Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บทเพลงกลางเมฆา (ลำนำแห่งผืนทราย ภาค 2)  

เป็นนิยายที่เขียนเรื่องย่อทิ้งเอาไว้ แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีโอกาสได้แปลหรือไม่ จึงนำเรื่องย่อแบบละเอียดจนจบเรื่องมาให้อ่านกันเล่นๆ ค่ะ



เรื่องย่อ บทเพลงกลางเมฆา (อวิ๋นจงเกอ)


เขียนโดย...ถงหัว



ปลายรัชสมัยของพระเจ้าฮั่นอู่ตี้แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตกของจีน (ประมาณ 2100 ปีก่อน) เว่ยไท่จื่อ หลิวจวี้ (องค์ชายรัชทายาทจากตระกูลเว่ย) ได้ถูกใส่ความ จึงถูกบังคับให้ต่องก่อกบฏอย่างไม่มีทางเลือก และพ่ายแพ้ ถูกฮุ่นอู่ตี้พระบิดาสั่งประหารล้างโคตรตระกูลเว่ยและครอบครัวของเว่ยไท่จื่อทั้งหมด แต่มีหลานชายคนหนึ่งของเว่ยไท่จื่อที่ได้รับการช่วยเหลือหนีรอดชีวิตไปได้ และใช้ชีวิตหลบอยู่ในกลุ่มชาวบ้านอยู่เงียบๆ

หลังเว่ยไท่จื่อถูกประหาร ในบรรดาบุตรชายที่เหลือทั้ง 5 คน บุตรชายคนเล็ก...หลิวฝูหลิง ซึ่งถือกำเนิดเมื่อฮั่นอู่ตี้อยู่ในวัยชราแล้วเป็นเด็กอัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับว่าอัจฉริยะจริงๆ จากเหล่าขุนนางตั้งแต่เมื่ออายุได้ 3 ขวบ ดังนั้นฮั่นอู่ตี้จึงคิดยกบัลลังก์ให้แก่ลูกชายคนเล็กนี้ และได้เตรียมการสำหรับการขึ้นครองราชย์ของพระโอรสที่ยังเล็กมากด้วยการ...ประหารชีวิตพระสนมเจ้าผู้เป็นมารดาของพระโอรส เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ไทเฮากุมอำนาจแบบยุคก่อนๆ ตามท้องเรื่อง หลิวฝูหลิงเห็นท่านแม่ถูกพาตัวไปประหารตอนอายุได้ 5 ขวบ และหวาดกลัวมากจนจากเด็กที่เคยร่าเริงซุกซนกลายเป็นเด็กเงียบขรึมเย็นชาพูดน้อยและฝันร้ายทุกคืนไปเลย

หลังฮั่นอู่ตี้สวรรคต ฮั่นจาวตี้ หลิวฝูหลิง ก็ขึ้นครองราชย์เมื่ออายุได้ 8 ขวบ โดยมีขุนนางผู้สำเร็จราชการที่ฮั่นอู่ตี้เลือกเอาไว้ให้ 4 คน 1 ใน 4 ชิงแก่ตายไปซะก่อน เหลือแค่ 3 คนที่ต่างบ้าอำนาจและพยายามวางแผนยึดอำนาจให้มากกว่าอีกสองคน



เข้าเนื้อเรื่อง



ตอนอายุได้ 12 ปี หลิวฝูหลิงวางแผนอาศัยความขัดแย้งของขุนนางผู้สำเร็จราชการทั้ง 3 แอบหนีออกมาเที่ยวซีอวี้ (ดินแดนทางตะวันตกจากมณฑลซินเจียงไปจนถึงตะวันออกกลาง) ภายใต้การอารักขาของแม่ทัพใหญ่เจ้าพ่อหนู แต่ตอนที่ผ่านเขตทะเลทรายซึ่งเป็นทางพายุและหลงทางง่าย ก็ถูกคนนำทางชาวซีอวี้หลอกมาทิ้งไว้แล้วหนีไป ขณะที่กำลังจะหมดหวังและอดน้ำตาย ก็มีเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 6-7 ขวบขี่ลูกอูฐโผล่มาบอกว่า แม่ส่งมาให้ช่วยนำทางออกจากเขตทเลทรายนี้ เพราะในกลุ่มมีลุงแซ่เจ้าที่มีบุญคุณกับแม่อยู่

