Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บ้านสีขาว ประตูสีอิฐ และรั้วสีม่วง ตอนที่ 8 : งานบายเนียร์ที่น่าอายที่สุดในชีวิต  

ตอนที่ 8 : งานบายเนียร์ที่น่าอายที่สุดในชีวิต


เมื่อเอ่ยถึงงานบายเนียร์ปุ๊บ สิ่งแรกที่แต่ละคนจะคิดถึงก็คือเสื้อผ้าสวยๆ ที่ต่างจะงัดขึ้นมาประกวดประขันความงามกันในค่ำคืนนั้น อาหาร และการแสดงที่สนุกสนานใช่ไหมคะ แต่งานบายเนียร์สำหรับอินนั้น มันก็ไม่ต่างอะไรกับงานเลี้ยงงานหนึ่งที่เริ่มขึ้นในตอนค่ำ และก็จบลงในตอนที่ยงคืน เพื่อให้บรรดานางซินทั้งหลายถกกระโปรงวิ่งตาลีตาเหลือกขึ้นรถม้า (รถมอร์เตอร์ไซค์ประจำตำแหน่งของแต่ละคนไงคะ) แล้วควบปุเลงๆ กลับหอให้ทันก่อนที่พรวิเศษของนางฟ้าประจำหอในแต่ละหอจะจบลง (พรวิเศษของนางฟ้าที่อินว่า คือการที่หอหญิงหอในใจดียอมเปิดประตูหอรอรับสาวๆกลับเข้าไปซุกหัวนอนตอนเที่ยงคืนค่ะ)


อินลองมานั่งคิดๆ ดูแล้วนะคะ ไม่มีงานบายเนียร์ครั้งไหนจะไม่เสียสตางค์เลย ถ้าไม่ใช่เสียเงินค่าจัดงาน ก็จะต้องเสียเงินค่าชุด แม้แต่งานบายเนียร์ของจังหวัดอินก็เถอะน่า อินได้ไปร่วมอยู่ครั้งเดียวก็ตอนที่อยู่ปีหนึ่งเท่านั้น จัดที่โรงแรมในเชียงใหม่นั่นล่ะค่ะ เงินค่างานไม่เสียหรอก เพราะจังหวัดของอินไม่เคยมีนโยบายให้ใครต้องควักตังค์ แถมเงินที่เราเอามาจัดงานกันนั้น ก็เป็นเงินที่เราเหลือกันมาจากงานของจังหวัดอีกที นี่ลำปางเขารวยกันอย่างนี้ เพื่อนอินจังหวัดอื่นเขาได้แต่อิจฉากันเป็นทิวแถว


งานบายเนียร์จังหวัด ทุกคนตั้งแต่รุ่นพี่ยันรุ่นน้องมีความสุขกันถ้วนหน้าค่ะ เดินถือแก้วเหล้าแก้วเบียร์จิบทักทายกันทั่วงาน ประหนึ่งว่าทุกคนเป็นเซเลบ เป็นไฮโซมาจัดงานสังสรรค์กันก็ไม่ปาน ใครใคร่หัวสูงขึ้นมาอีกนิดนึงด้วยการอยากจิบไวน์ ที่งานเขาก็มีให้ค่ะ อินเองก็เป็นพวกขอจิบไวน์แกล้มไก่ต้มข่ากะเขาด้วย (เข้ากั๊น เข้ากันเนอะ) ไม่ใช่เพราะหัวสูงอะไรหรอกนะคะ เพราะอินกลัวใจคนผสมเหล้าส่งให้อินนั่นล่ะ รุ่นพี่วิศวะทั้งนั้น แล้วแต่ละท่านนี่มือเบากันเสียเมื่อไหร่ ผสมซะหนาเชียว ขืนดื่มมากไปกว่านี้ล่ะก็ มีหวังได้เมาพับหลับคางานล่ะค่ะทีนี้ หอเหอไม่ต้องกลับมันแล้ว


ส่วนงานบายเนียร์ของเมเจอร์อินนั้น แทบร้องไห้เลยค่ะ เพราะมันต่างกันลิบลับราวฟ้ากับเหว ถ้างานบายเนียร์จังหวัดเป็นงานไฮโซนะคะ งานบายเนียร์เมเจอร์ก็งานแบบลูกทุ่งล่ะค่ะงานนี้ เหล้าเบียร์อะไรอย่าหวังว่าจะมีนะคะ ฝันไปเถิด เพราะจัดงานกันที่หน้าซุ้มภายในมหาวิทยาลัย แถมอาจานย์ที่ภาควิชาท่านก็นั่งร่วมงานเป็นเกียรติเป็นศรีกันให้พรึ่บขนาดนั้น เรื่องสุรากินเป็นระยะๆ เป็นอันพับไปได้ค่ะ ตอนนี้ก็กินกับแกล้มกันเข้าไปก่อนละกัน เดี๋ยวค่อยหายอดข้าวตามตบท้ายตอนเที่ยงคืนเอาก็ได้      


