ความคิดเห็นที่ 1 |
- 13 - หลังจากเข้าร่วมการประชุมสรุปผลกำไรของรีสอร์ทและธุรกิจในเครือกับสาขาใหญ่แล้ว ปัถยาขี้เกียจอยู่ร่วมโต๊ะอาหารกับผู้ใหญ่ เธอเหนื่อยกับการต้องนั่งเอาใจวงศาคณาญาติ ยิ่งตอนนี้กำลังกลัดกลุ้มเรื่องพิษณุวัชร์ที่บอกให้เธอตัดใจเมื่อวันก่อน เธอยิ่งไม่มีอารมณ์มาปั้นหน้ายิ้มสวยให้ใครจึงหนีออกมาก่อนจะถูกรั้งตัวไว้ให้ร่วมรับประทานอาหาร
หญิงสาวตั้งใจจะไปเดินช็อปปิ้งคลายเครียดและหาของกินอร่อยๆ สำหรับมื้อเย็น เธอเดินเฉิดฉายทิ้งประกายวิบวับออกมาจากลิฟต์ของโรงแรมชื่อดังระดับท็อปไฟว์ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อตรงไปยังลานจอดรถ หนุ่มๆ ที่เดินผ่านเป็นต้องหันกลับมามองโดยอัตโนมัติ พี่ปัดคะ พี่ปัด เสียงร้องเรียกชื่อดังมาจากด้านหลัง ปัถยาเหลียวไปมอง อ้าว ! เก๋ เธอหยุดเดินแล้วหันมาส่งยิ้มให้เจ้าของชื่อ
ใช่พี่ปัดจริงๆ ด้วย เก๋คิดว่าตัวเองจำคนผิดซะอีก เป็นยังไงบ้างคะสบายดีหรือเปล่า เจ้าของชื่อ เก๋ จีบปากจีบคอถาม เธอรูปร่างเล็ก ตาเรียว ติดขนตาปลอมเป็นแผงเวลากระพริบตาทีนึกว่ามีนางรำมายืนกวักมืออยู่ตรงหน้า ปากได้รูป จมูกไม่โด่งมากนัก แต่ก็ดูเข้ากับอวัยวะส่วนอื่นบนใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางโทนชมพู
ก็โอเคจ๊ะ ว่าแต่เก๋เถอะมาคุยงานเหรอ ปัถยาเดาว่าหญิงสาวตรงหน้าคงมาพบลูกค้าเรื่องงาน เพราะเธอเป็นประชาสัมพันธ์รวมทั้งควบตำแหน่งเลขานุการของเป้ ประธานกรรมการบริษัท I-BA STUDIO
ค่ะ แล้วพี่ปัดล่ะคะ มาทำอะไรที่นี่
พี่มาประชุมจ้ะ เก๋เสร็จงานหรือยังไปหาอะไรทานกันมั้ย จะได้นั่งคุยกันด้วยไง ได้เลยค่ะพี่ปัด คุยกับลูกค้าเจ้านี้ปวดหัวจะแย่ รู้มากขนาดนั้นน่าจะทำซะเองจะมาจ้างทำไมให้เสียเงิน เก๋บ่นก่อนจะนัดแนะสถานที่และแยกไปยังรถของตัวเอง ปัถยารู้จักกับเก๋เนื่องจากเป้มักจะพาไปในงานเลี้ยงต่างๆ อยู่เสมอ และเวลาที่กลุ่มของเธอกับเป้ไปเที่ยวกลางคืนด้วยกัน เป้ก็จะเหน็บเก๋ติดสร้อยห้อยตามไปด้วยจนถูกเพื่อนในกลุ่มแซวว่าเป็นแฟนกันตั้งหลายครั้ง แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าไม่ใช่ เพราะเป้คบกับก้อยซึ่งเป็นพี่รหัสของเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม นั่นทำให้ปัถยาอดเปรียบเทียบกับคู่ของเธอและพิษณุวัชร์ไม่ได้ เก๋เป็นคนช่างพูดช่างคุยทุกครั้งที่พบกัน