Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เด็กหญิงข้างบ้าน ตอนที่ 1 (อีกครั้ง)  

ในชีวิตของเรา

มีกี่สิบคนกี่ร้อยคน ที่เราหลงลืมไป    ทีละเล็กละน้อย   จนแทบไม่เหลือเลยบ้างรึเปล่า
จริงๆมนุษย์ทุกคน  มีความทรงจำที่เก็บไว้ลึกๆ   ลึกจนฝังในมองไม่เห็นมัน
จนคิดว่า มันไม่มีตัวตน
แต่จริงๆ มันอาศัยอยู่ภายในความทรงจำส่วนใดส่วนหนึ่งของเรานี่แหละ

อยู่ที่ว่า จะมีอะไรมาพุ่งชนความนึกคิดของเรา  ให้เราได้หวนคิดอีกครั้ง

ผมก็มี คุณก็มี

ตอนนี้ ณ ปัจจุบันนี้ ผมเป็นครูสอนศิลปะโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งแถบริมๆกรุงเทพ

ชีวิตครูของผม มันไม่ราบเรียบอย่างที่คิดหรอก
การที่จะเป็นครู  มันไม่ได้เป็นกันง่ายๆ  ต้องใช้ใจ ...เป็นอย่างมาก

แต่ผมก็พอที่จะผ่านมามันมาได้
ทำให้ชีวิตประจำวันของผม  วันๆหนึ่งหมดไปอย่างรวดเร็ว  จนผมหลงลืมอะไรไปหลายอย่าง

ลืมครอบครัว ลืมคนรัก ลืมเพื่อนๆไปบ้าง

ในวันหนึ่ง
หลังเลิกเรียนในวันอังคาร ตอนเย็นๆ

ผมยังคงอยู่ที่โรงเรียน  ทำงานเอกสารเล็กๆน้อยๆไป

เลยถือโอกาสเข้าเนท  เชกเมล  ดูเวบนั้นเวบนี่ไปเรื่อย

ผมเจอเมลฉบับหนึ่ง
ทั้งชื่ออีเมล ชื่อหัวข้อ

ชื่อที่คุ้นเคย
ผมยิ้มมุมปากนิดๆ  คลิกเปิดอ่าน

“เป็นยังไงบ้าง  สบายดีรึเปล่า  ไม่ได้เจอกันนาน  ทำอะไรอยู่  หวังว่าคงได้คุยกันบ้างนะ……….จาก  เตย”

น้องเตยนี่นา

แฟนสมัยเด็กของผมนี่
ผมไม่ได้เจอเธอมานาน ราวๆ 5-6 ปีได้  

นับตั้งแต่เธอไปเรียนต่อที่เชียงราย  ผมไม่ค่อยได้ข่าวเธอเท่าไร  เพราะเธอไม่ค่อยเป็นจุดสนใจของชาวบ้าน ค่ายตำรวจ

ใช่แล้ว  ผมอาศัยอยู่ในค่ายตำรวจ

บ้านผมและบ้านเธอ  เป็นห้องแถว  บ้านพักข้าราชการ  พ่อผมและพ่อเธอเป็นตำรวจทั้งคู่
เรารู้จักกันมาตั้งแต่อายุ 7-8 ปี
เตย

ผมรู้จักเธอบ้าง  เพราะเธอค่อนข้างซนพอควร  ชอบเล่นซนกับเพื่อนข้างบ้านที่ทโมนๆทั้งนั้น  

แต่จุดเด่นของเตยคือ  เธอผิวขาว  ร่าเริง  หัวเราะง่าย  ผู้ชายเล่นอะไรเธอเล่นหมด


ส่วนผม ตอนนั้นก็ถือว่าเป็นเด็กโตแล้ว จวนจะ 10 ปีอยู่แล้ว  ผมเลยไม่ค่อยไปสุงสิงกับกลุ่มของเธอนัก


มีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่ผมจำได้ดี


ช่วงบ่ายแก่ๆในวันหยุดปิดภาคเรียน


แถวแทงค์น้ำริมห้องแถวหลังตรงข้ามกับบ้านผม  เป็นบ้านของลุงตำรวจคนหนึ่ง  ซึ่งแกดุมาก  และเป็นที่เกรงกลัวของเด็กๆ  แถมแกก็ชอบที่จะขู่เด็กๆซะด้วย


