Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ลูกแก้วแห่งสันติภาพ -- ตอนที่ ๖ : เทพธิดาในทะเลสาบ  

ลูกแก้วแห่งสันติภาพ(๖)
เทพธิดาในทะเลสาบ

กษัตริย์เพทรู รอซนอฟสกาแห่งเนเซฟประทับอยู่ในห้องทรงงานส่วนพระองค์  ภายในห้องนั้นประดับด้วยลวดลายอันวิจิตรและภาพเขียนงดงาม แต่พระองค์ก็หาได้ทรงมีเวลาสำหรับชื่นชมความงามของเครื่องประดับเหล่านั้นไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามสงครามเช่นนี้อย่าว่าแต่เวลาเช่นนั้นเลย แม้แต่เวลาพักผ่อนก็ทรงแทบไม่มี

กองทัพบีโอกราดยังไม่เข้าล้อมเมืองหลวงของเนเซฟในขณะนั้น แต่พระองค์ทรงมั่นพระทัยยิ่งนักว่าเวลานั้นคงจะมาถึงในไม่ช้าเพราะพระองค์ทรงไม่เห็นทางใดที่กองทัพของพระองค์จะต้านไว้ได้เลย  จนบางครั้งพระองค์ทรงคิดถึงการยอมแพ้

"แต่หลังจากนั้นเล่า" พระองค์ทรงคิด "กษัตริย์แห่งบีโอกราดจะเรียกร้องอะไรสักเท่าไหร่? คนเนเซฟมากเท่าไหร่ที่จะต้องถูกกวาดต้อนข้ามดินแดนไปเป็นทาสในแผ่นดินของมัน"

พระราชินีเพิ่งเสด็จมาห้องนี้ได้ไม่นานพร้อมพระกระยาหารที่ทรงปรุงเอง  อันที่จริงในยามนี้ แม้แต่นางสนองพระโอษฐ์ในพระราชินีก็เหลืออยู่ไม่มากนัก เพราะพระนางส่งไปปรุงอาหารพระราชทานแก่เหล่าทหารกล้าและช่วยงานพยาบาลคนเจ็บจนเกือบหมด  พระราชินีมิได้ประทับอยู่ในห้องนั้นนานนัก เพราะพระนางทรงเกรงว่าจะเป็นการรบกวนพระองค์เกินไป

มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น พระราชาจึงทรงจัดพระภูษา ชันพระจรกาตรง และตรัสด้วยพระสุรเสียงที่มั่นคง

"เข้ามาได้"

มหาดเล็กประจำพระองค์เดินเข้ามา เขาแสดงการเคารพแล้วเอ่ยขึ้น

"ขอเดชะฯ ขณะนี้ได้มีพระราชสาส์นจากกษัตริย์บีโอกราดมายังพระองค์พระเจ้าค่ะ"



"ที่นี่แหละ" ชาวลูนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

ทั้งมิคาอิล ไอรีน่า และเอชเวนกวาดสายตาไปรอบๆ  พวกเขายืนอยู่ในป่าโปร่งหลากสี และเบื้องหน้าก็เป็นปากถ้ำใหญ่แห่งหนึ่ง

"ที่นี่?" เอซเวนพูดด้วยความสงสัย "ตามตำนานลูกแก้วแห่งสันติภาพต้องอยู่ในทะเลสาบไมใช่หรือ"

"ใช่" ชาวลูนที่พาพวกเขามาพูด "เข้าไปในถ้ำนี้พวกเจ้าจะเจอกับทะเลสาบ"

"แล้วลูกแก้วล่ะ" มิคาอิลถาม "เราจะได้มันมาได้อย่างไร?"

"นั่นขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง" ชายชาวลูนพูดด้วยน้ำเสียงลึกลับ "ข้านำท่านมาได้เพียงเท่านี้  ข้าหวังว่าท่านคงจะจำหนทางกลับไปยังลูนได้ ส่วนตัวข้าเองขอลา"

ว่าแล้วเขาก็หันหลังกลับไปพร้อมกับชาวลูนคนอื่นๆ ทิ้งให้ทั้งสามอยู่เพียงลำพัง

"พวกเราควรเข้าไปเลยดีไหม?" เอซเวนถามขึ้น

"ไม่มีประโยชน์ที่จะลังเลอยู่หรอก" ไอรีน่าว่า "ในเมื่อไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องเข้าไปอยู่c]h;"

"ดี ถ้าอย่างนั้นข้าจะนำไปเอง" มิคาอิลพูด "ไอรีน่าตามข้ามาแล้วเอซเวนคอยคุมหลังไว้"

ครั้นทุกคนเตรียมตัวเสร็จแล้วชายหนุ่มก็เดินนำเข้าไปในถ้ำทันที  ไอรีน่าที่เดินอยู่กลางใช้เวทมนตร์เรียกลูกไฟขึ้นมาส่องทางซึ่งทำให้พวกเขาสะดวกขึ้นมาก  ประการแรกเพราะมันช่วยให้พวกเขามีมือว่างเพราะไม่ต้องถือคบไฟ  อีกประการเพราะไฟเวทมนตร์ของไอรีน่านั้นไม่ต้องระวังว่าจะดับไม่ว่าจะถูกน้ำหรือลม

