 |
ความคิดเห็นที่ 3 |
4. เคว้งคว้างกลางหาว
ในชีวิตของเรา คงมีใช่ไหม? บางเวลาที่เครียด จนตรอกและไม่สามารถหาทางออกดีดีให้กับตัวเองได้ ในช่วงเวลาเหล่านั้น บางทีตัวเราเองไม่ได้ต้องการคนมาช่วยแก้ปัญหา แต่อาจจะต้องการใครสักคนมานั่งฟัง มอบรอยยิ้มและปลอบใจในเวลาที่อ่อนแอที่สุด ท้อแท้ที่สุด มืดมนที่สุด คุณล่ะ? มีใครคนนั้นกันหรือยัง?
เราขาดเธอไม่ได้นะ เราไม่เหลือใครอีกแล้ว เราจะอยู่ไปทำไม แฟนเก่าผมร้องไห้ปานจะขาดใจ คุณต้องเข้มแข็งนะ อยู่เพื่อตัวเอง เพื่อพ่อแม่ของคุณด้วย ใจผมห่อเหี่ยวเหลือเกิน ไม่
จะไม่มีใครได้เจอเราอีกแล้ว สิ้นเสียงนั่นเธอก็วางสาย หรือความรักมันเป็นแบบนี้เองนะ? เวลามา
มันเข้ามาเงียบๆทางประตูบานที่เราลืมใส่กลอน เวลาจากไป มันจากไป พร้อมกับสุขภาพที่ดี โดยเราก็ไม่รู้ตัว
ผมใจหายและรู้สึกผิดเหลือเกิน
เพื่อนเธอโทรติดต่อมาในคืนนั้น เธอทำร้ายตัวเองและกำลังเข้าห้อง ICU อาการไม่ดีนัก ตอนนั้นเธออยู่ไกล เกินกว่าจะห้ามปรามหรือไปเยี่ยมเธอได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือขอภาวนาให้เธอปลอดภัย อย่าเป็นอะไรเลย ผมเครียดเกินกว่าจะข่มตา อาเจียนออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทำไมนะ? ผมเองก็ไม่อยากให้เรื่องมันลงเอยแบบนี้ ถ้าหากว่าเราเข้ากันไม่ได้ ถ่วงดึงซึ่งกันและกัน การบอกลากันเป็นสิ่งที่ผิดขนาดนั้นเลยหรือ?
ไม่เป็นไรนะ แฟนเธอต้องปลอดภัยนะ เสียงหวานๆตามสายปลอบใจให้ผมสงบลงได้บ้าง
..
สักวันเขาจะเข้าใจนะ
..
ผมไม่ได้พูดอะไรมากนัก หัวใจอ่อนล้าและอยากจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ผมไม่เคยเครียดขนาดนี้มาก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างดูไกลห่างเกินกว่าจะแก้ไขหรือรั้งดึง ผมอาจไม่เป็นคนที่ดีพร้อมแต่ผมก็ต้องการจะเป็นนะ หากเพียงแต่แฟนเก่าผมจะเข้าใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยมีใครนอกจากเธอ แต่ก็แปลก ผมไม่เคยสัมผัสความรู้สึกบางอย่างจากเธอได้ เหมือนกับที่ผมได้รู้สึกเมื่อเร็วๆนี้
เพราะอะไรนะ? ไม่ต้องมีเหตุผล ไม่มีความลังเล ไม่มีแม้แต่ความเป็นตัวของตัวเอง เหมือนรักครั้งแรก? ทำใจดีดีนะ พรุ่งนี้ไปวิ่งกันไหม จะได้สบายใจขึ้นบ้าง? คำตอบของผมคือการไม่ตอบ
