่าใส่ เพราะจะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศจีนเสียหาย หน้าหนาวกว่าจะสิ้นสุดก็เดือนกุมภาปีหน้า จากนั้นอากาศก็อุ่นขึ้นเข้าฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนมีนาถึงพฤษภา มิถุนาถึงสิงหาเป็นหน้าร้อน สุดท้ายเดือนกันยาจนถึงพฤศจิกาก็เป็นฤดูใบไม้ร่วงจ้ะ ยังจำได้เมื่อสามเดือนก่อนมาถึงใหม่ ๆ เป็นฤดูใบไม้ร่วง คนจีนถือว่าเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุดไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป อุณหภูมิประมาณสิบกว่าองศา สำหรับคนไทยอย่างเรา เพิ่งมากจากประเทศที่มีแค่สามฤดู คือฤดูร้อน ร้อนมาก กับร้อนที่สุด ตอนนั้นรู้สึกว่าที่นี่หนาวมาก บวกกับปักกิ่งลมแรงอากาศแห้ง ลมพัดทียิ่งหนาวไปกันใหญ่ วันแรกมาถึงก็เจ็บคอทันที จากนั้นก็เป็นหวัดหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ คงเป็นเพราะร่างกายปรับตัวให้เข้ากับอากาศหนาวไม่ทัน แต่พอหายแล้วก็ไม่เป็นหวัดอีกเลย โชคดีที่เราร่างกายแข็งแรง ตอนอยู่เมืองไทยก็ไม่ค่อยจะเป็นอะไร ปีหนึ่งเป็นหวัดสักหนเดียวเห็นจะได้ ปักกิ่งหน้าหนาวหนาวกว่าสามเดือนก่อนตั้งแยะ อยู่ไปอยู่ไปร่างกายคุ้นแล้ว ไม่รู้สึกหนาวทรมานเหมือนมาใหม่ ๆ แต่ไม่ใช่ไม่หนาวนะจ๊ะ พูดถึงเรื่องความรู้สึกหนาวร้อนนี่ จะบอกว่าคนที่อยู่เมืองร้อนอย่างเรามาอยู่ที่หนาว ๆ จะต้องหนาวจนทนไม่ได้ หรือคนอยู่ที่หนาว ๆ มานานต้องทนทานความหนาวได้มากกว่าพวกเรา ก็ออกจะด่วนสรุปเกินไป เรามีเพื่อนคนจีนคนหนึ่งเป็นคนฮาร์บิน ซึ่งอยู่ทางเหนือของจีน หน้าหนาวอุณหภูมิที่นั่นต่ำสุดถึงลบสามสิบองศา ตอนนี้เขาย้ายมาตั้งรกรากอยู่ที่ปักกิ่งได้หลายปีแล้ว เราถามว่าเคยคิดจะกลับไปฮาร์บินไหม เขาว่าไม่ พ่อแม่ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันหมดแล้ว ไม่อยากกลับไปอยู่อีกเพราะที่นั่นหนาวเกินไป และฤดูหนาวก็นานมากตั้งห้าหกเดือน อยู่นี่เราทำงานพิเศษที่ร้านอาหารไทยคอยต้อนรับแขกและเสิร์ฟอาหาร แขกคนจีนแต่งตัวกันหนาวเต็มที่ โอเวอร์โค้ทเอย ถุงมือเอย หมวกเอย ผ้ากันคอเอย ที่ปิดหูเอย เข้ามาก็เห็นบ่นว่าหนาว ๆ พวกเราตอนอยู่เมืองไทยก็บ่นแต่ร้อน ๆ หน้าร้อนวันหนึ่ง ๆ เราพูดคำว่าร้อนกันคนละหลายสิบครั้งละเราว่า พูดไปพูดมากลายเป็นว่าคนเราไม่ว่าจะชาติไหน ภาษาไหน อยู่ที่ไหนก็มีสิทธิ์หนาวร้อนได้พอ ๆ กัน ดูทีวีที่นี่เห็นโฆษณายาแก้หวัดทุกช่อง ทุกวัน วันละหลายเวลา และหลายยี่ห้อ มากกว่าบ้านเราหลายเท่าเลยล่ะจ้ะ คนที่นี่คงจะเป็นหวัดกันบ่อย ๆ เป็นธรรมดา เราคิดว่าคงเป็นเพราะที่ประเทศจีนคนเยอะ สถานที่ต้องปิดมิดชิดเพราะหนาว อากาศก็เลยไม่ถ่ายเท อย่างในรถไฟฟ้า รถเมล์ ในที่ทำงาน หรือห้องเรียน คนเป็นหวัดคนเดียวก็แพร่ไวรัสต่อให้คนหลายคนได้ง่าย ๆ เราเองขึ้นรถเมล์เจอคนจามใส่อยู่บ่อย ๆ โชคดีที่เป็นหวัดไปแล้วครั้งหนึ่ง ร่างกายคงจะรู้จักไวรัสเมืองนี้แล้วเลยมีภูมิคุ้มกัน ได้ข่าวว่าที่กรุงเทพฯ ก็หนาวเหมือนกันใช่ไหมจ๊ะ นาระวังรักษาสุขภาพด้วย ไว้ฉบับหน้าจะเขียนมาเล่าเรื่องปักกิ่งให้ฟังอีกจ้ะ
จากเพื่อนที่อยู่ไกล
จากคุณ |
:
บุหงาบาหลี
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ส.ค. 52 23:15:36
A:125.27.165.253 X:
|
|
|
|