พวกเขาเดินลัดเลาะไปตามลำธารที่ไหลอยู่ในถ้ำแห่งนั้น  ไม่นานก็พบกับทะเลสาบกว้างใหญ่แห่งหนึ่งที่เป็นต้นน้ำ  ผืนน้ำของทะเลสาบนั้นราบเรียบราวกับกระจก  และดำประหนึ่งสีนิล

"แล้ว...เราควรทำอย่างไรต่อ?" เอซเวนถามกล้าๆ กลัวๆ หลังจากทั้งสามยืนนิ่งอยู่เบื้องหน้าทะเลสาบแห่งนั้นได้ครู่หนึ่ง

ไม่มีใครตอบอะไร

"ข้าแต่ท่านผู้เป็นเจ้าของที่แห่งนี้" มิคาอิลตะโกน "ท่านโปรดชี้ทางไปยังลูกแก้วแห่งสันติภาพแก่ข้าด้วยเถิด"

ไอรีนากำลังจะยกมือขึ้นไปจับปลอมมิคาอิลให้ใจเย็นลง แต่แล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น

ผิวน้ำที่ราบเรียบนั้นก็เริ่มมีระลอกเกิดขึ้นจากตรงกลาง และพร้อมกันนั้นก็มีดวงแสงสว่างลอยขึ้นมาสู่ผิวน้ำ  ก่อนจะเกิดแสงสว่างเจิดจ้า ซึ่งครั้นแสงนั้นอ่อนลงแล้ว ก็มองเห็นเป็นร่างของหญิงสาวผู้หนึ่ง

ร่างของหญิงสาวผู้นั้นใสประหนึ่งประกอบขึ้นจากน้ำ  ดวงตาและปากของนางมีแสงเรืองออกมา  นางก้าวย่างไปหาพวกเขาและเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ

"เจ้าเป็นใคร เหตุใดจึงมารบกวนเทพีแห่งทะเลสาบนี้?"

มิคาอิลเลยหน้าขึ้นสบตานาง "ข้า เจ้าชายมิคาอิล  รอซนอปสกาแห่งเนเซฟ" เขาพูด" ข้ามาที่นี่เพื่อตามหาลูกแก้วแห่งสันติภาพ  ท่านจะช่วยชี้ทางแก่ข้าได้หรือไม่?"

"แน่นอนว่าข้าทำได้" นางพูด "เพราะข้าคือเทพีแห่งทะเลสาบซึ่งเป็นผู้ดูแลลูกแก้วดวงนั้น แต่เจ้าจักต้องการลูกแก้วไปเพื่อสิ่งใด?"

"ในยามนี้เนเซฟกำลังมีศึกติดพันกับบีโอกราดเหตุเพราะกษัตริย์บีโอกราดต้องการลูกแก้วดวงนี้" มิคาอิลตอบ "และข้าไม่ต้องการเห็นทั้งเนเซฟและบีโอกราดหลั่งเลือดไปมากกว่านี้อีกแล้ว"

"แล้วเจ้าคิดจะทำอะไร?" นางถามอีก

"ข้าจะมอบมันให้กับกษัตริย์แห่งบีโอกราด" มิคาอิลบอก

"แล้วเจ้าคิดว่านั้นมันคุ้มกันหรือ?" นางว่า

"หากแลกกับชีวิตราษฏรแล้ว" มิคาอิลว่า "ข้าเชื่อว่าคุ้ม"

เทพธิดาแห่งทะเลสาบเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วนางก็เอ่ยขึ้น "ก็ได้ ข้าจะมอบลูกแก้วให้กับเจ้า" นางพูด "แต่ว่าข้ามีเงื่อนไขอยู่อย่างหนึ่ง ข้าจะส่งสองคนในกลุ่มของเจ้าเข้าไปในจิตใจของคนอีกคนที่เหลือ หากเจ้าออกมาจากจิตใจของคนผู้นั้นได้  ข้าจึงจะมอบลูกแก้วแห่งสันติภาพให้กับเจ้า"

"ท่านจะเลือกจิตใจของใคร?" มิคาอิลถาม

"ข้าจะบอกหลังจากที่เจ้าตกลงรับข้อเสนอของข้าแล้ว" นางพูด "ว่าอย่างไรเจ้า เจ้าจะยอมข้อเสนอของข้าหรือเปล่า?"

มิคาอิลหันกลับไปมอง  ทั้งเอซเวนและไอรีน่าพยักหน้า

"ข้าตกลง" มิคาอิลพูดอย่างหนักแน่น "รับข้อเสนอของท่าน"

เส้นผมของเทพธิดาแห่งทะเลสาบกระจายออก  นางยกมือขึ้นชี้และดวงตาก็เปล่งประกายน่ากลัว

"ข้าเลือกเจ้า เอซเวน ฟอน ลิมีนอฟ"

มีเสียงกรีดร้องของเอซเวนดังขึ้น แล้วทุกอย่างก็เลือนหายไป

ฯลฯ

"มิคาอิล! มิคาอิล!"ไอรีน่าร้องเรียก

ชายหนุ่มลืมตาขึ้นเห็นหญิงสาวนั่งชันเข่าอยู่ข้างๆ  มือทั้งสองยังคงจับอยู่บนไหล่ของเขาหลังจากพยายามเขย่าให้เขาตื่น "เกิดอะไรขึ้น? ที่นี่ที่ไหนหรือ?"

