เพลิงริษยา--ตอนที่ 5
|
|
ตอนที่ 5...
ตลอดอาทิตย์นั้นข้าวขวัญพยายามอย่างยิ่งที่จะทำตัวให้เป็นปกติ หากคุณย่าก็ยังจับสังเกตเด็กที่อยู่ในการปกครองของเธอมาเป็นปีได้
มีอะไรหรือข้าว ย่าเห็นพักนี้ลุกลี้ลุกลนผิดปกติ
ข้าวขวัญยิ้มอ่อนๆ ให้ผู้ถาม ก่อนจะส่ายศีรษะแทนการพูดโกหกออกไป
มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจอะไรก็พูดกับย่าได้นะ อย่าทำเหมือนกับว่าเราเป็นคนอื่นคนไกล
เกือบไปแล้ว เกือบที่หญิงสาวจะวางมือจากผักที่กำลังสลักซ้อมมือเล่นๆ และเอ่ยปากขอให้คุณย่าช่วยเธอแล้ว แต่พอมองใบหน้าของผู้เป็นย่า มองริ้วรอยที่ประกาศว่าหญิงวัยแปดสิบกว่าๆ นี่ผ่านโลก ผ่านร้อน ผ่านหนาวมาขนาดไหนแล้วเธอก็เปลี่ยนใจ
สิ่งเดียวที่ข้าวขวัญพอจะมอบให้ผู้เป็นย่าเพื่อตอบแทนความรักและความหวังดีของคุณย่าได้...คือการไม่ทำให้คุณย่าต้องเดือดเนื้อร้อนใจ โดยเฉพาะ การต้องร้อนใจเพราะลูกชายคนเดียวของคุณย่าเอง
คุณย่าน่ะมีหลานไม่รักดีอย่างเธอแค่คนเดียวก็น่าจะพอแล้ว อย่าให้ต้องมีทั้งหลานไม่รักดี และลูกไม่รักดีเลย!
ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอกค่ะคุณย่า แค่พักนี้งานของข้าวยุ่งน่ะค่ะ
ที่ต้องออกไปข้างนอกบ่อยๆ นี่ก็เพราะเรื่องงานหรือ
ข้าวขวัญจำใจต้องพยักหน้า โกหกไปเพื่อให้คุณย่าเลิกถามเรื่องนี้เสียที แต่ผู้ที่ผ่านโลกมามากกว่าก็ยังรู้ได้ว่าหลานสาวกำลังมีอะไรสักอย่างอยู่ในใจ ที่ไม่พูดออกมาก็เห็นน่าจะเป็นเพราะเรื่องร้อนใจของข้าวขวัญนั้นคงพัวพันกับหลานสาวอีกคน
เฮ้อ...ผู้เป็นย่าลอบถอนหายใจออกมา ลูกชายคนเดียวของเธอนั้นมีลูกอยู่แค่สองคน แทนที่เด็กสองคนจะรักใคร่ ช่วยเหลือกัน กลับเข้ากันไม่ได้เพราะการอบรม การสั่งสอนแบบผิดๆ ของผู้ใหญ่ คิดแล้วหญิงชราก็กลุ้มเสียจนต้องปัดความคิดที่อาจทำให้ลมขึ้นทิ้งไป แล้วจดจ่อสมาธิกับผลไม้ตรงหน้า
- - - - - - - - - -
กณิศควงแขนลูกสาวคนสวยไปงานวันเกิดของคุณหญิงศิริมาศตั้งแต่เย็น เขาแนะนำข้าวขวัญว่าเป็นลูกสาวเต็มปากเต็มคำ ซึ่งก็ทำให้คุณหญิงและสามีจับจ้องหญิงสาวในชุดสีม่วงอ่อนไม่วางตา
คนในวงสังคมน่ะเขาซุบๆ ซิบๆ เรื่องลูกสาวอีกคนของคุณกณิศเจ้าของบริษัทคอมพิวเตอร์แบรนด์ดังมานานแล้ว นัยว่าเป็นลูกสาวลับๆ ของเมียเก็บ สวยมากจนเคยปั่นหัวลูกชายของคุณหญิงตรีทิพย์เสียจนไม่เป็นผู้เป็นคนมาแล้ว แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่คำร่ำลือ ไม่เคยมีใครเห็นหน้าเด็กสาวคนนั้นถนัดๆ เสียทีแม้ว่าจะแอบดอดเข้าไปมองหาถึงในบ้านทวีสุขแล้วก็ตาม
แต่มาวันนี้ เด็กสาวที่ถูกเอ่ยถึงทั้งในแง่ของความงามและความร้ายกาจกลับถูกดันออกมาสู่สายตาของสังคม ไม่ต้องคิด ทุกคนรู้ได้ในทันทีเลยว่างานนี้ต้องจับตามองตัวพ่อและตัวลูกไม่ให้คลาดสายตา มิเช่นนั้นคงได้ตกข่าวเด็ดข่าวดังแน่!