เด็กผู้หญิงคนนี้ชื่อว่า อวิ๋นเกอ เป็นเด็กสดใสร่าเริง ยิ้มง่ายและพูดเก่งมาก จ้อได้ไม่มีหยุด ลูกอูฐที่เด็กคนนี้ขี่คืออูฐหิมะที่เป็นของล้ำค่าหายากของทะเลทรายโกบี กล่าวกันว่าสามารถวิ่งได้เร็วเทียบเท่าม้ามังกรเหงื่อโลหิต แล้วข้างอูฐมีสุนัขป่าท่าทางไม่ธรรมดาติดตามมาหนึ่งตัว บนฟ้ายังมีลูกพญาแร้งสีขาวสองตัวบินวนเวียนปกป้อง แค่เห็นก็รู้ว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกคนธรรมดา

หลิวฝูหลิงซึ่งปลอมชื่อว่า เจ้าหลิง ได้รู้จักและสนิทกับอวิ๋นเกอในชั่วเวลาสั้นๆ เพียง 2 วันที่อวิ๋นเกอพาขบวนเดินทางเดินทางออกจากเขตทะเลทรายอันตราย เมื่อมาถึงเขตแดนแผ่นดินฮั่น ทั้งขบวนก็ได้พบทหารกำลังไล่ทำร้ายชาวบ้านซึ่งในจำนวนนี้มีเด็กอายุพอๆ กับหลิวฝูหลิงอยู่ด้วยคนหนึ่ง อวิ๋นเกอเข้าไปช่วยเด็กคนนี้ หลิวฝูหลิงก็สั่งให้เจ้าพ่อหนูเข้าไปช่วยด้วย จคงได้ทราบว่าเด็กคนนี้ชื่อ เยว่เซิง พ่อแม่อดตายเพราะไม่มีที่นาและไม่มีปัญญาจ่ายภาษี เด็กคนนี้ออกตามหาน้องสาวที่ถูกพ่อแม่ขายไปก่อนหน้านี้เอาเงินไปจ่ายภาษีที่นา เด็กคนนี้ด่าฮ่องเต้ว่าสมควรโดนลงโทษที่ทำให้ชาวบ้านอย่างพวกเขาต้องอดตาย หลิวฝูหลิงฟังแล้วรู้สึกผิดมาก

หลังได้รับการช่วยเหลือและได้รับแบ่งขนมเปี๊ยะให้ เด็กคนนี้ก็จากไปโดยไม่ขอบคุณ บอกว่าจะไปตามหาน้องสาวต่อ

ตอนที่ต้องแยกจากกัน อวิ๋นเกออาลัยอาวรณ์มาก เพราะหลิวฝูหลิงเป็นเพื่อนที่อายุใกล้เคียงกันคนแรก อวิ๋นเกอมีพี่ชายสองคน แต่พี่ชายคนโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ส่วนพี่ชายคนรองที่แก่กว่าไม่กี่ปีก็นิสัยขี้รำคาญ จึงไม่ค่อยจะยอมเสวนากับน้องสาวช่างจ้ออย่างนางนัก อวิ๋นเกอเรียกหลิวฝูหลิงว่า หลิงเกอเกอ หลิวฝูหลิงอยากพาอวิ๋นเกอกลับไปฉางอานด้วย แต่เมื่อนึกถึงวังหลวงที่แห้งแล้งและบีบให้คนเป็นบ้าได้ซึ่งเขาอาศัยมาตั้งแต่เกิด ก็ต้องเปลี่ยนใจ

