Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บุพเพสันนิวาส ตอนที่3 จำต้องปรับตัว  

ลิงค์

ตอนที่1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8286782/W8286782.html
ตอนที่2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8292331/W8292331.html




บุพเพสันนิวาส ตอนที่3  จำต้องปรับตัว

เกศสุรางค์สูดลมหายใจยาวๆก่อนจะหลับตาเพื่อตั้งสติ เมื่อลืมตาขึ้นทุกอย่างก็ยังคงอยู่เช่นเดิมลักษณะของผู้คนโดยรอบหากเป็นหญิงก็ค่อนข้างจะอวบสันทัด ที่เป็นชายก็กำยำล่ำสันสูงใหญ่พอสมควร เธอก้มลงมองตัวเองอีกครั้ง ผิวของเธอไม่เหมือนใคร ออกขาวเหลืองลออตาในขณะที่คนอื่นๆผิวสองสีค่อนข้างคล้ำแดด มีเพียงหญิงสูงอายุที่มีทีท่าสง่าแต่ตาดุเหลือเกินเท่านั้นที่ผิวพรรณดูนวลตากว่าคนอื่น

“ฤๅว่าผีจักเข้าจริงเจ้าคะ คุณพี่” เสียงของสตรีสูงวัยที่กระซิบถามชายสูงวัยทำให้เกศสุรางค์ตาเบิกโพล่ง
หรือเราจะเป็นผีจริงๆ เฮ้ย ไม่น่าเรายังไม่ตายนี่หว่า เอ๊ะ หรือเราตายแล้ว  คนที่เริ่มไม่แน่ใจในตัวเองนักชักจะลังเล หากว่าเธอเป็นผีที่มาสิงร่างของการะเกดแล้วคนพวกนี้รู้เข้าคงหาหมอผีมาไล่เธอเป็นแน่ อาจจะมีหวายลงอาคมอย่างที่เธอเห็นในหนัง ตาย! เธอต้องตายแน่ถ้าโดนอย่างว่าเข้าจริงๆ
“จักเป็นได้เยี่ยงใดกันแม่จำปา เรือนนี้ขึงสายสิญจน์โดยรอบมิว่าภูติผีปีศาจแห่งหนใดก็มิอาจกรายกล้ำได้ดอก”

หมื่นสุนทรเทวามองวงหน้างดงามที่แสดงอาการครุ่นคิดพร้อมกับจ้องดวงตาคู่สวยที่เปลี่ยนแปรไปตลอดเวลานั้นด้วยความสงสัย ท่าทีบางอย่างและสีหน้าของแม่หญิงการะเกดผู้นี้ดูผิดแผกไปจากเดิม เจ้าของดวงตาคมกริบจึงหันไปสบตากับผู้เป็นบิดาและมีความเห็นตรงกันว่า มนต์แห่งกฤษณะกาลีคงจะสำแดงอิทธิฤทธิ์เสียแล้ว แม่หญิงรูปงามผู้นี้คิดทำสิ่งเลวร้ายจนมีคนตายจริงดั่งที่สงสัยและตอนนี้ นางคงวิปลาสไปแล้วเป็นแม่นมั่น!

“ฉัน..คอแห้งอยากดื่มน้ำ”
“ออเจ้าว่ากระไรหนา” เกศสุรางค์มองแต่ละคนด้วยสายตางุนงงอีกครั้งที่ดูเหมือนพวกเขาเหล่านั้นจะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เธอพูดนัก  พลอยทำให้หญิงสูงวัยที่มองอยู่ถึงกับถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายเหลือกำลัง
“คุณพี่เจ้าคะ เมื่อไม่มีสิ่งใดแล้ว ข้าใคร่จักลงไปดูบ่าวมันปรุงสำรับที่โรงครัวเจ้าค่ะ”

