ความคิดเห็นที่ 1 ปกติแล้ว ถ้าพูดถึงเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก หลาย ๆ คนมักจะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ น้ำตกไนแอการา ถ้าถามต่อไปว่านอกจากน้ำตกล่ะ มีที่เที่ยวอะไรอีก คิดว่าคงต้องคิดกันนานเลยใช่ไหมคะ ความจริง บัฟฟาโลยังมีที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่งซึ่งหลายคนคิดไม่ถึง นั่นก็คือ Downtown Buffalo หรือย่านใจกลางเมืองของบัฟฟาโล และเป็นสถานที่ที่อยู่ใกล้ชิดกับทะเลสาบ Erie ซึ่งเป็น1 ใน 5 ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาเหนือ ได้แก่ Superior, Huron, Ontario, Michigan, Erie (มีวิธีจำง่าย ๆ ว่า HOMES โดยทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุด คือ Superior ส่วนเล็กที่สุด คือ Erie ค่ะ) เนื่องจากเป็นเมืองที่อยู่ติดกับทะเลสาบอีรี่และมีเขตแดนติดกับประเทศแคนาดา บัฟฟาโลจึงเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าและแรงงาน รวมถึงเป็นย่านธุรกิจในระยะแรกเริ่ม แม้ว่าในปัจจุบัน ดาวน์ทาวน์บัฟฟาโลจะไม่ได้เป็นเมืองที่คึกคัก ไม่ใช่เมืองที่เป็นศูนย์กลางการค้าเช่นแต่ก่อน แต่ดาวน์ทาวน์บัฟฟาโลก็ยังคงได้ชื่อว่า เป็น “พิพิธภัณฑ์ทางสถาปัตยกรรม” ที่มีชีวิตอย่างไม่เปลี่ยนแปลง เพราะอาคารต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นในเมืองแห่งนี้ได้รับการออกแบบจากสถาปนิกชั้นนำของสหรัฐและระดับโลก และมีอาคารหลายแห่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วย   พูดมาขนาดนี้แล้ว อย่ากระนั้นเลย... ไปเที่ยวดาวน์ทาวน์กันเลยดีกว่าค่ะ ======================================== การเดินทางไปยังดาวน์ทาวน์บัฟฟาโลสามารถทำได้หลายทางด้วยกัน ถ้ามีรถ ทางที่ไปง่ายที่สุดก็คือ ขับตรงไปเรื่อย ๆ ตาม Main Street แล้วเลี้ยวเข้า Elmwood Avenue แต่ถ้าไม่มีรถ บริการรถโดยสารสาธารณะก็เป็นทางเลือกที่ดี และสนุกดีเหมือนกัน เพราะระบบขนส่งทางรางของบัฟฟาโลให้อารมณ์มุดใต้ดินก่อนขึ้นเห็นแสงตะวันแบบที่ซานฟรานซิสโกเลยละ เพียงแต่สภาพรถและเส้นทางที่อาจจะไม่ยิ่งใหญ่เท่า แต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบค่ะ สำหรับเส้นทางการเดินรถของ Buffalo Metro Rail หรือระบบรถรางไฟฟ้าของบัฟฟาโล มีสถานีต้นทาง คือ University แต่อพาร์ตเม้นต์ที่เคยอยู่จะอยู่ใกล้ Lasalle มากกว่าเลยขึ้นสถานีนี้ (ส่วนใหญ่ตัวเองจะใช้เส้นทางลัดสำหรับไปซูเปอร์มาร์เก็ตซึ่งตั้งอยู่ข้างสถานีเมโทรจาก Tyler Street ไปทาง Angle Street ตัดผ่านป่าละเมาะ ซึ่งตกเย็นมา ถ้าโชคดีจะเจอกระต่ายป่าตัวอ้วน ๆ หากินอยู่ แต่จากคำบอกเล่าของรุ่นพี่ที่อยู่มานานแล้วบอกว่า ถ้าโชคดีกว่านั้นจะได้เจอกวางด้วยละ น่าตื่นเต้นมาก ๆ) แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 02:23:53 จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:23:49

ความคิดเห็นที่ 2 ในรูปเรียกว่าต้น "Goatbeard" มีขึ้นเป็นพุ่มเยอะมาก ๆ บริเวณป่าข้างทางที่จะไปซูเปอร์มาร์เก็ต Aldi กับสถานีเมโทร . จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:25:51

