วันเดียว...เหมือนจะไม่พอ
|
|
เปิดเดือนกันยายนด้วยวันว่าง....ไม่มีชั่วโมงสอน แต่ไม่อยากนอนอยู่บ้านอย่างอืดเอื่อย..ขี้คร้าน หาเรื่องไปธุระดีกว่า นั่งรถตู้เหมือนปกติ พนักงานที่ท่ารถตู้ก็ถามเป็นปกติว่าวันนี้จะไปไหน? นั่นสิ..ไปไหน? คำถามนี้ก็คงไม่ต่างจากชีวิต....เรามักจะเปลี่ยนจุดหมายในหลายครั้ง และอีกหลายครั้งที่จุดหมายไม่เคยเปลี่ยน !!
ตั้งใจไปคุยงานประมาณ 3 แห่ง เพื่อเตรียมตัวสำหรับงานสอนในเทอมต่อไป งานพิเศษเป็นอะไรที่พิเศษ เหมือนอิสระ....แต่ก็เหมือนไม่มีอิสระ ฉันเลือกแล้วเพราะเชื่อว่างานสอนหนังสือเป็นสิ่งที่ฉันชอบและถนัดที่จะทำ ในขณะเดียวกันก็จะทำให้ฉันมีเวลาพอสำหรับงานที่ฉันรักอีกด้วย
รถเมล์จากหน้าพาต้าพาฉันไปลงที่สี่แยกหนึ่ง ทั้งๆที่โทรถามทางมาเป็นอย่างดี แต่ฉันก็ขึ้นรถผิดคันจนได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับฉันกับการหลงทาง ฉันชินชากับตัวเองมากพอและยอมรับที่หลายครั้งต้องถามทางและออกนอกเส้นทางอยู่บ่อยๆ มีเวลาถมเถ...นั่นทำให้ฉันตัดสินใจเดิน เลยสี่แยกตรงศิริราชไป ตรงไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอกรมอู่ทหารเรือ อืมม์ ...ไม่น่าจะยาก เคยผ่านนะแต่ระยะทางในการนั่งรถกับการเดินมันต่างกัน
แม้จะร้อนแต่ฉันก็ไม่รีบ ฉันเดินมองบ้านเก่าแถบนั้นด้วยความสนใจ ชอบบ้านไม้พวกนั้นเหลือเกิน บ้านไม้ที่สร้างแบบเรียบง่าย...สองชั้นบ้าง..ชั้นเดียวบ้าง นอกจากมีหน้าจั่วลดหลั่นกันไปแล้ว บางหลังยังมีชานนอกก่อด้วยไม้เกลาเป็นลูกกรงอย่างสวยงาม มีบริเวณแวดล้อมด้วยพรรณไม้ใหญ่น้อย ดูร่มรื่นนัก บางหลังดูเก่าคร่ำ หากแต่บางหลังยังดูดีด้วยการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เสียดายที่ไม่ได้นำกล้องติดตัวมาด้วย
ฉันว่า..ฉันเดินช้าลงเรื่อยๆ และมีบ้างที่หยุดมองบ้านบางหลังอย่างสนใจ อดจินตนาการไม่ได้ว่า เมื่อ 50-60 ปีก่อน ในบ้านแต่ละหลังเหล่านั้น เขาอยู่กันอย่างไร คงจะพร้อมหน้าปู่ย่าตายายจนถึงชั้นลูกหลาน ครอบครัวในสมัยก่อนไม่ได้หมายถึงแค่ พ่อ แม่ ลูก อย่างสมัยนี้ บนเส้นทางที่ฉันเดินอยู่เมื่อ 50-60 ปีก่อน จะเป็นทางลูกรัง ทางเดินเท้า หรือเรือกสวนไร่นาก็สุดรู้ ลองนึกดูว่าถ้าเราอยู่ในบ้านเหล่านั้น เดินไปอีกหน่อยเดียวก็จะเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา อากาศยามเช้า ยามเย็นจะสดชื่นขนาดไหน แล้วชาวบ้านโดยรอบเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร คงจะรู้จักกันตั้งแต่หัวถนนยันท้ายถนน ไม่ใช่ไม่รู้จักแม้แต่คนข้างบ้านอย่างคนกรุงสมัยนี้เป็นกัน
