ความคิดเห็นที่ 1 |
มิได้เจ้าค่ะ มาเถิดหนาอาบเองจักไม่สะอาดบ่าวสองคนจัดแจงรั้งเธอไว้ก่อนจะเอาขันที่ทำด้วยเงินมาตักน้ำรดตัวของเธอโดยเกศสุรางทำได้เพียงทำตาปริบๆ สักพักมะขามเปียกที่ผสมขมิ้นไพลและดินสอพองถูกนำมาล้างหน้าขัดคอบ่าไหล่ด้วยรังบวบอันใหญ่เป้ง
แล้วลงคลองได้ไหม ในคลองมีจระเข้ไหม ปลิงล่ะนางผินและนางแย้มหัวเราะคิกเมื่อได้ยินเสียงถามรวดเดียวนั้น มิมีจระเข้ดอกเจ้าค่ะ น้ำคลองเป็นน้ำไหลมิใช่บึงนิ่งมิมีปลิงดอกเจ้าค่ะ หากแม่นายท่านจักลงไปอาบเล่นก็ได้เจ้าค่ะแต่รอให้ขัดตัวให้เสร็จก่อนนะเจ้าคะ
ถึงว่ามันจะสะอาดไปได้อย่างไร ถึงยังไงเธอก็ต้องขัดข้างในเองอยู่ดีที่แท้ต้องลงไปอาบทั้งตัวในขั้นตอนสุดท้ายนี่เอง เกศสุรางค์มองรอบกายด้วยความสนใจ ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มมองไปทางใดก็เขียวสดใสสบายตา น้ำในลำคลองใสไหลเรื่อยลมเย็นพัดพากลิ่นดอกไม้หอมระรื่นชื่นโชยทำให้จิตใจที่วุ่นวายผ่อนคลายลงชั่วครู่
อาบอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะ เพลินดี แต่ถ้าให้ดีต้องมีฝากั้นจะได้อาบน้ำสะดวกๆ อย่างนี้ใครพายเรือผ่านไปผ่านมาก็เห็นกันหมดพอดี มีเจ้าค่ะ ผู้ชายห่าม มาแอบดูผู้หญิงอาบน้ำ เหรอ แล้วเคยมีใครมาแอบดูข้าหรือพี่ๆบ้างไหมล่ะเกศสุรางค์ยิ้มซุกซนถามหยอกพี่เลี้ยง
มิมีผู้ใดกล้าดอกเจ้าค่ะ มิว่าผู้ใดก็รู้ว่าเรือนนี้เป็นเรือนผู้ใด ออกญาโหราธิบดีเป็นถึงพระยาราชครูของพระเจ้าอยู่หัว แม่นายท่านเป็นลูกท่านหลานเธอมิว่าผู้ใดก็ต้องเกรงเจ้าค่ะส่วนบ่าวก็ต้องไปอาบท่าโน้น ก็...มีบ้างเจ้าค่ะ ท่าทีเอียงอายยิ้มจนเห็นฟันดำนั้นน่าขันจนเธอต้องหัวเราะลั่นออกมา สองพี่เลี้ยงฟังก็ให้ตกใจอย่างหนักทำกิริยาเลิกลั่กมองซ้ายขวาเมื่อไม่เห็นผู้ใดก็ค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก
มิบังควรหัวร่อดังปานนี้นะเจ้าคะ ผู้อื่นจักก่นว่าเอาได้ว่าหัวร่อดั่งม้าล่อ อ้าวซะงั้น จะพยายามเก็บเสียงก็แล้วกันนะ เอ๊ะ อย่างนี้ออกญาโหราธิบดี ผู้หญิงที่ดุๆนั่นกับหมื่นสุนทรเทวาก็ต้องมาอาบท่านี้เหมือนกันใช่ไหม