ความคิดเห็นที่ 3 ที่เกริ่นมาก่อนหน้านี้ว่าเมโทรของบัฟฟาโลให้อารมณ์เดียวกับซานฟรานซิสโกตรงที่ผ่านทั้งใต้และบนดิน ส่วนของสถานี University จนถึงสถานี Allen จะอยู่ใต้ดิน เริ่มขึ้นวิ่งบนดินที่สถานี Theater กลางเมือง แล้วก็ไปลงสถานีสุดท้ายปลายทางที่ Erie Canal Harbor (จริง ๆ มีปลายสุดอีกที่ แต่เปิดเฉพาะเทศกาล) (เส้นทางการเดินรถของ Buffalo Metro Rail) จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:26:58

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับตั๋วที่คุ้มที่สุดสำหรับซื้อเที่ยวดาวน์ทาวน์ คือ ตั๋ว Round Trip ราคา 3 เหรียญขึ้นลงได้ทุกสถานีทั้งวันค่ะ (ภายในบริเวณชานชาลาของสถานี Lasalle) จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:27:56

ความคิดเห็นที่ 5 ระยะทางของ Buffalo Metro Rail จะสิ้นสุดที่สถานี Erie Canal Harbor ทางขวามือของสถานี จะเป็น HSBC Arena เป็นสนามกีฬาในร่มขนาดใหญ่ เปิดใช้ในปี 1996 และเป็นสนามหลักของทีมฮ็อกกี้น้ำแข็งประจำเมืองบัฟฟาโล คือ Buffalo Sabres ช่วงที่มีการแข่งขันกีฬาสำคัญที่ฮิตกันมาก ๆ อย่างฮ็อกกี้นำแข็ง อเมริกันฟุตบอล ร้านปีกไก่จะคึกคักมาก เพราะคนที่ไม่ไปสนามจะเข้าไปนั่งแทะปีกไก่ทอดราดซอสเผ็ด ๆ หวาน ๆ แกล้มแซลเลอรีกับแครอทจิ้มดิปปิ้ง ตามร้านพร้อม ๆ กับเชียร์ทีมฮ็อกกี้น้ำแข็งทีมโปรดไปด้วย... (วิงส์ถือเป็นอาหารขึ้นชื่อของบัฟฟาโลค่ะ) (HSBC Arena) จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:28:47

ความคิดเห็นที่ 6 ทางซ้ายมือของสถานี Erie Canal Harbor คือ ส่วนที่เรียกว่า WATERFRONT เนื่องจากอยู่ติดกับทะเลสาบอีรี่ และบริเวณคลองที่ขุดต่อมาจากทะเลสาย คือ Erie Canal บริเวณนี้มีสถานที่ให้เดินเที่ยวเพลิน ๆ หลายจุดอยู่เหมือนกัน โดยจุดแรกที่เจอเมื่อเดินจากสถานีเมโทร คือ อนุสรณ์สถานสงครามเกาหลี หรือ Korean War Memorial และพิพิธภัณฑ์ด้านยุทธนาวี หรือ Buffalo and Erie County Naval and Military Park (Korean War Memorial) จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:30:52

ความคิดเห็นที่ 7 (อีกมุมหนึ่งของ Korean War Memorial และ Buffalo and Erie County Naval and Military Park ค่ะ) . จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:32:39

ความคิดเห็นที่ 8 ในส่วนของ Military Park นี้ เป็นสถานที่ที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ เพราะมีการเอาเรือรบที่ปลดระวางแล้ว คือ USS. Sullivans,  USS. Little Rock  และ USS. Croaker ซึ่งลำหลังเป็นเรือดำน้ำมาเป็นพิพิธภัณฑ์ แต่การเข้าชมต้องเสียค่าผ่านประตูนะคะ สำหรับผู้ใหญ่คิดค่าเข้าชม 8 เหรียญ ส่วนตัวแล้วอยากเข้าไปดูอยู่เหมือนกัน แต่แอบเสียดายตังค์นิด ๆ และไม่มีเวลามากเลยได้แต่เดินดูข้างนอก (Buffalo and Erie County Naval and Military Park บางครั้งก็เรียก Naval and Serviceman Park) จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:34:19

ความคิดเห็นที่ 9 (USS. Croaker: the submarine) . จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:35:07

