Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ร่ายสิเน่หา ตอนที่ 2  

ตอนแรก http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8362467/W8362467.html

*************

2

พีรดาถึงออฟฟิศเก้าโมงตรงไม่มีเวลาแม้แต่จะนำรถคันโปรดเข้าไปจอด จึงไหว้วานยามหน้าออฟฟิศ จากนั้นวิ่งด้วยความเร็วเท่าที่จะทำได้ขึ้นมายังชั้นสาม ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของนิตยสารผู้หญิงชื่อดัง Modern women พนักงานหลายคนชินตากับผู้หญิงท่าทางห้าวดั่งผู้ชายหอบหิ้วข้าวของ โดยที่เธอไม่ถอดหมวกกันน็อค แล้วผู้ร่วมงานคนหนึ่งปรี่เข้าหา ปลดหมวกที่หัวแล้วรับกระเป๋าเอกสาร

“ขอบใจจ้ะสบู่หอมของพี่” พีรดาโปรยเสน่ห์ด้วยการยิ้มหวาน

หญิงสาวเอียงอายก่อนเอ่ย “พี่พีรีบเข้าห้องประชุมเถอะค่ะ พี่เบียร์ให้เวลาพี่อีกแค่นาทีเดียว”

“ขอบใจอีกครั้งนะคนสวย เดี๋ยวกลางวันพี่จะเลี้ยงข้าว...” เธอพูดไม่จบประโยคเสียงเอือมระอาของใครคนหนึ่งดังจากประตูห้องบรรณาธิการ

“พี...” ชายสูงโปร่งหน้าตาคมสันยืนกอดจ้องลูกน้องคนเก่ง ตุลย์บรรณาธิการบริหารหรืออีกนัยเขาคือเจ้าของนิตยสารผู้หญิงฉบับนี้

พีรดายักไหล่ก่อนก้าวตรงยังห้องประชุมโดยมีบรรณาธิการหนุ่มตามหลัง ภายในห้องดังกล่าวมีผู้ร่วมประชุมนั่งพร้อมหน้า ชายที่ท่าทางคล้ายหญิงนามวิศรุตดา ผู้ช่วยบรรณาธิการส่งค้อนให้ผู้มาสาย พีรดาไม่ถือสายิ้มให้และเลือกนั่งเคียงข้างบุคคลนั้น

“ว่าไงยะ พ่อคนเก่ง ไหนงานล่ะเปิดให้ดูเลย ฉันเสียเวลารอหล่อนมามากแล้ว”

“งานไม่เสร็จ” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยราวกับไม่รู้สึกผิด แต่ทำคนฟังอย่างวิศรุตดาชักสีหน้าเตรียมต่อว่าต่อขาน ทว่าตุลย์เอ่ยขึ้นก่อน

“ได้มากี่ภาพ”

ช่างภาพคนเก่งชูนิ้วเป็นคำตอบ เพราะขี้เกียจพูด ขืนพูดมากไม่พ้นถูกคนข้างเคียงว่าใส่อย่างไม่เกรงใจ จากนั้นเปิดโน๊ตบุ๊คนำงานสู่สายตาผู้ร่วมงาน ภาพนางงามแต่ละภาพที่คัดสรรออกมาสวยกว่าภาพอื่น และไม่จำเป็นต้องตกแต่งมากนัก เพราะภาพนั้นสวยอย่างเป็นธรรมชาติ

ตุลย์มองเพียงชั่วครู่แล้วยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ ผลงานของลูกน้องคนเก่ง ถึงได้ไม่ครบตามสั่งขาดเพียงหนึ่งภาพเท่านั้น แต่งานออกมาสมบูรณ์แบบจึงให้อภัยได้

“พี่รุตดาช่วยเอาภาพพวกนี้ลงนิตยสารให้ทันปักษ์นี้ด้วยนะครับ ส่วนจิ๊กบทสัมภาษณ์ของดร.กุลธิดาทำให้เสร็จวันนี้เลย แล้วอย่าลืมไปตามบทสัมภาษณ์ของคนอื่นมาด้วย สำหรับม่านเรื่องสั้นที่จะลงยังมีคำผิดบางส่วน ตรวจดูให้ดีก่อนลง แต่นิยายกับกลอนไม่ต้องแก้อะไรเลย ทุกคนไปทำงานได้ ส่วนพีอยู่ก่อน พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”

พีรดาจำต้องนั่งที่เดิม ใจจริงนั้นอยากตามเพื่อนร่วมงานออกไปมากกว่า เพราะเวลานี้ท้องร้องเตือนว่าเช้านี้ยังไม่ได้ทานอะไรแม้แต่น้ำสักหยด

