Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องเล่าสยองของข้าพเจ้า ตอน อาถรรพ์เพลงมอญร้องไห้  

สามารถติดตามอ่านเรื่องเล่าสยองของข้าพเจ้า
และนิยายเรื่องอื่นๆได้ที่ blog ของมูนนี่ค่ะ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever

ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านมากๆค่ะ^/|\^

ตอน ผีโพรงที่ลำตะคอง (หลอนครั้งแรก)
ตอน ผีโพรงที่ลำตะคอง (ฝูงผีบุก)
ตอน ผีทวงสมอง
ตอน ช่วยด้วย
ตอน หัวใคร ในทะเล
ตอน ทำไมพี่ถึงไม่ช่วยผม!
ตอน กลิ่น
ตอน เขามาเตือน
ตอน วิญญาณป่าที่เขาใหญ่
ตอน เขามานำทาง
ตอน เหงามั้ยจ๊ะ
ตอน ผีถ้วยแก้ว
ตอน ผีที่อินเดีย ตอนแรก
ตอน เขา....มาเกาะที่ไหล่
ตอน ท่อนแขนใครบนหาดทราย
ตอน ผีที่อินเดีย(ภาคสองเสียงในความมืด)
ตอน ความอัศจรรย์บนนากาก็อต
ตอน พรายทะเล
ตอน มือสีขาว
ตอน ผีที่ดินเดีย ภาคเจอผีที่เนปาล
ตอน ผมเป็นทหารช่าง
ตอน ผีอำ
ตอน เส้นทางสนธยา
ตอน เงาดำที่ศรีลังกา
ตอน ขอข้าวอีก!
ตอน ใครที่วิ่งเข้ามา
ตอน ศีรษะสยองขวัญ
ตอน เสียงที่วิ่งรอบรถ
ตอน อะไรวิ่งอยู่บนหลังคา
ตอน วิญญาณที่มากับกระถางกุหลาบ
ตอน ข้อเท้าใคร
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8202343/W8202343.html
ตอน วิญญาณจากอุบัติเหตุ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8256504/W8256504.html
ตอน แสงหิ่งห้อยกับเงาสูงชะลูด
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8281690/W8281690.html


เรื่องที่ 35

อาถรรพ์เพลงมอญร้องไห้

หลายคนคงจะรู้จักเพลงมอญร้องไห้ บางคนคงได้ฟังมาแล้วจากการได้ไปร่วมงานสวดศพ ทุกคนคงรู้สึกเหมือนกันว่ามันช่างเป็นเพลงที่มีท่วงทำนองที่น่าขนลุก ยิ่งประกอบกับเสียงคร่ำครวญจากนางร้องไห้หน้าศพแล้วยิ่งเพิ่มความหดหู่จนบางครั้งผู้ร่วมงานถึงกับนั่งน้ำตาซึม

โดยปรกติแล้วผู้คนส่วนใหญ่ไม่นิยมนำเพลงนี้มาฟังเล่น หรือแม้แต่กระทั่งหาซื้อมาเก็บไว้ในบ้านเพราะความเชื่อที่ว่ามันเป็นเพลงสำหรับงานอวมงคล ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีขายแพร่หลายกันนัก และวงดนตรีที่เล่นเพลงนี้ได้ก็จำกัดแค่วงที่เรียกว่า ปี่พาทย์มอญ

เดี๋ยวนี้โลกได้พัฒนาไปเยอะ มีรายการเกี่ยวกับผี จิตวิญญาณหรือการลองของ ตามรอยผีกันมาก แถมเด็กบางคนยังทำเป็นว่าชื่นชอบที่จะฟังเพลงนี้เสียเหลือเกินซึ่งพี่เองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาคิดอะไรกัน

อาจจะรู้สึกตื่นเต้นในการฟังก็ได้

ประสบการณ์ที่พี่ต้องไปเกี่ยวข้องกับเพลงนี้ก็สบเนื่องมาตั้งแต่ปี 2542 ที่จำได้เพราะเคยนำเรื่องนี้ไปเล่าในรายการวิทยุและบันทึกเทปเก็บไว้ ตอนนั้นคุณแม่จะทำบุญบ้านพี่เลยไปหาซื้อเพลงมงคลพวกเพลงมหาฤกษ์อะไรทำนองนี้มาเปิดระหว่างที่พระทำพิธีและฉันท์เพล