ความคิดเห็นที่ 10 จาก Military Park เดินต่อไปอีกหน่อย ก็จะมีทางเดินเลียบไปตามคลองขุดและทะเลสาบ เดินต่อไปสักพักก็จะเห็นประภาคาร Buffalo Main Light ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำ Buffalo และ Erie Canal ประภาคารนี้มีชื่อเรียกเล่น ๆ ว่า “Chinaman’s Light” เพราะมีรูปร่างคล้ายคนจีนสวมหมวก เป็นอาคารที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1833 ทำจาก Queenston Limestone และเป็นประภาคารที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง ที่มีอยู่ในบริเวณทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาเหนือ (Buffalo Main Light : อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่นะคะ http://lighthouse.boatnerd.com/gallery/Erie/BuffaloMain.htm ) จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:36:13

ความคิดเห็นที่ 11 (บรรยากาศบริเวณทะเลสาบอีรี่) . จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:37:23

ความคิดเห็นที่ 12 เดินย้อนกลับออกมาจากฟากทะเลสาบ ไปยังจุดขึ้นรถบัสไปดาวน์ทาวน์ ก็เจอกับป้ายบอกทางไป the Irish Famine Memorial ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมคลอง Erie Canal เป็นอนุสรณ์สถานของชาวไอริชที่หนีภัยความอดอยากในช่วงปี 1840 เข้ามาหางานทำในสหรัฐอเมริกา โดยส่วนหนึ่งได้มาขึ้นฝั่งและทำงานที่ท่าเรือย่านนี้ ซึ่งในเมืองบัฟฟาโลปัจจุบันก็มีคนเชื้อสายไอริชอยู่มาก และทุกเดือนมีนาคมก็จะมีการจัดงานฉลองวันเซนต์แพทริคกันด้วย (The Irish Famine Memorial) จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:38:47

ความคิดเห็นที่ 13 จากทะเลสาบ คราวนี้ เราเข้าไปเดินเล่นในตัวเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น พิพิธภัณฑ์ด้านสถาปัตยกรรม กันบ้าง ขึ้นเมโทรจากปลายทางที่อีรี่ฮาร์เบอร์ย้อนกลับมาลงที่ Church Station เพราะอยู่หน้าโบสถ์เซนต์พอลพอดี และในบริเวณใกล้เคียงกับสถานีแห่งนี้ ก็มีโบสถ์สำคัญ และมีอาคารที่มีสถาปัตยกรรมน่าสนใจหลายแห่ง เช่น St. Paul’s Episcopal Cathedral เป็นสถาปัตยกรรมแบบ Gothic Revival สร้างขึ้นจากหินทราย ออกแบบโดย Richard Upjohn สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1851 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น Buffalo Landmark National Historic Landmark และ National Register of Historic Places ป.ล. สถาปัตยกรรมแบบ Gothic Revival หรือ สถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิค หรือบางทีก็เรียกว่า สถาปัตยกรรมวิคตอเรีย (Victorian Architecture) เป็นสถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นในอังกฤษช่วงปี 1740 โดยเป็นการพยายามฟื้นฟูและหยิบเอาลักษณะสำคัญของสถาปัตยกรรมยุคกลาง หรือ แบบกอธิค โดยเฉพาะลักษณะอาคารที่มีโครงสร้างหลังคาแบบโค้งแหลม (Pointed Vault) มีการถ่ายน้ำหนักลงมา ที่เสา (piers) และส่วนรับน้ำหนักที่เรียกว่า flying buttress เป็นโครงสร้างที่มีความซับซ้อนทีเดียว (St. Paul's Episcopal Cathedral, Shelton Square, Buffalo, NY) จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:41:14

ความคิดเห็นที่ 14 จากโบสถ์เซนต์พอล เดินตามถนนแฟรงคลินมาอีกไม่ไกล ก็จะเจอกับอาคารแบบ Gothic Revival อีกแห่ง คือ โบสถ์ St. Joseph’s Cathedral สร้างจาก Limestone ออกแบบโดย Patrick C. Keeley   ใช้เวลาสร้างในช่วงปี ค.ศ. 1851-1855 ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น Buffalo Landmark และอยู่ใน Joseph Ellicott Historic Preservation District ค่ะ (St Joseph's Cathedral, Franklin Street, Buffalo, NY) จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:42:38