ทันทีที่ร่างบางในชุดเกาะอกหากมีเสื้อคลุมบางเบาสีอ่อนกว่าตัวเสื้อคลุมเอาไว้อีกชั้นขอตัวไปดูบูทที่ตนเองต้องดูแล คุณหญิงศิริมาศก็ทำหน้าที่หาข่าวให้เพื่อนพ้องทันที
ลูกสาวคนนี้ของคุณกณิศนี่สวยกว่าคำร่ำลืออีกนะคะ
กณิศหัวเราะเบาๆ หากดวงตาที่ทอดมองไปยังบุตรสาวคนสวยนั้นประกาศความภูมิใจเป็นที่สุด ไม่หรอกครับ ข้าวก็แค่หน้าตาดีกว่าปกตินิดเดียว
ถ้าอย่างนั้นเรียกว่าหน้าตาดีกว่าปกตินิดเดียว สาวๆ ที่มาในงานคืนนี้คงหน้าตาต่ำกว่าปกติแน่ๆ โธ่...ไม่ต้องถ่อมตัวหรอกครับ เจ้าสัวสมบัติสามีของคุณหญิงศิริมาศเอ่ยชมพร้อมกับมองตามร่างขาวๆ นั้นไปไม่วางตา จนคุณหญิงศิริมาศต้องบิดก้อนเนื้อที่หลามออกมาจากพุงของสามีเป็นการตักเตือนไม่ให้ทำตัวรุ่มร่าม
แล้วทำไมถึงเพิ่งพาลูกสาวคนนี้ออกงานล่ะคะ หน่วยข่าวกรองเริ่มทำหน้าที และกณิศก็ทำตัวเป็นผู้ให้ข่าวที่ดี
ความจริงผมอยากจะพาข้าวออกงานมาตั้งนานแล้วครับ แต่ข้าวน่ะเป็นหลานรักของคุณย่า คุณย่าท่านห่วง ท่านหวงของท่านมากเลยเก็บเอาไว้ใกล้ตัว เก็บ...จนข้าวเรียนจบแล้วถึงได้ร้อนใจ... กณิศแกล้งทิ้งข้อความเอาไว้เพียงแค่นั้นพร้อมหัวเราะเบาๆ เพื่อรอให้คุณหญิงศิริมาศกระโดดงับเหยื่อ
ร้อนใจอะไรเหรอคะ
กณิศยิ้มขันเมื่อเหยื่อของเขาใช้ได้ผล จะเรื่องอะไรเสียอีกล่ะครับ ถ้าไม่ใช่เรื่อง...คู่ครอง
ริมฝีปากที่อิ่มเพราะโบทอกซ์ห่อเป็นรูปตัวโอ พร้อมเสียงอ๋อยาวดังออกมา ที่แท้คุณกณิศก็พารจนามาเลือกคู่นี่เอง แหม...ยินดีเป็นอย่างยิ่งทีเดียวค่ะ ถ้างานวันเกิดของมาศจะเป็นสื่อให้สาวสวยได้พบกับคนที่คู่ควร เอ...แล้วนี่มองๆ ใครเอาไว้บ้างรึยังคะ ถ้ายัง...มาศพอแนะนำให้ได้นะคะ
ท้าวสามนต์ยุคมิลเลเนี่ยมยกมือห้าม ผมคงมิบังอาจรบกวนคุณมาศหรอกครับ ข้าวน่ะ...มีคนมามองๆ เอาไว้แล้วเหมือนกัน
เอ...ถามได้ไหมคะว่าใคร
กณิศหัวเราะเบาๆ อิดเอื้อนให้คุณหญิงศิริมาศกระเซ้าถามอีกครั้ง ก่อนเอ่ยปากออกมาโดยลดเสียงลงกว่าครึ่ง บอกคุณมาศกับคุณเล้งแค่สองคนนะครับ ห้ามบอกต่อ...ท่าน ส่งคนมาทาบทามลูกสาวของผมเอาไว้แล้วครับ
สีหน้าตกตะลึงของสองสามีภรรยาทำให้กณิศยืดขึ้นอีกพะเรอ ให้มันรู้เสียบ้าง ว่าตอนนี้เขากำลังจะได้ใครเป็นลูกเขย!