ผ่านบ้านหลังหนึ่งมีป้ายขนาดไม่ใหญ่นักแขวนไว้ บ้านพระปราบอังวะ นึกอยากเข้าไปคุยกับเจ้าของบ้านเสียจริง ว่าต้นตระกูลเขาเป็นใคร คาดว่าน่าจะรับราชการสนองพระเดชพระคุณจนได้กินตำแหน่งเป็นถึง พระ และคงจะรบชนะจนได้ปูนบำเหน็จความดีความชอบ ได้รับพระราชทานราชทินนามเพื่อประกาศความสามารถในการรบ เป็นลูกหลานของท่านผู้นี้คงจะภูมิใจไม่ใช่น้อย ผิดกับสมัยนี้....ที่หลายคนหยิ่งผยองเพียงเพราะการมีเงินทองแต่เท่านั้น ไม่ว่าทรัพย์สินนั้นจะได้มาด้วยวิถีทางใดก็ตาม
เดินไปเรื่อยๆ เห็นคุณป้าคนหนึ่งกำลังยืนขายของอยู่หน้าบ้าน มีตู้แช่ด้วย อากาศร้อนขนาดนี้ฉันอดที่จะอุดหนุนคุณป้าไม่ได้ คิดว่าคงเป็นไอศกรีม พอแวะดูปรากฏว่าเป็นผลไม้ในน้ำเชื่อมแช่แข็ง มีหลายอย่างในเลือก ฉันซื้อลิ้นจี่หนึ่งถ้วย ความจริงอยากซื้อมากกว่านี้แต่คงทานได้แค่ถ้วยเดียวจะซื้อกลับบ้านก็ไม่ได้ แอบมองเข้าไปในบ้าน เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวแบบธรรมดา อายุไม่น่าเกิน 30-40 ปี เพราะลักษณะการปลูกสร้างไม่เหมือนหลังอื่นที่เก่ากว่า ลูกชายคุณป้าวัยยี่สิบกว่าๆออกมาช่วยขายของด้วยรอยยิ้ม คงเป็นครอบครัวที่อยู่แถบนี้มานาน อาจจะว่างเลยหาอะไรมาขายเล่นพอแก้เหงาคนแก่
ถามทางพ่อค้าหนุ่ม ได้ความว่าไปอีกไกลเหมือนกัน ฉันบอกว่าไม่เป็นไร..ฉันไม่รีบ คนเราเดี๋ยวนี้เร่งรีบไปเสียทุกอย่าง แต่ถ้าลองเดิน..แทนที่การใช้รถเพื่อให้ไปถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว เราอาจจะได้เห็นสิ่งต่างๆในระหว่างทางได้ชัดเจนขึ้นก็ได้ ถ้าลองทิ้งความสะดวกสบายดูบ้างเราอาจจะได้มุมมองแปลกใหม่บนเส้นทางเดิมๆ ใครจะว่าอย่างไรไม่รู้แต่ฉันว่า..คุ้ม
อาจเพราะร้อนมามากก็เป็นได้ จู่ๆฝนก็ตกลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย หาที่หลบฝนได้ชั่วครู่ก็เดินต่อไปอีก วัดพระยาทำ เป็นชื่อวัดที่ชัดเจนดีนะ...ฉันว่า พระยาทำนี่นา....ก็พระยาเป็นคนให้สร้างไง เวลาไปไหนก็ตามฉันมักจะอ่านชื่อถนน คลอง ซอย แล้วลองนึกเล่นๆว่าทำไมเขาตั้งชื่อแบบนั้น ส่วนใหญ่มักจะดูเรียบง่าย...ซื่อ...ตรง เป็นที่สุด อย่างคลองใกล้กรุงเทพฯแห่งหนึ่ง คนทำป้ายคงไม่ได้คิดอะไรมาก ถึงได้ทำป้ายไว้ว่า ควาย แล้วก็ปักไว้เหนือคลองทั้งอย่างนั้น นั่งรถผ่านทีไรอดสะดุ้งไม่ได้ทุกที