ควรเพรียกออกญาท่านว่าคุณลุงเจ้าค่ะ ออกญาเป็นคำเรียกพระยาที่อาวุโสใกล้ได้เป็นเจ้าพระยา หากเป็นคุณพระฤๅท่านหมื่น ก็จักเพรียกว่าออกพระ ออกหมื่น ส่วนแม่นายจำปาต้องเพรียกว่าคุณป้า แล้วท่านหมื่นก็จักต้องเพรียกว่า คุณพี่เจ้าค่ะ แลหากท่านเห็นว่าแม่นายท่านอาบอยู่ ท่านก็จะเคร่าก่อนเจ้าค่ะมิมาอาบด้วยเพราะ..เกรงว่าจักเป็นที่ครหาได้เจ้าค่ะเกศสุรางค์นั่งฟังอย่างตั้งใจแล้วก็ให้สะดุดบางคำที่เดาความหมายได้ยาก
เคร่า? รอท่าไว้มิมาก่อนเพลาอันควรเจ้าค่ะนางแย้มอธิบายเพิ่มเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีทีท่าไม่เข้าใจ อ้อ คำโบราณนี่ยากเหมือนกันนะ ถ้ามีอะไรที่ข้าต้องรู้อีก พี่ทั้งสองก็ช่วยบอกข้าด้วยก็แล้วกัน เพราะข้าลืมไปจนหมดแล้วจริงๆ
เอ่อ แม่นายท่านเจ้าขา หากผู้ใหญ่มิได้กล่าววาจาด้วย ก็มิบังควรถามไถ่ฤๅเอ่ยปากก่อนหนาเจ้าคะนางผินเตือนด้วยน้ำเสียงที่กริ่งเกรง แล้วถ้าสงสัยมากๆๆอยากถามล่ะ ก็ต้องขออภัยก่อนเจ้าค่ะ กล่าวเยี่ยงนี้นะเจ้าคะ ขออภัยด้วยเถิดหนา ฤๅ ขออภัยด้วยเถิดเจ้าค่ะ ข้าใคร่ถาม จึงรอให้ผู้ใหญ่ท่านอนุญาตแล้วจักถามได้เจ้าค่ะ
โห น่าอึดอัดนะเนี่ย เอาเป็นว่าถ้าไม่จำเป็นจะไม่พูดเลยดีกว่าไหมมีอะไรสงสัยก็ค่อยมาถามพี่ผินกับพี่แย้มก็แล้วกันเนาะ สองบ่าวก้มหน้าหัวเราะเบาๆอีกครั้ง เป็นครั้งแรกในรอบสิบปีที่นางทั้งสองรู้สึกชื่นใจสบายใจที่ได้รับใช้ใกล้ชิดนายผู้นี้ ท่าทีคล้ายเด็กหญิงที่ไม่รู้ความและไม่เจ้ายศเจ้าอย่างเช่นดั่งเคยชวนให้เอื้อเอ็นดูเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า
หลังจากล้างผมล้างตัวจนสะอาดเกศสุรางค์ก็ต้องใจหายใจคว่ำกับการผลัดผ้าอีกครั้งทว่าก็เป็นไปอย่างคล่องขึ้น อย่างน้อยก็ไม่หลุดลุ่ยให้อายสองพี่เลี้ยง ผมยาวดำหอมมะกรูดจางๆพาให้สดชื่นยิ่งกว่าเดิม แม้โดนเข้าครั้งแรกจะทั้งแสบทั้งคัน เนื้อตัวที่ถูกขัดครั้งแรกนั้นก็เช่นกันหากเมื่อได้ลงน้ำอาการคันอาการแสบก็หายไปจนหมดสิ้น
ทั้งหมดพากันเดินขึ้นเรือน นางแย้มตักน้ำในโอ่งเล็กริมบันไดเรือนมารดล้างเท้าให้แม่นายของตน ส่วนนางผินน้ำผ้าไปซักตาก ปล่อยให้เกศสุรางค์เดินขึ้นเรือนไปกับนางแย้มเพียงสองคน