“ไปเถิดแม่จำปา”  จากนั้นคุณหญิงจำปาจึงหันไปมองลูกตาดำๆหลายคู่ที่จับจ้องมองมาก่อนจะออกเสียงเอ็ดบ่าวไพร่ที่ยืนกันหน้าสลอน
“ ไอ้อีพวกนี้มามุงกระไรกัน ไปไป๊ ไปทำงาน” เพียงได้ยินเสียงตวาดทั้งหมดก็รีบแยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ของตนกันในพริบตา ทุกสิ่งอยู่ในสายตาของเกศสุรางค์เธอจึงตัดสินใจเลียนแบบการพูดที่ได้ยินในทันที

“ข้าหิวน้ำ” จริงสินะคำพูดแทนตัวก็ต้องข้าเอ็ง กู เมิง แล้วอะไรอีกหว่า...ตาลอยๆหลังกล่าวจบของเกศสุรางค์ทำให้หมื่นสุนทรเทวายิ่งแน่ใจว่าตนคิดถูก แม่หญิงการะเกดต้องวิปลาสไปแล้วเป็นแน่

“หากใคร่กินน้ำก็ไปหาน้ำกินสิออเจ้ามายืนทำกระไรอยู่ แล้วอย่าได้ทำท่าทีแตกตื่นให้ผู้อื่นตกใจเยี่ยงนี้อีก อีผินกับอีแย้มก็เยี่ยงกันเอะอะดั่งกลองเพลพลอยทำให้ทุกผู้ตกอกตกใจไปด้วย มันน่าลงหวายให้หนัก” เสียงเข้มของหมื่นสุนทรเทวาทำให้นางผินและนางแย้มยอบตัวจนติดพื้นไม่กล้าปริปากแม้เพียงครึ่งคำ ทว่าเกศสุรางค์กลับเอียงคอฟังด้วยความสนใจ สำเนียงและวิธีพูดจาแปลกหูเสียงทุ้มของผู้ชายคนนี้ไพเราะแบบแปลกๆขัดกับสายตาที่คมดุโดยสิ้นเชิง

“เข้าไปพักเถิดหลาน ออกมายืนกลางแดดเพลาชายเยี่ยงนี้ ประเดี๋ยวจักไม่สบายหนักเข้าไปอีก”
“คงสบายดีแล้วกระมังขอรับ กระโจนวิ่งสะบัดนางพี่เลี้ยงจนกระเด็นเยี่ยงนี้ ฤๅอาจจักมิได้ป่วยไข้จริงเสียก็มิรู้ได้”กล่าวจบคนพูดก็ทำกิริยาเดินหนีห่างออกไปอย่างรังเกียจเดียดฉันท์ในตัวของผู้ที่ตนคิดว่าร้อยเล่ห์ร้อยมารยา ทิ้งให้คนฟังยืนงงซึมซับจับใจความอยู่อีกพักใหญ่จึงจะเข้าใจถึงความนั้น  

เกศสุรางค์ส่งยิ้มแหยๆให้ผู้ชายสูงวัยก่อนจะเดินละล้าละลังเข้าห้องไปด้วยความมึนสุดชีวิต ผู้สูงวัยได้แต่มองตามด้วยแววตาสงสัยในกิริยาของหลานสาว หากจากนั้นก็ถอนหายใจยาวก่อนจะเดินกลับไปที่หอร่ายเวทย์อันเป็นหอเก็บคัมภีร์เพื่อบริกรรมคาถาต่อให้จบบท

หมื่นสุนทรเทวานั่งเตรียมพร้อมรอบิดาอยู่หน้าพานคัมภีร์เวทย์แล้ว เมื่อพระยาโหราธิบดีทรุดตัวลงนั่งทั้งสองก็เริ่มบริกรรมคาถาต่อด้วยศรัทธาอันแรงกล้า คนหนึ่งหวังที่จะให้ผู้ที่กระทำผิดได้รับโทษอย่างสาสมอีกคนหนึ่งนั้นหวังว่าหลานสาวห่างๆของตนนั้นจะเป็นผู้บริสุทธิ์และรอดพ้นจากอิทธิฤทธิ์แห่งเวทย์นี้

