Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สมน้ำหน้าเสียดีไหม ไอ้พวกแพ้ภัยตนเอง  

ตั้งใจมาด่าทอตัวเองเท่านั้นค่ะ ด้วยความที่สามารถหาเรื่องให้ตัวเองเจ็บตัวได้โดยไม่ต้องให้ใครมากระทำเลย

เมื่อเช้านี้ ตื่นตอนหกโมงตรง ทำกิจกรรมยามเช้าล้างหน้า อาบน้ำ สระผม เป่าหัว (ให้แห้งด้วยไดร์) สีฟัน กินขนมปังกับกาแฟด้วยอารมณ์กระหืดกระหอบ ตามปกติ แล้วมาสีฟันอีกทีเพื่อใส่เหงือกปลอม (คนทั่วไปเรียกรีเทนเนอร์สำหรับคนจัดฟัน) สวมนาฬิกาข้อมือ จับมือถือใส่เป๋าเสื้อซ้าย ยัดลิปบาล์ม ยาหยอดตา ผ้าเช็ดแว่นลงเป๋าเสื้อขวา กุญแจรถลงเป๋าเกงขวา เศษเหรียญลงเป๋าเกงซ้าย ก่อนจะคว้าเป้มาสะพายใส่ไหล่

ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติสุข ด้วยความเร่งรีบ (ก็ตามปกติ... รีบตลอดอะ ตื่นเช้าก็รีบ ตื่นสายก็รีบ)

ทว่า มีอย่างหนึ่งที่ผิดปกติ

ไม่รู้วันนี้ฤกษ์ดีได้ทำดีท็อกซ์โดยการเปลี่ยนองค์ประกอบในร่างกายหรืออย่างไร เหลือบเห็นเก้าอี้ล้อเลื่อนมันอยู่ในตำแหน่งขวางหูขวางตาและขวางทางคนจะพุ่งออกประตูนอกห้อง มือเหี่ยวแห้งของฉันมันเลยเอื้อมไปจับพนักพิงแล้วลาก....

มาทับนิ้วเท้าตัวเอง

แล้วความซวยยังบังเกิดไม่สะใจ ไอ้ล้อที่ควรจะเลื่อนผ่านไปฟรีๆ กลับคิดหาเพื่อนไปด้วย โดยการมาเกี่ยวปลายเล็บนิ้วชี้ที่อยู่ข้างหัวแม่ตี... เอ่อ หัวแม่เท้า แล้วพยายามดึงเอาเล็บไปด้วย

ชิท!!!

น้ำตาแทบเล็ดพะย่ะค่ะ พอเจ็บป๊าดก็ปวดตามเลย ค่อยยกเท้าขึ้นมาดู อูย... เล็บเปิด ไอ้เก้าอี้นิสัยเสีย คิดทำอะไรไม่ปรึกษากันก่อนเลย แง่งเอ๊ย...

ด่าไป ด่าในใจ ด่าอะไรไม่รู้

แต่ด้วยความที่มีสมองแต่ไม่รู้จักใช้ ไหวพริบระดับแมวที่บ้านยังคิดได้ดีกว่ามันสั่งให้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าง่ายๆ

เมื่อเล็บเปิด เอ็งก็จงกดให้เล็บมันปิดเสีย!!!

ทำเยี่ยงนั้นจริงๆ คุณ BestChild เธอทำได้ดีที่สุดเท่านั้นจริงๆ ค่ะท่านผู้อ่าน

ฉันกดเล็บลง สงสัยว่าตอนนั้นมันชาเลยไม่เจ็บมากนัก ปวดตุบๆ เลือดซึมออกมานิดหน่อย อาจด้วยความที่ยังเปิดไม่ถึงโคน มันแค่เงิงออกมาพอหวาดเสียว แถมเป็นข้างซ้าย ไม่ต้องใช้ข้างนี้ขับรถ เพราะงั้น ผ่าน!!!

แล้วฉันก็จัดแจงเดินมึนๆ ออกไปยังตู้รองเท้า ฉลาดอีก

เมื่อกดลงไปแล้ว ก็จงใส่ถุงเท้าหนาๆ แล้วยัดเท้าเข้าไปอัดไว้ในรองเท้าผ้าใบให้มันช่วยกด เผื่อจะช่วยลดการเสียดสีแล้วเราก็จะไม่เจ็บมาก ไว้เย็นนี้เลิกงานค่อยไปหาหมอจริงจังก็ได้ เรื่องสิวๆ

สิวอักเสบชัดๆ

ความคิดนี้ผุดขึ้นมาตอนที่เดินเป็นระยะเกือบกิโลจากที่จอดรถไกลโคตรนอกโรงงานเข้าไปถึงออฟฟิศที่อยู่กลางพื้นที่อดีตไร่สัปปะรดอันกว้างขวางของโรงงานประกอบรถยนต์ อีกแค่นิดเดียวก็ถึงตึกกลางที่เป็นออฟฟิศแระ แต่คุณ Bestฯ เธอต้องหยุดพักเพื่อเกาะเสา

