เจ้าหญิงถนัดซ้าย...ฆ่าตัวตายไปสองครั้ง (ครึ่งแรก)
|
|
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องโกหก
ถ้าใครจะช่วยตั้งชื่อให้ใหม่ จักเป็นพระคุณยิ่ง ยินดีรับคำวิจารณ์ทุกประเภท เชิญอ่านค่ะ
*** *** *** *** *** *** *** ***
เจ้าหญิงถนัดซ้าย...ฆ่าตัวตายไปสองครั้ง...ตอนแรก
เจ้าหญิงเกิดมาในครอบครัวฐานะปานกลางมี พี่ชาย 1 คน พี่สาว 1 คน น้องชาย 1 คน และ...น้องสาวอีก1 คน... ดังนั้น แน่นอน... เจ้าหญิงเป็นลูกคนกลาง เจ้าหญิงเป็นเด็กถนัดซ้ายคนแรกของวงศ์ตระกูล ถนัดมือซ้ายจนแทบไม่อยากใช้มือข้างขวา เธอถูกเรียกว่าเจ้าหญิงเพราะเจ้าหญิงแปลว่า...ผู้ที่มีความรัก ตั้งแต่จำความได้ เจ้าหญิงก็เห็นแต่ความรักโอบล้อมตัวเอง รั้วบ้านทางซ้ายมือเป็นบ้านคุณปู่ ทางขวาเป็นญาติฝั่งคุณตา ตรงกันข้ามเป็นบ้านทันตแพทย์ใจดี หลังบ้านติดลำคลองขนาดเล็กซึ่งอีกฟากเป็นสนามหญ้าที่วัยรุ่นในหมู่บ้านใช้เป็นสนามฟุตบอล แม้เป็นครอบครัวใหญ่ที่ทุกคนรักและเอาใจใส่กัน ไม่เคยมีประวัติทะเลาะกันแม้แต่นิดเดียว พ่อแม่สอนให้เจ้าหญิงและพี่น้องรักกันให้อภัยกัน บ่อยครั้งที่คำว่า ขอโทษ ออกมาจากปากสมาชิกในบ้าน ก่อนที่จะรู้ว่ามีใครทำอะไรผิดเสียด้วยซ้ำไป ...แต่...เจ้าหญิงกลับรู้สึกถึงความห่างเหินที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเองและครอบครัว...
และ... มันค่อยชัดเจนยิ่งขึ้นๆ เมื่อเธอเป็นวัยรุ่น...
...ครั้งหนึ่ง...เธอเห็นภาพตรงหน้า...พี่ชายวัยใกล้พ้นวัยรุ่นเตะลูกฟุตบอลตกลงบ่อโคลนกระเด็นใส่ชุดดรัมเมเยอร์สีชมพูดสวยสดของน้องสาว พี่ชายตกใจหน้าซีด ส่วนเจ้าของชุดกรีดร้องออกมาทันที เพราะชุดนั้นต้องใช้ในการเดินขบวนเปิดพิธีแข่งกีฬาสีของโรงเรียนวันรุ่งขึ้น ครูคหกรรมตัดให้เป็นพิเศษสำหรับเธอคนเดียว... น้องสาวเสียใจและตกใจกอดชุดนั้นทั้งน้ำตาไหลพรากด้วยความโศก...ไม่แยแสที่พี่ชายขอโทษครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความรู้สึกผิด น้องสาวไม่ได้ตำหนิใครออกมา ...แต่เจ้าหญิงดูออกว่าน้องเสียใจแค่ไหน...
...ต้องมีใครทำอะไรบ้างสิ...เจ้าหญิงครวญในใจ...