จะมีเรื่องใหม่ๆ มาเม้าท์ให้ฟังเสมอ ทำให้สนิทและกลมกลืนกับทุกคนในกลุ่มทั้งที่ไม่ได้เรียนมาด้วยกัน รวมถึงปัถยาด้วย อันนานั่งหน้าตูมปากขมุบขมิบเหมือนสวดอะไรอยู่ตลอดเวลา เธออยากรู้ว่าของที่พิษณุวัชร์กำลังหามันคืออะไร ตั้งใจจะถามระรินเสียหน่อยตอนเขาเข้าประชุม แต่ลืมไปว่าเจ้านายอยู่ที่ไหนเลขาฯ ก็ต้องอยู่ที่นั่นด้วยเธอจึงได้แต่รอเวลา และทุกๆ ครึ่งชั่วโมงก็จะโผล่หน้าออกไปดูสักครั้ง
ขณะที่เธอกำลังนั่งจดๆ จ้องๆ ที่ลูกบิดของเจ้าไม้สี่เหลี่ยมเหมือนกลัวว่ามันจะหายไปไหนอยู่นั้นมันก็ดังคลิก คนที่ผลักพรวดเข้ามาคือระรินซึ่งถือแฟ้มเอกสารอยู่ในมือเดินไปที่โต๊ะทำงานของพิษณุวัชร์ อันนาฉวยเสี้ยววินาทีนี้รีบปรี่เข้าไปหาทันที คุณรินคะ อันนาทำท่าลับๆ ล่อๆ เหมือนเป็นนักสืบที่กำลังจะล้วงความลับระดับชาติจากคนตรงหน้านั่นทำให้อีกฝ่ายตื่นเต้นเหลียวซ้ายแลขวาตามไปด้วย คะ มีอะไรคะคุณข้าว เอ่อคือ...เมื่อเช้านี้น่ะเห็นหาอะไรกันอยู่เหรอคะ หาอะไร ระรินทำท่าคิด ก็ที่คุณพิงเขาโวยวายเมื่อเช้านี้ไงคะ อันนากระแซะเข้าไปใกล้ทำท่ากระมิดกระเมี้ยนเหมือนสิ่งที่ถามนั้นเป็นความลับสุดยอด อ๋อ...หา... ยังไม่ทันที่ระรินจะไขข้อข้องใจของคนถามให้กระจ่างพิษณุวัชร์ก็เดินเข้ามาเสียก่อน ชายหนุ่มมองสองสาวสลับกันเหมือนอยากรู้ว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน อันนาหันไปมองหน้าทำท่าเข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่เขาก่อนจะทำปากขมุบขมิบเดินกลับไปที่โต๊ะ โธ่เอ้ย ! อีตาบ้าเข้ามาช้ากว่านี้อีกหน่อยไม่ได้รึไง เธอเดาะลิ้นเสียงดังเหมือนโดนขัดใจ
คุณพิงคะรินเช็คไปทางไอยสวรรค์แล้วเขาบอกว่าคุณปัดไปประชุมที่กรุงเทพฯ ค่ะ ตอนนี้เธอยังไม่เปิดเครื่องคงยังประชุมอยู่มั้งคะ ระรินรีบรายงานความคืบหน้าสิ่งที่เจ้านายสั่งให้ทำก่อนเข้าประชุม อืม งั้นบอกผมทันทีที่ติดต่อได้แล้วกัน... เขาลูบคางคิดอะไรบางอย่าง เอ่อ แล้วช่วยบ่ายมีงานอะไรที่สำคัญอีกมั้ย วันนี้ไม่มีค่ะ นอกจากมีเอกสารที่ฝ่ายต่างๆ สรุปงานมาให้อ่านค่ะ งั้นเหรอ เขาหันมองอันนาก่อนหันกลับมาถามระรินว่า ไว้พรุ่งนี้ได้มั้ย ได้ค่ะ ระรินรับคำแล้วทำท่าเหมือนกำลังจะเดินออกจากห้อง แต่เจ้านายของเธอเดินลิ่วๆ แซงหน้าไปเสียก่อนโดยมีอันนาติดมือไปด้วย ปัถยาเดินวนบริเวณแผนกเครื่องแต่งกายชายอยู่ร่วมชั่วโมง เธอตัดสินใจไม่ถูกระหว่างเสื้อเชิ้ต เสื้อโปโล เนคไท หรือว่าเข็มกลัดติดเนคไทดี หญิงสาวซื้อทุกอย่างที่ว่าให้พิษณุวัชร์ไปจนหมดแล้วในทุกๆ วันเกิดของเขา
