ผมเกลียดกาแฟ
กาแฟแก้วแรก ทำให้ผมหลงไหลในรสชาติ
รสชาติขมจางๆ หากแต่หอม นุ่ม ละมุนลิ้น ของครีัมม่าสีทอง เนื้อละเอียด หนา ที่ลอยอยู่บนน้ำกาแฟสีดำ บิดความรู้สึกอันเฉื่อยชาด้านราวหุ่นยนต์ของผม ให้กลายเป็นพยัคฆฺ์ลำพอง ผู้พร้อมล่าเหยื่อ
ให้ผมกลายเป็นพญาอินทรีย์ทะยานฟ้า สาดสายตาคมกริบได้ยาวไกล เห็นเหยื่อตัวน้อยที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ร่มเงาไม้ แม้ห่างไปนับร้อยๆเมตร
ผมเกลียดกาแฟ ...
กาแฟแก้วที่สอง
ทำให้พลังภายในของผมลุกโชติช่วง
กาแฟแก้วที่สอง ทำให้ประสาทความรู้สึกของผม มั่นคงดุจกำแพงเหล็กกล้า มือผมนิ่งสนิท จนคนอื่นเห็นได้ชัดเจน จากแสงสะท้อนบนปลายมีดแหลม บางเบา คมกริบ เงาวับ ที่ผมจับเพื่อเชือด เฉือน กรีด ปาด แทง เนื้อคนที่อยู่เบื้องหน้า
ไม่มีการสั่น ไม่มีการลังเล ไม่มีความผิดพลาด
กรีด ปาด เชือด เฉือน แทง
ทุกมีด ล้วนแม่นยำ
ไม่มีผิดพลาดเป้าแม้แต่เสี้ยวของมิลลิเมตร
แม้ใจจะสั่นระรัว
ยามเห็นเลือดสดๆ ไหล่เอ่อขึ้นมาแดงฉานอยู่ตรงหน้า
ทุกอย่าง เกิดขึ้นได้ เพราะกาแฟแก้วที่สอง
กาแฟแก้วที่สอง
บ่อยครั้งเหลือเกิน ที่มันนำผมไปสู่แก้วที่สา่ม อันน่าหวาดหวั่น และยากปฏิเสธ
ผมเกลียดกาแฟ ...
กาแฟแก้วที่สาม ทำให้ผมตา้ค้าง มือสั่นเล็กน้อย
ทำให้ผมต้องสูดลมหายใจยาวๆ ลึกๆ บ่อยครั้งขึ้น
หัวใจจะได้เต้นช้าลง มือจะได้นิ่งขึ้น
ทุึกคมมีดที่กรีดลงบนเนื้อหนังคนที่อยู่ข้างหน้า จะต้องไม่พลาดเป้า เสียแรงเปล่า
แม้ภายในจิตใจ จะยังสั่น เพราะกลิ่นคาวเลือด จะตีกับกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นในจมูก
ผมเกลียดกาแฟ ...
นี่มันเจ็ดโมงเช้าแล้วนะ
แต่ผมต้องมายืนอยู่หน้าร้านกาแฟใต้ตึก รอคอยฝนตกหนัก ที่กำลังซาเม็ดลง
อย่างเดียวดาย
สาวน้อย เธอบอกว่าจะมาแต่เช้านี่นา
นี่เจ็ดโมงแล้ว ทำไมยังไม่มา
สายลมหวนกรรโชกแรงขึ้นเป็นครั้งคราว
เป็นสัญญาณบอกว่า เหล่าเมฆฝนเริ่มลาลับจากพื้นที่ที่ผมยืนคอยอยู่
สายลมพัดพาละอองฝนเม็ดน้อย ปลิวเข้ามาชายคา
ผมหนาว และเหนื่อย
คิดถึงสาวน้อย คนที่ผมรักปานดวงใจ แทบใจขาด
อยากโอบเธอไว้ในอ้อมแขน
ให้หายหนาว หายเหนื่อย หายล้า
ได้กอดเธอซักครั้ง หอมแก้มเธอซักฟอด
ความบ้าคลั่งของผม อันตรธานหายในพริบตา
หากชีวิตจริง โลกนี้ มันโหดร้ายนัก
ผมถอนใจ
มองดูหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ซึ่งผมรู้จักดีทั้งคู่
กางร่มให้กัน เดินคุยกันอย่างมีความสุข มาที่ร้านกาแฟ
ผ่านผมไปโดยไม่ทันสังเกตุ
"ความรัก มันหวานแหววปานนี้เชีัยวหรือ" ผมคิดในใจอย่างคลุ้มคลั่ง
"หึ หึ ทำเป็นมองไม่เห็นเรา
เดี๋ยวเหอะ จะเชือดให้ยับทั้งคู่"
สาวน้อย คนที่ผมรัก และหลงจนคลั่ง
