::::ราตรีสวัสดิ์...เหล่าทหารกล้าแห่งสามจังหวัดชายแดนใต้::::
|
|
เค้าโครงเรื่องจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนใต้...และได้รับแรงบัลดาลใจจากเพลง..."ราตรีสวัสดิ์"...ของฟักกลิ้งฮีโร่... . . .
ท่ามกลางความมืดที่เงียบสงบเหมือนเช่นทุกคืนที่ผ่านมา ถนนไร้รถราวิ่งราวกับเมืองร้าง บ้านช่องเงียบเชียบไร้เสียงผู้คนหรือเหล่าสิ่งมีชีวิต หากเป็นที่จังหวัดอื่นใครๆ คงจะแปลกใจในความเงียบสงบจนน่าขนลุก แต่ที่นี่ปลายด้ามขวานของเมืองไทย...เมืองที่ยังมีไฟสงคราม ถึงมันจะมองไม่เห็นแต่ก็ยังมีควันลอยกรุ่นอยู่รอบตัวรอเวลาประทุ...
เมืองที่คนในพื้นที่เริ่มชาชินกับความเลวร้าย และชินกับการที่จะต้องเห็นทหารแบกปืนลาดตระเวนไปมา...
ไม่เหมือนปีแรกๆ ที่เหล่าทหารถูกส่งลงมาในพื้นที่ พวกเขาแปลกใจ ตื่นเต้นและมีความหวังที่จะให้สามจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับคืนมาอีกครั้ง...แต่ตอนนี้ความหวังของพวกเขาเหล่านั้นเริ่มจะเลือนรางไปทุกที
ผมนั่งดูนาฬิกาข้อมือเข็มสั้นชี้ไปใกล้เลขสี่บอกไว้ว่าอีกไม่นานก็เช้าแล้ว...แต่ตอนนี้เป็นปลายฤดูฝนกว่าพระอาทิตย์จะส่องแสงก็คงราวๆ หกโมงเช้าไปแล้ว อากาศวันนี้มันช่างเย็นสบายชวนหลับจริงๆ
บอกตรงๆ ยามนี้ผมอยากกลับบ้านไปนอนห่มผ้า เปิดเพลงเบาๆ เหลือเกิน คิดถึงเตียงนุ่มๆ ที่เคยนอน...คิดถึงเสียงกรนของคนข้างกายที่ฟังกี่ทีมันก็น่ารักเหลือเกินในความคิดของผม
ป่านนี้เธอคงจะหลับสบาย...
พี่นนท์นั่งฝันหวานอีกแล้ว เสียงรุ่นน้องที่ยืนเวรด้วยกันทัก คิดถึงแฟนอ่ะดิ...อย่างนี้ล่ะพวกข้าวใหม่ปลามัน...ทนหน่อยอีกไม่นานก็เช้าแล้ว เดี๋ยวเราก็ได้กลับบ้านแล้วพี่
คำพูดของรุ่นน้องเรียกเสียงหัวเราะพวกเพื่อนที่ยืนเวรอยู่ใกล้ๆ
อย่าแซวน่าไอ้พล... ผมหน้าแดงในความมืด
แอบนึกดีใจที่ตรงนี้ไม่มีไฟส่องสว่างเหมือนจุดอื่นทำให้ซุ่มมองโดยรอบได้ง่ายและยังได้ปิดบังใบหน้าของผมได้อย่างดี ไม่อย่างนั้นรุ่นน้องตัวแสบคงไม่ยอมหยุดปากง่ายๆ ไมวันนี้มันเงียบจังวะ พี่โชคถือแก้วกาแฟที่พึ่งซื้อจากร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ช.ม.
ไม่ดีหรือไงพี่...ไม่มีเหตุ ผมถามกลับไป พลางมองแก้วกาแฟของพี่โชคที่กลิ่นมันช่างยั่วยวนกิเลสเหลือเกิน
แต่มันเงียบเกินไปว่ะ...เงียบจนผิดปกติ
ใบหน้าของพี่โชคไม่ได้มีแววล้อเล่นแม้แต่น้อย ด้วยพวกเราต่างรู้ดี...ช่วงไหนที่เงียบเกินไป...ไม่นานจะมีเหตุร้าย
แต่จะร้ายขนาดไหนนั้น...ไม่มีใครตอบได้
เสียงวิทยุสื่อสารดังขึ้น...ไอ้พลคนปากปีจอเป็นคนแรกที่เข้าไปหยิบวิทยุสื่อสารแบบแฮนดี้เปิดเร่งเสียง ด้วยกลัวเหลือเกินว่าจะมีเหตุร้ายตามที่พี่โชคได้ทำนาย
พญาเหยี่ยว...กระจอกสี่สิบ...วอสอง...เปลี่ยน เสียงเรียกนั้นทำให้หลายคนโล่งใจด้วยไม่ใช่เหตุที่เขานึกกลัวกัน
วอสอง...วอสี่ วอสิบ...ที่หน้าธนาคารตอนนี้วอสี่สิบห้า...เปลี่ยน พลเป็นคนรายงานกลับไปว่าตอนนี้พวกเขากำลังปฏิบัติหน้าที่ที่หน้าธนาคารและเหตุการณ์ปกติ
วันนี้มีใครเข้าเวรบ้าง...เปลี่ยน
กระจอก2 ...กระจอก 26 ...กระจอก 27 ...กระจอก 40 ....เปลี่ยน ถ้าจะให้เรียกตามลำดับก็คือ...พี่โชค...ผม...เตี้ย...และพลเป็นคนสุดท้าย รับทราบ...วอหกสิบหนึ่ง...ยังไงก็ดูแลรักษาตัวเองด้วย...วอเจ็ดสิบสาม พญาเหยี่ยว...สามนาฬิกาห้าสิบห้านาที
สิ้นการติดต่อเจ้าพลก็เอาวิทยุสื่อสารกลับไปเก็บไว้ที่เดิม
ผมและเพื่อนไม่ใช่ตำรวจ...ไม่ใช่ทหาร...แต่เป็นเพียง อพปร. (อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน) ที่เข้าร่วมปกป้องปลายด้ามขวานด้วยใจและไร้ยศ ดีหน่อยที่มีปืนเอาไว้ป้องกันประเทศและคนไทยทุกคน...
ตั้งแต่มีปืน...ผมไม่เคยได้ลั่นไก ไม่ใช่ว่าไม่กล้า...แต่เพราะมีพวกเขาเหล่านั้นคอยลาดตระเวนให้พวกผมอยู่
จากคุณ |
:
yodaoi
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ก.ย. 52 02:07:38
|
|
|
|