...แม่วิ่งเข้ามากอดปลอบใจแล้ว... พ่อบอกว่าน่าจะซักให้สะอาดได้...พี่สาวกับน้องชายก็ช่วยกันดึงชุดนั้นไปซักทันที แต่เนื่องจากมันเป็นชุดเฉพาะกิจ สำหรับใส่ครั้งเดียวเท่านั้น บางชิ้นส่วนก็เป็นแค่กระดาษสีติดกาว มันจึงเปื่อยยุ่ยขาดไม่มีชิ้นดี...น้องสาวซึ่งอยู่แค่ ป.6 กรีดร้องให้หนักกว่าเดิม และเริ่มมองพี่ชายด้วยความโกรธ เป็นความโกรธครั้งแรกในบ้านที่เจ้าหญิงมองเห็น...
เจ้าหญิงอยากให้แม่หรือพ่อตำหนิพี่ชายออกมาสักคำ แต่ไม่มีคำใดหลุดออกมาจากปากท่าน...คุณย่ากับน้าสาวเริ่มมาเมียงมองเพราะเสียงร้องน้องสาว แล้วก็พากันลูบหลังปลอบใจ ...เจ้าหญิงเห็นความเจ็บปวดของน้อง... และพี่ชายที่แค่นั่งก้มหน้าเสียใจ
เจ้าหญิงจึงไม่ควบคุมตัวเองอีกต่อไป เดินไปหาพี่ชาย ฟาดฝ่ามือซ้ายอย่างแรงลงบนแก้มพี่ชายติดกันสองครั้ง
...ผัวะ...ผัวะ...
....
ทุกเสียงในบ้านเงียบสนิทลงในแค่พริบตา พี่ชายนั่งกุมแก้มตะลึงด้วยความตกใจ น้องสาวหยุดร้องให้ไม่มีแม้เสียงสะอื้น ผู้คนที่รายล้อมทั้งหมด จ้องไปที่เจ้าหญิงคนเดียว แล้วครู่ต่อมาย่าก็พาน้องสาวไปนั่งที่สนามหญ้า แม่กับน้าโทรศัพท์หาครูคหกรรม
พ่อก็ดึงมือเจ้าหญิงไปนั่งที่โต๊ะ เริ่มคุยที่เจ้าหญิงใช้ความรุนแรงกับพี่ชาย
เจ้าหญิงโกรธพี่ชายที่ทำชุดน้องสาวเลอะหรือลูก
เจ้าหญิงพยักหน้า
แต่พ่อแม่ไม่เคยสอนให้เจ้าหญิงใช้ความรุนแรงแบบนั้นนี่นา ทำไมเจ้าหญิงถึง...ทำแบบนั้น...
เจ้าหญิงเริ่มมีสติ เริ่มตำหนิตัวเอง ใช่สิ พ่อแม่ไม่เคยสอนให้ลูกตบหน้าใคร เราเรียนรู้วิธีการตบหน้ามาจากไหน แต่มันไม่ต้องฝึกนี่ ตบหน้าคนเป็นเรื่องง่าย แต่เจ้าหญิงก็ไม่พูดอะไรอีก
เอาล่ะ บอกพ่อว่าลูกจะไม่ทำอีกต่อไป
หนูจะไม่ทำอีกต่อไปค่ะ
และลูกจะขอโทษพี่ชาย
...ไม่ค่ะ... พี่ชายทำผิด และพ่อก็ควรตำหนิพี่ชาย
เจ้าหญิง! พ่ออุทานออกมา แต่บางอย่างที่มุ่งมั่นในแววตาเธอ สื่อให้รู้ว่าพ่อพูดไปก็ไร้ประโยชน์ เอาล่ะ สักวันลูกจะคิดได้ วันนั้นลูกจะขอโทษพี่ชายเอง แต่ยังไงก็ตามลูกจะถูกทำโทษ ตัดหญ้าหลังบ้านหรือหักค่าขนม
ตัดหญ้าค่ะ เจ้าหญิงรีบตอบ ไม่ใช่เพราะเสียดายค่าขนม เธอแทบไม่เคยกินขนมด้วยซ้ำไป เลือกตัดหญ้าเพราะสนามหลังบ้านคือโลกของเธอคนเดียว
จากคุณ |
:
rainfull
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ส.ค. 52 14:57:01
|
|
|
|