เดินมากับชายหนุ่มอื่น
ที่มีดีแค่หน้าตาเกลี้ยงเกลา ใสๆ
ลืมนัดที่มีกับผมแล้วหรือไร
ผมยืนคอยเหยื่ออย่างอดทน
ประสาทผมยามนี้ ไม่ต้องพึ่งกาแฟแล้ว
มีเหยื่อผ่านมาแบบนี้ ทุกประสาทความรู้สึกล้วนตื่นตัว
แดดอ่อนๆ ยามเช้า ส่้องผ่านซอกตึก
ล้่อเล่นกับหยาดน้ำฝน
อากาศบริสุทธิ ปราศจากฝุ่น และหอมสดชื่น
ประตูร้านกาแฟเปิดออก
คู่รักทั้งสองคน เดินออกมา ต่างถือกาแฟร้อนคนละแก้ว
กลิ่นกาแฟบดใหม่ๆ หอมกรุ่น ลอยออกมา ผสมผสานกับกลิ่นหอมของอากาศหลังฝนยามเช้า
แสงแดดที่สะท้อนหยาดน้ำฝน ระยิบระยับ เปล่งประกายสู่หางตาหญิงสาว
เธอเหลือบมามองความงาม
ก่อนแลเห็นผมที่หลบมุมไม่ให้ใครเห็นถนัดๆ
ก่อนยิ้มหวานแบบประจบประแจงเต็มที่ให้ผม
"ไม่ต้องมาทำยิ้มประจบ เมื่อกี้ทำเป็นมองไม่เห็น อย่านึกว่าจะรอด"
ผมคิดในใจอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ความโกรธรวมกับความเหนื่อยล้า และกาแฟสามแก้ว ทำให้ผมเริ่มบ้าเลือดขึ้น
"จะเชือดให้ดิ้นทั้งคู่"
"สวัสดีครับ" ชายหนุ่มคงรับรู้่ความโกรธในใจของผม จึงยิ้มแหยๆ กล่าวทักทายสั้นๆอย่างอ่อนน้อม
"ฮึ่ม มรึงอาศัยว่าถือแก้วกาแฟ กะกางร่มอยู่ใช่ไหม เลยถือโอกาสเนียนๆ ไม่ไหว้กรู" ผมเริ่มตาขวางมากขึ้นเรื่อยๆ
กลิ่นกาแฟที่ลอยออกมาจากแก้วในมือทั้งสองคนนั้น ทำให้ความบ้าคลั่งของผมเริ่มมีฤทธิรุนแรงมากขึ้น ความยับยั้งชั่งใจน้อยลง
ผมเกลียดกาแฟ
โดยเฉพาะกาแฟแก้วที่สี่ ของวัน
มันจะเร่งเร้าประสาทผมจนถึงที่สุด
หู ตา จมูก สัมผัส
ทุกประสาทรับความรู้สึก ล้วนทำงานโอเวอร์ลิมิท รับรู้ได้แม้ปลายเส้นขนใต้มีด ที่ขยับผิดตำแหน่ง
มันทำให้ผมเหนื่อย และบ้าคลั่ง
ใบมีดคมกริบ เงาวับในมือผม จะกรีดเนื้อ เร็วขึ้น
เร็วขึ้น เร็วขึ้น และเร็วขึ้น จนทื่อและต้องทิ้ง เปลี่ยนมีดใหม่ในเวลาเพีัยงชั่วอึดใจ
หนุ่มสาวในชุดแพทย์เบื้องหน้าผม ทั้งสองคนต่างรู้ดี
ว่า กาแฟแก้วที่สี่ของวัน ทำผมเป็นอย่างไร
แต่กระนั้น ไอ้หนุ่มหน้าอ่อนเบื้องหน้า ก็ยังอยากจะลองดีักับผม
ทำยิ้มประจบประแจงเต็มพิกัด ยื่นแก้วกาแฟ ที่มันถือมาในมือให้ผม!!!
"เอกเพรสโซ่ดับเบิ้ลช็อตครับ ไม่ใส่อะไรเลย น้องเพลงบอกว่าอาจารย์ชอบแบบนี้ เดี๋ยวผมเข้าไปสั่งใหม่ได้ครับ"
"มรึง!!!! มรึงท้ากรูเหรอ"
ผมหน้าหงิก
ก่อนเอื้อมมือออกไป คว้าแก้วกาแฟ
ก่้อนถูกสาวน้อยเบื้องหน้า แย่งคืน จนกาแฟหกไปครึ่งหนึ่ง
ผมมองตามหยาดน้ำอมฤตอันกลั่นจากสีรัตติกาล ที่หกลงบนพื้นปูนหยาบกระด้าง กระเซ็นไปรวมกับหยาดน้ำฝนยามเช้าอันใสแจ๋วบนยอดหญ้า
ก่อนช้อนตาขวางขุ่นขึ้นมองแม่ตัวต้นเหตุ
ก่อนข่มความรู้สึก อยากต่อยหน้าไอ้หนุ่มคางใสที่ยืนยิ้มแห้งๆ ให้ยับคามือ
ก่อนที่จะ ...