กลุ่มของเธอไปเล่นพิเรนร์อะไรไม่รู้


ผมสังเกตตั้งแต่ตอนเห็นเธอเดินย่องๆแอบเข้าไปกับเพื่อนแล้ว

สักพักก็วิ่งแตกกระเจิงกันคนละทิศละทาง

สงสัยเจอลุงยักษ์ออกมาเอ็ดตะโรเช่นเคย

แต่ภาพเหตุการณ์ฉายซ้ำก็เกิดขึ้นได้แทบทุกวัน
เด็กอะไร......ไม่รู้จักเข็ด


ช่วงเย็นๆราวๆเกือบ 6 โมงเย็น
ผมขี่จักรยานผ่านสนามเด็กเล่นซึ่งไกลจากบ้านเหมือนกัน  ผิวปากอารมณ์ดี  สบายๆ


ก็เห็นน้องเตยแล้ว  เธอคงกำลังเดินกลับบ้าน  หลังจากเล่นสนามเด็กเล่นเสร็จละมั้ง

ผมมองเธอจากข้างหลัง
ลักษณะของเธอตลกดี  หัวฟูๆยุ่งๆ

กำลังคิดว่า  รับไปด้วยดีรึเปล่านา


.......................ขณะที่กำลังคิด

เธอหันหน้ามาเห็นผมพอดี
“ตั้มใหญ่..........ไปด้วย”


ผมหน้าเหวอ
เบรคแทบไม่ทัน

ผมจอดรับเธอ  ไม่รู้จะพูดอะไรดี  ซ้อนเธอมาซะแล้ว

เธอก็คงงงๆ ว่าทำไมเธอถึงกล้า

เพราะเด็กๆขนาดเรา  ถ้าใครเห็นลักษณะเช่นนี้  ไม่ว่าจะซ้อนจักรยาน  เดินคู่กัน 2 ต่อสอง  เป็นโดนล้อว่าเป็นแฟนกันแน่ๆ

เป็นอย่างที่คาดคิด
เสียงเด็กๆเพื่อนพ้อง  ทั้งรู้จัก  ไม่รู้จัก  ส่งเสียงแซว
“เป็นแฟนกันๆๆๆๆ  กิ๊วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”


เตยนั่งเงียบ  ผมก็เงียบ  เราอายกันทั้งคู่

พอถึงบ้าน  ส่งเธอลง  เธอรีบลงวิ่งหายไปในบ้าน  คงอาย


ผมยิ้มนิดๆ  ยังไงๆดื้อซนขนาดไหน  เธอก็เป็นเด็กผู้หญิง

ผมไม่เคยลืมเหตุการณ์วันนี้ได้จริงๆ จนจะอายุ  27-28 ปีแล้วก็ตาม


และก็ยังทึ่งในความกล้าบ้าบิ่นของเธอ  จะเรียกว่าติดใจก็ไม่เชิงหรอกนะ

เวลาเราเจอหน้ากันที  เธอจะมีปฏิกิริยาทันที  เธอจะหลบหน้าหลบตาผมเสมอ  คงจะอายผม

ทำให้พอผมขึ้น ม.1 ผมก็จีบเธอในวัย ป.4

อาจจะฟังดูแก่แดด  แต่เราทุกคนล้วนมีประสบการณ์รักครั้งแรกช่วงเวลานี้ไม่ใช่เหรอ


การที่เราอยู่บ้านใกล้กัน

มันทำให้ผมเหมือนตอกย้ำให้นึกถึงเด็กผู้หญิง ป.2 ที่ซ้อนจักรยานของผม

ผมเริ่มตัดสินใจ  จีบเธอ  เมื่อผมขึ้น ม.2

ช่วงวัยรุ่น  ที่ผมมั่นใจแล้วว่า  ผมโตแล้ว
ส่วนเตย เธอก็อยู่ ป.5

ในค่ายตำรวจ  จะมีรถบัสรับส่งลูกตำรวจ
เราขึ้นรถคันเดียวกันทุกเช้าและทุกเย็น


โรงเรียนที่ผมเรียนเป็นโรงเรียนชายล้วนประจำประจังหวัด  ห่างจากโรงเรียนเธอราวๆ 200 – 300 เมตร

ทุกเช้า  รถรับส่งจะส่งโรงเรียนเธอเป็นโรงเรียนแรก  และมารับเป็นโรงเรียนแรกเช่นกัน

โรงเรียนผมเลิก 15.30 ซึ่งจะเลิกเร็วกว่าโรงเรียนประถมอยู่แล้ว
โรงเรียนเตยเลิก 16.00

ผมลงทุน  จะว่าลงทุนก็ไม่เชิง  ยอมนั่งรถสองแถวย้อนกลับมาที่โรงเรียนประถมของเธอ  เพื่อมาดักรอเธอ

วันแรกที่มา  แน่นอนว่าผมตื่นเต้น

เธอเดินออกมาไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับเพื่อน  เดินหัวเราะเฮฮาออกมา  ดูจะดีใจที่เลิกเรียนสักที

