ความคิดเห็นที่ 1 งงไปกับคุณ torprc จริงๆ^ ^" คุณคงจะหมายถึง อะไรๆในชีวิตเรามันไม่ง่ายเหมือนกับที่หนังสือมันบอกไช้ไหมครับ สำหรับผมน่ะนะ การคิด พูด เขียน มันต่างกัน การเขียนหนังสือมันก็ยังอยู่ในขั้นตอนการคิดอยู่ มันคือการสร้างบ้านสร้างประเทศหรือสร้างจักรวาลด้วยมือเปล่า งงไปหรือเปล่าเนี๊ยะ  คือ ผมจะบอกว่า เราคิดยังไงก็เขียนไปอย่างนั่น การเขียนหนังสือคือการถ่ายทอดความคิดของเราออกสู่สาธาณชน ขอแค่เราได้เขียนออกไป มันไม่ใช้การสร้างบ้านสร้างอะไรที่มันเป็นรูปธรรมออกมาซะหน่อย อันนี่ผมจะไม่พูดเรื่องงานเขียนที่ดีหรือไม่ดีน่ะครับ เราขอแค่พื้นที่ส่วนหนึ่งในสังคมเสนอความ(อยาก)คิดของเราก็พอ ฮิๆ จากคุณ : doctorwar (doctorwar) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 07:20:43

ความคิดเห็นที่ 2 ขำๆ ดี มันมีเยอะจริงๆ ด้วย จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 08:26:20

ความคิดเห็นที่ 3 การเขียนหนังสือคือการถ่ายทอดความคิดของเราออกสู่สาธาณชน แต่ก่อนจะเขียน ต้องดูก่อนว่าสาธารณชนต้องการแบบไหน นักเขียนก็เหมือนนักปรุง ต้องดูด้วยว่า คนทานต้องการอะไร ตอนนี้ ธรรมะมาแรง ฮาว ทู ประเภทอัจฉริยะทั้งหลาย ตามมาติดๆ คนส่วนใหญ่ก็ดูเหมือนคิดว่า จะเก่งหรืออัจฉริยะได้จากการอ่านหนังสือฮาวทู ซึ่งกระแสนี้เกิดขึ้นก่อนในสหรัฐอเมริกาแล้ว ดังนั้น จึงไปต้านกระแสโลกไม่ได้ หนังสือติดอันดับเบสท์เซลเลอร์ของ นิวยอร์ก ไทม์ เป็นหนังสือฮาวทู และหนังสือจิตวิทยากับธรรมะแบบศาสนาเขา ส่วนนิยายอยู่ในอันดับสาม สรุปแล้วก็คือ หนังสือขายดีของทั่วโลก เรียงตามลำดับเหมือนของไทย จะต่างก็แต่ของไทยมีเรื่องการตัดกรรม เรื่องผีสาง ติดอันดับอยู่ตลอดเวลาระหว่างหนังสือ รวยง่ายๆ จีบหญิงง่ายๆ จับผู้ชายง่ายๆ เก่งง่ายๆ เทียบกับหนังสือ หมอผีคอนเฟิร์ม ฟันธง เอ๊กซเรย์ สแกน ทั้งหลาย ผมว่า ยังไงฮาวทู ก็มีประโยชน์มากกว่า แต่นักเขียนแนวฮาวทูในประเทศเรา น้อยไป สังเกตได้จากเรื่องที่ลงในห้องนักเขียนของพันธ์ทิพย์ ส่วนใหญ่จะเป็นนวนิยาย หรือเรื่องสั้น ทำให้เราต้องซื้อลิขสิทธิ์หนังสือฮาวทูทั้งหลายจากต่างประเทศ มาแปลเป็นภาษาไทย ลดอาการหมั่นไส้หนังสือแนวนี้ แล้วลองมาเขียนดูบ้าง จะช่วยชาติได้ จากคุณ : หนอนหนังสือ (ปัจจตัง) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 13:13:33