ติดต่องานเสร็จ เดินกลับออกมาทางเก่า เปลี่ยนใจที่จะไปติดต่องานอีก 2 แห่ง เพราะนัดกับน้องคนหนึ่งไว้ตอนเย็น เกรงว่าจะกลับมาที่จุดนัดหมายไม่ทัน เปลี่ยนที่ไปดีกว่า คิดจะนั่งเรือ จึงต้องเดินไปวัดระฆังเพื่อไปที่ท่าน้ำ แต่พอผ่านวัดก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปกราบนมัสการพระประธานในโบสถ์ เห็นเต็นท์วัด...รอให้คนไปทำบุญกัน แต่ที่ดีอยู่อย่างก็คือ ไม่มีการป่าวประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงจนดังเกินเหตุ ทำให้วัดยังคงรักษาบรรยากาศแห่งความสงบร่มเย็นไว้ได้ไม่เปลี่ยนแปลง พระในโบสถ์งามนัก....ข้าวของ..เครื่องสักการะก็ไม่รุงรังจนเกินพอดี นี่เองที่ทำให้บางคนเข้ามานั่งสวดมนต์ไหว้พระหรือแม้แต่นั่งสมาธิอยู่เป็นนานสองนาน ฉันเองก็คนหนึ่ง..นอกจากมององค์พระอย่างสงบแล้ว...ก็นั่งมองจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบอย่างรู้สึกทึ่งในฝีมือช่าง ภาพไตรภูมินั้นสวยงามมีมิติ ฉันสัญญากับตัวเองว่าจะหาโอกาสมากราบพระที่วัดนี้อีกสักครั้ง
ลงเรือข้ามฟากมาท่าช้าง ท่าช้างวันนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก มีร้านค้าใหม่ๆทันสมัย ที่ทางกว้างขวางเป็นระเบียบมากขึ้น ผู้จับจองพื้นที่ขายคงไม่ใช่แม่ค้าพ่อขายกลุ่มเดิมๆอีกต่อไปแล้ว ถึงมุมหนังสือเก่าที่วางเรียงรายริมทางฟุตบาท อดซื้อหนังสือเก่าไม่ได้ หนังสือของ น. ณ ปากน้ำ เป็นหนังสือเก่ามากแล้วเกือบ 30 ปีได้ พลิกหนังสือดูทั้งหน้าทั้งหลัง กลัวเหลือเกินว่าจะเป็นการสนับสนุนของโจร
บ่ายแก่แล้ว...ฝนยังตามมาจากฝั่งธนฯ ผู้คนเก็บของหนีฝนแทบไม่ทัน ร้านกระเพาะปลาเจ้าอร่อยยังคงรออยู่ที่เดิม แต่วันนี้อยากทานปอเปี๊ยะสดกับชาร้อนๆ นั่งอ่านหนังสือไปด้วยอย่างคนไม่มีที่ไป จนกระทั่งฝนหยุดเป็นพักถึงได้ออกจากร้าน เดินเล่นในรั้วศิลปากร ชมผลงานนักศึกษามัณฑนศิลป์ เด็กสมัยนี้ฝีมือน่าชื่นชมทั้งที่อายุยังน้อย ว่าแล้วก็อดมองตัวเองไม่ได้ว่าช่างแก่อะไรอย่างนี้ ?
เดินลัดเลาะไปเรื่อย ผ่านบริเวณบ้านทหารที่เป็นที่หลวง มีการบูรณะตึกรามแถบนั้น เนื่องจากเป็นย่านอาคารเก่า ถ้าเรียบร้อยเมื่อไหร่คิดว่าคงสวยงามน่าชม เลี้ยวซ้ายตรงร้านพระก่อนถึงท่าพระจันทร์ ไม่น่าเชื่อว่าซอยนี้เราไม่เคยเดินเข้ามา .... เป็นตึกเก่าที่ปูทางเดินใหม่ มีหลังคาคลุม มีโต๊ะเก้าอี้วางหน้าบ้าน บ้างก็เป็นร้านเช่าพระ บ้างก็เป็นร้านอาหาร ทั้งๆที่ผ่านมาทางนี้บ่อยครั้งแต่ก็พบเส้นทางใหม่อีกจนได้....บางครั้งอะไรใหม่ๆในชีวิตก็ไม่ได้ต้องออกแรงค้นคว้ามากนัก แค่หันมองไปทางอื่นบ้างก็พอแล้ว
ใกล้เวลานัดแล้ว จึงขึ้นรถไปจุดนัดพบ น้องเขาเคยบอกว่าอยากไปดูร้านกาแฟที่เป็นบ้านโบราณที่เราเล่าให้ฟัง ตรอกข้าวสารอยู่ข้างหน้านี่เอง หกโมงครึ่งยังไม่ใช่เวลาของนักเที่ยว...ยังเช้าเกินไป
