Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Letters Garden 8: Bells of Ireland  

Letters garden

Letter number 1: Powder Puff lily
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8082221/W8082221.html
Letter Number 2: Rosemary
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8101544/W8101544.html#1
Letter Number 3: Pink Carnation
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8129771/W8129771.html
Letters garden 4: Lotus
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8158667/W8158667.html
Letter Number 5: Stock
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8210738/W8210738.html

Letter Number 6: Ambrosia
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8240444/W8240444.html
Letter number 7: Bird of paradise
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8293491/W8293491.html


ขอตอบ comment ครั้งที่แล้วก่อนค่ะ

หุหุ ไม่เกินความสามารถของ คุณ scottie  จริงๆ ด้วย ตามนั้นเลยค่ะ

คุณMnemosyne เง้อ สงสัย ตอนนี้มันสั้นไปนะนี่


คุณ goldensun พอเขียนจบตอนนี้แล้วเสียดายพล็อตเหมือนกัน เอาไปเขียนเป็นเรื่องยาวน่าจะสนุกกว่า
อาจจะมีมาขยาย ในตอนอื่นๆ นะคะ

หนูอ้อน คงไม่แปลกมั่งค่ะ แม่ กับเพื่อนสนิทของแม่

พักนี้ คือเดือน ส.ค. และ ก.ย. วิ่งไปวิ่งมา ไม่ค่อยได้อยู่ติดที่ เลยห่างหายกันไปบ้างนะคะ

หวังว่า ต.ค. (กลางๆ ถึงปลายเดือน) จะได้อยู่กับที่บ้าง


Letter Number 8: Bells of Ireland ขอให้โชคดี...

เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากบริเวณหน้าร้านดอกไม้ Letters Garden เรียกสายตาคู่หนึ่งมองไปทางนั้น กลิ่นดินและดอกไม้ที่ชูช่อบานหลากสีสันลอยตามกระแสลมโชยแผ่ว ใบไม้สีเขียวขยับไหวระริก

ใต้ไม้ใหญ่ร่างเล็กในเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสวมถุงมือสีเหลืองสด มอมแมมด้วยคราบดิน มือข้างหนึ่งยังกำเสียมเล็กๆ มั่น ขณะที่อีกข้างยกขึ้นปาดหยาดเหงื่อ ริมฝีปากสีสดขบเม้ม คิ้วเรียวขมวดราวกับไม่พอใจ เด็กหญิงทรุดตัวนั่งยองๆ มือคุ้ยดินก่อนจะหยิบบางอย่างออกมาแล้วโยนทิ้งไปข้างหลัง

“ว้าย!”
เสียงหญิงสาวหวีดก้องทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งโหยง หันขวับมาดูทันใจ

สิ่งที่ถูกเหวี่ยงมาดีดดิ้นกระดึ้บเกาะเสื้อของหญิงสาวเคราะห์ร้าย มือเรียวยกขึ้นปัดมันทิ้ง ขนลุกซู่ด้วยความขยะแขยง พอเห็นเสื้อขาวสะอาดสะอ้านเลอะดินแต้มด่างดวง หน้าเนียนใสก็เผือดซีด

“ขอโทษค่ะ”
โกะแพนด้ารีบยกมือไหว้แล้วอ้าปากค้างเมื่อเห็นรถยนต์คันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูงหลังหญิงสาวคนนั้น

ล้อยางบดลงบนแอ่งน้ำขังเล็กๆ ริมฟุตบาทกระเซ็นขึ้นมาใส่เพิ่มความซวยซ้ำสอง ร่างเพรียวยืนตะลึงก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก น้ำดำปี๋ไหลจากข้างแก้ม หลังมือขาวยกขึ้นเช็ดมันออกจากใบหน้า ขณะที่เด็กหญิงรีบวิ่งเข้ามาหา