ความคิดเห็นที่ 15 จากถนนแฟรงคลิน เดินมาทางขวามืออีกหน่อย ก็จะเจอกับจุดที่เรียกว่า Lafayette Square ซึ่งเป็นจัตุรัสกลางเมืองโดยชื่อของจัตุรัสนี้มาจากชื่อของนายพล Lafayette สมัยสงครามกลางเมือง ตรงกลางของจัตุรัส มีอนุสาวรีย์เรียกว่า Civil War Monument หรือ Soldiers and Sailors Monument อยู่ เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างอุทิศให้ทหารผ่านศึกใน Civil War สร้างเสร็จในปี 1883 รูปปั้นผู้หญิงบนยอดเสาแกะสลักจากหิน ส่วนรูปปั้นทหารผ่านศึกรอบอนุสาวรีย์ทำจากทองแดง ที่เห็นรูปทหารเป็นสีเขียว ๆ ก็เนื่องจากทองแดงทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศทำให้เปลี่ยนสีไป (สาเหตุที่อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพเป็นสีเขียว ๆ ก็ด้วยสาเหตุเดียวกัน เพราะเธอก็ถูกทำขึ้นจากแผ่นทองแดงค่ะ) (Civil War Monument) จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:44:29

ความคิดเห็นที่ 16 นอกจากนี้ บริเวณใกล้ ๆ กับจัตุรัสยังมีอาคารที่น่าสนใจอีกอาคารหนึ่ง คือ Hotel Lafayette เป็นโรงแรมขนาด 300 ห้อง เป็นแบบ French Renaissance ออกแบบโดย Louise Blanchard Bethune สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1904 มีส่วนประกอบหลักจากเหล็ก อิฐและกระเบื้องดินเผา สำหรับสถาปัตยกรรมแบบเรอแนสซองส์หรือแบบฟื้นฟูศิลปวิทยานั้น มีลักษณะเฉพาะ คือ เน้นความสมมาตร (symmetry) ความได้สัดส่วน (proportion) การใช้รูปทรงเรขาคณิต (geometry) ซึ่งแตกต่างจากสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่มีรูปแบบโครงสร้างที่ไม่ค่อยสมมาตรแต่มีความซับซ้อนมากกว่าค่ะ (Hotel Lafayette) จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:45:36

ความคิดเห็นที่ 17 Buffalo Metro (คันสีขาว ๆ คาดสีส้ม-เหลือง) ถ่ายจากฟาก Lafayette Square . แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 01:48:15 จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:47:14

ความคิดเห็นที่ 18 นอกจาก Lafayette Square แล้ว บัฟฟาโลยังมีอีกจัตุรัสหนึ่งซึ่งมีความสำคัญมาก นั่นคือ Niagara Square ค่ะ (ที่จริง ถ้ามองตามกายภาพแล้ว จุดนี้น่าจะเรียกว่า ‘วงเวียน’ มากกว่า ‘จัตุรัส’ เพราะเป็นวงกลม) เป็นศูนย์กลางของถนนสี่สาย คือ Delaware Avenue, Court Street, Genesee Street, and Niagara Street ถ้ามองจากทาง Court Street ตรงไปทาง Niagara Square เราก็จะสามารถมองเห็นสถาปัตยกรรมที่เรียกได้ว่า เป็นสัญลักษณ์ของเมืองบัฟฟาโลได้พร้อมกันถึงสองแห่ง คือ อนุสาวรีย์แมคคินเลย์ และ ที่ทำการเทศบาลเมือง (Niagara Square ส่วนที่เป็นเสาตรงกลาง คือ อนุสาวรีย์แมคคินเลย์ ถัดไปด้านหลังคือที่ทำการเทศบาลเมือง) แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 02:39:00 จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:50:37

ความคิดเห็นที่ 19 McKinley Monument เป็นเสาโอเบลิสก์มีรูปสลักสิงโตหมอบทำด้วยหินอ่อนที่ฐาน สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ เหตุการณ์ลอบสังหารประธานาธิบดี William McKinley ระหว่างการประชุม Pan-America Exposition ปี 1901 สถาปนิกผู้ออกแบบก่อสร้าง คือ Carrere และ Hastings ประติมากรรมรูปสิงโตสร้างโดย A. Phimister Procter สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1904 (ประติมากรรมหินอ่อนรูปสิงโตบริเวณฐานอนุสาวรีย์) จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:51:38

