ความคิดเห็นที่ 1 |
สี่ทุ่มกว่าแล้ว เมื่อปัญชยาจูงมือน้องภูมิลัดเลาะตัวตลาดเงียบเชียบไปยังท่ารถตู้ หล่อนปฏิเสธบิดาที่อาสาขับรถไปส่ง เพราะพรุ่งนี้ชัยยายังต้องตื่นเช้าไปทำงานครึ่งวัน หญิงสาวไม่อยากให้บิดาเหน็ดเหนื่อย
โชคดีที่มีรถตู้เข้ากรุงเทพฯ ถึงเที่ยงคืน เพราะหนุ่มสาวโรงงานซึ่งมีบ้านหรือพักอยู่กรุงเทพฯ จำนวนไม่น้อยนิยมทำงานล่วงเวลากัน
หากพอเดินพ้นตลาด และต้องเดินผ่านสี่แยกไฟแดงอีกเพียงนิดเดียวก็จะถึงท่ารถตู้ รถปิกอัพติดสติกเกอร์เปิดเครื่องเสียงกระหึ่มก็แล่นมาจอดเทียบข้าง ๆ ปัญชยากับเด็กชายที่เดินอยู่บนฟุตบาท
หญิงสาวหยุดมองเพราะรู้ว่าใคร เมษก้าวลงจากรถ ตาคมมองหล่อนไม่วาง
พ่อให้ไปส่ง ขึ้นรถสิ เขาว่า
ไม่ต้องหรอก ฉันกลับเองได้ หญิงสาวบอก เด็กหนุ่มจุปาก
จะกลับยังไงละ นี่ดึกแล้วนะ รถเมล์ก็หมดแล้ว
ปัญชยาหรี่ตานิดหนึ่งเพราะรู้สึกผิดปกติ ถ้าชัยยาบอกให้เมษไปส่งหล่อนจริง ก็น่าจะบอกว่าปัญชยาจะโดยสารรถตู้กลับ...
ฉันจะกลับรถตู้
นั่งรถผมไปสบายกว่า เด็กจะได้นอนด้วย เมษไม่ยอมแพ้ เขามองเรือนร่างบอบบางในชุดทำงานสีฟ้าอ่อนอย่างพึงใจ
ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจมาก ปัญชยาพูดเรียบ ๆ กระตุกมือน้องภูมิทำท่าจะออกเดินต่อ แต่เมษก้าวเข้ามาขวางไว้
อย่าเล่นตัวหน่อยเลย เขาเสียงดัง ทำไม ไม่อยากเสวนากับลูกเมียน้อยเหรอไง
ถอยไป หญิงสาวพูดเสียงต่ำ ตากลมวาววับ แสดงให้รู้ว่าหล่อนไม่กลัวเขา เมษยิ้มแสยะ...เป็นรอยยิ้มที่ปัญชยาไม่ชอบใจเลย
อ้อ ทำเป็นเก่ง เขาตะคอก ใช่สินะ ลูกเมียหลวงนี่เก่ง ๆ กันทั้งนั้น ทำเชิดหยิ่งยโสดีนัก วันนี้ได้รู้ฤทธิ์ไอ้เมษบ้างละวะ ไปขึ้นรถ! ไม่ไปส่งบ้านก็ได้ แต่ไปกับกูแทน!
มือแข็งกระชากแขนหล่อน ถุงมะขามที่ชัยยาอุตส่าห์สอยให้กลับไปกินที่บ้านหล่นพื้นกระจาย หญิงสาวหวีดร้องดิ้นรนต่อสู้ แถวนั้นเป็นร้านค้าที่ปิดเงียบหมดแล้ว ซ้ำไร้คนสัญจรผ่านไปมา เมษออกแรงเพียงนิดก็ฉุดร่างบางลงไปยังพื้นถนนได้
น้องภูมิเบะปาก เด็กน้อยหวาดกลัวภาพตรงหน้า น้าปังใจดีกำลังกรีดร้องพลางดิ้นรนตบตีผู้ชายตัวโตบึกบึน รถราแล่นผ่านไปมาชะลอดูเหตุการณ์ แต่ไม่มีสักคันที่จะจอดช่วยเหลือ เพราะคิดว่าผัวเมียทะเลาะกัน...โดยมีลูกยืนดูอยู่
ทันใดรถเก๋งสีดำเป็นมันวับก็แล่นมาจอดพรืดท้ายปิกอัพ
อิศวเรศแทบโดดพรวดลงมา เขาร้องเฮ้ย ถลาเข้ากระชากเมษออกจากร่างบางที่กำลังดิ้นปัด ๆ ก่อนชกเปรี้ยง เด็กหนุ่มหงายท้อง เลือดพุ่งออกจากจมูก
คุณ... ปัญชยาในสภาพผมยุ่งฟูเพราะถูกเมษจิกทึ้ง อุทานเบา ๆ เมื่อเห็นหน้าอิศวเรศชัด
ผมขอโทษที่ต้องชกสามีคุณ แต่เขาไม่ควรทำรุนแรงกับคุณแบบนั้น ชายหนุ่มรีบแก้ตัว
ให้ตายสิ ขับรถมาดี ๆ เห็นผู้ชายกับผู้หญิงทะเลาะตบตีกันอยู่ข้างทาง ก็อด แส่ ไม่ได้ ยิ่งพอเข้าใกล้...ได้เห็นหน้าฝ่ายหญิงชัดขึ้น เขาก็ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
นั่น...แม่สาวหน้าหวานหิ้วปิ่นโต! นี่หล่อนไม่ได้กำลังปาร์ตี้อยู่กับพี่เต้หรอกหรือ...แล้วภาพที่เห็นนั่น...ที่แท้...
