Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สะท้านขวัญทุกย่างก้าว  

เป็นนิยายที่เขียนเรื่องย่อทิ้งเอาไว้ และไม่คิดจะแปลเนื่องจากไม่ชอบยุคสมัยในเรื่องที่ผู้ชายจะโกนผมล้านครึ่งหัวและถักเปีย ซึ่งมองยังไงก็หาความหล่อมิได้ แถมหากศีรษะเบี้ยว ไม่ทุยสวย จะยิ่งไปกันใหญ่ บวกกับหาเรื่องอื่นที่มีส่วนคล้ายกัน จุดเด่นเหมือนกัน แต่เขียนได้สำนวนดีกว่า ละเอียดกว่า ยุคสมัยอื่นที่ไม่ใช่ยุคนี้ นางเอกเท่กว่า ฉลาดกว่า มีความสมเหตุสมผลมากกว่า พระเอกมีนางเอกคนเดียว และจบ Happy ได้แล้ว เรื่องนี้จึงอยู่ในกลุ่มที่ไม่คิดจะแปลอย่างเป็นการถาวร แต่เพราะเรื่องย่อถูกเขียนเอาไว้ตั้งแต่ก่อนจะไปเจอเรื่องที่ปิ๊งยิ่งกว่า จึงนำมาลงให้เป็นการแบ่งปันกันค่ะ




เรื่องย่อ สะท้านขวัญทุกย่างก้าว (ปู้ปู้จิงซิน)


เขียนโดย...ถงหัว



นางเอก จางเสี่ยวเหวิน อายุ 25 ปี เป็นสาวออฟฟิศในเซินเจิ้น น่าจะทำงานในแผนกบัญชี เป็นผู้หญิงเก่งที่เรียนเก่งมาแต่เด็กและเรียนจบ ม.ดัง(ในเรื่องไม่บอกว่า ม.ไหน แต่บอกว่าอยู่ใกล้สวนสาธารณะหยวนหมิงหยวนมาก ก็มีแต่ม.ปักกิ่งกับ ม.ชิงหัว และจบด้านบัญชี สายศิลป์ ก็มีแต่ม.ปักกิ่ง มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของจีนที่ตอนนี้ระดับเทียบเท่า ม.อ็อกซ์ฟอร์ดนั่นแหละ - - )

วันหนึ่ง หลังกลับมาจากทำงาน และปีนบันไดเปลี่ยนหลอดไฟในห้องน้ำ ก็ลื่นตกลงมาหัวน็อคพื้นสลบไป ฟื้นมาอีกครั้งเธอได้มาอยู่ในร่างของ หม่าเอ่อร์ไท่ รั่วซี เด็กผู้หญิงวัย 13 ปีคนหนึ่งซึ่งอยู่ในยุคคังซีฮ่องเต้

ปีนั้นเป็นปีคังซีที่ 43 รั่วหลาน พี่สาวของรั่วซีเป็นภรรยารองขององค์ชายแปด เนื่องจากก่อนหน้าที่จางเสี่ยวเหวินจะย้อนอดีตได้ไม่กี่ปี ละครทีวีซีรีย์เรื่อง “ยงเจิ้งหวางฉาว” ของเอ้อร์เยว่เหอเพิ่งจะฉายจบไป จางเสี่ยวเหวินจึงมีความทรงจำด้านรายละเอียดของยุคสมัยนี้มากพอสมควร อย่างน้อยก็รู้ว่าช่วงนี้อยู่ในช่วงแย่งบัลลังก์กัน โดยที่แบ่งใหญ่ๆ เป็นสองฝ่าย คือฝ่ายสนับสนุนองค์รัชทายาท(องค์ชายรอง) ได้แก่ องค์ชายใหญ่ องค์ชายสี่ และองค์ชายสิบสาม กับฝ่ายสนับสนุนองค์ชายแปด ได้แก่ องค์ชายแปด, เก้า, สิบ, สิบสี่

เนื่องจากรั่วซีรู้ดีว่าสุดท้ายแล้วศึกชิงบัลลังก์นี้ องค์ชายสี่จะเป็นผู้ชนะ ได้ขึ้นครองบัลลังก์เป็นที่รู้จักกันในนาม “ยงเจิ้ง” และยงเจิ้งก็จัดการกับเหล่าพี่น้องที่เป็นผู้แพ้แบบโหดมาก โดยเฉพาะองค์ชายแปดกับเก้านี้โดนถึงตาย เมื่อมองดูตัวเองที่ดันโผล่มาเป็นน้องเมียขององค์ชายแปด รั่วซีก็เก๊กซิมมากว่าอนาคตทั้งของตัวเองและของพี่สาวมืดมนเห็นๆ

