กรุเรื่องสั้น เรื่องที่ 4 ดาวนา
|
|
แดดบ่ายสีสุกปลั่งย้อมท้องทุ่งเบื้องล่างเป็นสีอำพันนุ่ม ไล่โทนปาดไล้จากพื้นที่ลุ่มเรียบไปถึงเชิงเขาฝั่งตรงข้ามเบื้องหน้า กระท่อมคนเฝ้าท้องนาหลังคามุงจากสีน้ำตาลคร่ำคร่าปลูกกระจัดกระจาย ดั่งสัญลักษณ์ปักเขตแดนทุ่งใคร ทุ่งมัน สวยกลมกลืน สมเป็นสิ่งประดิษฐ์เดียวกลางหุบเขาเขียวขจีแห่งนี้
เดี๋ยวนะ รอให้พระเอกเข้าฉากก่อน
เสียงพูดเบาๆเหมือนเกรงว่า ภาพเบื้องหน้าจะหายวับทันที หากโดนคลื่นเสียงดังๆรบกวน ในมือคนพูดถือกล้องชั้นดีขยับแล้ว ขยับอีก ร่างเล็กๆบางๆลุกขึ้นยืนบ้าง ย่อตัวบ้างเพื่อให้ได้ภาพในมุมที่สวยที่สุด สมกับเฝ้าคอยมาเป็นชั่วโมง
พระเอกที่ไหนอีกล่ะ
ผู้ถูกถามเป็นหนุ่มใหญ่วัยกลางคน อิริยาบถในการถือกล้องไม่ต่างจากกันนัก เขาเงยหน้าดูแสงอาทิตย์บนฟ้า เหงื่อซึมแถวหน้าผาก ถึงจะมีลมเย็นๆพัดจากขุนเขาลิบๆก็ตาม
ฟังซิคะ มาแล้ว
แล้วพระเอกในความหมายของฝ่ายหญิงก็ปรากฏตัวพร้อมเสียงกระดึงที่ลำคอกุกๆกักๆ เหล่ากระบือทุ่งราบโผล่ตัวมาจากห้วยน้ำด้านหลัง เดินเรียงเป็นหมู่ตรงมาที่ท้องทุ่งในหุบเขา จ่าฝูงเดินนำมาก่อน มีเด็กผู้ชายหน้าตาซนๆคอยตะโกนไล่ลูกฝูงให้รีบซอยเท้า
ได้เรื่องล่ะ พระเอกเข้าบทแล้ว
เสียงกดชัตเตอร์ดังไม่ขาดระยะ เมื่อฝูงกระบือทั้งฝูงออกเดินพาเหรดอย่างสง่างาม กลายเป็นสิ่งเคลื่อนไหวที่มีชีวิตชีวาที่สุด
แน่ะ แน่ะ ยังหลงอีกตัว เสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้นอีก รวดเร็วพอๆกับภาพลูกกระบือตัวจ้อยวิ่งเข้าไปหาฝูงด้วยใจระเริงปรีดา เหมือนเด็กน้อยคืนสู่อ้อมอกมารดาอีกครั้ง
เจ้าตัวสุดท้ายนี้ แอคชั่นมันที่สุด
ดาวนาถอนใจยาวอย่างมุ่งมั่น และแล้วก็ได้ภาพทุ่งข้าวในหุบเขาวันที่ฟ้าและแดดเป็นใจ แถมยังมีพระเอก พระรองที่ไม่ได้รับเชิญโผล่ตัวเข้ามาแสดงในฉากด้วย ลำแสงสุดกำลังจะลาจาก ความจริงอยากได้รูปพระอาทิตย์ตกดินหลังทิวเขาอีกสักรูป แต่เมื่อนึกถึงหนทางกลับสู่ที่พักแล้วก็เปลี่ยนใจ กระท่อมหลังเล็กบนดอยชาวเขาไร้แสงไฟ ยิ่งถึงเร็วเท่าไร ยิ่งปลอดภัย
แล้วกล้องตัวเก่งก็ถูกเก็บอย่างถนอมในกระเป๋าหนังสีดำใบใหญ่ ดาวนากึ่งสะพายกึ่งหอบอย่างหวงแหน ทั้งๆที่น้ำหนักของอุปกรณ์ภายในรวมกันทั้งหมดไม่ต่ำกว่าสิบกิโลกรัม
ไปกันหรือยังคะ มืดนักกลับที่พักลำบาก
ผู้ถูกถามพยักหน้า กวาดภาพท้องทุ่งยามตะวันอ้อมข้าวอีกครั้งในความทรงจำ หันมามองผู้หญิงคนข้างๆ เธอยืนคอยพร้อมเรียบร้อยแล้ว ตาหลุบต่ำชำเลืองดูข้อเท้าเพื่อนร่วมทางที่ถูกห่อหุ้มด้วยถุงเท้าหนาและรองเท้าผ้าใบคู่ตะลุย
ยังปวดอยู่หรือเปล่าคะน้ำเสียงถามห่วงใย ทำให้เขาก้มมองข้อเท้าตัวเองตาม อาการปวดแปลบๆยังรบกวนความรู้สึกเป็นระยะๆ
ไม่เท่าไรแล้วล่ะ นานๆลุยทีก็อย่างนี้แหละ อดสำออยไม่ได้
เขาตัดบทค่อยๆเขยื้อนเท้าเดินตรงไปนั่งรถสองแถวซึ่งยืมจากที่พักมา ดาวนาเดินตามหลังเหมือนคอยดูแลความเรียบร้อยให้ ต่อเมื่อทั้งคู่ได้นั่งในเบาะตอนหน้าแล้ว รถจึงขยับเคลื่อนจากไป ทิ้งให้หุบเขาตกอยู่ในความวังเวงของเย็นย่ำที่กำลังผันบทบาทเข้ามาแทน
คุณอึดดีจังนะ เขาพูดนำขึ้นก่อน ขณะรถแล่นผ่านโค้งไหล่เขาวกวน ผู้หญิงข้างๆหัวเราะยักไหล่ มือข้างหนึ่งยังกุมกระเป๋ากล้อง อีกข้างจับปลิวผมที่ถูกลมพัดกระเซิง
ความจำเป็นบังคับนี่ ถ้ารักจะทำงานด้านนี้
สายตาฝ่ายหญิงมองออกนอกหน้าต่าง นกตัวเล็กๆผกผินบินขยับเกาะกิ่งไม้บ้าง หินกรวดรายทางบ้างอย่างเพลิดเพลิน
คุณเองก็นึกไม่ถึงใช่มั้ย ภีม
ประโยคตอนท้ายย้อนถามด้วยนัยบางอย่างที่รับรู้กันสองคน ภีมเหลือบมองผู้หญิงใกล้ๆ หากดาวนาเสหลบปรายตาไปยังพุ่มไม้ข้างทาง
แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 52 21:16:23
จากคุณ |
:
กูรูขอบสนาม
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ก.ย. 52 21:14:29
|
|
|
|