เกศสุรางค์แหวกม่านที่กั้นบังเตียงด้านในก่อนจะทรุดตัวนั่งบนเตียง พลันให้รู้สึกอึดอัดเมื่อได้ยินเสียงสวดมนต์ที่ดังขึ้นมาอีกครั้งทว่าโชคดีที่ความอึดอัดนั้นได้จางหายไปในเวลาไม่นานนัก ตาก็มองร่างสองร่างที่ค่อยๆเดินเข้ามาอย่างกล้าๆกลัวๆหนึ่งในนั้นเดินเข่าปราดเข้าไปหยิบป้านน้ำชาดินเผาพลิกถ้วยชาใบเล็กรินน้ำส่งให้มือไม้สั่น ก่อนจะคลานไปเปิดหน้าต่างให้กว้างออกไปด้วยกิริยาที่รีบร้อนลนลาน

เท่านี้เธอก็พอจะเดาได้ว่าสองคนนี้น่าจะเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของการะเกดอย่างแน่นอน หญิงสาวยกขาขึ้นนั่งขัดสมาธิจิบน้ำชาก่อนจะวางถ้วยชาลงแล้วนั่งเลื่อนลอยไปอีกพักใหญ่ด้วยความงุนงงในสิ่งที่ประสบมาทั้งหมด

เรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ป่านนี้คุณแม่กับคุณยายคงเป็นห่วงเราแย่แล้ว ความคิดนั้นก่อให้เกิดความรู้สึกวูบวาบขึ้นมาในดวงใจ เป็นความอาดูรจนถึงที่สุดคล้ายมีลางสังหรณ์ว่าชาตินี้อาจจะไม่ได้พบคนในครอบครัวอีกแล้ว ทั้งไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นและสับสนว่าตัวเองจะทำเช่นไรต่อไปดีในสถานการณ์เช่นนี้

เกศสุรางค์พยายามคิดใคร่ครวญว่าก่อนหน้าที่เธอจะเจอการะเกดเธอกำลังทำอะไรอยู่ หากก็นึกได้เพียงความทรงจำสุดท้ายนั่นคือเสียงง้อของเรืองฤทธิ์ในรถตู้และถ้าจำไม่ผิดเธอน่าจะผล็อยหลับไปในช่วงนั้น ซึ่งถ้าหลับก็น่าจะแปลว่าเธอกำลังฝัน แต่เธอก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเหตุการณ์ที่กำลังประสบอยู่นี้ไม่ใช่ความฝันอย่างแน่นอน...

ถ้าหากเธอเป็นวิญญาณที่มาเข้าร่างของการะเกดจริงๆแล้วเธอตายได้อย่างไร ถ้าเธอยังไม่ตายร่างของเธอล่ะจะมีใครเข้าไปอาศัยเช่นนี้หรือเปล่า และที่สำคัญเธอจะออกจากร่างของการะเกดได้ไหม ถ้าเธอออกจากร่างการะเกดแล้ววิญญาณของการะเกดจะกลับมาเข้าร่างตัวเองได้หรือไม่ ยิ่งคิดไปก็ให้รู้สึกท้อแท้เหนื่อยใจอย่างหนัก

“เฮ้อ...”
แล้วหากว่าเธอต้องติดอยู่กับร่างนี้ตลอดไปล่ะ? เกศสุรางค์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นเมื่อนึกมาถึงตอนนี้ เท่าที่มองจากเครื่องแต่งกายสมัยนี้น่าจะเป็นสมัยอยุธยา และเธอก็ค่อนข้างแน่ใจว่าชีวิตที่ต้องติดอยู่กับร่างนี้ในยุคโบราณไร้ความสะดวกสบายเช่นนี้คงดูไม่จืดนักแน่

“เฮ้อ” สิ้นเสียงถอนหายใจดังๆคำรบสอง เสียงหวีดร้องเบาๆของสองสาวก็ทำให้เกศสุรางค์ตื่นจากภวังค์ส่วนตัวชั่วคราว จากนั้นจึงเปลี่ยนอิริยาบถเป็นมองซ้ายขวาหน้าหลังด้วยความสนใจ