เห็นอินพูดอย่างนี้ แต่อินไม่ใช่คนที่พิสมัยการดื่มเหล้าเป็นอาจิณนะคะ นานๆ ก็มีกันบ้างนิดนึง ไม่เกินสามแก้วเท่านั้นค่ะ อ้อ! แล้วสามแก้วที่อินว่านี้คือ ตั้งแต่งานเริ่มจนงานเลิกนะคะ แหม..คนเรา ริจะดื่มทั้งทีก็ต้องทำตัวเองให้ยังสามารถเดินสองขา พูดจารู้เรื่องเป็นคนกันหน่อย ไม่ใช่งานเริ่มเป็นคน ตอนจบแปลงร่างไปคลานสี่ขา พูดจาอ้อแอ้ ปะเหมาะลงไปนอนทะเลาะกับสุนัขซะงั้น ไม่เอาค่ะ อันนี้เสียภาพพจน์อย่างแรงทีเดียว



งานบายเนียร์ตอนปีหนึ่งของเมเจอร์ไทยนั้น อินไม่ค่อยสนุกสนานอะไรกับมันมากนักหรอกค่ะ เพราะช่วงปีหนึ่ง อะไรๆ หลายอย่างก็ยังอึมครึมกันอยู่ สืบเนื่องมาจากการล้มห้องเชียร์นั่นเองค่ะ อินก็กิน กิน และกิน แล้วรอเวลากลับหอเท่านั้น แต่อินไพล่ไปสนุกกับงานบายเนียร์ของจังหวัดเสียมากกว่า
พอตอนปีสอง ทีแรกอินว่าจะไม่ยุ่งเรื่องงานบายเนียร์ของเมเจอร์แล้วเชียว แต่ก็ขัดมติคนหมู่มากไม่ได้ค่ะ นอกจากปีสองจะต้องมาเป็นกึ่งๆ :-)านช่วยปีสามจัดงานแล้ว ปีสองอย่างอินจะต้องมารับผิดชอบเรื่องการจัดการแสดงในงานด้วย คอนเซปต์ของงานปีนั้น อู๊ย....ได้แต่งตัวไฮโซมากค่ะขอบอก ไม่เชื่อลองดูชื่อ Theme ของงานสิคะ “ Back To School ”  คิดภาพกันออกเลยใช่ไหมคะว่าชุดที่ใช้ในงาน พึงจะเป็นชุดอะไร


ลำพังรุ่นน้องปีหนึ่ง เพิ่งออกมาจากรั้วโรงเรียนได้ไม่ถึงปี จะให้น้องเขาแต่งชุดนักเรียนมาร่วมงานก็ไม่เท่าไรหรอกนะคะ แต่ไอ้พวกแก่ๆปีสอง ปีสาม นี่สิ ชุดนักเรียนไม่รู้เอาไว้ที่ไหนกันหมดแล้ว ของอินอินก็ต้องกลับมาคุ้ยกล่องเป็นอีบ้าอยู่ที่บ้าน เพื่อให้คุณพ่ออินถามว่า


“อะไรเนี่ย กลับมาบ้านก็มารื้อบ้านให้รกซะแล้ว หาอะไรอยู่ไอ้ลูกพ่อ”


“หาชุดนักเรียนสิพ่อ งานบายเนียร์ปีนี้จะให้แต่งชุดนักเรียนไปงาน ขำพิลึกล่ะ”


“เรียนมหาวิทยาลัย แล้วจะกลับไปใส่ชุดนักเรียน เอ้อ..ท่าจะขำดีเนอะ แล้วหาเจอหรือยัง เอาชุดตอนที่เรียนอนุบาลมั้ย หรือจะเอาชุดเอี๊ยมตอนอยู่ประถมดี”


คุณพ่ออินท่านลงมานั่งคุ้ยกล่องเสื้อผ้ากับลูกสาวด้วยค่ะ แล้วแต่ละกล่องที่คุ้ยเจอ ก็จะเจอแต่ชุดสมัยที่อิน 3 ขวบบ้าง 7 ขวบบ้าง คุณพ่อก็จะหยิบขึ้นมาทาบตัวแล้วล้อเล่นเอาประจำเลย


“โห พ่อ แล้วจะใส่ได้ไหมนั่น แขนข้างนึงยังยัดไม่ลงเลย”


“อ้าว! แล้วจะใส่ชุดไหน ไอ้ตัวดี ชุดนั้นก็ไม่ ชุดนี้ก็ไม่”


“ก็หาได้สามชุดแล้ว ชุดตอน ม. ต้น แต่หูกระต่ายหาย ชุดยุวกาชาด ชุดนี้ดีหน่อยครบทั้งหมวก ทั้งผ้าพันคอ เข็มขัด เข็มกลัด แล้วก็เนี่ยชุดตอน ม. ปลาย ล่าสุด แต่เข็มขัดไม่เหลือแล้ว มีดีอยู่ก็ชุดยุวนี่ล่ะ เรื่องรองเท้าไม่มีปัญหา ใช้ผ้าใบแทนก็ได้”