อวิ๋นเกอบอกว่าเมื่อโตขึ้นแล้ว จะไปเยี่ยมหลิวฝูหลิงที่ฉางอาน หลิวฝูหลิงบอก เขาจะรอ แล้วมอบเชือกซึ่งถักจากผมของท่านแม่เขาซึ่งตัดมาหนึ่งคืนก่อนที่แม่จะโดนประหารให้อวิ๋นเกอ บอกว่าเมื่อไปถึงฉางอานแล้ว ให้เอาเชือกนี้มอบให้ทหารเฝ้าประตูเมือง บอกว่าขอพบคุณชายที่เป็นเจ้าของเชือกถักนี้

อวิ๋นเกอถามว่าทำไมให้เชือกล่ะ ทำไมไม่ให้หยกประดับ ? ที่ข้างเอวหลิวฝูหลิงห้อยหยกประดับเนื้อดีเลิศแกะสลักเป็นลายมังกรงดงามมาก หลิวฝูหลิงบอก หยกนี่ขนาดเขายังรังเกียจมันเลย เขาย่อมไม่ยอมให้อวิ๋นเกอต้องพกมันอยู่แล้ว ส่วนอวิ๋นเกอ เนื่องจากไม่มีอะไรจะให้ตอบแทน จึงให้รองเท้าที่ปักไข่มุกเม็ดใหญ่เอาไว้ให้ไปแทน

ธรรมเนียมของชาวจีน หากผู้หญิงให้รองเท้ากับผู้ชาย แปลว่าผูกใจรักหมั้นหมายกัน หลิวฝูหลิงถามอวิ๋นเกอว่ารู้หรือเปล่าว่าที่ให้รองเท้ามานี่หมายความว่าอะไร ? เมื่อเห็นอวิ๋นเกอทำหน้างงๆ เขาก็ยิ้ม แล้วบอกว่า เขาจะรับไว้ล่ะนะ อวิ๋นเกอก็อย่าลืมซะล่ะ(ว่าให้รองเท้าเขามา)

ตอนแยกกัน หลิวฝูหลิงทันบอกอวิ๋นเกอแค่ว่า ความจริงแล้วเขาแซ่หลิว แซ่เจ้าเป็นแซ่ของแม่เขา แต่ยังไม่ทันได้บอกชื่อจริงของเขา ก็มีคนเข้ามาใกล้เสียก่อน จึงต้องปิดปาก

หลังแยกจากหลิวฝูหลิง อวิ๋นเกอก็ขี่อูฐเดินทางมายังอีกเมืองที่พ่อแม่ส่งพี่ชายมารอรับอยู่ พี่ชายอวิ๋นเกออายุประมาณสิบขวบนั่งเหม่อมองเมฆรออยู่บนคาคบไม้ใหญ่ แล้วใต้ต้นไม้ มีขอทานวัยเดียวกับพี่ชายถูกขอทานคนอื่นรุมทุบตีอยู่ อวิ๋นเกอจึงเข้าไปร้องห้ามด้วยเสียงคำรามแบบสุนัขป่า พวกขอทานอันธพาลจึงหยุดมือเพราะตกใจ และเมื่อเห็นพี่ชายอวิ๋นเกอกระโดดลงจากต้นไม้มาขี่ม้ามังกรเหงื่อโลหิตแบบเห็นชัดเลยว่ามีวิทยายุทธ์สูงมาก ก็พากันผละจากไป

เด็กผู้ชายขอทานที่ได้รับการช่วยเหลือไม่แค่ไม่ขอบคุณ แต่ยังพูดประชดแดกดันอีกด้วยจนอวิ๋นเกอฉุน แต่สุดท้ายก็ฉีกยิ้มไม่โกรธ และบอกให้เขาไปหาหมอพร้อมกับบอกว่านางชื่ออวิ๋นเกอ ผมของเด็กขอทานคนนี้มีสีขาวเงินปนอยู่ครึ่งหัว เขาบอกว่าไม่มีเงิน แต่ถ้านางอยากจะช่วยจริงๆ ก็เอาไข่มุกบนรองเท้านั่นมาให้เขาสิ อวิ๋นเกอถึงเพิ่งรู้ว่าไข่มุกนี่เอาไปแลกเป็นเงินได้ แต่เนื่องจากดึงไม่ออก บวกกับพี่ชายร้องเร่ง ถึงถอดให้ไปทั้งข้างแล้วบอกลา ขึ้นขี่อูฐวิ่งไล่ตามพี่ชายไป