แล้วเธอก็หยุดหัวเราะ  เมื่อเห็นผม

จากที่ดูกระโดกกระเดกซนๆ  เธอเปลี่ยนท่าทางทันที  เรียบร้อยผิดหูผิดตา

พอถึงจุดที่เด็กๆรอรถ  ก็ไปหยุดตรงที่เพื่อนกลุ่มเธอ  ทำเป็นคุยไม่สนใจผม  แต่ผมเห็นแหละ  ว่าเธอแอบชำเลืองมอง

ผมก็เนียนๆเข้าไปตีซี้  เข้าไปคุยจนได้แหละ

แต่คุยอะไรกันบ้าง  จำไม่ได้จริงๆ  มันนานมาแล้ว

ผมไปเฝ้าเตยทุกวัน  เข้าไปคุยทีละนิดๆ  

และด้วยความที่บ้านเราใกล้กัน  เราเลยมีเวลาเจอกันแทบทั้งวัน

เริ่มเกินเลยมีนัดไปดูหนังเที่ยวกันบ้างตอนเธอขึ้น ป.6

ไปเที่ยวงานประจำปี  ไปดูหนัง  ไปเที่ยวห้างตามประสาเด็ก  นัดเจอกันทุกเย็นที่ริมสนาม  ตามจุดนัดพบวัยรุ่นในค่ายตำรวจ


แต่สาบานว่าไม่เคยมีอะไรเกินเลย  เพราะเรายังเด็กทั้งคู่  และผมก็มีสามัญสำนึกพอ

เราชอบพอกันประสาเด็กๆอยู่เกือบๆ  3 ปี ถือว่านาน  เพราะว่ายังเด็ก

เตย  เป็นเด็กที่เป็นเด็กจริงๆ  ใสๆ  มองโลกแบบเด็กๆ  เวลาคุยกันมันทำให้ผมรู้สึกว่า  ตัวเองที่เป็นผู้ใหญ่  เป็นพี่ชายที่ชอบน้องสาวตัวเองยังไงยังงั้น


จนผมเริ่มโตเป็นหนุ่ม

ช่วงอายุ 16 ปี ผมไม่เรียนต่อ ม.4

เพราะผมเป็นเด็กที่ค่อนข้างเชื่อในตัวเอง  และเมื่อมีใครมาบังคับให้อยู่ในกรอบ  ผมจะเกลียดมาก  

และแสดงตัวตนชัดเจนว่า  ผมไม่ชอบให้ใครมาบังคับ  มันเป็นช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของวัยรุ่น


ผมออกจากโรงเรียน ขณะที่กำลังเรียน ม.4 กลางคัน

พ่อและแม่โกรธผมมาก  

อาจจะเป็นเพราะความเข้มงวดของพ่อ  ทำให้ผมต่อต้านโดยการแสดงออกเช่นนี้

ผมเริ่มออกหางานทำ  งานที่คิดว่าเท่  นั้นคืองานเก็บศพที่มูลนิธิเก็บศพชื่อดัง

เริ่มมีสังคม  มีเพื่อน  เริ่มกินเหล้า  แต่ไม่สูบบุหรี่  เที่ยวกลางคืน  ขับรถซิ่ง  ไม่กลับบ้าน

แน่นอน  เมื่อชีวิตผมเปลี่ยนไป

ความสัมพันธ์ระหว่างเตยและผมมันก็เปลี่ยนไปด้วย

ผมเจอผู้หญิงคนอื่นมากขึ้น  เริ่มจีบคนอื่น  เจ้าชู้  เห็นการจีบหญิงเป็นเรื่องท้าทาย  และเป็นเรื่องสนุก

ผมไม่ค่อยไปหาเตยอย่างที่เคยไป

คุยกันน้อยลง  เจอหน้ากันน้อยลง

เตยก็ ม.2 แล้ว ช่วงนั้น

ผมไม่อยากให้เตยเสียใจกับพฤติกรรมผม  กับความเปลี่ยนแปลงของผม  และของเรา

ถึงผมจะไม่ถึงขนาดรักเธอมาก

แต่ก็ไม่อยากให้เธอเสียใจ

ผมตัดสินใจค่อยห่างๆเธอออกมา

ผมเชื่อว่า  พอห่างๆไป  เดี๋ยวเราก็เลิกกันเอง  ลืมกันเอง  ชีวิตในวัยเรียนมีอะไรให้ทำมากมาย  วันหนึ่งเธอคงลืมผมเอง

แต่ความชั่วของผมก็เริ่มขึ้น  เมื่อไปจีบผู้หญิงโรงเรียนเดียวกับเธอ  เป็นรุ่นพี่เธอ 1 ปี

ข่าวเข้าหูเธอเร็วกว่าที่คิด
แต่............

จากคุณ : คุโระโกะ
เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 52 17:21:47




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com