สองสาวต่างวัยผู้วางอนาคตไว้บนเส้นทางนักเขียนใช้บ้านเดิมท่านเจ้าคุณในการถกเถียง โต้แย้ง ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ หนังสือ ศาสนา บ้านเมือง วิชาการ ทั้งประเด็นที่เห็นด้วยและเห็นต่าง หลายปัญหา หลายข้อมูล หลายความคิด หลายประสบการณ์ ถูกนำมากองบนโต๊ะและเปิดเผยประเด็น จนเราไม่มีแม้แต่เวลาที่จะชื่นชมบ้านโบราณหลังนั้นด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นโอกาสอันดีที่เราจะทำความรู้จักกับความคิดของเพื่อนใหม่..มิใช่หรือ ? ความคิดที่ทำให้เรารู้ว่า..เราจะยังคงเดินไปบนเส้นทางเดียวกันได้อีกนานแสนนาน
น่าแปลกที่คนรู้จักนั้นเราหาได้ไม่ยาก ....แต่ถ้าคนรู้ใจแล้ว แค่ระยะเวลาที่จะเลือกเฟ้นก็หมดไปเกือบค่อนชีวิต คนที่คุยภาษาเดียวกัน อาจจะไม่ใช่คนที่เห็นตรงกันทุกเรื่อง...แต่กลับเป็นคนที่เราพูดคุยได้ทุกเรื่องต่างหาก พิจารณากันให้ดี...เราอาจเหลือคนแบบนี้ในใจน้อยคนเต็มที
กาแฟที่สั่งเย็นนั้น..ไม่รู้รสเอาเสียเลย ค่าที่เรามัวแต่พูดคุยกันนั่นเอง ความจริงฉันอยากให้น้องเขาได้ชมสถานที่เก่าแก่นั้นด้วยตาตนเอง เพราะน้องเขาชื่นชอบของโบราณตามประสาเด็กเรียนประวัติศาสตร์ เสียดายที่เวลาของเราหมดไปกับการสนทนาเสียจนหมด ที่คิดไว้ว่าจะไปเดินเล่นบางลำพูเป็นอันงด อย่าว่าแต่บางลำพูเลย แม้แต่ชั้นสองของบ้านยังไม่มีเวลาแม้แต่จะเดินขึ้นไปชม เพราะเวลาบังคับให้เราต้องออกจากที่นั่นอย่างรีบเร่งสวนทางกับนักท่องเที่ยวมากมาย....รายทางราชดำเนินยามค่ำ
มืดแล้ว...แท็กซี่คันนั้นจอดหน้าสถานีขนส่งสายใต้ เพื่อให้ทันรถเที่ยวสุดท้าย...ฉันรีบอย่างที่สุด แล้วก็มาอ้อยอิ่งทอดอารมณ์อยู่บนรถทัวร์คันนั้น ฝนโปรยพลิ้ว...แผ่ว นึกถึงบทสนทนาของฉันกับน้องคนนั้น แม้จะไม่ได้เหมือนกันเสียทีเดียว...แต่หลายคำพูดทำให้ฉันมองเห็นความคิดของตัวเองในอดีตเมื่อวัยเยาว์ ฉันออกจะได้เปรียบที่ผ่านวันเวลาเหล่านั้นมาแล้ว ทำให้สามารถตอบคำถาม แนะนำ ให้คำปรึกษาได้ในหลายเรื่อง แต่น้องเขาคงได้แต่ฟังไว้และนำไปคิด หากช่วยให้เขาเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆได้ดีขึ้นก็นับว่าคำแนะนำของฉันพอจะมีคุณค่าอยู่บ้าง
หากแต่แท้ที่จริงแล้ว คนเราแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตกันได้ก็จริง แต่ในชีวิตของเราการณ์ที่ประสบคงไม่มีทางที่จะแลกเปลี่ยนกันได้อย่างแน่นอน
ดึกโข...อีกทั้งเงียบนัก ดูเหมือน...ความคิดฉันจะแล่นฝ่าฝนไปไกลกว่ารถที่ฉันนั่งเสียอีก อย่างน้อยฉันจะพยายามขับเคลื่อนความคิดของฉันให้วิ่งตรงไปบนหนทางอุดมการณ์ตามที่วางไว้...แม้หนทางจะยาวไกลเพียงใดก็ตาม...ฉันมั่นใจอย่างนั้น
จากคุณ |
:
สร้อยสยาม
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ก.ย. 52 18:26:22
|
|
|
|