โธ่ ๆ ๆ...เขาอยากอุทานคำนี้สักร้อยครั้ง มาถึงบางปูได้เจอกับหล่อนโดยบังเอิญ...แต่ในสภาพที่หล่อนกำลัง ตี กับผู้ชาย...ไหนจะมีเด็กยืนสะอึกสะอื้นอยู่ใกล้ ๆ...ที่แท้หล่อนก็มีลูกมีสามีแล้ว แต่ทำไม...ทำไมต้องให้เขารู้เองเห็นเองแบบครบทีมด้วย!
ไม่ใช่นะคะ...เขาไม่ใช่สามีฉัน หญิงสาวละล่ำละลัก หล่อนไม่ได้เจ็บปวดหรือมีบาดแผล แต่น้ำตาหยดเผาะ ๆ เขาเป็นลูกของเมียใหม่พ่อฉันค่ะ
อิศวเรศอ้าปากงุนงง ร่างใหญ่โตของเมษลุกขึ้นช้า ๆ นัยน์ตาเด็กหนุ่มวาวโรจน์
เสือก! เขาตวาด แกเป็นใคร มายุ่งอะไรด้วยเนี่ย
เสียงร้องไห้ทำให้ปัญชยาหันมอง ก่อนเบิกตาโผเข้ากอดน้องภูมิ พึมพำปลอบโยนเบา ๆ อิศวเรศมองภาพนั้นงง ๆ แต่ก็หันมาวางมาดกวนใส่เมษ
กูเป็นพลเมืองดีไง เห็นแกทำร้ายผู้หญิงเลยเข้ามาช่วย
เสือกละมากกว่า นั่นเมียกู กูจะทำยังไงกับมันก็ได้ เมษชี้ไปที่ปัญชยา หญิงสาวหันขวับ จ้องมองเด็กหนุ่มด้วยแววตาดุดันราวนางเสือดาว อิศวเรศเลิกคิ้วมองหล่อน...เออ...ผู้หญิงคนนี้เวลาโกรธดูสวยกว่าปกติอีกแฮะ...
ฉันไม่ใช่เมียเธอ อย่ามาพูดพล่อย ๆ นะ ปัญชยาเสียงห้วน อุ้มเด็กชายลุกขึ้นยืนเต็มตัว ความมั่นใจและสติกลับคืนมา
คุณคนนั้นเขาจะเป็นพยานให้ฉัน ว่าเธอทำร้ายฉัน จะไปโรงพักด้วยกันเลยไหม ฉันจะได้โทร.ตามพ่อ
คำขู่นั้นได้ผล เมษอึ้งไปก่อนจะฮึดฮัด มองอิศวเรศอย่างอาฆาต แล้วรีบขึ้นรถขับกระชากออกไป
ปัญชยาเข่าอ่อน แม้จะหายกลัวแล้ว แต่หล่อนคล้ายหมดเรี่ยวแรง ร่างบางเซนิด ๆ อิศวเรศรีบเข้าประคอง
ฉันไม่เป็นไรค่ะ หญิงสาวพูด น้ำตายังเต็มตา หล่อนค่อย ๆ วางเด็กชายลง ก่อนนั่งยอง ๆ กวาดมะขามที่เปลือกปริแตกกระจายใส่ถุงดังเดิม ชายหนุ่มโน้มตัวลงหยิบกระเป๋าสะพายหล่อนขึ้น เขามองหน้าเด็กชายด้วยความสงสัย
ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้นครับ คุณมาทำอะไรที่นี่ เขาเอ่ยถาม ปัญชยาปาดน้ำตา ร่างบางค่อย ๆ ลุกยืนอีกครั้ง
ฉันมาเยี่ยมพ่อค่ะ หล่อนตอบเบา ๆ กำลังจะกลับ แต่เจอเขาเสียก่อน เขาบังคับให้ฉันไปกับเขา สงสัยจะเมาน่ะค่ะ...เลยมาหาเรื่อง ปกติฉันกับเขาแทบไม่พูดคุยกันด้วยซ้ำ...