- - - - - - - - - -
ผู้ชายทั้งหนุ่มทั้งไม่หนุ่มต่างดาหน้าเข้ามาชื่นชมความงามของผู้ทำทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทอง ขนมเลื่องชื่อของไทยโชว์จนแทบจะต้องแจกบัตรคิว
นั่งอยู่หน้าเตาถ่านใครว่าร้อนแล้ว แต่เมื่อต้องเผชิญกับสายตาราวกับอยากจะรับประทานเธอเข้าไปแทนขนม ข้าวขวัญก็ร้อนไปด้วยอารมณ์โกรธกรุ่น
และเพราะอารมณ์ที่ร้อนแรงขึ้นตามลำดับนี่เอง ทนทำขนมโชว์ไปได้แค่ชั่วโมงเดียว เธอก็บอกสาวๆ ที่ถูกเกณฑ์ให้มาช่วยเธอว่าร้อน จะเป็นลม ขอตัวไปพักหน่อยแล้วเดินออกมาจากบูท
มันเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์ เพราะเมื่อถอดผ้ากันเปื้อนออก หมายจะเดินตรงเข้าไประงับสติอารมณ์ในห้องน้ำ ผู้ชายเป็นฝูงไม่รู้ว่ามาจากทิศทางไหนบ้างก็มะรุมมะตุ้มเข้ามาแนะนำตัวกับเธอ
ข้าวขวัญตกใจจนหน้าซีด ก็ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยถูกผู้ชายเป็นสิบคนรุมล้อมรอบตัวเธอแบบนี้มาก่อนเลยนี่ เมื่อก่อน สมัยที่คุณน้ำตาลพาเพื่อนชายมาบ้าน อย่างมากก็สองถึงสามคนที่จะมาแซวเธอ อาจมีแค่เพียงคนหรือสองคนเท่านั้นที่กล้าถึงขนาดจับมือถือแขน แต่นี่...นามบัตรเป็นสิบในถูกยัดใส่มือ ไหล่เธอก็ถูกอก ถูกไหล่ผู้ชายบางคนกระทบกระแทก หญิงสาวพยายามยืดตัวขึ้น มองหาความช่วยเหลือ แต่ก็มองไม่เห็นคุณพ่อเลย
น้ำตาใกล้จะตกอยู่รอมร่อเมื่อผู้ชายที่ดูท่าว่าจะเมามายกว่าเพื่อนยกแขนขึ้นโอบรอบไหล่เธอราวสนิทสนมกันมาเป็นปีๆ กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ไม่คุ้นจมูกทำให้เธอคลื่นเหียน แต่ก่อนที่จะร้องไห้ ก่อนที่จะอาเจียนออกมา มือที่โอบไหล่เธออยู่ก็ถูกดึงออก ข้อมือเธอถูกลากเข้าไปในบ้านหลังโตด้วยมือที่อุ่นจนร้อนของใครบางคน
เป็นอะไรรึเปล่า ทำอีท่าไหนเข้าล่ะถึงได้เข้าไปเป็นไข่แดงอยู่ท่ามกลางไข่ขาวแบบนั้น
คำขอบคุณและรอยยิ้มที่คิดว่าจะมอบให้แก่ผู้ที่ทำตัวเป็นอัศวินเข้าไปช่วยเธอถูกกลืนหายไปหลังได้รับฟังประโยคทะ:-)ๆ ที่ข้าวขวัญตัดสินใจไม่ถูกว่า...มันเป็นการปลอบ หรือเป็นการตำหนิ