แม้เธอจะเสียใจมากกับการที่ชายหนุ่มเอ่ยปากตัดสัมพันธ์แบบคนรัก แต่หญิงสาวยังปลอบใจตัวเองว่า เขาอาจจะยังโกรธอยู่ที่เธอหายหน้าไปเมื่อสองปีก่อน ที่สำคัญเธอเป็นคนบอกให้เขายอมรับความจริงว่ายังคิดถึงยัยผีเสื้อสมุทรนั่น เมื่อได้ยินจากปากของเขาแล้วเธอควรจะรับมันให้ได้
สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกแย่และขัดใจมากที่สุดกลับไม่ใช่เรื่องนั้น แต่เป็นเพราะสายตาที่เขามองอันนามาก กว่า หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงที่พบกันไม่นานแถมดูด้อยกว่าเธอจะเข้ามาลบภาพยัยผีเสื้อออกจากใจพิษณุวัชร์ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นมันยุติธรรมแล้วเหรอสำหรับผู้หญิงที่มองแต่เขาคนเดียวมาตลอดยี่สิบกว่าปี ซื้อให้แฟนเหรอคะ เก๋ทักขึ้นเมื่อเห็นว่าปัถยายืนจับเนคไทสีเขียวอ่อนนิ่งเป็นหุ่นจนพนักงานขายพากันจับตามอง คนถูกทักสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ายิ้มอายๆ พอดีเขาชอบสีเขียวน่ะจ้ะ แต่ก็ซื้อไปจนครบทุกอย่างแล้วเลยเลือกลำบากหน่อย นั่นสิคะซื้อของให้ผู้ชายน่ะยากจะตาย...อืม แฟนพี่ปัดนี่ใช่คนที่เป็นเจ้าของโรงแรมหรือรีสอร์ทที่พี่ข้าวไปทำงานด้วยใช่มั้ยคะ ปัถยาอมยิ้มพยักหน้า แม้จะขุ่นเคืองที่ได้ยินชื่ออันนา แต่เธอก็ถูกใจกับฐานะคนรักของพิษณุวัชร์ที่อีกฝ่ายยกให้ จนตาเป็นประกายระยับราวกับมีดาวนับล้านดวงอยู่ในลูกตา ในที่สุดหญิงสาวก็บอกให้พนักงานนำเนคไทเส้นนั้นไปห่อให้ก่อนจะหันมาถามเออีสาวช่างพูด เห็นเก๋บอกว่าช่วงนี้งานน้อยทำไมถึงต้องส่งช่างภาพไปทำพีอาร์ให้วนาลัยปุระแทนล่ะ ก็พี่เป้บอกว่าลูกค้ารีเควสท์มาค่ะ ว่าต้องพี่ข้าวเท่านั้น เก๋ก็แปลกใจอยู่เหมือนกันถ้าพี่ข้าวเป็นพีอาร์มือโปรอย่างเก๋ก็ว่าไปอย่าง คำกล่าวประโยคสุดท้ายของเก๋ทำให้ปัถยาเบือนหน้าไปหัวเราะกับตัวเอง ก่อนจะหันมาเสริม นั่นสิจะทำพีอาร์แต่กลับให้ช่างภาพไป แล้วมันได้เรื่องเหรอ ปัถยาทำท่าเหมือนไม่ใส่ใจกับเรื่องที่สนทนาเท่าไหร่ ทั้งที่ใจรอรอฟังคำตอบจากอีกฝ่ายทุกวินาที อันนั้นเก๋ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ รู้แต่ว่าลูกค้าเสนอจะจ่ายเงินให้พิเศษด้วย พี่เป้งี้รีบรับข้อเสนอแทบไม่ทันเชียว คนพูดป้องปากบอกอีกฝ่ายอย่างกับกลัวใครจะได้ยินทั้งที่ยืนกันอยู่แค่สองคน