ในปีคังซีที่ 43 ซึ่งรั่วซีโผล่มานี้ องค์ชายแปดเพิ่งจะอายุแค่ 22-23 ปี องค์ชายสิบอายุ 16 ปี องค์ชายสิบสามกับสิบสี่อายุประมาณ 14 กับ 13 ปี และเนื่องจากรั่วซีอาศัยอยู่กับพี่สาวในวังขององค์ชายแปด เหล่าองค์ชายน้องๆ ที่เป็นสมัครพรรคพวกขององค์ชายแปดจะแวะมาหาองค์ชายแปดเพื่อปรึกษาเรื่องโน้นเรื่องนี้กันบ่อยๆ รั่วซีจึงมีโอกาสได้พบกับองค์ชาย 9, 10, 14 บ่อยๆ และสนิทกับองค์ชาย 10, 14 ที่สนิทกับองค์ชายสิบ เพราะองค์ชายสิบค่อนข้างซื่อ ตรงไปตรงมา คุยด้วยแล้วสบายใจ เล่นหัวด้วยได้ ส่วนองค์ชายสิบสี่นั้นอายุน่าจะเท่ากัน ก็เลยสนิทกัน

ภรรยาหลวงขององค์ชายแปดทั้งสวยทั้งเก่งทั้งฉลาด แต่องค์ชายแปดไม่ได้รักนางเลย เขารักรั่วหลาน พี่สาวของรั่วซี แต่พี่สาวของรั่วซีไม่ได้รักองค์ชายแปด นางมีคนรักอยู่แล้วก่อนแต่งงาน แล้วถูกพรากจากคนรักมาแต่งกับองค์ชายแปด แล้วตอนที่รั่วหลานกำลังตั้งท้อง ก็รู้ข่าวว่าคนรักของตัวเองโดนพ่อของนางส่งไปอยู่แนวหน้าและตายในการรบไปแล้ว ก็ช็อกจนแท้งลูก แล้วหลังจากนั้นวันๆ ก็เอาแต่เข้าห้องสวดมนตร์ซะครึ่งวัน องค์ชายแปดเองก็เสียใจกับเรื่องนี้มาก จึงไม่กล้ามารบกวน จะแวะมาหาก็นานๆ ครั้ง จนคนในวังที่ไม่ได้รู้เบื้องลึกพากันพูดว่า รั่วหลานไม่ใช่เมียคนโปรด

ในวันเกิดขององค์ชายสิบ เนื่องจากองค์ชายสิบยังไม่มีวังเป็นของตัวเอง จึงขอจัดในวังองค์ชายแปด ในส่วนที่พักของพี่สาวรั่วซี องค์ชายสิบชอบรั่วซี จึงจงใจขอมาแบบนี้ และงานเลี้ยงนี้เป็นงานเลี้ยงกันเองของพี่ๆ น้องๆ คนที่มาก็มีแต่พวกองค์ชายกับภรรยาหลวงภรรยาน้อย ในงานเลี้ยงนี้ องค์ชายสี่ ว่าที่ยงเจิ้งก็มาด้วย รั่วซีตื่นเต้นมากที่ได้เห็นว่าที่ยงเจิ้ง

ในงานก็มีจัดแสดงงิ้ว พวกคนโบราณทั้งหลายนั่งดูเพลิน รั่วซีดูไม่รู้เรื่องว่างิ้วมันแสดงเรื่องอะไรฟระนั่น แล้วบังเอิญเห็นองค์ชายสิบแวบหลบออกมาท่าทางมึนๆ จึงเดินเข้าไปหาบอกให้ตามมา จะให้ของขวัญวันเกิด พอไปถึงกลางสวนที่เงียบและลับตาคน รั่วซีก็กระแอม แล้วร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้ (ไม่ใช่ Happy birthday to you หรอกนะ เป็นเพลงอวยพรของจีนเลย) หลังร้องจบองค์ชายสิบยืนตะลึง ส่วนองค์ชาย 13, 14 ที่ยืนแอบดูอยู่และได้ยินก็ปรบมือชม สิบสี่แซวว่าคราวหลังวันเกิดเขา รั่วซีไปร้องให้ฟังบ้างสิ รั่วซีบอก ได้เลย