เชื่อไหมว่าตอนนั้นเดินอยู่หาอยู่หลายร้าน ตอนนั้นพวกซีดียังไม่เป็นที่แพร่หลาย ส่วนใหญ่จึงเป็นรูปแบบเทปคาสเส็ต พี่เดินไปที่ร้านเจ้าประจำแล้วถามว่ามีเพลงมงคลไหมพวกมหาฤกษ์อะไรทำนองนั้นน่ะ ด้วความที่เพลงกลุ่มนี้คนไม่ค่อยซื้อถ้าไม่จำเป็นทำให้ขายยากแลยไม่มีการวางโชว์ เจ้าของร้านบอกว่ามีแต่ต้องหาเอง

เอ้า หาเองก็หาเอง

แกลากลังกระดาษออกมาวางแล้วไปนั่งหน้างอ พี่เลยรีบนั่งคุ้ยหาแล้วดึงออกมาได้สี่ห้าตลับเพราะเห็นหน้าปกเป็นรูปเครื่องดนตรีไทย ตอนหอบไปจ่ายถึงได้สังเกตเห็นคำว่า นางหงส์ ซึ่งเป็นเพลงในกลุ่ม มอญร้องไห้ ตอนนั้นใจหายวาบและฉุกคิดขึ้นมาเองว่า เราต้องเจองานศพแน่

งานบุญบ้านผ่านไปด้วยดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น พี่เองก็ลืมไปแล้วด้วยจนกระทั่งสองอาทิตย์หลังจากนั้น พวกพี่ก็ได้รับข่าวที่น่าตกใจว่า น้องคนหนึ่งถูกรถเมล์ทับตาย

น้องคนนี้เป็นหลานของน้ายุเพื่อนแม่ ถึจะดื้อแต่เขาก็รักและเคารพน้ายุมาก เวลาน้ายุไปหาแม่ที่บ้านน้องคนนี้ก็จะคอยตามไปเป็นเพื่อน ความที่ช่างพูดเลยทำให้สนิทกับพวกพี่จนถึงขนาดพูดจาหยอกล้อกันได้

พวกพี่รีบไปหาน้ายุที่บ้าน แกร้องไห้และเล่าให้ฟังว่าวันนั้นน้องขี่มอร์เตอร์ไซด์ออกจากบ้านเพื่อไปเรียนตามปรกติ ถนนที่ใช้เป็นถนนใต้ทางด่วนที่ตอนนั้นยังไม่ได้เปิดเป็นทางการ พวกรถเมล์ชอบใช้เป็นทางลัดวิ่งออกจากอู่และขับเร็วชนิดฝุ่นตลบลมพัดผ้าบนราวแห้งเลย

คนที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่ามอร์เตอร์ไซด์น้องวิ่งชิดซ้ายนำหน้าไม่เร็วนัก แต่ไม่รู้ว่าคนขับรถเมล์เกิดอาการหมั่นไส้หรืออารมณ์ค้างมาจากไหน เขากดแตรไล่เด็กหลายครั้งและแกล้งเร่งความเร็วจี้จนเด็กต้องเร่งเครื่องหนี คนเล่าบอกตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรเลยหันหน้าไปทางอื่น ตอนนั้นเองที่ได้ยินเสียงดังโครม แกรีบหันไปดูก็เห็นทั้งรถและน้องคนนั้นเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถเมล์แล้ว
เขาก็ร้องเอะอะโวยวาย รถเมล์น่ะเหรอคะ

วิ่งต่อไปหน้าตาเฉยและหายลับไปกับการจราจร

แน่นอนว่ามีการฟ้องร้อง แต่คงเดาได้นะคะว่าคดีความเป็นยังไง ปลาเล็กน่ะไม่มีทางสู้ปลาใหญ่ได้หรอกค่ะ งานนี้ตายฟรี

ข้ามส่วนนี้ไปแล้ววกกลับไปหาช่วงต้นตอนที่พี่ได้ยินข่าวเรื่องน้องคนนี้ก่อน พอได้ฟังจู่ๆก็คิดถึงเรืองเพลงมอญร้องไห้ขึ้นมา หรือนี่จะเป็นลางสังหรณ์ที่เกิดขึ้นตอนซื้อเทป พี่พยายามปัดความคิดนี้ออกไป แต่ต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อน้ายุบอกว่า อยากได้เพลงนี้ไปเปิดในงานแต่หาซื้อไม่ได้ เพี่เลยเดินไปหยิบมาให้แกแล้วบอกว่า ให้ยืมเฉพาะงานนี้เท่านั้นนะ