“ยุวเลยเร้อ... เด็กไปหน่อยมั้งอิน ไม่อายเพื่อนเหรอ”


คุณพ่ออินมองชุดยุวของอินแล้วทำหน้าปุเลี่ยนๆ เต็มที ก็น่าอยู่หรอกค่ะ เพราะชุดนั้นน่ะชายกระโปรงมันสั้นขึ้นเยอะเลย ตอนที่อินใส่พอดีนั่น อินสูง 165 แล้วตอนที่อินอยู่มหาวิทยาลัย แล้ววางแผนจะเอากลับมาใส่อีกทีน่ะ อินสูงขึ้นจากเดิมตั้ง 10 ซม. คิดดูเอาแล้วกันว่ามันจะสั้นขึ้นไปอีกแค่ไหน อินมองตามแล้วก็ยิ้มแหยเหมือนเพิ่งนึกได้


“แฮ่...งั้นชุดม.ปลายก็ได้พ่อ เข็มขัดก็เอาเข็มขัดคณะนั่นล่ะ กระแทกชายเสื้อมาบังๆ ไว้หน่อยก็ได้ หรือไม่ก็ประยุกต์ชุดใหม่แบบการ์ตูนญี่ปุ่นซะเลย”
แต่ทุกอย่างที่อินคิดว่าจะทำ และที่ลงทุนลงแรงไปค้นชุดนักเรียนคราวเนี้ย มีอันต้องแห้วและเสียเวลาเปล่าไปซะงั้นค่ะ ไม่ใช่เพราะเมเจอร์อินเขาเลิกล้มคอนเซปต์นี้นะคะ คอนเซปต์พิลึกนี่ยังอยู่ครบถ้วนเหมือนเดิมไม่ไปไหน ที่เปลี่ยนน่ะ คือหน้าที่ของอินต่างหาก



จากเดิมนั้น อินมีหน้าที่แค่ต้องช่วยจัดเวที และจัดสถานที่เท่านั้น ถ้าเสร็จงานเร็วก็กลับไปหอเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมล้างท้องมากินอย่างเดียว อ้อ..เตรียมของขวัญให้ป้ารหัสด้วย ในฐานะสายรหัส เสร็จจากหน้าที่พวกนี้ ก็จบแล้วค่ะ เรื่องอาหารไม่มีปัญหาสั่งมาจากข้างนอกเรียบร้อยแล้ว แต่เช้าวันจันทร์วันนั้น ทันทีที่อินโผล่หน้าเข้าไปในห้องเรียน ยังไม่ทันได้นั่งดีเลย เพื่อนอินก้ปราดเข้ามานั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆทันที  สายตายัยมดนี่เป็นประกายระยิบระยับอย่างน่ากลัว (แทนที่มันจะดูน่ารัก หรือดูอ้อนๆ เหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นที่ชินจังชอบส่งสายตาอ้อนมิซาเอะ แล้วพูดแม่ค้าบ อย่างนั้นนะคะ)


“เพื่อนอิน เพื่อนอินว่างมั้ย”


“เอ่อ..ก็..ก็ว่างอ่ะนะ มีอะไรป่าว”


อินพูดไปชักเริ่มขยับถอยหนีทีละนิดๆ เพราะพูดไปยายมดชักจะเริ่มถึงเนื้อถึงตัว ถ้าไม่ติดว่าต่างคนต่างนั่งเก้าอี้นี่ สงสัยแทบจะเกยขึ้นมาบนตัวอินแล้ว ปกตินี่อินชอบนะ เวลาที่เพื่อนผู้หญิงของอินพูดไปแล้วมือไม้เลื้อยขึ้นมาที่แขนอินเนี่ย แต่เช้าวันนี้แทนที่อินจะรู้สึกดี รู้สึกสดชื่นเหมือนเคย กลับดูสยองขวัญสั่นประสาทอย่างไรชอบกล


“วันบายเนียร์ เพื่อนอินต้องขึ้นเวทีแสดงนะ ทำได้ไหม”


พุทโธ่..นึกว่าเรื่องอะไร แม่เล่นซะใจหายใจคว่ำ อินค่อยฉีกยิ้มออกมาได้หน่อย


“ก็ได้ จะให้ทำอะไรล่ะ”


“เต้น..”


เต้นเหรอ ฟังคำตอบนี้อินชักลำบากใจขึ้นมาเหมือนกันแฮะ แต่ยังไม่อยากตัดรอนออกไป


“อ๋อ..เต้นแข็งแรงๆแบบผู้ชายใช่ไหม ได้”


“เปล่า ฉันจะให้แกเต้นเพลงนี้ Baby One More Time ของ Britney Spears แกตกลงแล้วนะ เย็นนี้ไปซ้อมด้วย”


*** มีต่อค่ะ

จากคุณ : อินทรายุธ
เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:22:29




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com