ข้าวขวัญบิดข้อมือหมายจะเป็นอิสระจากความร้อนของอุ้งมือใหญ่ แต่ยิ่งบิดหนี มือใหญ่ที่ช่วยเธอให้พ้นภัย มือของอัศวินที่ตอนนี้ข้าวขวัญชักไม่แน่ใจแล้วว่าเป็นอัศวินหรือว่าโจรป่ากันแน่ก็ยิ่งกระชับข้อมือเธอแน่น
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือตาขุ่นเขียว พร้อมสั่งเสียงเข้ม ปล่อยฉัน!
บุรุษที่ยึดข้อมือเธอเอาไว้นั้นอยู่ในเสื้อผ้าที่แทบจะเรียกได้ว่าสบายๆ เสื้อสีครีมลายทางสีน้ำตาลปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกงลูกฟูกสีน้ำตาลเข้ม เขาดูแตกต่างจากผู้คนที่สวมสูทผูกเนคไท หรือบางคนเดาะผูกหูกระต่ายด้วยซ้ำอยู่แล้ว แต่เมื่อเธอมองเห็นเคราเขียวครึ้มและผมเผ้าที่ยาวผิดรูปเหมือนเพิ่งออกจากป่ามาของคนที่ยึดมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อย ใจเธอก็หายวาบ
นี่หนีหมู่เสือมาปะจระเข้รึเปล่านี่!
ก็ไม่ได้อยากจะจับนักหรอก แต่กำลังรอคำขอบคุณอยู่ นี่ผมอุตส่าห์แหวกวงไฮยีน่าเข้าไปช่วยสมันน้อยออกมาเลยนะ คิดจะขอบคุณกันบ้างไหม
ขอบคุณ! ข้าวขวัญรีบขอบคุณด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด น้ำเสียงที่ฟังอย่างไรก็ไม่ได้มาจากใจจริงของเธอเลย
พศวีร์หัวเราะหึๆ ขอบคุณแบบสำนึกในบุญคุณหน่อยได้ไหมคนสวย คุณรู้ไหมว่าถ้าผมออกไปอีกครั้งแล้วเจอฝูงหมาบ้าพวกนั้นเข้า ผมอาจถูกรุมกัดถึงตายได้
ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวแสนสวยตรงหน้ายิ่งทวีความโกรธ ดวงตาเธอวาวแสง ใบหน้าเธอแดงก่ำโดยเฉพาะที่พวงแก้ม ริมฝีปากเธอเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง และหน้าอกก็กระเพื่อมขึ้นกระเพื่อมลงอย่างแรง
อืม...ปกติแล้วเขาเห็นผู้หญิงโกรธมามาก ทุกคนล้วนแล้วแต่โกรธ แต่โมโหแล้วน่าเกลียด เพิ่งจะมีคนเนี่ยะ ที่โกรธแล้วน่าดู เอ...แต่จะน่าดูน่าชมกว่านี้นะถ้าเธอถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะโกรธเขา อกเธอคงกระเพื่อม...กระเพื่อม...กระเพื่อม...
เมื่อจินตนาการถึงภาพแสนน่าดูนั่นในใจ พศวีร์ก็อดที่จะยิ้มกว้างออกมาไม่ได้
| จากคุณ |
:
(liz)
|
| เขียนเมื่อ |
:
26 ก.ย. 52 00:14:49
|
|
|
|