“พี่สาว โกะแพนด้าขอโทษค่ะ เข้าไปในร้านก่อนดีไหมคะ?”
พูดเสียงอ่อยพลางชี้ไปทางร้านดอกไม้ตั้งกลางสวนสวย

“ไม่เป็นไรจ้ะ”
เธอตอบงึมงำก่อนจะสาวเท้าเดินต่อให้พ้นจากหน้าร้าน โดยมีเด็กน้อยยืนกะพริบตาปริบๆ

กระแสลมพัดมาอีกระลอกต้นไม้ส่งเสียงซู่ซ่า ร่างเล็กหันหน้าไปมองชั้นวางกระถาง ใบและดอกสีเขียวขยับสะบัดเหมือนกับพวงกระดิ่งเพียงแต่ปราศจากเสียง กลีบปากอิ่มเต็มคลี่ยิ้ม นัยน์ตาสีน้ำตาลใสพราวพราย...

กรุ้งกริ้ง...

ประตูห้องพักงับปิดลงแผ่วเบาเจ้าของห้องยืนหันหลังอิงบานประตูไม้ แหงนหน้าหลับตา น้ำตาอุ่นๆ ไหลลงมาตามแก้ม หญิงสาวสูดจมูกพลางใช้ปลายนิ้วปาดมันออก ขยับตัวเดินเข้าห้องน้ำเล็กๆ วางกระเป๋าถือทิ้งไว้บนพื้น

ดวงหน้าซูบผอมที่สะท้อนในกระจก ดวงตาที่น่าจะสดใสตามวัยกลับหมองหม่นและแดงก่ำ ความสดใสเลือนหายไปจากเธอจนหมดราวกับดอกไม้เหี่ยวแห้งคาแจกัน

เสื้อผ้าเลอะดินและน้ำสกปรกก็ยังเป็นเรื่องเล็ก แต่...ใบหน้าผอมละสายตาจากกระจก มือปลดกระดุมเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนออก ร่างเปลือยเปล่าก้าวเข้าสู่ใต้ฝักบัว มือหมุนก๊อกน้ำเปิดชำระล้างคราบน้ำตา

“โอ๊ย!”  
หญิงสาวร้องพลางกระโจนออกห่างรัศมีของน้ำ ไอที่ระอุออกมาแสดงถึงความร้อนของน้ำ ร่างเพรียวยืนตกตะลึงก่อนจะค่อยๆ เดินอ้อมหลบสายน้ำไปหมุนก๊อกปิด จากนั้นก็รูดกายลงนั่งแล้วเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

น่าขำ... โชค...เธอจะเหี่ยวตายเพราะโชคคำเดียวงั้นเรอะ...

ในยามเช้าบนถนนเต็มไปด้วยผู้คนเดินสวนทางมากมาย ที่ดินแถบนั้นเป็นที่ตั้งของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัท แม่ค้าพ่อค้าขายของเต็มสองฟากถนน ทางเดินเท้าจึงคับแคบ หนึ่งในกลุ่มคนทำงานหญิงสาวร่างเพรียวกำลังพยายามรีบจ้ำฝีเท้าสุดชีวิต เธอซอกแซกผ่านพวกเขาคนแล้วคนเล่ากระทั่งไปหยุดหน้าตึกทันสมัยแห่งหนึ่ง ประตูกระจกมีผู้คนเข้าออกไม่ขาดจังหวะทำให้ไอเย็นเฉียบแผ่ออกมาข้างนอก

หญิงสาวยึดแฟ้มและสัมภาระรกรุงรังแน่นพลางก้าวเข้าขึ้นบันได น้ำใจเป็นสิ่งที่หาได้ยาก บรรดาคนที่เดินไปเดินมาจึงไม่มีใครที่จะสนใจช่วยเหลือ ฝ่ามือทาบกับแผ่นพลาสติกเย็นๆ ผลักเปิด หากไม่รู้เพราะอะไรที่ทำให้ลื่นพรืด

