ความคิดเห็นที่ 1 |
23.
จริงอยู่ที่คนเราชอบหวนนึกถึงอดีตที่ผ่านไปแล้ว โดยเฉพาะกับสิ่งผิดพลาดที่อยากจะกลับไปแก้ไข บ่อยครั้งที่เราจะเอ่ยคำว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่า เวลานั้นไม่เคยที่จะเดินย้อนกลับ
ฉะนั้นจึงมีทางเดียวที่จะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ โดยที่ไม่ต้องจมอยู่กับภาพอดีตเหล่านั้น ซึ่งก็คือ
... การตั้งใจทำทุกอย่างในปัจจุบันนี้ให้ดีที่สุด
เพราะเมื่อปัจจุบันนั้นได้เคลื่อนผ่านไปเป็นอดีตแล้ว เราก็จะได้ไม่ต้องมานึกเสียใจให้กับมันอีกต่อไป
เปิดเทอม ม.6 ผมกับไอ้จ้อก็ยังได้เรียนห้องเดียวกันอีก และเราก็ยังคงนั่งโต๊ะติดกันอยู่เหมือนเดิม อาจจะจริงที่ใครๆ เค้าพูดว่า เป็นแฟนน่ะเลิกกันได้ แต่ความเป็นเพื่อน ยังไงก็ต้องเป็นเพื่อนกันตลอดไป
เฮ้ย เรื่องนั้นน่ะ กูไม่เคยงอนเมิงเลยนะเว้ย ไอ้ที่หายหน้าไป ก็แค่ไปเที่ยวบ้านยายกับแม่ แล้วก็ดั๊นลืมที่ชาร์จแบต มือถือก็เลยโทรไม่ติด
และเกือบทุกครั้งที่โทรคุยกัน มันก็ยังจะเก็บเรื่องเก่ามาแก้ตัว ถึงจะซ้ำซากไปหน่อย แต่ผมก็ดีใจที่ได้เพื่อนซี้คนเดิมกลับมา
เอ้อ! นี่กูเกือบจะลืมบอกเมิงไปแล้วนะเนี่ย ไอ้ที่ไปเรียนพิเศษเมื่อตอนเย็นอ่ะ ...
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเลยเสียทีเดียว อย่างน้อก็เรื่องที่ไอ้จ้อ มันกลายเป็นเด็กเรียนพิเศษตัวพ่อไปแล้ว จะตอนเย็นหลังเลิกเรียน หรือเสาร์อาทิตย์ ก็มีแต่คิวไปเรียนติว ซึ่งคนที่ชักนำมันเข้าสู่วงการนี้ ก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน
คือหลังเลิกเรียน กูก็กำลังจะกลับบ้านกับแตมอ่ะนะ ...
แตมทำให้มันตั้งใจลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ และทำให้มันได้รู้ใจตัวเองจริงๆ ซะทีว่า เป้าหมายสำคัญในชีวิตที่จะต้องไล่คว้ามาให้ได้นั้น สำหรับมันแล้วคืออะไร
แมร่งมีหมาที่ไหนไม่รู้เว้ย โผล่พรวดมาขอเบอร์แตม เชี่ยๆๆ แมร่งอย่างหยามอ่ะ ขอต่อหน้ากูเลยนะเว้ย
ซึ่งผมก็ได้แต่อวยพรให้มันทำได้สำเร็จตามที่หวัง ถึงแม้ว่าเป้าหมายนั้น มันจะหมายถึง ...
เฮ้ย นี่เมิงไม่โกรธเลยเหรอ ไม่หึงเหรอไงวะ
ความคิดประหลาดโลกของคนที่อยากจะสอบเข้ามหาลัยให้ได้ เพื่อไปไล่จีบบรรดาสาวๆ ในชุดนักศึกษารัดติ้วก็ตามเหอะ
นี่มีคนกำลังจะจีบ แฟนเมิง เลยนะเว้ย!
เฮ้ย ไม่ใช่แล้วเมิง ...
เชี่ยเอ๊ย ของขึ้นเลยสาด แมร่งหน้ายังกะปลากะโห้ ยังริอาจจะมาจีบแฟนเพื่อนกู แมร่งกล้ามากๆ
คือ กูกับแตมไม่ได้ ...
เรื่องนั้น กูรู้แล้ว ... รู้ว่าเมิงไม่ค่อยมีเวลาแต่มันก็ต้องใส่ใจกันบ้างนะ อย่างน้อยๆ เมิงก็ควรจะขยันโทรหาเค้าบ่อยๆ เข้าใจมั้ยวะ เมิงเป็นนักกีฬาทีมชาตินะเว้ย ไม่ใช่พระ แค่โทรหาแฟนน่ะ เค้าไม่มาไล่สึกเมิงหรอก
เออๆ
ก็แค่นี้แหละ (แกร่กส์)
เอ่อ ... ผมว่านับวัน ผมก็ยิ่งจะคุยกับมันไม่รู้เรื่องนะเนี่ย แต่ก็ช่างมันเหอะ เพราะผมกับมันก็เป็นอย่างนี้กันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่
ก็คงจะมีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละ ที่จะคบคนบ้าดัวยกันได้ และกว่าไอ้บ้านั่นมันจะยอมวางสายก็ปาไปเกือบ 5 ทุ่ม มีหวังพรุ่งนี้เช้า ป๊าคงได้ขุดวิญญาณผมขึ้นไปซ้อมอีกแน่ๆ
เฮ้อ ... ทั้งที่ในวันนั้นผมเองก็ไปแข่งโดยที่ไม่ได้หวังอะไรเลยแท้ๆ จริงๆ ได้เป็นแค่ตัวสำรอง ผมว่ามันก็โคตรจะฟลุ๊คแล้วนะ แต่สถิติในวันนั้นน่ะสิ ทำให้ผมติดทีมตัวจริงไปเลยซะงั้น
ก็อย่างที่สไปเดอร์แมนบอกไว้นั้นแหละครับ พลังอันยิ่งใหญ่ มักจะมาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง ประดุจบาปกรรมที่ไล่ตามกันเป็นเงาตามตัว ซึ่งมันทำให้ผม ต้องกลับมาก้มหน้าก้มตาซ้อม แถมยังหนักกว่าเมื่อก่อนอีกด้วย
ถึงอย่างนั้นแล้ว ผมก็ไม่คิดที่จะวิ่งหนีมันไปอีกหรอกนะครับ เพราะทั้งหมดนี้ มันคือความใฝ่ฝันที่ผมกับป๊าร่วมสร้างกันมา แม้จะต้องเสียสละความสุขสบาย และอิสระในชีวิตไปบ้าง ก็ต้องยอมล่ะครับ
แต่ ... ถ้าจะให้เข้านอนตอนนี้เลยเนี่ย ยังไงผมก็คงจะนอนไม่หลับ ถ้าไม่ได้ฟังเสียงหวานๆ ของใครบางคนก่อนนอน ก็ไม่รู้ว่ายัยเด็กบ้าเรียนคนนั้น จะยังนั่งท่องหนังสืออยู่ หรือว่าจะแอบงีบหลับไปแล้วเนี่ย
เอาเป็นว่าคืนนี้ ผมขอตัวไปโทรหาเธอก่อนแล้วกันนะครับ ส่วนเรื่องที่จะคุยอะไรกันบ้างนั้น คงต้องขออนุญาตไม่เปิดเผย เพราะของแบบนี้เนี่ย ...
มันต้องลับเฉพาะคนรู้ใจเท่านั้นแหละครับ
จากคุณ |
:
boyzuke
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ก.ย. 52 04:30:05
|
|
|
|