เช้าตรู่อากาศเย็นสบาย ปกติผมไม่นิยมวิ่งตอนเช้าๆ เพราะโดยธรรมชาติแล้วเป็นคนตื่นสาย ถึงสายที่สุด แต่เมื่อคืนผมนอนไม่หลับ ได้แต่โทรติดต่อโรงพยาบาลทั้งคืนจนแน่ใจว่าแฟนเก่าผมปลอดภัย ระหว่างรอคนที่หัวใจร่ำร้อง ผมยืนพิงรถอย่างอ่อนแรง อย่าว่าแต่วิ่งเลย แค่เดินผมยังขาอ่อน ไม่มีเรี่ยวแรง ความเครียดมันทำร้ายคนได้ขนาดนี้เลยเชียวเหรอ? ผมปิดมือถือ ไม่อยากรับรู้อะไรอีก อยากจะลืมๆทุกอย่าง ขอเพียงวันนี้ ตอนนี้ ผมอยากพักเหลือเกิน
รอนานไหม? เราจะมาทางลัด แต่กลายเป็นหลงทางน่ะ ไม่เป็นไร เธอมาสาย เราชินแล้ว แน่ะ ปกติเราไม่สายนะจะบอกให้ เราไม่ได้วิ่งจริงๆหรอก เพียงเดินเคียงกันเงียบๆท่ามกลางความสดชื่นของธรรมชาติในยามเช้า แต่ในความเงียบนั้นผมสัมผัสถึงความห่วงใยที่เธอมีให้ผมได้จากดวงตาคู่นั้น พร้อมๆกับรู้ว่าสิ่งที่ผมคิด ผมฝัน มันคงยากจะเป็นจริง หากว่าผมรู้จักเธอเร็วกว่านี้ 1 ปี? มันจะมีอะไรแตกต่างไปไหมนะ?
นั่งตรงนี้ดีกว่า เธอหมายถึงม้านั่งยาวไม้สีน้ำตาล ข้างทะเลสาป แผ่นน้ำเรียบใส ดูสงบ ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ขอบใจนะ ที่มาอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเรา วันนี้ต้องไปทำงานไม่ใช่เหรอ? ไม่เป็นไร เข้างานตอนบ่ายน่ะ วันหยุดเขาไม่ค่อยเข้มงวดเท่าไหร่
..
นี่ไง เราปิดมือถือเลยนะ อือม์ เราก็อยากให้ช่วงนี้มีแต่เราสองคนเหมือนกัน เราไม่ใช่เพื่อนเธอใช่ไหม? เธอมองหน้าผม ส่ายหน้าช้าๆ กับรอยยิ้มที่ดูเศร้าๆ เอามือเกาะไหล่ผมและซบหน้าลงกับแผ่นหลังของผม เอ่อ
อ่า
.. หือม์? เฮ้อ
.เอ่อ
. ราวกับผมเป็นใบ้มาชั่วชีวิต และกำลังจะพูดประโยคแรกหลังจากมีใครสักคนใส่ลิ้นให้ เธอเงยหน้ามองหน้าราวกับจะรู้ว่าผมจะพูดอะไร สายตาที่อบอุ่นนั้นเฝ้ารออย่างอดทน อ่า
ขอเราจับมือได้ไหม? ผมหน้าแดง เสียงสั่น ผมพูดบ้าอะไรออกไปเนี่ย? แทนคำตอบ เธอวางมือเธอลงบนมือผม ผมจ้องตาของเธอ คำพูดมากมายของผมและเธอถ่ายทอดทางสายตาและสัมผัสของมือนั้น
ผมบีบมือเธอแน่น ราวกับว่า
กลัวตัวเองจะหลงทาง
Sometimes, I get tired of this me first attitude You are the one thing, that keeps me smiling. Thats why Im always wishing hard for you Cos. your light, shines so bright. I dont feel no solitude You are my first, star at night. Id be lost in space without you.
And Ill never lose my faith in you. How, will I ever, get to heaven, if I do.
จากคุณ |
:
แมวกักขฬะ
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ก.ย. 52 22:33:06
|
|
|
|
 |