Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
..........ในห้วงคำนึง............  

ผมนั่งลงบนผืนหญ้านุ่มนิ่ม เอนหลังพิงไปกับต้นไม้ใหญ่   สูดกลิ่นไอชื้นจากหญ้าและกลิ่นดอกโมกจางๆที่ลอยปะปนมาในอากาศ ......  ซักพักเธอก็จะเดินมานั่งลงข้างๆ

“ ผมชอบที่นี่นะ ”  ผมกล่าวขึ้น  .....    “  ทุกครั้งที่เบื่อหน่ายกับความวุ่นวายสับสนของชีวิตคนเมือง  ผมก็จะมานั่งเล่นที่นี่    จะว่าไปมันก็ เหมือนกับเป็นการเติมพลังให้ชีวิตมีแรงสู้ต่อไป ”

ถึงตรงนี้  ผมจะนิ่งไปซักพัก......ก่อนจะหยิบมือเธอขึ้นมากุม  แล้วเอ่ยขึ้นว่า

“ ....และที่สำคัญไปกว่านั้น   ที่นี่ก็เป็นที่ที่นำพาให้ผมได้มาพบกับคุณ ”
………..
ทุกๆครั้งที่ผมมาที่นี่  ผมจะพูดแบบนี้กับเธอบ่อยๆ   และมันก็จะเรียกรอยยิ้มหวานๆของเธอ ได้เสมอมา
.....................   .................................

แว่วเสียงรถไฟฟ้าดังมาแต่ไกล  ...... ได้ยินแล้วก็พาลนึกถึงความเจริญมากมายที่จะตามมาพร้อมเสียงนี้
เมืองหลวงแห่งนี้ เวลาช่างเดินเร็วเหลือเกิน   หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปไวมาก  
.......ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอันวุ่นวาย....... สวนจตุจักรแห่งนี้ กลับยังยืนสงบนิ่งมองดูกระแสความเปลี่ยนแปลงนั้นอยู่ไม่ห่าง    

......ราวกับเวลาที่นี่ เดินช้ากว่าที่อื่น

สายลมบางเบาแผ่วผิว  พัดใบไม้แห้งใบหนึ่งเกาะอยู่บนปลายไม้ให้ปลิดปลิวร่วงลงสู่ผืนน้ำราบเรียบ ดังจ๋อมเบาๆ  เกิดเป็นวงกลมระลอกเล็กๆแผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้าง     มีเสียงนกร้องเบาๆขับกล่อมเป็นระยะๆ

ด้วยบรรยากาศสงบๆแบบนี้  ทำให้ผมนึกอยากเล่าอะไรขึ้นมา

“ คุณยังจำได้มั้ย …. ”    ผมพูดขึ้น
”วันนั้นผมกำลังนั่งเขียนรูปที่ใต้ต้นไม้ริมสระ  คิดหาแรงบันดาลใจอะไรไปเรื่อยเปื่อย      .....จู่ๆผมก็เห็นคุณเดินมานั่งที่ใต้ต้นไม้อีกต้นข้างๆผม    

คุณนั่งลงบนเสื่อ  แล้วหยิบหนังสือเล่มเล็กๆ เล่มหนึ่งขึ้นมาอ่าน         .....มันอาจจะเป็นภาพที่ดูแสนจะธรรมดาในสายตาของใครหลายคน  ....แต่สำหรับผมแล้วนี่ช่างเป็นภาพที่งดงามที่รังสรรค์โดยศิลปินชั้นครูเลยทีเดียว ......  

คุณรู้ไหม..... ว่าผมชอบเหลือเกิน  ยามที่ผมยาวสลวยของคุณต้องลมแผ่พลิ้วสยายออก   ...กระทั่งแสงแดดก็ดูราวกับจะเป็นใจ  ส่องทะลุกิ่งไม้ลงมาที่คุณ ส่งให้ผมดำขลับของคุณส่องเป็นประกายวิบวับดังแพรไหมเนื้อดี ....... ”

ถึงตรงนี้ผมก็หยุดพูดซักพัก .... .เพราะรู้ว่าเธอจะต้องเอียงอายด้วยความเขิน  

“ ในตอนนั้นผมคิดว่าคุณคงไม่รู้ว่าผมแอบมองคุณอยู่    เพราะหากคุณรู้      คุณ..ก็คงจะลุกหนีไปเป็นแน่    ......ผมจึงได้แอบชำเลืองมองคุณอยู่เป็นพักๆ     มารู้ตัวอีกที ภาพเขียนบนกระดานเสก๊ตซ์ในมือผม ก็กลายเป็นภาพคุณไปซะแล้ว...

ตั้งแต่นั้นมา  เราก็ได้เจอกันอีกหลายครั้งในสวนสาธารณะแห่งนี้      ไม่สิ... น่าจะเรียกว่า ผมได้เจอคุณมากกว่า    เพราะคุณก็จะมานั่งอ่านหนังสือใต้ต้นไม้ต้นเดิมแบบนี้    ส่วนผมก็จะมาแอบนั่งตรงนู้นบ้างตรงโน้นบ้าง  แค่ขอให้ได้มองเห็นคุณก็พอ ....
ผมเองก็ไม่รู้ว่าคุณจะรำคาญรึเปล่า    อันที่จริงผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าคุณร็ตัวรึเปล่าว่าผมแอบมองอยู่  แต่ก็ไม่เห็นคุณจะว่าอะไรนี่นา....

