ความคิดเห็นที่ 1 |
33.
บุหลันยืนมองภาพตนเองที่สะท้อนในกระจก ใบหน้าสวยได้รูปแต้มแต่งด้วยเครื่องสำอางอ่อน ๆ สดใสสมวัยแต่แววตามุ่งมั่นจริงจังระคนเครียดกำลังปลุกปลอบเพื่อเสริมสร้างกำลังใจและกลบความหวั่นเกรงให้หลบซ่อนไว้เบื้องหลัง เธอสูดลมหายใจลึก ใจเย็นไว้ เรื่องแค่นี้เอง... ร่างเพรียวสวมเสื้อกล้ามโชว์ท่อนแขนเรียว กางเกงยีนส์เอวต่ำเน้นรูปสะโพกเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แบบผู้หญิง บุหลันแตะมือบริเวณหน้าอก นัยน์ตาเยือกเย็นจุดขึ้น
หญิงสาวดูความเรียบร้อยครั้งสุดท้ายก่อนจะออกจากบ้าน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หมายเลขที่โชว์หน้าจอเรียกรอยยิ้มสมใจ
......................................................................
ไม่มีอะไรเป็นลางบอกเหตุว่าวันนี้ต้องให้คำตอบกับรุ้งรวี แต่วณิชก็รู้สึกได้ว่าไม่ควรปล่อยให้เวลาเคลื่อนผ่านไปนานกว่านี้ เพราะใครต่างก็รู้ดีว่าการรอคอยคือหนึ่งในความทรมานที่สุดที่อารมณ์จะถูกกระทำ
ชายหนุ่มเงยหน้ามองฟ้า ยังคงเป็นอีกวันที่อากาศปลอดโปร่ง ซึ่งก็ยังเป็นอีกวันที่ธรรมชาติแวดล้อมตรงกันข้ามกับจิตใจ
หลายอาทิตย์ผ่านมาแล้วนับจากวันที่หัวใจถูกบดขยี้เหมือนมะเขือเทศสุก แม้จะพยายามผลักไสไปอยู่มุมมืด แต่คราบไคลแห่งความผิดหวังนั่นก็ไม่ต้องการแสงสว่าง แค่ฝังลึกใต้ก้อนเนื้อในอกก็เพียงพอแล้วสำหรับการหลอกหลอนในวันอ่อนไหว ยังคงเผลอใจกระหวัดไปถึงความสุขในวันที่ได้ยืนมองพระอาทิตย์ตกดินกันลำพัง เฮ้! วณิชสะดุ้งโหยง ใบหน้าทะเล้นทะลึ่งของปริยลอยมาตามด้วยเสียงหัวเราะชอบใจที่เห็นอีกฝ่ายตกใจเกินระดับการหยอกล้อ ขวัญอ่อน เขาดัดเสียง คนถูกทักรุนแรงกระชากสีหน้า อะไร ปริยยังยิ้มค้าง ชี้นิ้วหัวแม่โป้งข้ามไหล่แทนคำตอบ เพื่อนรักมองตาม เห็นรุ้งรวียืนอยู่หน้าร้าน รู้สึกปั่นป่วนในช่องท้องขึ้นมาทันใด
ฟังเพลงหรือยังคะ ชอบไหม หัวใจของรุ้งรวีคงกำลังสูบฉีดโลหิตแห่งความหวัง โดยมีสีหน้าช่วยระงับความตื่นเต้นไม่ให้เปิดเผยออกมามากเกินไปโดยการส่งยิ้มแบบจริงใจเจือปนอ่อนหวานให้แทน ทั้งคู่ยืนคุยกันอยู่บริเวณใต้ร่วมเงาต้นไม้บริเวณลานกว้างด้านหลังร้าน ซึ่งวณิชเป็นฝ่ายขอเวลากับที่ร้านเองเพื่อมาคุยกันตามลำพัง เขาพยายามทำหูทวนลมกับเสียงวี้ดว้ายของบรรดาสาว ๆ ชายหนุ่มพยักหน้า ชอบครับ พี่เองก็ชอบฟังเพลงอยู่แล้ว มีประกายที่บอกว่าคำตอบไม่เป็นไปตามที่คาดเล็กน้อยในดวงตาหญิงสาว