เจ็บตีนฟร่ะ

กัดปากตัวเองแล้วกะเผลกต่อไปถึงโต๊ะตัวเอง ถอดรองเท้าเพื่อสำรวจความเสียหายของการตัดสินใจจากสมองยามเช้า

อนาถนัก เลือดซึมออกมาจนแห้งกรังติดถุงเท้า แถมโคนเล็บก็ดูช้ำๆ อีกต่างหาก

เศร้าไปกว่านั้น วันนี้เป็นวันวุ่นวายแห่งชาติ มีงานสำคัญที่ฉันจำเป็นต้องลืมเจ็บเพื่อมาเคลียร์แต่เช้า

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป คุยงานแบบติดจรวดความเร็วแสงแล้วก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป ลุกพรวด แล้วกะเผลกไปห้องพยาบาล ไหนๆ ก็ไหนๆ เจ็บนักใช่ไหม ได้... ฉันจะไปถอดเล็บ

ถึงห้องพยาบาลด้วยความหวังเต็มปรี่ว่านี่แหละสถานที่ปลดปล่อยเล็บเก่าให้หลุดลอยออกไปสู่ห้วงอากาศ เปิดเข้าไป โอ... แม่เจ้า คนเกือบสิบ ฟากหนึ่งนั่งต่อแถวรอฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ฉันจัดไปแล้วตั้งแต่วันจันทร์ วันนี้วันสุดท้าย อีกฟากหนึ่ง มีคนรอคุยกับหมอสามคน

ฉันยิ้มใจเย็น เกิดเป็นวิศวกรต้องมีความอดทน (ทฤษฎีไหนวะ)

ยืนยิ้มอยู่ได้พักหนึ่ง นับหนึ่งถึงสิบ ถึงร้อย

ไม่ทนแล้วเว้ย!!!

พรวดพราดด้วยสภาพแสนอนาถ กะเผลกจนปวดตะโพกแล้วทีนี้ฉัน กลับโต๊ะปิดคอมพ์ฯ คว้ากระเป๋าเป้มาสะพายให้น้องๆ มันร้องถามว่าเจ๊เป็นเอี้ยอะไรอีกครับ

“จะไปโรงพยาบาล เดี๋ยวกลับมา”

บอกอย่างแมนๆ แล้วก็กะเผลกออกไปอีกไกลโข เอาว่า กว่าจะไปถึงรถที่จอดได้ก็เล่นเอาหอบ เหวี่ยงเป้ลงเบาะหลัง ค่อยๆ เอาตัวเองเข้ารถอย่างนุ่มนวล

แล้วหวดสุดตีน(ขวา) ไปโรงพยาบาลที่ไกลไปกว่าสี่สิบกิโลฯ

บ้าพลังเหลือเกินฉัน

และด้วยความที่คาดเดาเอาเองว่า โรงพยาบาลเอกชนที่ค่ายาค่าหมอแพงกว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการเร่งด่วนของเราได้ดีกว่า ฉันจึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในศรีราชาที่ไม่รับประกันสังคม แต่ฉันมีประกันของบริษัทและประกันอุบัติเหตุที่ทำไว้ส่วนตัว

จอดรถหน้าศาลพระพรหมของโรงพยาบาลด้วยความเปรี้ยว พรืดเดียวดับเครื่องแล้วลงรถมา เดินกะเผลกแบบเร็วๆ โผล่หน้ามึนๆ เข้าไปตรงส่วนลงทะเบียนที่มีสาวสวยชุดไทยรอถามว่าเอ็งเป็นอะไรมา

ฉันไม่รอถาม พอเจ้าหล่อนสบตาฉันก็อ้าปากสวน

“เล็บเปิด มาถอดเล็บค่ะ”

สาวน้อยหน้าแฉล้มในชุดไทยอึ้งเล็กน้อยในกริยามารยาทกึ่งโหดของฉัน ทำให้ฉันฉีกยิ้มให้ทีหนึ่ง เธอเลยยิ้มหวานหยดแล้วเข้ามาประคอง

“ไหวไหมคะ เจ็บมากไหม”

โถๆๆ ถ้าไม่ไหวฉันจะเดินลากเท้าเป็นกิโลมาไขกุญแขจรถแล้วห้อจากนิคมในระยองมาโผล่ที่โรงพยาบาลในเมืองศรีราชาหรือ

“ไม่เป็นไรค่ะ ต้องไปที่ไหนคะ”

ที่บอกนั่นแค่คิด แต่ฉันต้องตอบรับเธอด้วยภาษาดอกไม้ เลยถามเธอไปแบบนั้น

“เดี๋ยวพาไปค่ะ ต้องไปที่ห้องฉุกเฉิน” เธอทำท่าจะให้ใครเอารถเข็นมาให้ฉันนั่ง ฉันรีบเบรคตัวโก่ง

“นอกเหนือสิ่งอื่นใด ห้องน้ำอยู่ไหนคะ จะไม่ไหวแล้ว”

 
 

จากคุณ : BestChild
เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 07:36:15




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com