องค์ชายสิบสามกับสิบสี่ลากองค์ชายสิบกลับเข้าไปในงาน ส่วนรั่วซีโดนหมิงเยว่ น้องภรรยาหลวงขององค์ชายแปดเข้ามาขวาง(หมิงเยว่น่าจะแก่กว่ารั่วซีหนึ่งปี มีศักดิ์เป็นเจ้าหญิง) พูดจาหาเรื่อง ล่วงเกินไปถึงรั่วหลาน ตั้งแต่หลงมายุคนี้ คนเดียวที่รั่วซีรักมากที่สุดคือรั่วหลานพี่สาว เมื่อหมิงเยว่ว่ามาถึงรั่วหลาน รั่วซีจึงโมโหมาก เข้าไปตบหน้าฉาด จากนั้นก็กลายเป็นการฟัดกันนัวเนียของสองสาวน้อย

ภรรยาหลวงขององค์ชายแปดไม่ชอบหน้าพี่สาวรั่วซีอย่างมาก ในงานวันเกิดนี้ ฟัดกันจนตกน้ำไปทั้งคู่ รั่วซีว่ายน้ำเก่ง แต่ชุดที่ใส่เป็นอุปสรรคทำให้ว่ายไม่ได้ จึงกลั้นหายใจรอคนมาช่วย สุดท้ายสิบสามกับสิบสี่แยกย้ายกันลากสองสาวขึ้นมาบนฝั่ง รั่วซีแค่เหนื่อยเพราะกลั้นหายใจนาน ส่วนหมิงเยว่ร้องไห้หงิงๆ รั่วหลานรีบเอ็ดรั่วซีแล้วเข้าไปปลอบหมิงเยว่ หมิงเยว่ด่ารั่วหลานแล้วทำท่าจะร้องต่อ รั่วซีตวาดสั่งเสียงดังลั่นว่า “อย่าร้องนะ !” ทำเอาทุกคนตะลึงกันไปหมดรวมทั้งพวกองค์ชายทั้งหลาย

วีรกรรมครั้งนี้ทำให้รั่วซีชื่อเสียงโด่งดังในชั่วข้ามคืน โดยได้รับการตั้งฉายาว่า “น้องสาวสิบสาม” (เนื่องจากองค์ชายสิบสามนิสัยปล่อยตัวตามสบาย ทำอะไรไม่ค่อยสนใจพิธีการ และบ้าระห่ำมากจนขึ้นชื่อ รั่วซีจึงโดนแซวว่าเป็นน้องสาวขององค์ชายสิบสาม)

หลังเรื่องทะเลาะกับหมิงเยว่ในงานวันเกิดองค์ชายสิบ องค์ชายแปดส่งขันทีมาเรียกตัวรั่วซีไปพบ รั่วซีรู้ว่าโดนเรียกไปดุแหงๆ ตัวนางไม่ได้กลัว แต่กลัวว่าพี่สาวจะพลอยโดนว่าไปด้วย ตอนขันทีมาเรียก องค์ชายสิบกับสิบสี่ยืนอยู่ด้วยพอดี สองคนเห็นรั่วซีหน้าเสีย จึงไปเป็นเพื่อนรั่วซี สิบสี่บอก เขาจะช่วยพูดกับพี่แปดให้เอง

เมื่อทั้งสามไปถึงห้องหนังสือ(ห้องทำงาน)ขององค์ชายแปด องค์ชายแปดก็ทักน้อง แล้วทำเหมือนไม่เห็นรั่วซี ปล่อยให้ยืนอยู่แบบนั้นสองชั่วโมง โชคดีที่รั่วซีเคยฝึกทหารมาก่อนแล้ว (คนจีนต้องผ่านการฝึกทหารทุกคนทั้งหญิงชาย เป็นเวลาประมาณสองเดือน ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งเทอมสอง) ยืนสองชั่วโมงแค่นี้เรื่องเล็ก หลังสองชั่วโมงผ่านไป องค์ชายแปดก็วางพู่กัน ชวนน้องชายทั้งสองคนอยู่กินข้าวด้วยกัน แล้วให้ออกไปก่อน พอเหลือแต่รั่วซีก้บเขา องค์ชายแปดก็เดินมาหยุดยืนตรงหน้ารั่วซี สั่งให้เงยหน้าขึ้นมา รั่วซีก็เงยหน้าขึ้นแบบกลัวๆ + กดดันมาก องค์ชายแปดมองหน้ารั่วซีแล้วหัวเราะออกมาแบบขำมาก แซวว่าท่าทางแบบเมื่อคืนหายไปไหนหมดแล้วล่ะ จากนั้นเดินไปที่ประตู หันมามองรั่วซีที่ยังยืนงง ถามว่าจะยืนอยู่แบบนั้นอีกนานไหม รั่วซีจึงรีบวิ่งตามไปแบบงงๆ



