ความสุขเอย.. เจ้าอยู่ที่ไหนหนอ ?
|
|
.....เมื่อเขาลืมตาดูโลกมา ข้างกายของเขาก็มีแต่แม่ แม่คือผู้ให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่เขา และแม่คือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา....
ชีวิตเยาว์วัยของเขายากลำบาก แต่สำหรับแม่ที่ต้องเลี้ยงดูส่งเสียเขา ยิ่งยากลำบากกว่า
เขารักแม่ และสงสารแม่
เขาตั้งปณิธานไว้อย่างแรงกล้า จะหมั่นขยันเรียนหนังสือ เพื่อจบออกมาได้งานดีๆทำ และจะหาเงินเพื่อซื้อหาความสุขให้แก่แม่
เขาตั้งใจเรียนหนังสือ มุ่งมั่นจนกระทั่งเรียนจบ
แต่แล้ววันหนึ่ง... เขาก็ได้ข่าวมาว่า แม่ล้มป่วยลง
เขาจึงวางมือจากการทำงานชั่วคราว เพื่อกลับไปหาแม่
เขาพาแม่ไปโรงพยาบาล หลังจากหมอตรวจแม่เขาเสร็จ เขาก็ถามหมอว่า
" ตุณหมอครับ แม่ผมเป็นอะไรหรือครับ ? "
หมอจึงบอกเขาว่า
" แม่ของคุณป่วยเป็นโรคขาดสารชนิดหนึ่ง ซึ่งมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตที่สุด ใครก็ตามที่ขาดสารตัวนี้ แม้มีลมหายใจ ก็เหมือนอยู่อย่างตายทั้งเป็น "
" สารอะไรหรือครับ ? "
" สารชนิดนั้น เรียกว่า ความสุข "
เขาบอกกับแม่ว่า " แม่รอนะครับ อีกไม่นาน ผมจะทำให้แม่เป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก"
หลังจากเรียนจบ เขาก็มุ่งมั่นทำงาน เอาเวลาทั้งหมดทุ่มเทอยู่กับงาน
ทำ..ทำ..ทำ เพื่อให้ได้เงิน..เงิน..เงิน มามากๆ
เขาบอกกับแม่ว่า " แม่รอนะครับ อีกไม่นาน พอผมรวย..ผมจะทำให้แม่เป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก"
แม่พยักหน้า แล้วก็ รอคอยลูกชาย...ซึ่งไม่เคยแวะมาหาเลย เนื่องจากอีกฝ่ายเอาแต่ทำงาน มีเพียงเงิน ที่ถูกส่งมาให้จับจ่ายใช้สอย โดยที่นางไม่ต้องทำงานอะไรอีกเลย
เวลาผ่านไป... เขาร่ำรวย มีเงินมากมาย แต่เขายังรู้สึกว่า นั่นคงยังไม่พอ ที่จะทำให้แม่เป็นผู้หญิงที่มีความสุขในโลกได้ เขาจะต้องหาเงินมาให้มากกว่านี้
" ความสุข ?"
เขาทวนชื่อมันอยู่ในใจ มันก็คือสิ่งที่เขากำลังตามหามาชั่วชีวิตให้แม่อยู่นั่นเอง
อันที่จริงทุกวันนี้ที่ผ่านมา เขาก็ได้ส่งเงินมาซื้อให้แม่อยู่ทุกเดือนแล้วมิใช่หรือ หรือว่า มันยังน้อยเกินไป หรือว่า มันจะไม่ใช่ตัว "ความสุข" ที่แม่ต้องการ
แล้วความสุขที่แม่ต้องการ มันเป็นอย่างไรหนอ ?