ข้อมูลใหม่นี้ทำให้คนฟังตาวาวราวกับตาแมวในตอนกลางคืน เธอคิดไว้แต่แรกแล้วเชียวว่ามันแปลกที่อยู่ดีๆ ท่านประธานใหญ่แห่งวนาลัยปุระคิดจะประชาสัมพันธ์รีสอร์ทที่มียอดจองเต็มตลอดช่วงไฮซีซั่น หรือแม้แต่ช่วงโลว์ซีซั่นแขกก็ยังหนาตากว่าโรงแรมหรือรีสอร์ทใดๆ บนเกาะ ยิ่งพออีกฝ่ายบอกตัวเลขค่าตัวอันนาเธอยิ่งรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของเรื่องนี้เข้าไปใหญ่ หญิงสาวคิดอะไรอยู่อึดใจก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย พิษณุวัชร์ปล่อยมืออันนาแทบไม่ทันเมื่อลิฟต์เปิดออกและเห็นปุณกรณ์กำลังยืนรออยู่ ชายหนุ่มทั้งสองประสานสายตากันแวบหนึ่งก่อนที่พิษณุวัชร์จะเดินนำออกมา อันนารู้สึกตัวลีบบี้แบนเหมือนปลาหมึกบด นึกอยากจะเป็นลมหนีไปให้รู้แล้วรู้รอดแต่ลมไม่เป็นใจดันทะลึ่งพรวดออกมาทางปากแทน นั่นทำให้คนที่เดินนำหน้าเธอหันมาเขม้นมองพลางหัวเราะ หึ เหมือนจะเยาะตัวเอง ส่วนชายหนุ่มอีกคนที่เหลือยกมือขึ้นจับหัวเธอโยกไปมา เครียดจนลมออกปากเลยเหรอเรา คำพูดกึ่งเย้าปนสายตาหยอกล้อทำให้หญิงสาวผ่อนคลายขึ้น เธอหัวเราะแหะๆ แทนคำตอบ เธอมองตามหลังผู้ชายอีกคนก่อนจะกลับมาจ้องคนตรงหน้า วันนี้ข้าวต้องไปกับเขานะคะ เธอบุ้ยปากไปทางพิษณุวัชร์ที่เดินห่างออกไป ปุณกรณ์เลิกคิ้วขึ้นก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ อืม...ไปเถอะ ขอบคุณมากนะคะพี่กรณ์แล้วข้าวจะโทรหาค่ะ เธอบอกยังไม่ทันจบก็รีบจ้ำอ้าวก้าวตามคนที่เดินนำหน้าไป ปล่อยให้ชายหนุ่มอีกคนยืนมองหลังที่เคลื่อนห่างไปอย่างหวั่นใจ นี่นายทำบ้าอะไรของนายจะเล่นบทพระเอกหรือไงปุณกรณ์ ชายหนุ่มพึมพำพลางโบกมือน้อยๆ ตามหญิงสาวไป เธอไม่เหลียวมามองด้วยซ้ำเพราะมัวสนใจคนข้างหน้า รอด้วยสิ ลากฉันมาแล้วจะชิ่งหนีเหรอ อุตส่าห์ปล่อยให้สั่งเสียกันไม่ดีหรือไง เขาพูดลอยๆ โดยไม่เหลียวมามองคนที่เดินตาม ความจริงคือเขากลัวที่จะเห็นสายตาของเพื่อนมากกว่า พูดอย่างกับจะพาไปตาย ปากเสียชะมัด เธอทำปากขมุบขมิบแยกเขี้ยวย่นจมูกปาใส่หลังคนข้างหน้า แต่ถึงปากจะต่อว่าแต่ขากลับก้าวตามด้วยหัวใจที่อมยิ้ม
| จากคุณ |
:
gagayear
|
| เขียนเมื่อ |
:
29 ก.ย. 52 04:11:43
|
|
|
|