คู่ร้ายหมายรัก บทที่ 4
|
|
คู่ร้ายหมายรัก บทที่ 4
หลังจากถ่วงเวลานัดบอดล้มเหลวไม่เป็นท่า ณัฐทินีก็ตั้งใจจะทำนิสัยให้ไม่น่าคบหาที่สุด กะให้คู่นัดกระเจิงชนิดไม่คิดจะขอมีนัดเป็นครั้งที่สอง!
แม่อยากจะหาคู่ให้ก็หาไปเถอะ ลองลูกสาวกลายเป็นผู้หญิงไม่น่าคบ คงจะไม่มีใครสนใจเธอเองนั่นแหละ แต่จะว่าไป ปรกติผู้หญิงนิสัยอย่างเธอก็ไม่ค่อยเหมาะจะมีแฟนอยู่แล้ว เพราะเธอทำแต่งาน เอาใจคนไม่เป็น และมีโลกส่วนตัวสูง ผู้ชายที่ไหนจะอยากได้ผู้หญิงไม่มีเสน่ห์แบบนี้มาเป็นแฟน
หญิงสาวก้าวลงมาจากรถยนต์ส่วนตัวคันหรู สะบัดผมยาวหยักโศกสีน้ำตาลไปด้านหลังและยืดตัวยืน ชุดกระโปรงสีชมพูบานเย็นที่สั้นอยู่แล้ว ร่นสั้นขึ้นไปอยู่เหนือเข่าเกือบคืบมือ ดวงตาสีน้ำตาลมองไปรอบๆ ลานจอดรถ ร้านไธม์ตั้งโดดเด่นตรงหน้า เธอพิศมองเก็บรายละเอียดด้วยความสนใจ
เข้าใจเลือกสถานที่นะเนี่ย...ณัฐทินีเปรยในใจ ถ้านี่ไม่ใช่นัดบอด เธออาจจะมีความสุขกับการมามากกว่านี้
ร้านไธม์มีโครงสร้างเป็นบ้านเรือนกระจกสีขาวขนาดใหญ่ ประดับไม้ระแนงสีน้ำตาล ดูโล่งโปร่งน่านั่ง ด้านนอกมีระเบียง โต๊ะและเก้าอี้เรียงรายเต็มพื้นที่ แดดช่วงใกล้เที่ยงส่องจ้าลงมา หญิงสาวรีบจ้ำเดิน หมายจะเข้าไปหลบแดดด้านในร้านโดยไว
ไม่ไหวล่ะ ตอนนี้ก็ดำจะแย่อยู่แล้ว ขืนปล่อยให้แดดเลียเล็กเลียน้อยอีก ผิวของเธอจะต้องกลายเป็นสีถ่านแน่ๆ
ความจริงณัฐทินีไม่ได้ดำอย่างที่นึกบ่นในใจหรอก เธอเป็นคนขาว แต่พอตากแดดช่วงลุยไซด์งานกับบิดานานครั้ง และขาดการเอาใจใส่เนื่องจากตอนนั้นยังอายุไม่มาก ไม่ได้รักสวยรักงาม อิทธิพลของแดดเลยทำให้ผิวของเธอคล้ำลงไปบ้าง แต่ก็เป็นสีแทนสวย แบบที่ดาราฝรั่งหรือดาราญี่ปุ่นนิยม
หญิงสาวเดินฉับๆ มุ่งไปยังทางเข้าร้านด้วยความมั่นใจ และจะด้วยโชคร้ายประเดิมนัดบอดแรกหรืออย่างไร จู่ๆ ขาข้างหนึ่งของเธอก็พลิกวูบ
กรี๊ด! เธอหวีดร้อง ร่างไร้การทรงตัว และกำลังจะร่วงลงสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลก
ทว่าก็เป็นโชคดีของเธออีกเหมือนกันที่มีคนเข้ามาช่วยพอดี ระวังครับ!