ที่พูดแบบนี้เพราะมันเป็นเคล็ดน่ะค่ะ คนโบราณบอกว่าของแบบนี้ห้ามยกให้หรือออกปากชมว่าเพลงนี้ไพเราะน่าฟัง เหมือนที่ห้ามชื่นชมดอกไม้หน้าศพว่าสวยงามถูกใจน่ะแหละค่ะ

ในช่วงงานศพตอนรอเผา เจ้าภาพก็แจกดอกไม้จันทน์ พี่ไปกับแม่ แต่แม่พี่จะไม่ขึ้นไปชงค์หน้าศพ พี่เลยขึ้นไปแทน ตอนบันไดอยู่ๆดอกไม้จันทน์ในมือก็ตกลงพื้น พี่ก้มลงไปเก็บ ตอนนั้นเองที่มีภาพในหัวว่าพี่จะต้องไปงานศพอีกซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่อง อย่าทำดอกไม้จันทน์ร่วง

ตอนจุดเตาเผาพี่ได้ยินเสียงกรีดร้อง ปรากฏว่าแม่ของเด็กที่ชื่อเยาว์เขาร้องไห้จะตามลูกไปให้ได้ ร้องแบบปิ่มว่าจะขาดใจแถมมีการดิ้นทุรนทุรายด้วย ซึ่งญาติๆก็พยายามห้ามแต่แกไม่ยอมฟัง จนกระทั่งแม่พี่ต้องบอกเหตุผลนั่นแหละถึงได้หยุด

แล้วเหตุผลอะไรกันที่ทำให้น้าเยาว์หยุดร้องไห้

แม่เล่าให้พี่ฟังในตอนหลังว่า ตอนกำลังเผาและน้าเยาว์กรีดเสียงร้องไห้โหยหวน ควันที่ลอยออกมาจากปล่องเมรุมันม้วนตัวลงมาด้านล่างและทำท่าจะเข้าไปข้างใน แม่พี่เลยให้ญาติเด็กไปบอกน้าเยาว์ว่าให้หยุดร้องเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นวิญญาณของลูกจะไม่สงบ เกิดความอาลัยอาวรณ์ดีไม่ดีอาจจะพาแม่เขาไปด้วย ซึ่งก็น่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะขนาดบริเวณวัดมีลมพัดค่อนข้างแรงแต่ควันก็ยังคงลอยต่ำลงมาเรื่อยๆจนเกือบจะถึงบันได้เมรุอยู่แล้ว ดีที่น้าเยาว์ยอมฟังและเงียบเสียงลง เท่านั้นแหละค่ะ ควันที่ลอยลงมาก็ค่อยๆกระจายออกและลอยสูงขึ้นไป

ทุกคนที่เห็นเหตการณ์ในตอนนั้นต่างมองหน้ากันด้วยความรู้สึกทั้งตระหนกและแปลกใจแต่ต่อจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเลย

แต่ผลจากการทำดอกไม้จันทน์ร่วง ทำให้พี่ต้องเจอกับเหตุการณ์ระทึกขวัญในอีกสองสามเดือนต่อมา

*/*/*/*/*

เกือบลืมไปแล้วนะคะว่าต้องลงเรื่องสยองวันนี้ จำวันผิดน่ะค่ะนึกว่าเป็นวันพฤหัสพอหันไปดูปฏิทินตกใจเลย วันศุกร์แล้วเหรือเนี่ย ก็เร่งงานจนลืมวันลืมคืนนี่คะ
ตอนนี้กำลังเขียนนักล่าฯบทสุดท้าย หวังว่าคงทันงานหนังสือตุลาคมนี้
ความจริงจำรายละเอียดเรื่องเล่าครั้งนี้ไมค่อยได้แล้วล่ะค่ะ แต่โชคดีที่เคยโทรไปเล่าในรายการวิทยุและอัดเทปเก็บไว้ สิบกว่าปีแล้วยังเปิดฟังได้ บางช่วงเลยอาศัยแกะจากคำพูดเอา
ส่วนเรื่อง อย่าทำดอกไม้จันทน์ร่วงก็เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากมอญร้องไห้นี่แหละค่ะ จะเล่าคราวเดียวกันก็จะยาวไปเดี๋ยวไม่สนุกเลยแยกออกไปเป็นอีกตอน
ศุกร์หน้าจะมาลงให้อ่านกันค่ะ