เธอผงกศีรษะรับ ถ้าพี่อยากได้เพลงอะไรบอกนะคะวันหลังรุ้งจะดาวน์โหลดมาให้ จะได้เป็นอัลบั้มรวมเพลงฮิตส่วนตัว เธอพูดยิ้ม ๆ ความเป็นจริงมันทำไม่ได้ง่ายหรอก เลือกแต่สิ่งที่ชอบ บางคนทำไม่ได้ ไม่มีโอกาสและแรงพลังพอเปลี่ยนแปลง รุ้งมีร้านที่รู้จักกันอยู่ ความคิดก็คือวรรณบอกมาน่ะค่ะ ขายแผ่นเพลงถูกด้วย แต่วรรณไม่ให้บอก เดี๋ยวคนไปซื้อเยอะพาซวยกันหมด วณิชยิ้มนิดหนึ่ง หญิงสาวมองฝ่าเปลวแดดแล้วหันกลับมา จะปิดเทอมแล้ว พี่ณิชคะ รุ้งมาทำที่ร้านพี่อีกได้ไหม คนฟังกระพริบตาปริบ จู่ ๆ ได้ยินคำถามที่ไม่คาดหวังในเวลานี้ทำให้ความคิดเขาหยุดลงชั่วคราวก่อนที่จะพาให้หวนระลึกถึงวันเวลาที่ผ่านมาทั้งกับของเธอและผู้หญิงอีกคน วณิชมองพื้น กลัวรุ้งเกเรอีกใช่ไหมคะ ปลายเสียงเธอหัวเราะแผ่ว เขาไม่ตอบ รุ้งยอมรับนะคะว่าไม่คุ้นเท่าไรกับการทำงาน มีหลายอย่างที่ทำไม่ดี แต่ว่าคราวใหม่นี้รับรองค่ะ พี่ณิชต้องจ่ายโบนัสรุ้งแน่ ๆ เขาปล่อยให้เธอเจื้อยแจ้วไปเรื่อยเพราะเปล่าประโยชน์ที่จะขัด แต่เมื่อสบกับใบหน้าเกลื่อนยิ้มที่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความกังวลนั้นชายหนุ่มก็รู้ว่านั่นเป็นแค่การประวิงเวลา ความจริงคือหญิงสาวกำลังรอต่างหาก แม่รุ้งเองก็... น้องรุ้งครับ เสียงเรียกชื่อหนัก ๆ ทำให้คนถูกเรียกชะงักกริยาทันที สัญชาตญาณบอกให้รู้ว่าการรอคอยจะจบลงซึ่งนั่นก็เป็นการเตือนให้ตัวเองรู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงกับการพบเขาวันนี้ วณิชพยายามไม่หลบสายตาพรั่นพรึง เรื่องที่น้องรุ้งถามพี่ในการ์ด เขารู้สึกว่าแต่ละคำช่างลำบากยากเย็น ท้องฟ้าสาดแสงอย่างกราดเกรี้ยว ความจริงมันน่าจะร่มกว่านี้อีกสักหน่อย รุ้งรวีก้มหน้า กำมือเข้าหากันระงับความรู้สึกระทึกที่กระหน่ำอก น้ำในท้องม้วนตัวราวกับลูกคลื่นพายุที่โหมกระพือ เหงื่อซึมออกมาแม้กระทั่งฝ่าเท้า พี่ขอบคุณนะครับ เสียงของวณิชราวกับอยู่คนละฟากสนามฟุตบอล เขาแทบกลั้นหายใจ แต่คงไม่ได้ พี่รู้สึกกับรุ้งแบบน้องสาว... โลกของรุ้งรวีดับลงทันใด ไม่เพียงก่อนหน้าที่ก้อนถ่วงในท้องจะหายวับเหมือนถูกเสกโดยนักมายากล แต่เสมือนว่าพื้นที่เหยียบยืนอยู่ก็ไม่มีอีกต่อไป ร่างของเธอล่องลอยอยู่ในจักรวาลอันมืดมิด โดดเดี่ยว ไร้สำเนียงใด ๆ ลืมแม้กระทั่งหายใจ... เขาปฏิเสธใช่ไหม นี่แปลว่าเขาไม่ได้ชอบเธอใช่ไหม เธอฟังผิดหรือเปล่า มันอาจจะมีความหมายอะไรสักอย่าง มีความพยายามดึงดันปฏิเสธ ขณะที่คำตอบของเขายังสะท้อนไปมา ขอบตาเต้นระริกรอรับหยดน้ำที่กำลังกลั่นตัวจนอุ่นวาบไปทั้งกาย วณิชเห็นรุ้งรวียืนนิ่งหลังจากประโยคบอกเล่านั้นจบลง คราแรกเขาคิดไปเองเธอคงไม่ได้ยิน แต่หลักฐานยืนยันว่าหญิงสาวได้ประมวลความหมายแล้วก็ปรากฎออกมา ใบหน้าอิ่มด้วยเลือดฝาดซีดลงเรื่อย ๆ ดุจโลหิตในกายถูกลบออกไป แววตาเปล่งประกายถูกฉกฉวยไปอย่างไม่เต็มใจจากหน้าต่างอารมณ์ สาวตุ๊กตาพยายามอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่การเอื้อนเอ่ยของเธอขัดข้องราวกับของเล่นที่กลไกชำรุด เนิ่นนานกว่าเสียงเบาหวิวจะหลุดลอดออมา เหรอ...