ห้องกว้างนี้ตกแต่งด้วยเครื่องเรือนสีทึม ด้านหน้าที่มีฉากญี่ปุ่นกั้นคงเป็นที่ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะมองเห็นheeบใหญ่วางอยู่ ส่วนที่ติดกันคือม่านที่ทอด้วยลวดลายวิจิตรซึ่งกั้นไม่ให้คนนอกมองลอดมายังบริเวณเตียงได้ ถัดออกไปด้านนอกนั้นมีโต๊ะเล็กวางกระจกทองเหลืองขนาดใหญ่ กรอบทองเหลืองที่เป็นรูปดอกโบตั๋นทำให้รู้ว่าคงอิมพอร์ตมาจากจีนเธอลุกขึ้นเพื่อไปมองให้ชัดเจน แต่คงลุกเร็วไปนิดสองสาวที่เกาะกันราวลูกแฝดถึงกับร้องฮือถอยหนีจนติดฝาจนน่าขัน

เกศสุรางค์หัวเราะหึหึเมื่อเห็นอากัปกิริยาของสาวใหญ่รุ่นโบราณทั้งสอง ซึ่งน่าจะทำให้เธอดูโรคจิตกว่าเดิมเพราะทั้งสองคนนั่นถึงกับหลับตาปี๋กอดกันแน่นเลยทีเดียว เธอลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะนั่งลงมองโต๊ะเล็กสลักเชิงชายฉลุเป็นรูปดอกโบตั๋นและเถาว์ไม้เลื้อยอย่างสนอกสนใจ โต๊ะเครื่องแป้งที่มากันเป็นชุดเข้ากับกระจกหน้าโต๊ะวางพรมเปอร์เซียโบราณลายละเอียดผืนหนาทว่าไม่ใหญ่นักลวดลายนั้นดูคุ้นตาสำหรับเธอที่เคยเรียนด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ  

โต๊ะนั้นมีลักษณะเหมือนโต๊ะหมู่บูชาที่บ้านเธอและมีกล่องไม้หลายใบวางอยู่ รวมไปถึงผอบขนาดต่างๆกันไป หญิงสาวค่อยๆเปิดดูทีละอันด้วยความสงสัยใคร่รู้  ไหนๆก็ไหนๆ ถึงคิดให้หัวแตกตายก็คงหาคำตอบในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ได้ยาก  ในเมื่อมีโอกาสได้มาพบเห็นของจริงที่เคยแต่อ่านจากตำราเช่นนี้ก็ควรจะซึมซับรับประสบการณ์แปลกใหม่เหล่านี้เสียให้เต็มที่ อย่างน้อยก็คงจะดีกว่านั่งซึมกะทือหายใจทิ้งไปวันๆ

กลิ่นหอมจากบางกล่องทำให้รู้ว่าเป็นเครื่องประทินผิว บางกล่องก็มีน้ำมัน บางผอบก็มีแป้งเม็ดแป้งผง และน้ำอบ กลิ่นนั้นหอมเย็นเหมือนคุณยายนวลจนคนอยากรู้อยากเห็นถึงกับตาละห้อยด้วยคิดถึงคนที่บ้านจับใจ

เมื่อมองกระจกทองเหลืองตรงหน้าก็พบกับดวงตากลมโตที่สบประสานมาจนเธอต้องโน้มหน้าเข้าไปมองตัวเองในตอนนี้ให้ชัดตาอีกครั้ง วงหน้าผุดผาดงดงามไปทุกสัดส่วนนั้นงามจนชวนตะลึง คิ้วเรียวรับกับดวงตาโตเปลือกตาสองชั้นชัดเหมือนถูกกรีดมาขนตางอนยาวเป็นแพทำให้ดูหวานจนแทบหยาดหยด และแววตาใสเป็นประกายเด่นชัดแป๋วแหววทั้งๆที่กระจกทองเหลืองแจ่มชัดสู้กระจกในยุคของเธอไม่ได้เลย

 
 

จากคุณ : จอมนาง
เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 02:15:31




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com