สหรัฐตกยุค - สารขัณฑ์ครองโลก

นวนิยาย SCIENCE FICTION เขียนจบแล้ว อยากให้อ่านเพื่อวิจารณ์ครับ

สหรัฐฯ ตกยุค – สารขัณฑ์ครองโลก (ภาค 1)
U.S.A. DESCENDING – UTOPIA ASCENDING (PART I)  
                                                                                               
 (0)  บทจินตนาการ   .

พาดหัวข่าว นสพ. รายวัน วันที่ 11 ธันวาคม 2555
แคมโบเดียนิวส์  “พันธมิตรสหรัฐ สั่งสารขัณฑ์ คืนอิสรภาพแก่กัมพูชา”
นิวยอร์คไทม์  “อมริกาเตือนสารขัณฑ์ให้ถอนทหารจากกัมพูชาทันทีใน 3 วัน”

พาดหัวข่าว นสพ. รายวัน วันที่ 15 ธันวาคม 2555
นิวยอร์คไทม์  “สารขัณฑ์แลนด์ประกาศสงครามกับอเมริกา”
ลอนดอนไทม์  “สารขัณฑ์กร้าวอเมริกา”
ปักกิ่งนิวส์ “สารขัณฑ์ขู่รบ”
ซิดนี่ย์นิวส์ “สงคราม – สารขัณฑ์ขู่อเมริกา”
บราซิลทริบูน “สารขัณฑ์สิ้นคิด ประกาศสงคราม”
สารขัณฑ์โพสท์ “นายกฯ ประกาศสงครามพร้อมรบ”

พาดหัวข่าว นสพ. รายวัน วันที่ 17 ธันวาคม 2555
นิวยอร์คไทม์  “เรือรบพิฆาต 6 ลำ F-14 Tomcats -  12  ฝูง เตรียมถล่มสารขัณฑ์”
ลอนดอนไทม์  “กองทัพ US ถึง 3 วัน กองทัพ UN 7 วัน”
ปักกิ่งนิวส์ “ประธานาธิบดี หู จิน เทา วอนสารขัณฑ์ถอนทหารก่อนพินาศ”
ซิดนี่ย์นิวส์ “ทัพเรือ ทัพอากาศอเมริกา เตรียมบุกสารขัณฑ์ ...อีก 3 วันถึง”
บราซิลทริบูน “ถล่มแน่ 3 วันถึง คาด 3 วันปิดฉาก”
แคมโบเดียนิวส์  “ไชโย อิสรภาพมาแล้ว อเมริกาถึงใน 3 วัน”
สารขัณฑ์โพสท์ “ฤาจะสิ้นชาติ ???”

พาดหัวข่าว นสพ. รายวัน วันที่ 24 ธันวาคม 2555
นิวยอร์คไทม์  “เกิดอะไรขึ้น ???”
ลอนดอนไทม์  “กองทัพ US ถูกยึด ? ทัพ UN หยุดเคลื่อนไหวแล้ว”
ปักกิ่งนิวส์ “ไร้เงาเรือรบพิฆาต และ F-14 Tomcats ทั้งฝูง”
ซิดนี่ย์นิวส์ “อเมริกาช็อค  ฝูงรบหายไร้ร่องรอย”
บราซิลทริบูน “จากเบอร์มิวด้า เป็นแปซิฟิคไทรแองเกิล ???”
สารขัณฑ์โพสท์ “นายกฯ ยิ้ม ไม่ตอบคำถาม”

อีกสามวันต่อมา.......      
พาดหัวข่าว นสพ. รายวัน วันที่ 27 ธันวาคม 2555
นิวยอร์คไทม์  “รับไม่มีเงื่อนไข ...โอบามากล่าว”
ลอนดอนไทม์  “อเมริกายอมจ่าย 1 ล้านล้านเหรียญ”
ปักกิ่งนิวส์ “1 ล้านล้าน ค่าไถ่กองทัพทั้งฝูง”
ซิดนี่ย์นิวส์ “อเมริกาซึม จ่ายล้านล้านเหรียญ ขอกองทัพคืน”
บราซิลทริบูน “สารขัณฑ์ทิ้งปริศนาชัยชนะ โลกยังคงตลึง”
สารขัณฑ์โพสท์ “เราจะเป็นผู้กำหนดชะตาโลก”

*************************

อีก 5 ปี ให้หลัง – พุทธศักราช 2560 .........