ความคิดเห็นที่ 20 Buffalo City Hall ที่ทำการสำนักงานเทศบาลเมือง Buffalo เป็นอาคารสูง 26 ชั้น ชั้นบนสุดเปิดให้ขึ้นไปดูทัศนียภาพของเมือง ออกแบบโดย Wade, Dietel และ Jones สร้างเสร็จในปี 1940 รูปแบบการก่อสร้างเป็นแบบ Art Deco ซึ่งเป็นรูปแบบศิลปะและสถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1920-1940 เน้นการผสมผสานศิลปะหลาย ๆ แบบ เช่น Renaissance, Cubism, Art Nuveau เข้าด้วยกัน บนตัวอาคารประดับรูปสลักนูนต่ำแสดงประวัติศาสตร์ของเมือง คือ เรื่องอินเดียนแดงเผ่า Iroquois การขุดคลองอีรี่ การบุกเบิกด้านการค้าและอุตสาหกรรม และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับแคนาดา ที่นี่ถือเป็นอาคารที่ทำงานองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติ ในปี 1999 ค่ะ (ที่ทำการเทศบาลเมืองบัฟฟาโล รูปสลักนูนต่ำที่ว่าจะอยู่บริเวณขอบ ๆ ด้านล่าง) แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 02:34:57 จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:53:07

ความคิดเห็นที่ 21 (อีกมุมหนึ่งของที่ทำการเทศบาลเมืองบัฟฟาโล) . จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:53:44

ความคิดเห็นที่ 22 เนื่องจากเวลามีจำกัด การเที่ยวดาวน์ทาวน์เลยต้องทำอย่างพอสังเขป จากสถานีสุดท้ายที่อยู่บนพื้นดินอย่าง Theater Station ซึ่งอยู่ในย่านโรงละครและโรงภาพยนตร์ เราก็จะไปแวะเที่ยวยังจุดหมายสุดท้ายในการเที่ยวเมืองบัฟฟาโลแห่งนี้ โดยลงที่ สถานี Delavan/Canisius College ซึ่งเป็นสถานีที่มีการตกแต่งสวยที่สุดในบรรดาทุกสถานี สถานีอื่น ๆ จะตกแต่งแบบเรียบ ๆ ผนังเป็นสีขาว ๆ ธรรมดา แต่สถานีนี้กรุกระเบื้องสีที่ผนังเป็นลายแบบนี้ค่ะ จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:55:26

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าออกจากสถานีเดลาแวน ข้าม Main Street ไปอีกฟากหนึ่งก็จะเป็น Elmwood Avenue ซึ่งถนนสายนี้เป็นถนนสายที่มีร้านหนังสือ ร้านขายงานศิลปะ และมีการจัดเทศกาลศิลปะเป็นประจำ และถ้าเลยไปอีกหน่อย แล้วเลี้ยวเข้าไปที่ถนนเดลาแวร์กับลินคอล์นพาร์คเวย์ก็จะเจอ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย Albright-Knox Gallery (ค่าเข้าชม นักศึกษา 7 เหรียญ บุคคลธรรมดา 11 เหรียญ) (ไม่ได้ไปรอบนี้ แต่แอบไปมาก่อนรอบนึงแล้ว เลยมีรูปมาให้ดูด้วย รูปนี้เป็นด้านหน้าของ Gallery ฝั่งตรงข้ามของ Gallery มีทะเลสาบชื่อ Lake Hoyt อยู่ค่ะ) จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 01:58:15

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่ได้ไปไกลถึงอัลไบรท์-น็อกซ์ก็ไม่เป็นไร เพราะยังมีที่ให้ไปเที่ยวอีกที่หนึ่ง สำหรับเราที่นี่เป็นจุดสุดท้ายของการเที่ยวชมดาวน์ทาวน์ แต่ที่นี่ก็เป็นที่พักผ่อนสุดท้ายตลอดกาลของหลายคน ใช่แล้วค่ะ สถานที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานีเดลาวันพอดีแห่งนี้ก็คือ สุสาน Forest Lawn Cemetery (เป็นคนละที่กับสุสาน Forest Lawn ใน Los Angeles ที่มีข่าวว่าใช้เป็นที่ฝังไมเคิล แจ็คสันนะคะ) Forest Lawn เป็นสุสานที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Victorian มีพื้นที่ 269 เอเคอร์ เพิ่งครบรอบร้อยปีเมื่อปี 2006 นี่เองเป็นสถานที่ฝังศพของอดีตประธานาธิบดี บุคคลสำคัญของเมือง เช่น นายกเทศมนตรีเมือง Buffalo สถาปนิกของเมือง ทหารผ่านศึก หรือชาวอินเดียนแดงที่มีบทบาท เป็นต้น (ภายใน Forest Lawn Cemetery) แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 02:36:26 แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 02:33:26 จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 02:00:20