สาวน้อยทำหน้าหงิก พร้อมตวาดกลับเบาๆ อย่างดุเดือด
"คุณพ่อกินกาแฟมากเกินไปแล้วนะคะ
เพลงรู้นะ
เมื่อกี้เพลงขึ้นไปดูคนไข้หลังผ่าตัด
พี่พยาบาลเขาฟ้องว่า เมื่อคืน คุณพ่อผ่าคนไข้อุบัติเหตุไปสามราย ก็กินไปแล้วสามแก้ว
ลงมานี่ คงจะมาหาแก้วที่สี่ใช่ไหมหละ"
ผมเงียบ
"เช้านี้ น้องเพลงไม่ให้คุณพ่อกินอีกแล้ว
เดี๋ยวจะไปบอกให้ห้องผ่าตัด เอาเคสที่คุณพ่อจะผ่าให้พี่เพชรทำแทน
คุัณพ่อไปนอนพักผ่อนก่อน
ถ้าอยากทำงาน ก็แค่สอนพวกเด็กๆนักศึกษาแพทย์อย่างเดียวพอแล้ว! "
ผมเงียบกริบ
ไอ้หนุ่มคางใส ทำหน้าตาเลิ่กลั่ก ที่โดนโยนงานใส่แบบไม่รู้ตัว
"ห้ามดื้อกับน้องเพลงเด็ดขาด" เธอหันไปมองน้าไอ้หนุ่มสมองกลวงด้วยสายตาจอมเผด็จการ ก่อนหันมองหน้าผมเต็มๆ พร้อมออกบัญชาประกาศิตด้่วยเสียงที่แม้จะหวาน แต่ดัง ชัดเจน ไม่มีวี่แววล้อเล่นในน้ำเสียง แม้เพียงน้อยนิด เข้าโหมดอาจารย์แพทย์รุ่นใหม่ไฟแรง เฮี้ยบ เนี้ยบ ดุ เต็มพิกัดร้อยเปอร์เซนต์
คนที่ยืนอยู่ใต้ชายคาหันมองหาต้นเสียงที่ทั้งหวาน ทั้งดุ ทั้งข่มขู่ กันทุกคน
ก่อนหันไปยิ้มให้กันเงียบๆ เมื่อเห็นชัดว่าเป็นเสียงใคร ดุใคร
ผมเงียบ จ๋อยสนิท
คอตก
มองกาแฟแก้วที่สี่ ที่หกหายไปครึ่งหนึ่ง ตาปรอยๆ
.. ก่อนเหลียวหน้ามองคนรอบๆ ขอความเห็นใจ แม้รู้ว่า ไม่มีใครกล้าช่วยเหลือ
.. ก่อนเงยหน้าขึ้นมองเคาเตอร์ในร้านกาแฟ อย่างโหยหา สบตาคนชงกาแฟตาปรอยๆซ้ำสอง .. ตัวเอ๊ง เค้าหิวกาแฟนะตัว ...
"เดี๋ยวน้องเพลงจะตามขึ้นไปหอมแก้มคุณพ่อในห้องพัก สิบฟอดเลยเอ้า!" เสียงดุๆ กลายเป็นเสียงกระซิบเบาๆอย่างหวานๆ ประจบประแจงเฉกเช่นที่เคยเป็นมานับสิบปี
.. ก่อนพยักหน้า หมุนตัวกลับ เพื่อเดินขึ้นตึกไปนอนพักผ่อน เพื่อเตรียมสอน ตามคำสั่งของสาวตัวน้อยๆของผม ... แต่โดยดี
"ยี่สิบฟอด" ผมพึมพำต่อรองเบาๆ
แน่หละว่า เธอต้องได้ยิน
เราสองคนผูกพันกันจนแค่ขยับริมฝีปาก ไม่ต้องออกเสีัยง ก็รู้แล้วว่า จะพูดอะไร
แต่ผมต้องพูด
เพื่อให้ไอ้หนุ่มเบาเต็ง ที่ยืนเก๊กทำท่าหล่อนั่น ได้ยินชัดๆ
จะได้รู้ว่า เธอรักผมมากกว่ามัน
เสียงไอ้หนุ่มไล่ตามมา
"อาจารย์ไม่ต้องกังวล นอนพักเถอะครับ ผมทำสไลด์สอนชุดใหม่ไว้ อาจารย์เอาไปใช้ได้เลย"
ผมเกลียด ...
ไอ้หนุ่ม
คนที่ถือ
... กาแฟ
แก้วที่สี่
่
มากๆ
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 09:50:26
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 09:44:19
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 09:34:03
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 09:24:34
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 09:15:00
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 09:10:41
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 09:01:02