“พ่อคร้าบ ...ซีวิว 5 คืออะไรครับ” เจ้าหนูนิว ลูกชายโทนของดร. เทวา  อินทราวัย 4 ขวบถาม
“อ๋อ ... นี่คือสินค้าใหม่ฮิตล่าสุดของสำนักงานนวตกรรมแห่งชาติ น่ะลูก มันคือตู้ปลา 5 มิติ ที่ลูกสามารถเห็นได้ทั้งทางด้านตรง 1 ด้าน ด้านข้างซ้าย-ขวา  1 ด้าน ด้านบนอีกด้าน มิติที่สี่คือลูกสามารถเดินเข้าไปสัมผัสภายในตู้ปลาได้โดยตัวไม่เปียก และเมื่อเดินเข้าไปภายใน ลูกก็จะอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนักที่ลดลงถึงครึ่งหนึ่งของน้ำหนักปกติ ทำให้ลูกสามารถแหวกว่ายได้เหมือนอยู่ในน้ำจริง  และมิติสุดท้ายคือลูกจะได้มิติของกลิ่นไอทะเลเมื่อเข้าไปแหวกว่ายภายในตัวมัน”  ดร. เทวามั่นใจว่าได้ตอบคำถามให้สั้นที่สุดแล้ว เพื่อไม่ให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนี้รำคาญต่อคำตอบที่ยาวๆ เขาคิดพร้อม กับถอนหายใจว่า เฮ้อ... เด็กสมัยนี้เก่งจนไม่ฟังใครๆ อีกแล้ว
“เจ๋งจริงเลยพ่อ มันทำได้ไงคร้าบ” นิวซักต่อด้วยความสนใจ
“มันเหมือนโทรทัศน์ติดผนัง 3 มิติเวลาลูกปิดเครื่องนั่นแหละ คือเห็นได้มิติเดียว หากลูกเปิดสัญญาณเครื่อง ...อีก 4 มิติก็จะทะลุออกมาด้วยการปรับอณูอากาศให้เป็นสีและภาพตามโปรแกรมของเครื่อง หากต้องการปลาเพิ่ม ก็ไปซื้อ “อาสา” ปลา (ASA : ADDED SELECTIONS  AQUARIUM) มาใส่เพิ่มเติม รวมถึง“อาสา” อาหารปลาที่ลูกสามารถให้อาหารได้กับมือ” เทวาอธิบาย ด้วยเชื่อว่าลูกชายวัย 4 ขวบของเขาที่มีความพิเศษเหนือเด็กอื่นฟังแล้วต้องเข้าใจ “สนม๊ะลูก... พ่อกำลังคิดว่าจะไปซื้อตู้ขนาดสัก 8 เมตร มาสักตู้ให้ลูกได้เรียนรู้และศึกษาธรรมชาติทะเลไปในตัว”
นิวรีบสวนทันควัน “เอาปลาฉลามด้วยนะพ่อ... แบบดุๆ น่ะ”
ดร. เทวาขยี้ผมลูกด้วยความรัก พูดว่า “ลูกฟังนะ ... การเรียนรู้จากการเลี้ยงสัตว์ ลูกต้องทำด้วยใจรัก ใจอารีย์  มีความเข้าใจและให้ความรักแก่สัตว์เลี้ยง แม้ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงอณูอากาศก็ตาม สัตว์เลี้ยงจะให้คุณกลับสู่ลูกคือความสุขทางใจ และนี่คือสิ่งเดียวเท่านั้นที่รัฐบาลนี้ไม่สามารถจัดหาให้ได้  หากลูกต้องซื้อ “อาสา” ปลาเพื่อปล่อยมันเให้เป็นอาหารปลาฉลาม ลูกคงไม่มีความสุขแน่ใช่ไม๊ ...ที่เห็นอาสาปลาเลี้ยง ที่ลูกรัก ถูกอาสาปลาฉลามกินจนหมด  พ่อว่านะ ลูกไปเลือกดู “อาสา” ปลา  “อาสา” ปะการังต่างๆ ด้วยตัวเองดีกว่า และเลือกซื้อตามคำแนะนำของโปรแกรม“อาสา” นั้นๆ  เอาปลาสวยๆ ที่อยู่ร่วมกันได้โดยไม่เบียดเบียนกันและกัน ดีกว่านะลูก”
“ได้ครับ พ่อ แต่ ... นิวคิดว่า นิวมีความสุขมากกว่าหากได้เห็นปลาฉลามกินปลาตัวใหญ่ๆ” นิวรีบตัดบทเช่นเคย

