ละจอแก้วไปมองฟ้า:ฤาหัวใจจะไร้รัก
|
|
ละจอแก้วไปมองฟ้า:ฤาหัวใจจะไร้รัก
เธอมีตัวตนหรือเปล่าเหล่าเพื่อนรัก หรือเพียงมาทายทักตามคำขอ วันทรายเนียนเรียนรู้ครู่ที่รอ คืนดาวละออทอถักจักรวาล
รู้จักใครในเนตสังเกตใคร่ เพียงสนใจเรื่องเดียวกันฉันท์วิศาล ชอบบทกวีละอองคำฉ่ำอ้อยตาล ตลอดกาลหวานลื่นชื่นหทัย
มาเพิ่มพื้นที่ว่างเปล่าให้อวกาศ จิตนิราศแรมรอนร่อนสงสัย เบาล่องโล่งเชื่อมโยงฝั้นอมรรตัย เกินวิจัยกว้างใหญ่เพื่อใครกัน
หากมีเพียงชาวเราเหล่ามนุษย์ ท่ามกลางการชำรุดจุดแปรผัน น่าเสียดายที่ว่างไร้ใหญ่อนันต์ ดาวเหล่านั้นดวงไหนไร้คนพาล
กวีใจไม่แถเถือกไม่เลือกข้าง อยู่อ้างว้างไม่เครียดขึ้งไม่ถึงศาล กวีแดงกวีเหลืองเคืองชั่วกาล จักรวาลรู้สึกใดหรือไม่เลย
ฟ้าสีดำเหมือนกาแฟแก่จนขม ขาดน้ำตาลขาดนมขมหรือเฉย กอบเก็บดาวแทนน้ำตาลหวานเหมือนเคย ดื่มสังเวยแด่โลกหล้าจักราธร
ตะโกนก้องกู่ร้องเรื่อง การเมืองโว้ย แส้บ้าโบยซ้ำใจคุอุทาหรณ์ เจ้ารุกฆาตชิงชังหนังละคร กรต่อกรหรืออาทรกันและกัน
ฤาหัวใจจะไร้รักสมัครสมาน เมืองยิ้มหวานมาโกรธเกลียดมาเหยียดหยัน เพื่อนพี่น้องเมืองพุทธะอารยัน ทางออกนั้นอยู่ใกล้กาย ในสายลม
อยู่ในลมหายใจให้ลึกซึ้ง เปลี่ยนดวงตาดื้อดึงถึงเหมาะสม เปลี่ยนดวงใจมาเมตตามหาบรม เปลี่ยนสังคม ธัมมิกะประชาธิปไตย
พระโพธิสัตว์หายใจเพื่อคนอื่น ปลุกโลกตื่นจากทุกข์คุกศาสตร์ไสย สร้างการเมืองโพธิสัตว์จัดเมืองไทย รำงับไภยเมืองพิสุทธ์ด้วยพุทธธรรม
เราสุขใจเมื่อสังคมสงบลง สังคมในจินตนาการของเพื่อนนักวี เป็นอย่างไร ใคร่รู้
จากคุณ |
:
แสงแรก ประดับดิน
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ก.ย. 52 18:00:54
|
|
|
|