“น่าเกลียดจริงๆ ไม่อายบ้างหรือ” ตุลย์รับรู้ถึงเสียงร้อง

ลูกน้องคนเก่งส่ายหน้า “อายก็อดสิฮะพี่เบียร์ก็ พี่มีธุระอะไรก็รีบพูดมาเร็วๆ พีจะได้ไปหาอะไรกิน ตอนบ่ายมีงานด้วย”

“เรื่องงานตอนบ่ายต้องเลื่อนออกไป เพราะคุณมนต์ชิตามีงานด่วนเข้ามาจึงขอเปลี่ยนเป็นอาทิตย์หน้า แล้วสถานที่ก็เปลี่ยนด้วย จากที่ทำงานเป็นที่บ้านของเธอแทน”

“งั้นบ่ายนี้พีก็ไม่มีงานแล้วสิฮะ” พีรดาแสดงอาการดีใจออกนอกหน้า

“มี...ทำแทนเจ้าดนัยรายนั้นเกิดป่วยกะทันหัน”

หญิงสาวถอนหายใจเอือมระอาเพื่อนร่วมงานคนนี้นักหนา ส่วนที่บอกว่าป่วยน่าจะเป็นป่วยการเมืองล่ะไม่ว่า เพราะครั้งใดที่ต้องทำงานนอกสถานที่ เพื่อนมักหาเรื่องลางานอยู่เสมอ และหลายครั้งที่ลาเธอต้องทำงานแทนรวมทั้งครั้งนี้ด้วย

“ไม่ต้องห่วงพี่จะให้เจ้าดนัยลาเป็นครั้งสุดท้าย เพราะสิ้นเดือนเจ้านั่นก็ลาออกแล้ว”

“งั้นแสดงว่าที่เขาลือกันว่า เจ้านั่นได้งานใหม่ก็จริงสิฮะ” พีรดาเลิ่กคิ้ว

บรรณาธิการหนุ่มพยักหน้า “อืม...ธุระของพี่มีแค่นี้ พีไปได้ ส่วนงานตอนบ่ายก็ถามจากปิ่นก็แล้วกัน” เธอรับคำก่อนออกจากห้อง

ตุลย์มองร่างเล็กที่อยู่ในชุดทะมัดทะแมงไม่เหมือนผู้หญิงสักเท่าไร หากไม่มองหน้าตาคงคิดว่าเพศเดียวกับเขา วันแรกที่หล่อนมาสมัครงานสร้างความประหลาดใจให้พอสมควร หญิงสาวสวมเสื้อผ้าผู้ชายท่าทางมั่นใจเต็มเปี่ยม มาพร้อมกล้องประสิทธิภาพสูงตัวหนึ่ง และผลงานต่างๆ ที่นำมาประกอบการสมัครงาน

‘ฉันมาสมัครงานในตำแหน่งช่างภาพ นี่คือใบสมัครพร้อมประวัติที่ทำงาน ส่วนนี่เป็นงานที่ผ่านมาของฉัน’

เขาใช้เวลาดูเพียงไม่กี่นาที ก็รู้ได้ว่าฝีมือของเธอดีมาก

‘ดูแล้วฝีมือของคุณใช้ได้ทีเดียว แม้ยังไม่ทำงานเต็มตัว แต่งานพาร์ททามยังทำได้ขนาดนี้ ยังไงลองถ่ายภาพให้ผมดูหน่อย เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจ’

‘ได้...แต่บอกไว้ก่อนมีหลายที่ที่ฉันสมัครงานไว้ รับฉันเข้าทำงานทุกแห่ง เพียงแต่ฉันยังไม่ตกลงใจเท่านั้น’

ประโยคนี้ของเธอทำให้เขาหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เพราะคำพูดนี้เขาจึงต้องรับเธอเข้าทำงานอีกแห่ง และน่ายินดีที่เธอเลือกทำงานกับเขา ซึ่งเคยถามเหตุผลแล้วคำตอบทำเขาอึ้ง

‘ฉันจะทำให้คนที่หัวเราะเยาะรู้ว่าคิดถูกแล้วที่รับฉัน’ ซึ่งเขาก็คิดเช่นกัน

แต่มีบางอย่างบอกว่าเขาคิดผิด ที่ให้ผู้หญิงคนนี้มาวนเวียนรอบตัว หัวใจที่แกร่งไขว้เขวอย่างไม่น่าเชื่อ ใจที่มีสี่ห้องเคยมีคนเพียงคนเดียว บัดนี้มีใครอีกคนเข้ามาก่อให้เกิดความคิดถึง ห่วงหาและอาทรทุกเช้าค่ำ