ดร. เทวาถอนใจเฮือกใหญ่ ทำไมนะ เด็กอายุ 4 ขวบจึงมีความคิดได้เช่นนี้  มันช่างแตกต่างราวฟ้ากับดิน เมื่อเขาอายุเท่าๆ กัน เขาจำได้ว่า เขายังไร้เดียงสา และไม่เคยมีคำโต้แย้งใดๆ กับพ่อเขาเลยเมื่อเขาอายุได้ 4 ขวบ ... เกิดอะไรขึ้นกับเด็กสารขัณฑ์รุ่นใหม่??? หรือ สารขัณฑ์แลนด์ทำอะไรผิดพลาดลงไป???  ไม่น่ะ ... เทคโนโลยีของเรา...  คุณภาพชีวิตของเรา...ล้ำหน้ากว่าประเทศอื่นๆ ไม่ต่ำกว่า 100 ปี   แน่นอน หรือว่าเป็นเพราะว่าแร่ธาตุ “นาโก้  (narco)” ที่เขาค้นพบเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว .....มันทำให้เขาต้องทบทวนอดีตอีกครั้งหนึ่งว่า “นาโก้”  เกิดขึ้นเพราะความอัจฉริยะหรือเพราะความโลภในลาภยศของเขากันแน่???

*************************

24 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2552  เมืองโคบา ประเทศเม็กซิโก

ศาสตราจารย์ ปิแอร์ ปาเชอร์ นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยปารีส ขณะกำลังหมกมุ่นสั่งการให้ใช้ความระมัดระวัง และพิถีพิถันอย่างสูงต่อการขุดโบราณวัตถุล้ำค่า ที่เป็นภาพสลักบนแผ่นหินของชาวมายาก่อนประวัติศาสตร์อยู่นั้น ผู้ช่วยชาวเม็กซิกันคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบพูดด้วยเสียงระล่ำระลักปนด้วยความตื่นเต้นสุดขีดว่า
“ศาสตราจารย์ ปิแอร์ ครับ บริเวณซากตึกหินโบราณ ...เราพบทางเข้าแล้วครับ”
“พระเจ้าเข้าข้างเราแล้ว  หลังจากเพียรเสาะหามาเกือบปีเต็มๆ  พาผมไปเดี๋ยวนี้เลย”

บริเวณนั้นดูเหมือนเป็นทางเข้าถ้ำบนเนินเขาเล็กๆ ที่ปกคลุมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่บนโขดหินเต็มไปหมด  พวกเขาต้องเดินด้วยความระมัดระวัง เพราะความมืดและทางเดินที่ลาดชันปนความเปียกชื้น เมื่อเดินมาได้พักใหญ่ก็พบว่า ขณะนี้พวกเขาอยู่บนลานกว้างแห่งหนึ่งภายในถ้ำ ที่ผนังถ้ำมีภาพวาดฝีมือของชาวมายาโบราณ แสดงเป็นภาพปิรามิด ภาพอาคารสูงที่มีทรวดทรงสวยงามตระการตา  และภาพที่ทุกคนต้องตกตะลึง คือภาพยานพาหนะรูปร่างแปลกประหลาด พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ของยาน ที่มีรูปร่างคล้ายจอเรด้าห์ บอร์ดระบบควบคุมการบิน เป็นต้น  นอกจากนี้ ยังมีรูปปั้นกึ่งวัฒนธรรมอิยิปต์โบราณอีกมากมาย  แต่มีอยู่รูปปั้นหนึ่งที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่หลังสุด ที่ดูแปลกไม่เหมือนรูปปั้นอื่น  ศาสตราจารย์ ปิแอร์ ปาเชอร์ เดินเข้าไปสังเกตอย่างใกล้ชิด พบว่าเป็นรูปปั้นคนที่มีขนาดเท่าคนจริง ยืนอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมที่เขียนไว้ว่า “ไตรภพ”  

