 |
ความคิดเห็นที่ 1 |
หลี่เหยียนเนียนมองเด็กทั้ง 15 คนที่เหลืออีกครั้ง แล้วถอนหายใจพูดว่า บอกแล้วว่าคนที่สามารถรอดชีวิตมาได้จากเด็กทั้ง 1,000 ถือเป็นเจ้านายได้แล้ว ไหนบอกมาซิว่าทำไมตึกสิบถึงได้รอดมาตั้งห้าคน?
ผู้คุมชุดดำคนหนึ่งลังเล ก่อนจะพูดตอบว่า เด็กตึกสิบฉวยโอกาสตอนที่เด็กตึกเก้าเพิ่งจะสู้(ฆ่ากัน)เสร็จและกำลังอ่อนเพลียถึงขีดสุดเข้าไปรุมฆ่าเด็กตึกเก้า ทำให้เด็กตึกเก้าตายหมด ส่วนเด็กตึบสิบรอดมาได้ถึงห้าคน หลี่เหยียนเนียนจึงร้องอ้อ แล้วหันไปถามเด็กตึกสิบที่รอดมาทั้งห้าคนว่า ใครเป็นหัวโจก?
เด็กตึกสิบสามคนนอกจาก 99 กับ 100 พากันก้มหน้าลงอย่างหวาดกลัว แล้วแอบเหลือบมองไปที่ 99 โดยพร้อมเพรียง ซึ่งหลี่หลินเห็นแล้วนึกเหยียดหยามในความขี้ขลาดของเด็กสามคนนั้นเป็นอย่างมาก จากที่หลี่หลินคาดการณ์ หลี่เหยียนเนียนไม่น่าจะฆ่าเด็กที่เป็นหัวโจก ส่วนจะลงโทษอย่างไรนั้นเป็นอีกเรื่อง
ความจริงว่ากันตามหลักแล้ว หลี่หลินคิดว่าตัวเขาไม่ควรให้เด็กอายุแปดขวบต้องมาเป็นแพรรับบาปแทนตัว แต่การทำตัวเด่นเตะตาชาวบ้านไม่ใช่หลักการที่เขาจะเลือกทำ เพราะเขาไม่อยากถูกส่งไปทานที่อันตรายที่สุดในอนาคต โดยจากประสบการณ์ในการเป็นนักฆ่าในชาติก่อนของเขาทำให้เขารู้ว่า นักฆ่าระดับท็อปมักจะตายเร็วกว่าใครเพื่อน ซึ่งไม่ใช่ว่าฝีมือไม่ดีพอ แต่เป็นเพราะต้องรับงานที่อันตรายมากเกินไป ดังนั้นต่อให้ต้องรับสารภาพว่าตัวเองเป็นคนต้นคิดแผนการนี้ หลี่หลินก็ต้องคำนวณเวลาที่จะสารภาพให้ดีๆ ว่าต้องรอไปสักระยะ อย่าเพิ่งรีบสารภาพ และตอนที่สารภาพต้องแกล้งแสดงละครด้วยว่ากลัวแทบตาย แต่ก็กัดฟันก้าวออกไปสารภาพยอมรับว่าตัวเองเป็นคนต้นคิด
หลี่เหยียนเหนียนเห็นยังคงไม่มีใครสารภาพ ก็ยิ้ม แล้วพูดว่า รู้หรือเปล่าว่าทำไมถึงให้พวกเจ้าเข้าไปสู้กันเองโดยวางเงื่อนไขให้ต้องฆ่าคนอื่นอย่างน้อยหนึ่งคนทุกวัน? ก็เพราะเพื่อจะให้รู้ว่าการปรานีต่อศัตรูคือการทำร้ายตัวเอง จะให้โอกาสพวกเจ้า บอกมาซะว่าใครเป็นต้นคิด แล้วคนอื่นที่เหลือเหยียจะไม่ฆ่า
99 ร้องสารภาพออกไปเสียงสั่นว่าตัวเองเป็นคนทำก่อนที่หลี่หลินจะอ้าปากสารภาพพอดี พร้อมกันนั้นก็นึกถึงตอนที่ตัวเขาคุ้มครองหลี่หลินอยู่ข้างหลังสู้กับเด็กชายสามคนอย่างดุเดือด เขาได้ยินเสียงอ่อนโยนแต่เหี้ยมเกรียมดังมาจากด้านหลังว่า ฆ่าคนของตึกเก้าซะ! ซึ่ง 99 ยอมเชื่อว่านั่นเป็นเสียงจากจิตใต้สำนึกของตัวเองมากกว่าเชื่อว่าเป็นเสียงจากปากของ 100 ผู้ใสซื่อที่เขาพยายามคุ้มครองมาโดยตลอด
หลี่หลินมอง 99 อย่างตกตะลึง แล้วพยายามบอกตัวเองว่าอย่าไปจดจำน้ำใจในครั้งนี้ แม้ว่าพฤติกรรมของเด็กแปดขวบตรงหน้าคนนี้คู่ควรให้เขานับถือจากใจจริงก็ตาม
หลี่เหยียนเนียนขมวดคิ้ว พูดว่า ดำกินดำอันร้ายกาจนัก แบบนี้เด็กตึกเก้าไม่เท่ากับตายอย่างไม่พอที่หรอกรึ ส่งกลับเข้าไปตึกสิบทั้งหมด (ทั้งห้าคน) คนที่รอดออกมาพรุ่งนี้ถึงจะนับว่าผ่านด่าน!