ร่างแข็งแกร่งช้อนร่างของเธอไว้ เสียงนุ่มทุ้มกระซิบริมหูของเธอ
เกือบไปแล้ว
สาบานได้ว่าเธอได้ยินเสียงเขาถอนหายใจเบาๆ เธอขนลุกซู่เมื่อลมร้อนจากปากของเขากระทบใบหู หัวใจเต้นระทึก ทั้งตื่นเต้นและวาบหวาม
ดูเหมือนว่าผู้ช่วยเหลือจะกอดเธอไว้นานเกินไป ดังนั้นเมื่อตั้งหลักได้ เธอจึงรีบเบี่ยงตัวออกห่างและถอยออกมาอย่างรวดเร็ว
ยังไม่ทันจะได้ขอบคุณเขา เธอก็แทบล้มลงไปอีก เนื่องจากส้นรองเท้าหักข้างนึง
ว้าย! เธอร้องวี้ด และเขาก็มือไวพอที่จะตะครุบเธอไว้อีกครั้ง
แหม...คุณนี่เผลอไม่ได้เลยนะครับ ชลน่านกล่าวแซวยิ้มๆ คาดไว้ตั้งแต่ตอนเห็นเธอเดินฉับๆ ในรองเท้าส้นสูงปรี๊ดแล้วว่าเธอจะต้องหกล้ม...แหม เล่นเดินเร็วๆ แรงๆ ด้วยรองเท้าส้นเข็มกลางลานกรวดขรุขระแบบนี้ ก็สมควรอยู่หรอกที่จะหกล้ม
ณัฐทินีหน้าแดงก่ำ เหลือบตามองด้านบนนิดๆ และเห็นรอยยิ้มละลายหัวใจ เขาเป็นหนุ่มรูปหล่อชวนละลายพอๆ กับรอยยิ้มของเขา
ขอบคุณค่ะ เธออุบอิบเสียงเบา ก่อนจะดันตัวเองออกห่าง ทว่าครั้งนี้ใช้มือข้างหนึ่งเกาะไหล่เขาเพื่อทรงตัว เธอมัวแต่ใจหายใจคว่ำกับการหล่นวูบสองครั้งสองครา จนไม่รู้สึกเลยว่าแม้จะไม่ได้กอดเธอไว้แล้ว แต่มือของเขายังคงจับแขนข้างที่ว่างของเธออยู่
ส้นรองเท้าหักนี่ครับ เขาก้มมองรองเท้าเจ้ากรรม สรุปว่าการเดินของเธอไม่มีปัญหา แต่เป็นรองเท้าต่างหาก
ค่ะ เธอตอบสั้นๆ หากในใจบ่นยาวยืด...อะไรเนี่ย! ส้นรองเท้าหักได้ยังได้ เธอเพิ่งจะซื้อมา และใส่ครั้งเดียวถ้าไม่นับครั้งนี้ คู่นึงก็ไม่ใช่ถูกๆ ราคาตั้งสองพันกว่าบาทจะสามพัน ขนาดว่าซื้อตอนลดครึ่งราคาแล้วนะ ทำไมถึงได้คุณภาพห่วยแตกแบบนี้...หน็อย! ยี่ห้ออะไรนะ...เครซี...เครซีฟุตส์ ใช่ ยี่ห้อเครซีฟุตส์ ฮึ่ม! แบบนี้ต้องเคลมสินค้าและโวยวายกันหน่อยแล้ว เอาของเน่าๆ มาลดราคาขาย เอาเปรียบผู้บริโภคกันนี่หว่า
แล้วคุณจะทำยังไงกับรองเท้าข้างนี้ เขามองซ้ายทีขวาที แถวนี้อย่าว่าแต่ร้านซ่อมรองเท้าเลย ร้านขายรองเท้าก็ไม่มี
รถฉันจอดอยู่ตรงโน้นค่ะ ในรถมีรองเท้าเปลี่ยน ณัฐทินีบุ้ยใบ้ไปยังรถยนต์ส่วนตัว เธอก็เหมือนผู้หญิงหลายๆ คนที่ชอบซุกรองเท้ามากกว่าหนึ่งคู่ไว้ในรถ รู้ว่าทำให้รถรก แต่กระนั้นก็ไม่เคยเอาออกจากรถสักที นี่ต่อไปคงจะไม่คิดเอาออกไปแน่ๆ ใครจะไปรู้ว่าเธออาจจะมีเหตุจำเป็นให้ใช้พวกมันอย่างเช่นวันนี้