รูปปั้นนั้น  มีแผ่นหินรูปร่างเหมือนหนังสือวางอยู่บนมือทั้งสองข้าง มีลักษณะเหมือนกำลังยื่นส่งให้แก่อีกคนหนึ่ง   ปกหนังสือเขียนไว้ว่า “ดึง”

ศาสตราจารย์ ปิแอร์ ปาเชอร์ ดึงก้อนหินก้อนนั้นเข้าหาตัวโดยไม่ลังเล มันหลุดติดมือเขาออกมาอย่างง่ายดาย  

ทันใดนั้น ฐานของรูปปั้นเริ่มขยับออกไปยังด้านหลังเหมือนถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องกล และกล่องสมบัติโบราณก็ลอยขึ้นจากใต้พื้นดินมาแทนที่ มันช่างง่ายดายเสียเหลือเกินจนเขาประหลาดใจ ...หรือว่านี่คือเจตนาที่จะให้เขาได้ค้นพบสิ่งนี้? เมื่อเปิดกล่องใบนั้น เขาพบว่ามันคือหนังสือ 5 เล่ม 5 ภาษา คือ ภาษาจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และภาษาเสปญ ทั้ง 5 เล่ม อยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยม ศาสตราจารย์ ปิแอร์ ปาเชอร์ เปิดอ่านทันที


เรียนประชาชาวโลก

ขณะที่ท่านกำลังอ่านบันทึกนี้ ควรจะเป็นปีพุทธศักราช 2552  ปีที่ประเทศสารขัณฑ์ได้กลายเป็นตำนานของชาวโลกไปแล้ว…..

ผมคือ จ้าวไตรภพ  อินทรา ประชาชนที่มีสถานะฐานันดรอันดับสูงสุดของประเทศสารขัณฑ์

 อาณาจักรของพวกข้าพเจ้า เลิกเขียนหนังสือมานานมากแล้ว  เราบันทึกทุกอย่างด้วยพลังคิด  (auto-writing)ที่ให้ทั้งภาพ ทั้งอารมณ์เลียง และความรู้สึก  ที่ถูกเก็บรักษาด้วยระบบและเทคโนโลยีที่ชาวโลกทุกคนไม่สามารถคาดคิดได้เลยว่าจะเป็นไปได้  แต่....ทำไมข้าพเจ้าถึงต้องทำบันทึกนี้เป็นลายลักษณ์อักษรด้วยล่ะ?  นั่นเป็นเพราะว่า ข้าพเจ้าต้องการทำความจริงให้ปรากฏต่อชาวโลกในสิ่งที่พวกท่านสามารถเข้าถึงได้ และศึกษามันได้

ความเป็นอมตะคือสิ่งที่พวกท่านใฝ่ฝันและเสาะแสวงหามาโดยตลอด  ...เราชาวสารขัณฑ์ช่วยได้ ณ. ระดับหนึ่งที่จะทำให้พวกท่านมีอายุยืนนานได้ถึง 200 ปี ในอีก 150 ปีข้างหน้า  เพื่อว่าพวกท่านจะสร้างโลกใบนี้ ให้สวยสดงดงามยิ่งๆ ขึ้น ตลอดไป

เมื่อท่านอ่านจบ พวกท่านจะได้รับทราบว่า  “พวกเรามีจริง” นับจากนี้ไป ...เราจะแวะมาเยี่ยมเยียนท่าน โดยที่พวกท่านจะไม่มีทางรับรู้ได้เลย

ด้วยความรักและปรารถนาดี
จ้าวไตรภพ อินทรา  
22 ธันวาคม พ.ศ.  2699

ข้าพเจ้า  จ้าวไตรภพ  อินทรา.... ขอเล่าย้อนหลังกลับไป 147 ปี ก่อนหน้านี้   ณ. บัดนี้
จ้าวไตรภพ  อินทรา

จากคุณ	: จงหยาง
เขียนเมื่อ	: 24 ส.ค. 52 12:43:43