คุย คุยและก็คุย

วันนี้เห็นแต่แสงหิ่งห้อย (นึกถึงบรรยากาศสมัยก่อนจริง ๆ)
กับคลองหมาหอน (นึกถึงผู้ใหญ่ลีฯ) เลยไม่ค่อยกลัว
แต่ว่าทำให้นึกถึงมืด ๆ ค่ำ ๆ ห้ามทัก ห้ามถาม ห้ามปากพล่อย
จากคุณ : beautystone  
-โดนสอนแบบนี้มาตั้งแต่เด็กเหมือนกันค่ะ

เห็นภาพเลยค่ะ ชอบบรรยากาศล่องเรือชมหิ่งห้อยมาก ว่าจะพาคุณแม่ไปเดือนตุลานี้ แต่..... ชักสยองแล้วค่ะ หุหุ กลัวเห็นมายืนริมน้ำอ่ะ
จากคุณ : หริชา (หริชา)  
-แหะๆ ตอนนั่งเรือก็อย่านึกถึงเรื่องนี้สิคะ แต่เดี๋ยวนี้แสงสีมันเยอะกว่าเมื่อก่อน อาจไม่เห็นอะไรก็ได้ค่ะ

อยากเห็นหิ่งห้อยด้วย ของแถมไม่ต้องมา
จากคุณ : scottie  
-สงสัยวิญญาณคงเป็นประเภท ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งแหง

บรรยากาศริมน้ำที่มืด ๆ + ป่า + วัด + งานศพ = น่ากลัวมากเลยค่ะ
ไมอยากจะนึกภาพตามเลยจริงๆ
อ่านไปกลัวไป .....แต่ก็ยังอ่าน 55
แต่พออ่านถึงตอน "พี่แทบอยากกระโดดถีบให้ตกเรือ" ขำมาก
หัวเราะจนหายกลัวเลยอ่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
จากคุณ : Tida  
-คนเขียนเองตอนอ่านทวนยังขำเลยค่ะ

ตอนนี้ได้ทั้งภาพทั้งบรรยากาศเลยค่ะ
ถ้าได้ยินเสียงแปลกๆ แบบนั้นก็คงถามเหมือนกันค่ะว่าเสียงอะไร เครื่องเรือก็ช่างเป็นใจ เกิดจะมาดับเอาตอนสำคัญพอดี  
จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin)
-นั่นสิคะ ตั้งนานไม่ดับ นี่ถ้าไปถึงคุ้งไม่รู้จะเจออะไรอีก

แล้วคนเรือเค้าหยิบอะไรออกมาอ่ะคะ
อยากรู้จัง
จากคุณ : Coffee Maker  
-อยากรู้เหมือนกันค่ะแต่พอเข้าเทียบท่าปุ๊บแกก็รีบเก็บกลับที่เดิมเลย

ดูหิ่งห้อย ได้เรื่องตื่นเต้นเป็นของแถม
จากคุณ : โก้ (เซโก้4)  
-ไม่เอาของแถมได้ไหม T.T

แล้วเลยขนลุกเลยครับ
อยู่คนเดียวด้วย
สี่ทุ่มแล้วด้วย
เรื่องที่เล่าลงตัวดีครับ เล่าการเดินทางอันน่าเดินทางแล้วค่อยๆเข้าหาบรรยากาศน่ากลัวนี่เป็นการปู่อารมณ์มาสู่บรรยากาศขนลุกดีจริงๆ
บรรยากาศช่วงหลังนี่นึกถึงนิยายของครูเหม เวชกรเลย กึยซ์..
จากคุณ : Psycho man  
-ตอนเด็กๆมูนนี่ชอบอ่านงานของครูเหมมากค่ะ อ่านไปก็นึกภาพตามไปด้วยยิ่งถ้าเป็นหน้าหนาวจะได้บรรยากาศดีมาก ชนิดไม่กล้านั่งพื้นบ้านที่มีร่องกระดานเลยล่ะ

แล้วพบกันศุกร์หน้านะคะ อ้อตอนหาเทปเจอเรื่อง เหตุเกิดบนมอร์เตอร์เวย์ซึ่งน้องสาวโทรไปเล่าในรายการนี้ด้วย ไว้จะถอดมาให้อ่านกัน

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านมากค่ะ ^^

จากคุณ : Moony_Lupin
เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 14:43:42




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com