ความคิดเห็นที่ 4 หนังสือฮาวทูนี่ ผมเห็นมานานแล้วเหมือนกันนะครับ ซักยี่สิบกว่าปีก่อน ตอนผมเริ่ม เดินร้านหนังสือครั้งแรก ก็มีชั้นวางเฉพาะทีเดียว ครอบคลุมทั้งธุรกิจ สุขภาพ ไปจน ถึงจิตวิทยา และการพัฒนาบุคลิกภาพ  มันก็มีเยอะของมันอยู่อย่างนั้นแหละมั้ง เพียงแต่ เราจะสังเกตหรือเปล่า หนังสือบางเล่มก็ให้หลักคิดที่ดี จนไม่อยากเรียกเหมารวมไปว่า "ฮาวทู" เพราะมันมีสาระ กว่านั้นมาก แต่บางเล่มก็นะ นอกจากจะ "ฮาวทู" แล้ว ยัง "ฮาวทู" ได้... เรื่อยเปื่อยแท้ ผมว่าหนังสือที่นำเสนอเทคนิคต่างๆ ไม่ใช่ไม่ดีนะ ถ้าคนเขียนรู้จริง และปรารถนาดีจริง แต่หนังสือพวกเกาะกระแสตลาด ให้คำแนะนำที่ไม่มีหลักการหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้นรองรับเนี่ย นอกจากคุณค่าจะไม่มากไปกว่าหนังสือบันเทิงคดีแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อผู้ที่ เชื้อเชื่ออีกด้วยนะครับ จากคุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 52 19:46:19

ความคิดเห็นที่ 5 โอ้โห....ไม่คิดว่าจะมีคสามคิดเห็นหลากหลายขนาดนี้ ^^" ------- - ใช้แล้วครับ คุณ doctorwar ผมไม่ได้ตั้งแง่อะไรหรอกครับ ผมแค่รู้สึก   ว่ามันเยอะ เกินไปไหม  คนเรา 'อยาก'  เป็น นั่นๆนี่ๆ กันเยอะขนาดนั้น   เชียวหรือ ทำตามแล้วมันจะได้ จริงเหรอ ผมไม่คิดว่าจะมีอะไร สะดวก    สบาย เท่าการต้มบะหมี่ เทน้ำเดือด รอ 3 นาที เห็นผล แล้วครับ - ครับ คุณ scottie  มันเยอะ และผสมอยู่ในทุกหมวดๆ หนังสือ - หนอนหนังสือ (ปัจจตัง)  สำหนับหนังสือ สแกนกรรม หรืออะไรพวกนั้น  ผมว่ามันเป็นหนังสือเกี่ยวกับ ศาสนา ผมขอข้ามละกันนะครับ ^^"  ผมไม่รู้จะเขียว ฮาว ทู สู่อะไรนะสิครับ เพราะผมคงไม่มีความรู้อะไร  ขนาดนั้น และผมยังเชื่ออยู่ลึกๆ ว่า หนทางประสบความสำเร็จของแต่ละ  คนนั้น ไม่เหมือนกัน - คุณพีทคุง (พิธันดร) ผมก็คิดว่า บางเล่ม มีประโยชน์ครับ มีข้อคิดดีๆ ให้  เรานำมา 'ประยุกต์ใช้' ได้ กับตัวเอง -------   ผมเขียน เพราะผมรู้สึกว่ามันมีหนังสือพวกนี้อยู่เยอะ และมันออกมารองรับกระแสตลาด ตามที่ท่านๆ บอก แปลว่า คนประเทศเรากำลังต้องการทางลัดสู่ความสำเร็จ กันเยอะขึ้นหรือเปล่า 'เห้ย นายคิดไว้แล้วเหรอ' เอาเลยๆ ตามนี่แหละ รวยแน่ เก่งแน่ ซึ่งผมว่ามันไม่ใช่อ่ะครับ ^^" แต่ละคน น่าจะมีหนทางสู่ความสำเร็จเป็นของตัวเอง ผมคิดแบบนั้น จากคุณ : torprc เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 10:33:42