เวลาผ่านไป 8 ปี อวิ๋นเกอโตเป็นสาว เป็นเด็กสาวร่าเริงที่หน้าตาสวยน่ารักมาก มีคนมาสู่ขอมากมาย แต่โดนแม่ไล่ตะเพิดกลับไปหมด ในตอนนี้อวิ๋นเกอรู้แล้วว่าการที่ผู้หญิงให้รองเท้าผู้ชายหมายถึงอะไร นางจึงถือว่าตัวเองหมั้นหมายกับหลิวฝูหลิงแล้ว แต่น่าเสียดายที่เชือกเส้นผมนั้นถูกแม่ริบไปตั้งแต่ตอนที่เพิ่งกลับมา แถมแม่ยังสั่งให้นางสาบานว่าจะไม่ไปเหยียบฉางอาน แต่นางไม่ยอมสาบาน

วันนี้ก็มีคนมาสู่ขออวิ๋นเกออีกแล้ว แต่รายนี้ต่างจากรายอื่นตรงที่พ่อแม่ไปรับปากเขาว่ายกนางให้เฉยเลย แถมเจ้าพี่ชายรองปากเสียยังพูดทำนองดีแล้ว จะได้แต่งๆ ออกไปได้ซะที อยู่ให้รำคาญมานาน ด้วยความโมโหและน้อยใจ อวิ๋นเกอจึงหนีออกจากบ้านไปหา “หลิงเกอเกอ” ที่ฉางอานโดยไม่ไปดูหน้าคนมาสู่ขอแม้แต่แวบเดียว

แต่เนื่องจากเชือกผมถูกแม่ริบไปแล้ว อวิ๋นเกอจึงมีข้อมูลในการตามหาหลิงเกอเกอในเมืองฉางอานแค่ 3 อย่าง คือ 1. แซ่หลิว 2. นางจำดวงตาของหลิงเกอเกอได้ 3.หยกประดับชิ้นนั้น

ตอนแรกอวิ๋นเกอนึกว่าต้องค่อยๆ หาอีกนานกว่าจะเจอหลิงเกอเกอ แต่ปรากฏว่ามาถึงวันแรก นางก็ได้เจอชายหนุ่มแซ่หลิวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับ “หลิงเกอเกอ” ที่มีหยกประดับที่เหมือนกับของหลิงเกอเกอเปี๊ยบ และมีดวงตาเหมือนกับหลิงเกอเกอ อวิ๋นเกอจึงแน่ใจว่าคนนี้แหละใช่หลิงเกอเกอของนางแน่แล้ว

ชายหนุ่มคนนี้ชื่อว่า หลิวปิ้งอี่ เป็นลูกพี่ใหญ่ของกลุ่มจอมยุทธ์และอันธพาลระดับล่างในเมืองหลวงฉางอาน แต่...หลิวปิ้งอี่มีหญิงสาวชาวบ้านหน้าตาดีที่เห็นได้ชัดว่ารักและสนิทกับหลิวปิ้งอี่มากอยู่เคียงข้างเสียแล้ว อวิ๋นเกอได้แต่ช็อก และอกหัก ผิดหวัง

พร้อมกันนี้ อวิ๋นเกอยังได้รู้จักกับชายหนุ่มรูปงามไร้ที่ติ ทั้งยังสง่างาม ทุกอิริยาบถนุ่มนวลดูสูงศักดิ์และอ่อนโยน สวยงามน่ามองน่าชื่นชมอย่างไม่มีที่ติ ชายหนุ่มคนนี้ชื่อว่า เมิ่งเจว๋ เนื่องจากเขาบอวก่า ชื่อ เจว๋ ของเขาเขียนด้วยตัวอักษร “ราชาในหยก” อวิ๋นเกอจึงมักเรียกเขาแบบล้อเล่นว่า “ราชาในหยก”

จากคุณ : Linmou
เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 07:52:16




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com