ในงานวันไหว้พระจันทร์ คังซีฮ่องเต้เสด็จมาด้วย รั่วซีได้เห็นคังซีเป็นครั้งแรก ในงาน คังซีได้สั่งยกหมิงเยว่เป็นภรรยาหลวงขององค์ชายสิบ องค์ชายสิบหน้าซีดทันทีเพราะเขารักรั่วซี แต่ไม่สามารถขัดราชโองการได้ รั่วซีดูเพื่อนรักโดยจับคลุมถุงชนแล้วหนาวเยือก นางไม่ได้รักองค์ชายสิบ แต่เพราะเกิดและโตมาในยุคปัจจุบันที่หญิงชายเท่าเทียม และชะตาชีวิตอยู่ในกำมือตัวเอง การต้องโดนคนอื่นมาบงการชีวิตแบบเลี่ยงหนีไม่ได้ แถมยังอาจต้องตกนรกทั้งเป็นไปจนชั่วชีวิตที่เหลือเพราะการนี้ จึงเป็นเรื่องที่คาดฝันไม่ถึงมาก่อน รั่วซีมองชะตากรรมขององค์ชายสิบแล้วกลัวมาก อยากจะหนีไปหลบที่ไหนสักแห่งที่ใครก็หาไม่เจอ จะได้หนีพ้นจากชะตากรรมนี้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้

รั่วซีซึมอยู่หลายวัน จนได้รั่วหลานปลอบ ถึงค่อยดีขึ้น วันหนึ่ง รั่วซียืนเหม่อดูใบไม้ร่วงอยู่ริมสระ องค์ชายแปดกับสิบสี่เดินมาหยุดยืนดูเป็นเพื่อน องค์ชายสิบสี่พูดปลอบใจรั่วซีเรื่ององค์ชายสิบ รั่วซีจึงบอกไปตามตรงว่านางรักองค์ชายสิบแบบเพื่อนสนิทเท่านั้น ไม่ได้รักแบบคนรัก ที่นางออกอาการผิดปกติแบบนี้ไม่ใช่เพราะเสียใจที่องค์ชายสิบแต่งงาน แต่เจ็บใจที่เขาถูกคนอื่นบังคับให้แต่งงาน เจ็บใจที่ชะตาชีวิตของเขาถูกกุมอยู่ในมือของคนอื่น สิบสี่ฟังแล้วตกใจมาก ส่วนองค์ชายแปดบีบคางรั่วซีขึ้นมามองหน้าแบบเอาเรื่อง สั่งเสียงเย็นว่าทีหลังห้ามพูดแบบนี้อีก ได้ยินไหม ? รั่วซีดื้อไม่ตอบ พอโดนบีบแรงขึ้นจนเจ็บ จึงตะโกนใส่หน้าไปว่าได้ยินแล้ว ! องค์ชายแปดจึงสะบัดหน้าจากไป ส่วนสิบสี่ พูดทิ้งท้ายว่า “คนอื่น” ที่รั่วซีพูดถึงน่ะ คือฮ่องเต้เชียวนะ แล้วเดินตามพี่ชายจากไป

วันแต่งงานขององค์ชายสิบใกล้เข้ามา วันหนึ่ง สิบสี่มาหารั่วซี บอกว่าองค์ชายสิบทำใจไม่ได้ กำลังแย่ ให้รั่วซีช่วยไปพูดเกลี้ยกล่อมให้หน่อย รั่วซีก็ตกลง เมื่อไปถึงก็เจอองค์ชายสิบกินเหล้าเมาแอ๋ แต่พอเห็นรั่วซีมา ก็ทำท่าจ๋อย เขาถามรั่วซีว่าจะยอมเป็นเมียน้อยเขาไหม ? รั่วซีเซย์โนทันที บอก ไม่มีทาง องค์ชายสิบก็ทำหน้าซึม บอก เขารู้ว่าต่อให้ยกตำแหน่งเมียหลวงให้ รั่วซีก็ไม่เอาอยู่ดี เพราะรั่วซีไม่ได้รักเขา รั่วซีบอก รู้ก็ดีแล้วนี่ องค์ชายสิบระบายว่า ใครๆ ก็ว่าเขาโง่ เรียนไม่เก่ง สู้พี่น้องคนอื่นไม่ได้ ทั้งที่เขาพยายามแล้ว รั่วซีล่ะ คิดว่าเขาโง่หรือเปล่า ? รั่วซีบอก ใช่ เจ้าน่ะโง่ แต่เพราะเจ้าโง่แบบนี้ ข้าถึงได้ชอบเจ้า คุยกับเจ้าได้อย่างสบายใจ พูดกันได้ตรงๆ ไม่ต้องคิดมาก นี่แหละเป็นข้อดีของเจ้าที่คนอื่นไม่มี องค์ชายสิบฟังแล้วก็สบายใจขึ้น

จากคุณ : Linmou
เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 08:09:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com