ก็จนกระทั่งวันนึง  ..... ขณะที่ผมกำลังจะเขียนภาพวิว สลับกับแอบมองคุณอยู่นั่นเอง   จู่ๆฝนเจ้ากรรม ก็ตกลงมาอย่างไม่มีปีมีขลุ่ย    ตอนนั้นน่ะ  ผมรีบเก็บของหลบแทบไม่ทัน  ภาพที่ผมวาดเอาไว้ถูกฝนเปียกแฉะไปตั้งหลายจุด     ......พอหันไปมองคุณอีกที  คุณก็หายไปแล้ว....ก็นึกว่าคงจะกลับไปแล้วล่ะมั้ง.... ”    

ผมหยุดพักกลืนน้ำลายซักพัก  ก่อนจะเล่าต่อ

“.....แล้วผมก็รู้สึกเหมือนฝนจะหยุดตกขึ้นมา   ...แปลกใจเลยสิ   เลยเงยหน้าไปมองข้างบน  
....มีร่มคันหนึ่งกางอยู่เหนือหัวผม   พอหันไปมองข้างหลัง    … ตอนนั้น นึกว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ซะอีก  ....คุณนั่นเอง   คุณกำลังยืนกางร่มให้ผม ”

“ …ยอมรับว่าตอนนั้น  ทำอะไรไม่ถูกจริงๆ   ก็ได้แต่หันไปบอก ขอบคุณครับ   แล้วก็รีบเก็บของอย่างเก้ๆกังๆ         คุณเองก็ช่วยส่งดินสอที่หล่นอยู่ให้ผม  แถมยิ้มให้อีกต่างหาก  ....  
ผมงี้เขินจนไม่รู้หน้าจะเป็นสีอะไรอยู่แล้ว.....    ”

ผมก้มหน้า แอบรู้สึกเขินขึ้นมานิดๆเหมือนเมื่อตอนนั้น   .....

“ …แล้วคุณยังจำวันนั้นได้มั้ย  วันที่ฟ้าสีสวยเหมือนวันนี้   วันที่ดอกไม้บานสะพรั่งเต็มต้น และลมโชยเบาๆ    ........   วันที่ผมกล้าพอที่จะกระซิบคำนั้น .. ‘ ผมรักคุณ ’…    จำได้มั้ยว่าคุณนิ่งอึ้งไปตั้งนาน  จนผมต้องสะกิดคุณเบาๆนั่นแหละถึงจะได้สติ.....   ”

พูดมาถึงตรงนี้แล้วผมก็หัวเราะเบาๆ    ทอดสายตาไปยังสระน้ำเบื้องหน้า   เสียงจ๋อมแจ๋มของเรือถีบลำหนึ่งที่กำลังลอยไกลออกไปยังกลางสระ  ประสานกับเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว  เป็นท่วงทำนองอันเป็นเอกลักษณ์ของสวนสาธารณะแห่งนี้      

“  เฮ้ออ   จะว่าไปนี่มันก็นานแล้วนะที่เราสองคนไม่ได้มาที่นี่  .......กี่ปีมาแล้วนะคุณ??   ”  
……
…………..
…………………
“ งั้นเหรอ....... ”   ผมพึมพำ  

“ แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปซักกี่ปี  คุณก็ยังคงสวยสำหรับผมเสมอเลยนะที่รัก ”
….
“  ยิ้มของคุณ .....ยังคงงดงามไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเลย......   ”  

ผมเงียบ  ก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ

“  ........แม้ว่าวันนี้สายตาของผมจะไม่อาจมองเห็นอีกก็ตาม ”

....  ผมหยิบภาพเขียนในมือขึ้นมากางออก   พลางค่อยๆไล่นิ้วไปตามภาพนั้นอย่างแช่มช้า  จินตนาการภาพนั้น ที่ผมเคยวาดไว้เมื่อครั้งแรกที่ได้เจอเธอ  แม้จะนานมากแล้ว แต่ผมก็ยังจำรายละเอียดในภาพนั้นได้ทุกประการ


” ...ภาพคุณที่ปรากฏในห้วงคำนึงผม  ...มันจะยังคงอยู่ในใจผมนี้ตลอดเวลา ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย  ”    ผมเอ่ย.....  
“ คุณ......ยังคงอยู่ข้างกายผมเสมอมา   ”

ผมม้วนภาพเขียนในมือของผม   ค่อยๆเลื่อนมันมาวางไว้ที่หน้าอกข้างซ้าย เหนือตำแหน่งหัวใจของผม   น้ำตาอุ่นๆสองสายไหลออกมาจากตาของผม   พร้อมกับเสียงกระซิบผะแผ่วที่ผมได้ฝากผ่านสายลมไป
.......
“ ผมรักคุณนะ..ที่รัก ”
..............
......ผมค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นยืนโดยใช้ไม้เท้ายันตัว    เจ้าหลานชายของผมรีบตรงเข้ามาประคองเอาไว้
พลางค่อยๆพาเดินตรงไปยังรถ

ผมเดินกะย่องกะแย่งมือข้างหนึ่งถือไม้เท้า  ส่วนอีกข้างยกขึ้นมากุมสร้อยล็อคเก๊ตที่บรรจุเถ้ากระดูกเธอเอาไว้   ......ก่อนที่จะเอ่ยคำสุดท้ายในใจ

‘ …..รอผมหน่อยนะ   อีกไม่นานผมก็จะตามคุณไป  ’

จากคุณ : ซงย้ง
เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 18:27:05




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com