ผมไปส่งไหม เขามองเธอที่ยังคงยืนอยู่ได้ด้วยการเขย่งยงโย่ยงหยกในรองเท้าข้างที่สมบูรณ์และมือที่ยึดไหล่เขาเป็นที่พึ่งพิง
ไปส่งหรือคะ? เธอทวน สงสัยว่าเขาจะไปส่งเธอได้อย่างไร แล้วกะอีแค่ส้นรองเท้าหักแค่เนี้ย ต้องเดินไปส่งด้วยเรอะ
เขาไม่ปล่อยให้เธอคิดนาน จู่ๆ ก็ตวัดแขนรอบตัวเธอ แล้วอุ้มเธอขึ้นแนบอก แถมเขายังช่างคิด อุตส่าห์ระมัดระวังไม่ให้กระโปรงแสนสั้นของเธอเปิดพะเยิบด้วยการรวบปลายกระโปรงแนบท่อนขาเพรียวอีกด้วย
ว้าย! คุณทำบ้าอะไรน่ะ เธอรีบคล้องแขนรอบคอเขา รู้สึกไม่มั่นคงเมื่อปล่อยให้มือโล่งโจ้ง ไร้ที่ยึดเหนี่ยว
เขายิ้มกว้าง พาคุณไปส่งที่รถ รู้ว่าเธอจะต้องไม่ชอบ เธอดูเหมือนสาวมั่นทำอะไรด้วยตัวเองได้ แต่เขาอยากเสนอตัว
ฉันเดินไปเองได้ ตัวเธอหนักจะตาย เขาอุ้มเธอแบบนี้ไม่เมื่อยหรือไง...เธอไม่กล้าป่าวประกาศออกไปว่าให้วางเธอลง เธอตัวหนัก เธออาย ไม่กล้าประจานตัวเอง จนลืมคิดไปด้วยซ้ำว่าเขาตัวโตกว่าเธอร่วมครึ่งฟุต และหนาหนักพอที่จะอุ้มเธอได้สบายๆ
คุณจะกระโดดขาเดียวหรือว่าจะถอดรองเท้าเดินกันล่ะ เขาเลิกคิ้ว
ฉันจะเดินเขยกไปต่างหาก เธอไม่ใช้คำตอบของเขา แถมยังค้อนเขาน้อยๆ
เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ และเดินต่อไป สีหน้าไม่แสดงออกว่าเธอหนักจนเขาเหนื่อยหรือเมื่อย
ปล่อยฉันลงเถอะค่ะ เธอไม่กล้าดิ้น กลัวว่าเขาจะทำเธอตก
ผมปล่อยแน่ครับ เขายิ้มอีก ดูเหมือนจะยิ้มกับเธอได้ตลอด ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่เห็นว่าเธอเป็นสาวมั่นที่โก๊ะๆ เอ๋อๆ น่ารักดี
เพราะคุณถึงรถแล้ว เขาหย่อนเธอลงอย่างนุ่มนวล
ณัฐทินีซึ่งกลายเป็นคนขาไม่เท่ากันเนื่องจากส้นรองเท้าหัก เซไปพิงกับรถยนต์ ไม่ได้ตั้งตัวตั้งใจกับความรวดเร็วของเขา
เอ้อ! ขะ...ขอบคุณค่ะ เธอไม่รู้จะกล่าวอะไรดี
ยินดีครับ เขาแสร้งทำเป็นโค้งนิดๆ ดุจสุภาพบุรุษผู้ดี ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ณัฐทินียืนงงงวยกว่าครู่ จึงจะได้สติจัดการเปลี่ยนรองเท้าอย่างที่ควรทำมาตั้งนาน - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - ================================================================
| จากคุณ |
:
มิถุนายน
|
| เขียนเมื่อ |
:
20 ก.ย. 52 23:39:12
|
|
|
|