ความคิดเห็นที่ 25 ที่นี่ไม่ได้มีแค่หลุมฝังศพเป็นป้าย ๆ อย่างเดียวหรอกค่ะ บอกแล้วว่า บัฟฟาโลเป็นเมืองแห่งสถาปัตยกรรม สิ่งปลูกสร้างในสุสานย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะที่นี่มีประติมากรรมรูปแบบต่าง ๆ อยู่มากมาย รวมถึงสุสานที่สร้างขึ้นในรูปแบบอาคารที่เรียกว่า Mausoleum ด้วย ถึงจะเดินตอนเย็น ๆ ก็ไม่น่ากลัวเลย (ประติมากรรมทำจากโลหะเป็นรูปควายไบซันใน Forest Lawn Cemetery) แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 02:37:06 จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 02:02:16

ความคิดเห็นที่ 26 อย่างที่บอกข้างต้นว่าที่นี่เป็นที่สุดท้ายสำหรับการท่องเที่ยวดาวน์ทาวน์ฉบับย่อ ก็คงต้องขออนุญาตจบการนำเที่ยวเมืองที่เคยมีชื่อเป็นสายน้ำแต่ถูกเปลี่ยนแปลงเป็นคำใหม่ที่ความหมายต่างไว้เท่านี้ แต่อยากบอกว่า แม้ดาวน์ทาวน์บัฟฟาโลจะเป็นเมืองที่ผ่านช่วงเวลารุ่งโรจน์อย่างสูงสุด ไม่อาจกลับมามั่งคั่งเช่นในอดีต และดูเงียบเหงาไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นย่านใจกลางเมืองที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว และยังรอต้อนรับคนที่ไปสัมผัสเสมอค่ะ :) ป.ล. ทำไมแก้คำผิดในความเห็นนี้บ่อยอย่างงี้ล่ะ T T (Lake Erie) แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 02:44:45 แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 02:42:34 แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 02:20:14 แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 02:13:09 จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 02:03:24

ความคิดเห็นที่ 27 หมายเหตุ สารภาพว่า เรื่องนี้เป็นการทลายไหดองครั้งใหญ่ เพราะดองเอาไว้ตั้งแต่เพิ่งกลับมาใหม่ ๆ จนวันนี้ก็สองปีกว่าละ ได้เห็นเรื่องพาเที่ยวบอสตันของคุณ Mnemosyne ถึงนึกขึ้นมาได้ (ต้องยกความดีให้คุณ Mnemosyne ด้วย) แต่เนื่องจากทิ้งระยะเวลามานานพอสมควร ข้อมูลบางอย่างอาจจะตก ๆ หล่น ๆ ไปบ้าง ก็ต้องขออภัยจริง ๆ ค่ะ ที่จริงมีภาพจากหลายที่ที่ยังดองเอาไว้เป็นกุรุส อย่างน้ำตกไนแอการ่าฝั่งอเมริกา อุทยานแห่งชาติใน Cazenovia แล้วก็ภาพวันที่ลุยฝนเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในวอชิงตันดีซี แต่ยังไม่มีเวลาขุดกรุขึ้นมาเล่าเลย เอาแค่นี้ก่อนเนอะ ขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างยิ่งสำหรับการติดตามค่ะ ^___^ (แถมรูปสุดท้ายเป็นอุทยานแห่งชาติ Chittenango ใน Cazenovia ค่ะ) แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 02:07:43 จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 02:07:28

ความคิดเห็นที่ 28 ดองไว้นานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เดี๋ยวพรุ่งนี้จะแวะเข้ามาเมนต์นะตัวเอง จากคุณ : waidhaya เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 02:12:36

ความคิดเห็นที่ 29 ไปนิวยอร์คนับครั้งไม่ถ้วนแล้วแต่ทำไมไม่เคยไปถึง Buffalo เลยก็ไม่ทราบ เพิ่งคิดได้หลังจากมาเห็นกระทู้นี้นะคะเนี่ยว่ายังไม่เคยไป Buffalo เลยสักครั้ง ส่วนใหญ่ไปนิวยอร์คก็จะเป็นเพราะงาน แล้วก็จะไปหยุดอยู่แค่ New York City หรือไม่ก็ White Plains คราวหน้าต้องไป Buffalo ให้ได้เสียแล้วค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 02:19:22