หลี่อ้อร์ฟังแล้วหนาวเยือกไปทั้งตัว เพราะจากเด็ก 1,000 เหลือผ่านมาถึงตรงนี้ได้ ถือว่าเป็นเด็กชั้นเลิศในชั้นเลิศแล้ว เมื่อกี้ก็สิ้นเปลืองถูกส่งเข้าเรือนโบตั่นไปสองคน นี่ห้าคนนี่จะถูกส่งกลับเข้าตึกสิบไปอีก คราวนี้ไม่รู้ว่าจะต้องสูญเสียไปอีกกี่คน
หลี่หลินถอนหายใจ ก้าวออกไปข้างหน้าสองก้าวแล้วพูดว่า ข้าเองที่เป็นคนต้นคิด กว่าจะออกมาตึกได้ไม่ง่ายดาย ข้าไม่อยากจะกลับเข้าไปอีกแล้ว
หลี่เหยียนเนียนมองหลี่หลินที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า ในบรรดาเด็กที่รอดชีวิตทั้งหมด หลี่หลินอายุน้อยที่สุด โดยอายุแค่หกขวบเท่านั้น และท่าทีที่สงบนิ่งผิดจากเด็กคนอื่นๆ ของหลี่หลินทำให้หลี่เหยียนเนียนยิ่งประหลาดใจ จึงย้อนถามว่า เจ้าเป็นคนต้นคิดจริงๆ รึ? 99 กับหลี่หลินร้องตอบพร้อมกันว่า ข้าเป็นคนทำ! หลี่เหยียนเนียนแดกดันว่า ช่างเป็นพี่น้องที่รักกันนักนะ รู้หรือไม่ว่าพี่น้องแปลว่าอะไร? พี่น้องก็คือคนที่สามารถขายเราได้ง่ายดายที่สุด จงจำคำของเหยียเอาไว้ บอกมาซะ ใครเป็นคนต้นคิดกันแน่?
99 ทำท่าจะชิงออกรับแทนอีก แต่ถูกหลี่หลินขวางเอาไว้ และชิงตอบว่า ความจริงแล้วคนต้นคิดคือข้า ส่วนเขาเป็นหัวโจกดำเนินการ
หลี่เหยียนเนียน อ้อ แล้วทำไมเมื่อกี้ถึงไม่สารภาพ?
กลัวตาย! หลี่หลินตอบแบบขวานผ่าซากมาก
หลี่เหยียนเนียนถอนใจ นั่นสินะ ไม่ว่าใครก็กลัวตายกันทั้งนั้น แล้วตอนนี้ไม่กลัวตายแล้วรึ?