นางแย้มจัดแจงยกเครื่องประทินมาชโลมทาผิวลออนั้นอย่างเบามือ ทั้งน้ำอบน้ำปรุงและแป้งร่ำผงกฤษณาถูกทาอย่างกระหน่ำในความรู้สึกของเกศสุรางค์ นางแย้มนำพัดใบตาลมาพัดวีจนแห้งแล้วจึงทำท่าจะทาซ้ำอีกรอบ เย้ย พี่แย้มรอบเดียวก็พอแล้ว มิได้ดอกเจ้าค่ะ จักมิหอมติดเนื้อติดตัว
ไม่ต้องให้หอมนักก็ได้ไม่ได้ออกไปไหนอยู่แต่กับ...เรือนไม่ใช่หรือ ท่านหมื่นอยู่ด้วยหนาเจ้าคะท่าทีพูดที่อ้อมแอ้มทำให้เกศสุรางค์นึกรู้ เป็นคู่หมั้นกันแล้ว ยังต้องให้ท่าอีกเหรอ เพียงได้ยินนางแย้มถึงกับตบอกตัวเองด้วยความตกใจ
กล่าวเยี่ยงนั้นได้กระไรเจ้าคะ อีกทั้งท่านหมื่นเป็นแค่คู่หมายเจ้าค่ะ มิได้หมั้นฤๅตกลงความกันเป็นมั่นเหมาะ แลนี่ก็ครบขวบปีแล้วที่แม่นายท่านมาอยู่เรือนนี้ ยังมิมีผู้ใดกล่าวถึงเรื่องนี้เลยเจ้าค่ะ ได้ยินเช่นนั้นเธอก็พอรู้แล้วว่างานนี้มีเหนื่อย
อ้าว เอ้างั้นก็ประโคมเข้ามาน้ำหงน้ำหอม อย่างน้อยหากการะเกดยังไม่ได้ตายและสามารถกลับมาร่างนี้ได้เธอจะได้ไม่ต้องตกเป็นจำเลยว่าไม่ทำตามอุดมการณ์เดิมของเจ้าของร่าง คราวนี้เจ้าตัวเลยกางแขนกางขาให้นางแย้มได้ทาถูๆกันอย่างเต็มที่
ครบสามครั้งสามคราถึงได้ฤกษ์แต่งองค์ทรงเครื่อง คราวนี้เกศสุรางค์ขอแต่งเอง หากหลังจากพยายามแต่งเนื้อแต่งตัวเองอยู่พักใหญ่ก็ต้องยอมแพ้ให้นางแย้มมาช่วย เวรเอ๊ย เสื้อผ้าสมัยนี้ใส่ยากใส่เย็นจริงๆเสียงบ่นพึมพำนั้นเริ่มเป็นที่เคยชินต่อผู้ฟัง นางแย้มจับจีบผ้าให้อย่างคล่องแคล่วในขณะที่เกศสุรางค์กุมชายพกไว้อย่างมั่นมือ
มีเสื้อไหมพี่แย้ม มีเสื้อเครื่องเจ้าคะ แต่เอามาทำไมเจ้าคะหนาวฤๅเจ้าคะ นางผินที่ซักผ้าตากเสร็จสรรพเดินเข้ามาในห้องก็เดินเข้ามาช่วยอย่างรู้งานพร้อมออกปากถามเมื่อได้ยิน ก็ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่หรอก แต่ถ้ามีก็ขอหน่อยสิพี่ผิน ข้ากลัวผ้าหลุด ผ้าแถบเนี่ยนุ่งลำบากจะตายไปเกศสุรางค์ก้มมองผ้าแถมที่แม้จับมาพันๆตัวอีกครั้งแต่ก็ไม่ได้สร้างความมั่นใจให้กับเธอได้เลย
| จากคุณ |
:
จอมนาง
|
| เขียนเมื่อ |
:
10 ก.ย. 52 21:06:49
|
|
|
|