ความคิดเห็นที่ 30 Buffalo เป็นชื่อที่เพี้ยนเสียงมาจากจากภาษาฝรั่งเศสว่า ‘Beau Fleuve’ (Beautiful River) ^ ^ ^ หรูไปเลย จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 12:58:36

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านแล้วเลยไปค้นข้อมูล McKinley ถูกชายชื่อ Leon ยิง ชื่อคนยิ่งหมายถึงสิงโตหงะ ขอบคุณค่า ตามไปเที่ยวตัวเมืองด้วย ถ้าจำไม่ผิด เคยไปบัฟฟาโลมาแล้ว แบบว่าข้ามไปไนแอการ่า ฟอลล์ส ฮี่ๆ เครื่องบินจากนิวยอร์คไปบัฟฟาโลน่ารักเหลือเกิน แถวละ 3 ที่นั่ง อุตส่าห์เสิร์ฟน้ำกับถั่วด้วย เหอๆ จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 18:25:03

ความคิดเห็นที่ 32 แวบมาคุยค่า กิฟท์ (waidhaya) : งือ นานเนอะ แต่คิดว่าไม่นานเท่าเรื่องเดชคัมภีร์แจ่มจรัสนะ (จำได้มั้ย ตัวเอง...) คุณกุลธิดา : ไม่นับน้ำตกไนแอการา บัฟฟาโลถือเป็นเมืองนอกสายตาสำหรับการท่องเที่ยวเอามาก ๆ ถ้าไม่แวะก็ไม่แปลกเลยค่ะ การเที่ยวดาวน์ทาวน์แบบที่ดีที่สุดต้องมีไกด์บุ๊คเกี่ยวกับอาคารในบัฟฟาโลเล่มนึง แล้วค่อย ๆ เดินเลาะดูตึกไปเรื่อย ๆ จะว่าไปก็ค่อนข้างใช้เวลาอยู่เหมือนกัน ถ้ามีเวลามากหน่อย ก่อนไปเที่ยวฝั่งออนตาริโอของแคนาดาค่อยแวะบัฟฟาโลก็ได้ค่ะ ^ ^ (ฝั่งออนตาริโอก็สวยกว่าบัฟฟาโลจริง ๆ นั่นละ) คุณ rainfull : ชื่อเดิมของบัฟฟาโลหรูเนอะ แต่ตอนหลังที่เพี้ยนมานี่ เป็นคนละอารมณ์เลย ชื่อหลังออกแนวเข้มแข็งบึกบึนมาก ๆ คุณ scottie : ตามประวัติแล้ว รูปสิงโตหลับที่อยู่บนฐานอนุสาวรีย์มีความหมายถึงความแข็งแกร่งน่ะค่ะ เรื่องชื่อคนยิงประธานาธิบดีแมคคินเลย์กับรูปสิงโตเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ก็น่าคิดเหมือนกันนะเนี่ย เครื่องบินแถวละสามที่นั่ง สงสัยจะเป็นแมคโดนัลด์-ดักลาสของ AA แน่เลย สายการบินใจดีมาก ๆ แจกน้ำกับถั่วด้วย (ทำไมเราไม่เห็นได้เลยอะ) ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ ^ ^ จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 01:41:12

ความคิดเห็นที่ 33   เพิ่งมาเห็นกระทู้ค่ะ ไม่ได้เข้าถนนฯ นานเหมือนกัน แอบไปแกร่วแถวสวนลุมกับก้นครัวหาข้อมูล คริ คริ คุณส้มเขียนแนวนี้ได้ดีมากนะคะ อ่านเพลินและได้ความรู้ แบบไม่รู้สึกยัดเยียดหรือน่าเบื่อด้วยค่ะ ปล เป็นคนใช้ภาษาได้เก่งทั้งไทยทั้งอังกฤษด้วย ไม่รู้หามาจากไหนมหิงสาบุรี คิดได้ไงเนี่ย (เพราะมากค่ะ) จากคุณ : annie <harmonica> เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 11:52:35

ความคิดเห็นที่ 34 คุณแอนนี่ : ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ ^ ^ มหิงสาบุรีมาจากไหนก็ไม่รู้ อยู่ดี ๆ ก็นึกขึ้นมาเองค่ะ แหะ ๆ จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 23:43:58