ดังนั้นเขาจึงตั้งปณิธานในใจว่า ไม่ว่าเขาจะทุ่มเทเงินที่มีไปจนหมดเนื้อหมดตัวเขาก็จะหาซื้อ เจ้า "ความสุข" ตัวนี้มาให้แม่ให้จงได้
เขาจึงเอาเงินส่วนหนึ่ง มาจ้างพยาบาลที่ดีและดูแลคนไข้เก่งที่สุด มาดูแลแม่เขาที่โรงพยาบาล จากนั้นก็ออกตามหา เจ้า "ความสุข" ที่หมอพูดถึง เพื่อมารักษาแม่
เขาเดินทางออกไปค้นหาอยู่นับปี แต่ก็ยังหาไม่เจอ จนกระทั่งเงินที่พกติดตัวร่อยหรอลง และเงินที่ใช้สำหรับว่าจ้างพยาบาลดูแลแม่หมดไป
ในที่สุด เขาจึงต้องกลับมา.. กลับมาด้วยความรู้สึกเสียใจ ละอายใจ และสำนึกผิดต่อแม่เป็นอย่างยิ่ง
เขาหาความสุขให้แม่ไม่เจอ เขาไม่สามารถทำในสิ่งที่เขาได้สัญญาไว้กับแม่ได้
" แม่จ๋า.. ลูกผิดไปแล้ว "
เขาก้มลงกราบขออภัยต่อแม่ ซึ่งนอนหายใจรวยริน เพราะอ่อนเพลีย ร่างกายผอมแห้ง ด้วยอาการขาด "ความสุข" มาหล่อเลี้ยงชีวิตอย่างรุนแรง
เวลานี้เขาหมดเนื้อหมดตัวแล้ว เขาไม่สามารถเอาเงินไปซื้อหาสิ่งที่เขาคิดมาตลอดว่ามันคือ "ความสุข" ของแม่ได้ และไม่มีเงินที่จะว่าจ้างใครมาดูแลแม่อีกต่อไป
ตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือ อยู่เคียงข้างแม่ในวาระสุดท้ายของชีวิต
แล้วไม่คาดคิด...มันดั่งราวเกิดปาฏิหาริย์ !
ณ เวลานั้นซึ่งเขาไม่มีเงินที่จะซื้อหาอะไรมาให้แม่ได้อีกเลย ไม่มีเงินที่จะว่างจ้างใครมาดูแลแม่ได้อีกต่อไป
แต่ทว่า..อยู่ๆอาการของแม่ก็ดีขึ้นทีละน้อยอย่างไม่คาดหมาย ราวกับต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาใกล้ตาย พลันชุ่มชื่นขึ้นด้วยได้น้ำและปุ๋ยมาหล่อเลี้ยงชีวิต
แม่ดูสดชื่นขึ้น แข็งแรงขึ้น จนดีวันดีคืน
แล้วในที่สุด เขาก็ค่อยพบว่า... เจ้าความสุขของแม่ ซึ่งเขาตามค้นหามาเกือบชั่วชีวิต เพื่อจะมอบใหกับแม่ที่เขารัก ความจริงแล้ว มันไม่ได้อยู่ไกลจนสุดขั้วโลก หรือแพงจนต้องใช้เงินมากมายไปซื้อหามัน
แต่มันอยู่ใกล้แค่นี้นิดเดียว อีกทั้งไม่จำเป็นต้องใช้เงินออกไปจ่ายซื้อเลยแม้แต่น้อย
เพราะว่าความสุขของแม่ ก็คือ.. ตัวเขา.. นั่นเอง
สิ่งที่แม่ต้องการที่สุด คือ การที่ได้อยู่ใกล้ๆลูก และมีลูกคอยดูแลยามแม่แก่ชรา แค่นี้เท่านั้น
...
ปล. แล้วสิ่งที่ประทับฝังอยู่ในใจของผู้เขียนมาจนถึงบัดนี้ นั่นคือการได้ป้อนข้าวให้กับแม่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตในห้อง ICU และก็เป็นข้าวมื้อสุดท้ายของแม่ด้วย เพราะหลังจากนั้น แม่ก็ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แล้วก็เสียชีวิตในห้องนั้น
แล้วคุณล่ะ.. คุณได้ทำอะไรให้แม่บ้างหรือยัง โปรดรีบทำ .. ก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีกแล้วนะคะ
.
จากคุณ |
:
ธีตภากร
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ก.ย. 52 19:30:15
|
|
|
|