ทว่าความรู้สึกนี้มิอาจบอกใครได้ โดยเฉพาะหล่อนที่ไม่รับไมตรีจากเขา เพียงเพราะหล่อนไม่ชอบผู้ชาย กี่คนแล้วที่เพียรตามหล่อนแค่วันเดียวหายหน้า ด้วยทนพฤติกรรมหามๆ ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ทุกคนเข้าใจว่าหล่อนชมชอบเพศเดียวกัน แต่เขาคิดแตกต่าง การแสดงออกทั้งมวลเพื่อให้บุคคลภายนอกคิดเช่นนั้น หล่อนปิดตัวเองสาเหตุนั้นเดาได้ยากนัก ทว่าสักวันคงรู้





พ้นจากห้องประชุมพีรดาตรงหาหญิงสาวเมื่อครู่ เพื่อขอบคุณสำหรับความช่วยเหลืออีกครั้ง จากนั้นแวะทักทายเพื่อนร่วมงานโดยเฉพาะสาวๆ ครั้นถึงโต๊ะทำงานสองมือเต็มด้วยขนมนมเนย เช้านี้ท้องอิ่มโดยไม่เสียเงินสักบาท ความจริงเป็นเช่นนี้ตั้งแต่เข้าทำงานสองปีทุกอย่างยังเหมือนเดิม แล้วพอลงนั่ง กาแฟหอมกรุ่นก็ถูกนำมาวางตรงหน้า แล้วนี่เป็นอีกอย่างที่ไม่ต้องลงมือทำ ก็มีเครื่องดื่มหอมๆ แก้ง่วงให้ดื่ม

“วันนี้ขอสองแก้วได้ไหม แม่ปิ่นทองของพี่”

“ได้ค่ะ...คุณพี่พี” คำล้อเลียนสวนกลับ แต่น้ำเสียงรวมทั้งสีหน้าของคนพูด ไม่อยู่ในอารมณ์ล้อเล่นกับใคร

พีรดารับรู้ถึงความผิดปกติของเพื่อนสนิท ความสุขเมื่อครู่จางหาย ความฉงนสนเท่ห์เข้ามาแทน มือเล็กเอื้อมบีบมือบางที่วางบนโต๊ะถ่ายทอดความอบอุ่นสู่เพื่อน ซึ่งทำให้ปิ่นนารีตื้นตันจนหยาดน้ำใสเอ่อท้นขอบตา และไม่อาจเอื้อนเอ่ยคำใดได้ เกรงว่าพูดออกไปจะคุมสติไม่อยู่

“มีอะไรเล่าให้เราฟังได้ไหมปิ่น”

ดวงตารื้นคู่สวยช้อนมอง “พ่อ...พี...พ่อของเรา...”

ปิ่นนารีพูดได้เพียงเท่านี้ คลื่นเห็นความเสียใจถาโถมใส่ หยาดน้ำใสร่วงหล่นดั่งสายธาร เสียงสะอื้นไห้ฟังดูปวดร้าวนักหนา พีรดาใจหายลุกเข้ามากอดเพื่อนรัก เกิดอะไรขึ้นกับบิดาของเพื่อนงั้นหรือ แล้วร้ายแรงแค่ไหนถึงทำให้เพื่อนเสียใจมากเช่นนี้ เมื่อสองสามวันก่อนยังไปบ้านเยี่ยมเยียนท่าน เท่าที่เห็นท่านดูมีความสุขกินอิ่มนอนหลับ ไม่มีสิ่งใดบอกว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับท่าน

เสียงร้องของปิ่นนารีดึงความสนใจของเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งตุลย์ออกจากห้องมาถามไถ่ด้วยความห่วงใย

“เกิดอะไรขึ้นกับปิ่น เอหรือว่าพีไล่ปล้ำเพื่อน”

“นี่ไม่ใช่เวลาเล่นนะฮะบก. ประเดี๋ยวก็เหนี่ยวซะเลย” พีรดาทำเสียงขลุกขลักในลำคอมองหัวหน้าตาขวาง

ตุลย์หัวเราะแหะๆ ก่อนหันสนใจคนเดิม

“ปิ่นร้องไห้ทำไม บอกพี่สิ เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยกันไง”