คะ... วณิชพึ่งเข้าใจวันนี้ว่าการบอกปฏิเสธยากกว่าตอนบอกรักหลายเท่าพันทวี เขาอยากเบือนหน้าไม่ให้เห็นว่ากำลังทำลายความหวังเฉกเช่นที่ตนเองได้เผชิญมาสด ๆ ร้อน ๆ งั้นก็... มือเธอขยับกระเป๋ากำลังทำท่าว่าหมดธุระแล้วควรจะต้องกลับ แต่แท้จริงมันคือการจำนนซึ่งร่างก็ไม่เขยื้อนไปจากจุดเดิม พยายามกักกันน้ำที่กำลังเอ่อล้น ขอบคุณนะครับ รุ้ง... เสียงหญิงสาวสั่น รุ้ง...คงต้องขอบคุณพี่... สายตาเธอจับจ้องปลายเท้าตนเอง เป็นน้องสาว เขาไม่ได้ชอบเธอ ไม่ได้คิดแบบเดียวกับเธอ ไม่ได้มองเธออย่างสเน่หา เข้าใจแล้ว พอใจแล้ว และควรไปได้แล้วสิ ดีแล้วที่ยังได้บอก ก็เตรียมใจไว้แล้วไม่ใช่หรือ รุ้งรวี... ยังไงเราก็ยังได้เจอกันนะครับ แต่แล้ว วินาทีที่ประโยคหวังดีของชายหนุ่มถูกถ่ายทอดออกมา รุ้งรวีผงกก็ศีรษะพูดคำที่เร็วกว่าใจจะสั่ง พี่ณิชชอบเดือนเหรอคะ วณิชรู้สึกว่าถูกลอบยิงโดยไม่รู้ตัว ซ้ำยังโดนเป้าเผง กระสุนตัดขั้วหัวใจจนเผลอผงะกายไปข้างหลังและนั่นก็เพียงพอแล้วที่รุ้งรวีจะรีบคว้าเอาไปตีความ เขารีบกลบเกลื่อนสีหน้า เอามืออุดบาดแผลที่เลือดรินปุด ๆ แม้รู้ว่ามันสายเกินไปก็ตาม ไม่ใช่...ไม่... แต่หญิงสาวรู้ อย่างน้อยก็รู้ว่ามีเหตุผลที่เขาปฏิเสธเธอ ความคิดของชายหนุ่มสับสนอื้ออึง ขณะที่แววตาตุ๊กตาจ้องจนทะลุ และระริกไหวไม่หยุด ใช่ไหมคะ... ในที่สุดวณิชก็ทนประสานสายตากับเธอไม่ได้ เขาหลบการคาดคั้นไปมองต้นไม้ คิ้วเข้มขมวดมุ่นแบบอึดอัดใจ ปากอยากปฏิเสธ แต่การถูกโต้ด้วยสัญชาตญาณของผู้หญิงที่ไวกว่าแสงเมื่อครู่ตัดกล่องเสียงจนสูญเสียการเอื้อนเอ่ย พี่ณิช... เขาเผลอหันไปตามเสียงเรียกอ่อนแรง ไม่มีลูกแก้วใสอีกแล้ว บนใบหน้าสวยหวานแทนที่ด้วยคลื่นฟองแห่งความเศร้าที่ถูกปล่อยออกมาราวกับทำนบทลาย หัวใจชายหนุ่มร่วงผลอยไปกองกับพื้น และมันก็ตราตรึงเขาไว้เช่นนั้น น้องรุ้ง... รู้ไหมว่าเขาก็เจ็บ พี่ขอโทษ... หญิงสาวพึ่งรู้ว่าตนเองร้องไห้ ยกมือปิดหน้า ส่ายศีรษะอย่างจนด้วยความสามารถในการพูด เธอสะอื้นฮัก วณิชได้แต่ยืนอยู่อย่างนั้น เผชิญกับพายุความเสียใจที่ถาโถมใส่ระลอกแล้วระลอกเล่าโดยไม่รู้จะสิ้นสุดเมื่อใด สำหรับรุ้งรวี ความรักเป็นเพียงการให้และตอบรับความปรารถดีของคนที่ตนพึงใจ เท่าไรไม่อั้น
แต่กับวณิช...ตัวเขามีค่าด้อยกว่าเงินเสียอีก เอาไปแลกอะไรไม่ได้เลย...
.......................................................
(ต่อค่ะ...)
| จากคุณ |
:
BabyRed
|
| เขียนเมื่อ |
:
25 ก.ย. 52 11:27:08
|
|
|
|