โครม! สายตาทุกคนหันมาจับจ้องอย่างไม่ต้องนัดหมายแล้วการกระทำทุกอย่างชะงักไปหมดราวกับเป็นอัมพาต

ร่างหนึ่งนั่งคุกเข่ามือเท้าพื้นหน้าประตู กองแฟ้มและข้าวของกระจัดกระจายข้างตัว เธอรีบลุกขึ้นยืน อารามที่รีบร้อนมากเกินไปทำให้เสียงแคว้กดังแหวกความเงียบตอกย้ำ

เรียวหน้าขาวแต้มสีแดงก่ำขณะที่ลนลานเก็บข้าวของ พื้นดินไม่มีช่องทางให้แทรกหนีก็ทนอับอายเก็บของจนหมดแล้วหลบไปจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้


ลิฟต์กำลังเลื่อนแสดงหมายเลขชั้นที่สูงขึ้น มือเรียวดึงกระเป๋ามาแนบข้างกายเพื่อบังรอยแหวกของกระโปรง หญิงสาวมองนาฬิกาข้อมือด้วยความกระวนกระวาย เหงื่อเม็ดเล็กๆ ซึมตามไรผม แม้อากาศจะเย็นเจ้าตัวกลับรู้สึกอยู่ในเตาอบ ครั้งนี้จะพลาดไม่ได้ มันเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว

พอประตูเหล็กเลื่อนเปิด หญิงสาวก็สาวเท้าฉับทันที ไม่สนใจสายตาใครต่อใครที่จับจ้องเธอ เสียงซุบซิบค่อยๆ เรียกให้แต่ละคนหันมามองร่างเพรียว ผมที่ยุ่งเหยิงและเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยแสดงถึงความรีบร้อนของเจ้าตัว

เธอหยุดหน้าประตูห้องทำงานเจ้านายสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วจรดมือเคาะ ครู่หนึ่งเสียงผู้หญิงข้างในก็อนุญาต แม้เตรียมใจไว้ล่วงหน้า หากเจอสายตาจากอีกฝ่ายเข้าก็แทบสั่นสะท้าน

“เธอมาสาย” น้ำเสียงตวัดสูงพร้อมกับสายตาสำรวจ

“นี่ไปทำอะไรมาถึงได้...” ไม่ต้องอธิบายดวงตาคู่นั้นก็สะท้อนคำพูดของเจ้านายเรียบร้อยแล้ว

“รถเมล์ที่จอยนั่งมาเสียค่ะ จอยเลยเรียกแท้กซี่ แต่แล้ว...”
เหตุผลหยุดชะงักแค่ริมฝีปากยามหัวหน้ายกมือห้าม

“ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะฟังคำแก้ตัวของเธออีกแล้ว งานที่ฉันสั่งให้เธอไปทำมาล่ะ”
สาวใหญ่หยิบแว่นสายตามาใส่ ยื่นมือเตรียมรับแฟ้มเพื่ออ่านเอกสารข้างใน

“นี่ค่ะ” เธอรีบวางกระเป๋า ยกแฟ้มไปวางบนโต๊ะ

ระหว่างรอหัวใจก็เต้นระทึก หน้ากระดาษที่เปิดผ่านไปช้าๆ ส่งเสียงเขย่าขวัญได้ดีกว่าหนังผีเสียอีก นัยน์ตาคมกริบหลังกรอบแว่นกวาดขึ้นลงตามเนื้อหาก่อนจะปิดแฟ้ม ปลดแว่นสายตาออกจ้องคนที่ยืนตรงหน้า

“เธอทำงานดีนะ ฉันชอบ แต่ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเธอมีปัญหาอะไรถึงได้มาสายแล้วก็มาในสภาพดูไม่ได้ทุกครั้ง”
เสียงพึมพำนั้นเจือแววประหลาดใจ