ปิ่นนารีพยายามกลั้นสะอื้น แล้วเช็ดน้ำตา “พ่อคะ...เมื่อสามวันก่อนพ่อปวดหัวแม่จึงพาไปหาหมอ ผลออกมาว่าพ่อมีเนื้องอกที่สมองและอาจเป็นเนื้อร้าย...” ทุกคนที่ได้ยินถึงกับอึ้ง สงสารและเห็นใจทั้งนั้น โดยเฉพาะพีรดาที่ตกใจมากกว่าผู้ใด เป็นเรื่องร้ายอย่างว่า และเรื่องนี้ก็แก้ไขได้ยากยิ่งนัก แล้วเธอเองก็เสียใจไม่แพ้เพื่อน แต่เธอต้องเข้มแข็ง

“มันอาจไม่ใช่เนื้อร้ายก็ได้นะปิ่น” พีรดากุมมือเพื่อนพลางปลอบ

“แต่หมอบอกว่า 80 เปอร์เซ็นต์คือใช่ แล้วมีวิธีเดียวที่รักษาได้คือตัดเนื้องอกทิ้ง ซึ่งค่าใช้จ่ายสูงเรามีไม่พอ อีกอย่างเรากลัวว่าผ่าตัดแล้วยังไม่หาย เพราะมันอาจลุกลามเกินจะรักษาได้ เราจะทำยังไงดี...พีบอกเราหน่อย เราไม่อยากเสียท่านไป” คลื่นแห่งความเสียใจก่อตัวรุนแรงอีกหน ไหล่บางสั่นไหวตามแรงสะอื้น

ปิ่นนารีทำใจยอมรับไม่ได้ นับตั้งแต่ทราบข่าวหลับตาไม่ลง ร้องไห้เพราะสงสารบิดาเหลือเกิน ผิดกับท่านที่ทำตัวเหมือนเดิมไม่กังวลกับโรคร้ายที่เกิดกับตนเอง

“ค่าใช้จ่ายปิ่นไม่ต้องห่วง พี่ช่วยได้” ตุลย์รับฟังปัญหานึกเห็นใจ “ส่วนเรื่องที่กลัว พี่ว่าอย่าเพิ่งคิดมากเลย อาจเป็นหรือไม่เป็นอย่างที่ปิ่นคิดก็ได้ เอาอย่างนี้ดีกว่า พี่รู้จักหมอคนหนึ่งจะลองถามดูว่า รู้จักหมอที่เก่งเรื่องมะเร็งไหม ได้ข่าวยังไงแล้วพี่จะบอกนะ ตอนนี้ทำใจให้สบายแล้วอย่าร้องไห้ให้พ่อเห็นล่ะ เดี๋ยวท่านไม่สบายใจ พลอยทำให้ร่างกายท่านทรุดลง”

“ใช่...เราเห็นด้วยกับพี่เบียร์” พีรดาพยักหน้า “แล้วเราก็ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายด้วย พ่อเนกก็เป็นพ่อของเราเหมือนกัน”

เมื่อเห็นบุคคลทั้งสองเสนอตัว เพื่อนร่วมงานคนอื่นจึงอยากที่จะช่วยเช่นกัน แม้บางคนไม่มีทรัพย์พอช่วยได้ แต่ก็ให้กำลังใจซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ยังความซาบซึ้งให้ปิ่นนารียิ่งนัก ความเสียใจทำให้เธอไม่มีจิตใจทำสิ่งใด ดังนั้นงานช่วยบ่ายตุลย์จึงหาคนทำงานแทน และอนุญาตให้หล่อนลางานได้

พีรดาลงมาส่งเพื่อนขึ้นรถแท็กซี่ ใจจริงอยากพาเพื่อนกลับบ้าน ด้วยอยากพบบิดาของเพื่อน ซึ่งท่านเผื่อแผ่ความรักให้เธอเช่นกัน เธอกับเพื่อนรู้จักกันตั้งแต่เข้าเรียนระดับอุดมศึกษาปีที่หนึ่ง เพื่อนเป็นคนสวยอ่อนโยนนิสัยดีชายหลายคนถูกใจ เพียรเฝ้าขายขนมจีบ แต่ไม่สำเร็จเพราะเธอขัดขวางถึงที่สุด จนใครๆ เข้าใจว่าเธอกับเพื่อนเป็นคู่เลสเบี้ยน ซึ่งเธอยากอยากให้ทุกคนคิดเช่นนั้น จะได้เลิกยุ่งเกี่ยวกับเพื่อนของเธอเสียที

เพื่อนเป็นคนดีสมควรพบคนดีๆ ดังเช่นพี่ชายของเธอ ใช่แล้ว ลืมพี่ชายได้อย่างไร เรื่องนี้พี่สมควรรู้อย่างยิ่ง และอาจเป็นบุคคลเดียว ที่สามารถช่วยให้เพื่อนพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง

จากคุณ : nitrawee
เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 18:34:54




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com