ไอรีน่าปล่อยมือทันทีที่เห็นว่าชายหนุ่มฟื้น "ถ้าตามคำพูดของเทพีแห่งทะเลสาบ ที่นี่ก็คงเป็นจิตใจของท่านเอซเวนกระมัง"

"จิตใจของเอซเวนอย่างนั้นหรือ" ชายหนุ่มทวนคำแล้วมองไปรอบๆ...

พวกเขาอยู่ท่ามกลางหมู่ไม้  ดูจากลักษณะแล้วคงเป็นอุทยานมากกว่าป่า  ไม้ยืนต้นชนิดหนึ่งที่มีดอกสีชมพูกำลังทิ้งกลีบลงมาตามสายลมอ่อนมากองเกลื่อนบนพื้นหญ้าสีเขียวเบื้องล่าง ท่ามกลางบรรยากาศที่ขมุกขมัวไปด้วยสายหมอก

"นี่คือจิตใจของเอซเวนจริงๆ หรือไอรีน่า?" มิคาอิลถาม

"ข้าว่า ท่านน่าจะรู้ดีกว่าข้านะ มิคาอิล" หญิงสาวย้อน

ทั้งสองไม่พูดอะไรกันอยู่พักใหญ่  ครั้นแล้วไอรีน่าก็เอ่ยขึ้น

"เมื่อเป็นอย่างนี้" เธอถอนใจ "ข้าว่าเราลองไปสำรวจที่นี่กันดีไหม  เผื่อว่าจะเจอร่องรอยอะไรบ้าง"

"ก็ได้" มิคาอิลตอบกลับมาอย่างใจลอยและไม่กระตือรือร้นเท่าใดนัก

แล้วทั้งสองก็ท่องไปในโลกนั้น  ที่ทั้งกว้างใหญ่และสวยงามอาจเป็นความจริงต้นไม้สีชมพูเหล่านั้นปกคลุมอยู่ทั่วไปในอุทยานและทิ้งกลีบลงบนพื้นพรมหญ้า  ลำธารเล็กๆ ใสสะอาดหลายสายตัดผ่านพื้นที่อยู่เป็นระยะๆ และมีเสียงนกร้องเพลงดังมาแผ่วๆ  นานๆ ครั้งจะเห็นกวางเดินเล็มหญ้าอยู่สักตัวนึง ในขณะที่บรรดาผีเสื้อและแมลงปอบินไปมาอยู่ในสายหมอก

แต่แล้วทันใดนั้นสายหมอกก็แหวกออกให้ท้องฟ้าเปิดอย่างราบเรียบโดยพลัน อาทิตย์อัสดงดวงกลมโตสาดแสงอาบท้องฟ้าให้กลายเป็นสีส้มไม่นานก่อนลับขอบฟ้าไป   แล้วราตรีมืดมิดที่ระยิบระยับก็เข้ามาแทนที่ ดวงดาวเป็นประกายกระจายเกลื่อนอยู่ทั้งท้องฟ้าประหนึ่งเกล็ดเพชรที่เทพแห่งท้องฟ้านำมาโปรยไว้ และมีทางช้างเผือกมีน้ำนมทอดยาวรางแม่น้ำแห่งสรวงสวรรค์พาดผ่านจากขอบฟ้าหนึ่งไปอีกขอบฟ้าหนึ่ง

"มิคาอิล" ไอรีน่าร้องเรียก "นั่นใช่ปราสาทของพระราชาหงส์หรือเปล่า?"

มิคาอิลทีเพิ่งหลุดออกจากภวังค์ออกไปตามที่เธอชี้ให้ดู  ที่บนเนินห่างออกไปมีปราสาทหลังหนึ่งเห็นอยู่สลัวๆ จากดวงไฟที่สอดหน้าต่างมา  แต่ก็ยังคงมองเห็นได้ว่าปราสาทหลังนั้นเป็นปราสาทสีขาวที่มียอดปราสาทเป็นกรวยแหลมสีเข้ม

"ไม่ใช่หรอก" มิคาอิลพูด "ปราสาทของพระราชาหงส์ไม่ได้ใหญ่โตขนาดนี้"

"อย่างนั้นหรอกหรือ" ไอรีน่าพุดอย่างผิดหวังเล็กน้อย เธอทำท่าจะเดินต่อไป  แต่อยู่ๆ มิคาอิลก็ร้องออกมา

"ข้านึกออกแล้วหละ" เขาตะโกน

ส่งผลให้ไอรีน่าหันกลับมามองด้วยความฉงนทันที

จากคุณ : เจรามี
เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 11:20:41




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com