“เอ่อ...” หญิงสาวอึกอัก

“ปกติฉันไม่ซีเรียสเรื่องการแต่งตัวหรอกนะ แต่...เรื่องมาสายนี่ฉันผ่อนผันไม่ได้อีกแล้ว”
สิ้นประโยคนั้น คนฟังก็ตัวแข็งทื่อ สูดลมหายใจเข้าลึก
“ฉันต้องแสดงความเสียใจจริงๆ ที่เธอไม่ผ่านการทดลองงาน”

เรียวหน้าขาวอยู่แล้วยิ่งซีดลงไปอีกจนน่าสงสาร

“นี่ซองเงินเดือนแล้วก็ฉันใส่โบนัสให้เธอเพิ่มด้วยที่ช่วยเหลืองานฉันด้วยดี” เธอดันซองส่งให้ลูกน้อง

“เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?” สีหน้าเซียวซีดทำเอาหัวหน้าใจไม่ดี

“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ”
จอยยิ้มฝืดๆ น้ำลายเหนียวหนืดอยู่ในลำคอ เธอขยับร่างกายที่หนักอึ้งหยิบซองใส่เงินขึ้นมาจากโต๊ะก่อนจะหันหลังเดินกลับไปโต๊ะทำงานเงียบๆ เก็บข้างของกระจุกกระจิกใส่ถุง กระบอกตาร้อนผ่ะผ่าว แต่เธอจะไม่ร้องไห้ข้างนอก จะโทษใคร...จะโทษใคร...ได้


รองเท้าคัชชูสีดำย่ำไปบนพื้นหญ้าตัดข้ามสวนมาทะลุถนนอีกฝั่งหนึ่ง เธอเดินเรื่อยเปื่อยตั้งแต่ออกจากบริษัท กระเป๋าและถุงหนักทำให้ร่างกายร้องประท้วง นัยน์ตากวาดไปเห็นคนจรจัดที่นอนบนม้านั่งตัวยาวก็ดูซองที่กำแน่นอยู่ในมือ เงินที่เธอต้องเอาไว้ใช้ก่อนที่จะได้งานใหม่...งานใหม่ครั้งที่เท่าไหร่ก็เหลือจะนับ

จอยตัดสินใจเปิดซองหยิบแบงค์ร้อยออกมาหนึ่งใบแล้ววางลงไปบนม้านั่ง จากนั้นจึงเริ่มเดินต่อไป จนถึงริมถนนใหญ่ ข้างหน้าสวนมีคนพิการนั่งรถเข็นขายตั๋วลอตเตอรี่อยู่ หญิงสาวที่กำลังจะก้าวข้ามถนนตามสัญญาณไฟจราจรเลยเปลี่ยนใจเดินมาหา

“หยิบให้สักใบสิคะ”
เสียงแหบๆ ของลูกค้าทำให้ชายชราเลือกใบที่อยู่ใกล้มือที่สุดขึ้นมาให้

“ขอให้โชคดีนะแม่หนู”
แกอวยพรตามประสา หากคนซื้อกลับอยากหัวเราะเสียงดังลั่น เอาให้ใครๆ ก็ได้ยินเสียง ยิ้มหยันผุดบนมุมปาก มือรับใบลอตเตอรี่มายัดใส่กระเป๋าแล้วจ่ายเงินตามราคา

“ขอบคุณค่ะ”

กำลังเดินไปเรื่อยเปื่อย ยังไม่ถึงหอพักเสียที เธอรู้ตัวว่ากำลังประชดชีวิตอย่างที่คนมีสติดีๆ เขาไม่ทำกัน เงินที่ต้องเก็บออมกลับควักมาใช้อย่างไม่จำเป็น โชคมันก็ไม่เคยเข้าข้างอยู่แล้ว อะไรที่ต้องวัดดวงเธอจะไม่ทำเด็ดขาด แต่วันนี้มันถึงขีดสุดของความอดทน... เธอจะบ้า...บ้าเยาะเย้ยโชคชะตา

แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 52 14:32:53

จากคุณ : pajan
เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 52 14:27:35




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com