หลี่หลิน ท่านไม่มีทางฆ่าข้า อย่างมากก็แค่ส่งไปเรือนโบตั๋นเหมือนอย่างสองคนนั้นเท่านั้น
หลี่เหยียนเนียนมองเด็กน้อยตรงหน้าอย่างสนใจเป็นอย่างยิ่ง ถามว่า
หนึ่งร้อย เจ้ารู้หรือไม่ว่าเรือนโบตั๋นเป็นสถานที่เช่นไร? ความจริงหลี่เหยียนเนียนไม่คิดว่าเด็กหกขวบจะเข้าใจอย่างแท้จริงถึงความหมายของเรือนดบตั่น แต่เพราะท่าทีเยือกเย็นผิดธรรมดาของหลี่หลิน ทำให้เขาเอ่ยถามออกไปแบบนี้
หลี่หลินเงยหน้าขึ้น ใบหน้าเปื้อนเลือดปราศจากแววหวาดกลัวแม้แต่น้อยนิด ตรงกันข้ามกลับแฝงแววล้อเลียนยามที่เอ่ยออกไปว่า
ตายใต้ดอกโบตั๋น เป็นปิศาจก็สำราญ
คำตอบนี้ทำเอาทุกคนตกตะลึงกันไปหมด หลี่เหยียนเนียนนิ่งใคร่ครวญคำตอบที่หลี่หลินตอบออกมาอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหัวเราะก้อง พูดว่า นึกไม่ถึงเลยว่าปีนี้จะได้คนชั้นเลิศมาด้วย น่าสนใจดีนี่! ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อเดินจากไป
หลังจากหลี่เหยียนเนียนไปแล้ว หลี่เอ้อร์ก็วิ่งตามเจ้านายไป ส่วนคนที่เหลือพากันหันมามองหน้ากันเองเลิ่กลั่ก
99 ดุหลี่หลินอย่างโกรธจัดว่าสารภาพไปแบบนั้นทำไม อยากให้ตายกันทั้งคู่หรือไง หลี่หลินยิ้มพลางพูดว่า ก็ข้าเป็นคนพูดบอกเจ้าชัดๆ นี่ 99 ดุว่า เจ้าก็แค่หลุดปากพูดไปแบบไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย อย่างเจ้าหรือจะมีความคิดแบบนั้นได้?! หลี่หลินยิ้มไม่เดือดร้อน พูดว่า ข้าหิวแล้ว 99 จึงถลึงตาใส่ ตะคอกด่าว่า พักตร์ชาดน้ำเคราะห์ (พักตร์ชาด โดยทั่วไปแปลว่าหญิงงาม แต่ก็ใช้ในความหมายหนุ่มหน้าสวยเหมือนผู้หญิงก็ได้ ในที่นี้ 99 ด่าหลี่หลินที่หน้าสวยเหมือนเด็กผู้หญิง)
หลี่หลินฟัง 99 ด่าแล้วได้แต่ฝืนยิ้มพลางเอามือลูบหน้าตัวเอง เพราะใบหน้านี้เป็น พักตร์ชาดน้ำเคราะห์ จริงๆ ขนาดแกล้งปัญญาอ่อนแล้วยังไม่แคล้วจะถูกส่งไปเข้าเรือนโบตั๋น จากนั้นหลี่หลินย้อนถาม 99 ไปว่า แล้วตอนที่ 99 สารภาพออกไปนั่น ไม่กลัวตายหรือไง? 99 ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วตอบว่า อย่างมากก็แค่ถูกส่งไปเรือนโบตั๋นเท่านั้น ทำให้หลี่หลินค่อยรู้สึกโล่งอกทันทีว่าตัวเองไม่ได้ติดค้างน้ำใจ 99 เนื่องจาก 99 รู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะไม่ตาย
หลังจากนั้น หลี่หลินก็ได้อาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าใหม่เอี่ยม (ตลอดเวลาที่เข้ามาในหุบเขา หลี่หลินไม่ได้อาบน้ำเลย) จากนั้นถูกผู้คุมพาตัวไปพบหลี่เหยียนเหนียน ท่าทีของผู้คุมดุจะหวาดกลัวหลี่เหยียนเหนียนมาก หลี่หลินนึกถึงว่าหลี่เหยียนเหนียนรวบรวมเด็กพันกว่าคนมาฝึกวิชา แล้วมองเด็กพวกนี้ฆ่ากันเองจนเหลือแค่ไม่กี่คนภายในเวลาไม่กี่วันด้วยสีหน้าเฉยสนิทไม่บ่งบอกความรู้สึกอะไรเลย ก็สมควรอยู่หรอกที่ผู้คุมคนนี้จะกลัว และสมอยู่หรอกที่จะได้รับมอบหน้าที่สำคัญในการคุมการฝึกเด็กนักฆ่าในหุบเขาทั้งหมด จากนั้นประเมินไปถึงตึกที่อยู่ของหลี่เหยียนเหนียนว่าอยู่ในตำแหน่งที่สามารถทอดตามองเห็นหุบเขาได้ทั้งหมด บอกให้รู้ว่าแม้จากท่าทางที่แสดงออก หลี่เหยียนเหนียนดูเรื่อยเฉื่อยเหมือนไม่ค่อยแยแสสนใจอะไร แต่ความจริงแล้วเป็นคนที่ชอบให้ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของตัวเอง และจากบุคลิกเหมือนผู้ดีสูงศักดิ์กับหน้าตาที่จัดได้ว่าหล่อเอาการของหลี่เหยียนเหนียน ทำให้หย่งเยี่ยอดคิดไม่ได้ว่าหุบเขานี้ช่างมีอิทธิพลจริงๆ ขนาดคนมาดอย่างกับองค์ชายในราชสกุลแบบหลี่เหยียนเหนียนยังมีตำแหน่งเป็นแค่ผู้คุมฝึกเด็ก แล้วคนที่มีตำแหน่งสูงยิ่งกว่านี้ล่ะ มันน่าคิดมาก
จากคุณ |
:
Linmou
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ก.ย. 52 21:28:49
|
|
|
|
 |