อิศวเรศทำหน้าไม่ถูก เอ้อ...งั้นหรือครับ...แล้วเด็กนั่น...
ลูกของเพื่อนค่ะ
ชายหนุ่มโล่งอก
ขอบคุณที่อุตส่าห์ลงมาช่วยนะคะ ถ้าไม่ได้คุณฉันคงแย่...ไหนจะตัวเอง ไหนจะเด็ก... ปัญชยาสูดจมูกที่บัดนี้แดงเรื่อ อิศวเรศจ้องมองดวงหน้าเรียวซีดเผือด จมูกโด่งเล็กและตาของหล่อนแดงก่ำ ขนตายาวชื้นกะพริบถี่ แต่ก็ยังน่ามอง...
ไม่เป็นไรครับ...ผมยินดี... เขามองนาฬิกา พอดีผมมาหาเพื่อนน่ะครับ...ว่าแต่คุณจะกลับยังไง
ตรงโน้นมีท่ารถตู้เข้ากรุงเทพฯ น่ะค่ะ
ชายหนุ่มเท้าเอวมองตามือหล่อน เอ...หวังว่าไอ้หมอนั่น...มันคงไม่ดักเล่นงานคุณหรอกนะ
คงไม่แล้วล่ะค่ะ ที่ท่ารถคนเยอะแยะ
แต่ผมห่วงน่ะสิ.... ชายหนุ่มว่า พลางเกาศีรษะแกรก ๆ
เอาไงดีวะ...คงต้องแคนเซิลปาร์ตี้ไอ้ป๊อกไปก่อน...ความปลอดภัยของหญิงสาวกับเด็กตรงหน้านี่สำคัญกว่า...เดี๋ยวค่อยโทร.ไปอธิบายทีหลัง เพื่อนคงไม่โกรธ
ปัญชยาเลิกคิ้วมอง แสงไฟริมถนนสาดจับใบหน้าสีแทน ที่มีเครื่องหน้ารับกันเหมาะเจาะของชายหนุ่ม เขามีสีหน้าครุ่นคิด
เขาพูดว่าห่วง...เขาคงพูดออกมาในฐานะพลเมืองดีที่รู้เห็นเหตุการณ์
แต่ทำไมคำว่า ห่วง ของเขา มันทำให้หล่อนรู้สึกคล้ายมีลมอุ่นผ่าว แล่นผ่านเข้าไปสัมผัสหัวใจของหล่อน
หญิงสาวกะพริบตาเรียกสติ เมื่ออิศวเรศเอ่ยว่า เอางี้...ให้ผมไปส่งคุณกับเด็กดีกว่านะครับ ผมไม่ไว้ใจหมอนั่นเลยพับผ่า
เขาพูดแล้วมองหล่อนเงียบ ๆ รอดูท่าที นึกในใจว่าหล่อนต้องปฏิเสธแน่
หากปัญชยานิ่ง หล่อนเม้มปาก ก้มมองน้องภูมิครู่หนึ่ง ก่อนเงยหน้าขึ้นเอ่ยเรียบ ๆ ว่า
ถ้าอย่างนั้นขอรบกวนคุณด้วยละกันค่ะ
อย่างน้อย...ชายหนุ่มก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าที่เพิ่งเคยพบเจอ เขาทำงานที่ซีคลาส และเป็นคนรู้จักของเตชินทร์...ไม่รู้สิ...ท่าทางของเขา คำพูดและการกระทำของเขา มันทำให้หล่อนรู้สึกวางใจบอกไม่ถูก
อิศวเรศร้องเยส...ในใจ แต่ภายนอกวางมาดยิ้มสุภาพ เดินไปเปิดประตูรถให้หญิงสาวขึ้นนั่ง โดยมีเด็กชายนั่งตัก ชายหนุ่มหย่อนถุงมะขามบนเบาะหลัง แอบยิ้มขำเมื่อนึกถึงวันที่ได้เจอหล่อนครั้งแรก วันนั้นข้าวของหล่อนก็กระจัดกระจายแบบนี้...
ช่างบังเอิญจริง ๆ
**ขอบคุณคนอ่านสองสามท่านที่ตามและเมนท์ตลอดเลยนะจ๊ะ อย่าแปลกใจว่าทำไม เมษกับพระเอกใช้คำว่า กู กับ แก...คำว่า มอ-สระอึ-งองู มันเป็นคำหยาบอะ...(แปลกแฮะ ที "กู" ดันไม่หยาบ)
แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 52 00:38:08
| จากคุณ |
:
BAHAMAS
|
| เขียนเมื่อ |
:
2 ก.ย. 52 22:58:36
|
|
|
|