ความคิดเห็นที่ 1   มาแอบอ่านบทกวีที่แสนไพเราะ  ครับ จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 23:17:32

ความคิดเห็นที่ 2 ....ให้มันได้อย่างนี้สิน่า ... งามจริง ๆ ... จากคุณ : D_AkIrA เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 00:08:51

ความคิดเห็นที่ 3 ...งามขึ้น...อีกหมื่นมิลฯ...... จากคุณ : คนสาธารณะ เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 12:43:20

ความคิดเห็นที่ 4 มาช้ากว่าท่านอาจารย์ และคุณ D_AkIrAจร้ะ   แต่ความหวานยังอยู่นะจ๊ะ.. ...แด่ลมหายใจแห่งรัก..... ..เมล็ดพันธุ์ สานใย ใน..ความรัก ภิรมย์ภักดิ์ ฝากสัญญา มิลาหาย สานถักทอ คลอเคล้า เนาว์แนบกาย หวงห่วงใย ใฝ่หา ทุกคราครัน..                                      ลมหายใจ ใน.รัก ถักร้อยหวาน                                      ผลิแย้มบาน ผ่านมา ราตรีฝัน                                      เฝ้าพะนอ ก่อความรัก ฝากคืนวัน                                      ตราบนิรันดร์ จะรักมั่น มิครั่นคลาย.. แม้มีสิ่ง มิ่งหมาย ให้หม่นหมาง มิลาร้าง ทางฝัน ยังมั่นหมาย จะปกป้อง ตระกองกอด สอดสายใย หยิบหัวใจ  ใส่..รัก  ปักดวงมาลย์..                                      ความผูกพัน สรรค์สร้าง ทางฝันร่วม                                      เคล้าหลอมรวม ท่วมเอ่อ เพ้อความหวาน                                      จะเคียงคู่ สู่สรวง ห้วงรัตติกาล                                      กระซิบหวาน นิจนิรันดร์....ฉันรักเธอ...... ความรักบริสุทธิ์....สวยงาม....คู่เคียงทุกสรรพสิ่งค่ะ....... ขอให้โลกใบกว้าง....อย่าร้างความรักนะคะ.......... แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 52 13:51:09 จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 13:49:00

ความคิดเห็นที่ 5 พึงใบบัว ทิวาเย้ยลัอเรืองรวงรุ้งกระหาย ทาบแสงปลายไพรอรัญล้อมเรือนอุ่น สราญอ้อมรอมชอมตอบรับอรุณ หยดพิรุณเล่นใบบัวกลิ้งแวววาว อุไรวรรณกำไลมวนกรประดับ สวมกระชับขนิษฐาปุยเมฆขาว กำไลแก้วเสมือนพลอยน้ำงามพราว ประทินสาวเทพอัปสรฟ้าประทาน ร่มระแนงใจช่างกล้าเรียนจากไหน วสันต์ไขภักดีหนึ่งประไพขาน พึงใบบัวรองรับแก้วกัญญามาลย์ สายกิ่งก้านสั้นสวาทไม่ขอเจือ คนไกลพ้นเอื้อนเอ่ยฝากฟากฟ้าไกล ผลัดผ่อนไว้เชื่อถือยากดอกมะเขือ สัมผัสชัดหวานคลายขมติดดีเกลือ ใบบัวเผื่อพจน์กลอกกลิ้งน่าเหนื่อยแทน จากคุณ : ท่าราชวงศ์ (ท่าราชวงศ์) เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 18:09:05

ความคิดเห็นที่ 6 ขนมหวานร้านแม่พลอยเบิกฤกษ์แล้ว ขอเข้าแถวเสนอหน้าจัดจำหน่าย ตำหรับลับสูตรจวักหวานมิคลาย ตามสไตล์คนหวานหวานไม่ถึงเอียน กุหลาบเชื่อมลำดวนฉาบมะลิแก้ว ชงโคแพรวชมนาดหอมมิแปรเปลี่ยน โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย ยากผิดเพี้ยน แม่จำเนียรแม้นท่านอยู่ยังบอกอาย จากคุณ : ท่าราชวงศ์ (ท่าราชวงศ์) เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 18:25:03

ความคิดเห็นที่ 7 หนึ่งภาพอาจเทียบทาบหมื่นคำ จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 20:56:47

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีค่ะ มาทักทายสักรอบค่ะ ... ขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับคะแนนค่ะ คุณ D_AkIrA,คุณ tudong, คุณ คนสาธารณะ,คุณ วฤก,คุณ ลำน้ำ C,คุณ สิริชน,คุณ แสงแรก ประดับดิน คห.1 คุณนกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) ขอบคุณค่ะที่แวะมาอ่าน .. 55 .. คห.2 คุณ D_AkIrA ภาพงามจริงๆ ค่ะ .. 66 .. คห.3 คุณคนสาธารณะ ขอบพระคุณมากค่ะอาจารย์ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ .. คห.4 คุณ หนุ่ย บทกลอนหวานมากค่ะ แม้ว่าจะมาไม่ทันคนแรก แต่พลอย ก็ขอบคุณมากค่ะ ที่ติดตามอย่างเอาใจใส่มาตลอดค่ะ รับรู้เสมอเลยนะคุณหนุ่ย เสมอต้นเสมอปลาย น่ารักจริงๆ ค่ะ ..มีกลอนมาฝากด้วยค่ะ ... ...แว่วกระซิบละลิบซ้องทำนองหวาน ก้องกังวานซ่านซึ้งคำนึงหวน คัดสะเด็ดเมล็ดสายพันธุ์ไม้นวล แปลงดินร่วนพรวนพร้อมยิ่งผูกพัน... ...รดน้ำใจใสสะอาดปราศมัวหม่น ร่วมกุศลสกลรักจากสวรรค์ ลมหายใจนี้เพื่อกันและกัน กระซิบหวาน ... นิจนิรันดร์ ... ฉันรักเธอ ................... นะจ๊ะคุณหนุ่ย ........................................................... คห.5-6  คุณ ท่าราชวงศ์ ขอบคุณค่ะคนขยัน ขยันเขียน ขยันชม แบบนี้จะลอย ล่ะนะ  ... แต่เอ๊ ลืมอะไรไปป่ะคะ นึกดูนะ อย่าขี้เหนียวนะคะ .. 77 .. มีกลอนมาฝากเช่นกันค่ะ ... ...ขนมหวานปานลิ้นมิสิ้นรส เปรียบเปรยพจน์พี่ล้ำนำเสนอ ย่อมไร้หวานปานลิ้นชาชินเลอ เมื่อพลั้งเผลอขายเชื่อเจือขาจร... ...แม้นอาสาว่าไว้ให้หวานยิ่ง พิรุณกลิ้งบนใบบัวมัวสมร จำเนียรกาลผ่านโฉมตรูรู้ลุ่มดอน ยอมขายผ่อนขาประจำค้ำขาดทุน... .................... นะคะคุณท่าราชวงศ์ ........................................................... คห.7 คุณ แสงแรก ประดับดิน ขอบคุณค่ะที่แวะมา และภาพสวยมากค่ะ.. จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 21:37:18

ความคิดเห็นที่ 9   กลอน เพราะมาก ตามอ่านตลอด แต่ไม่ค่อยเข้าใจศัพท์ รบกวนช่วยแปลเนื้อหา บทต่อบท ให้หน่อย จะได้เข้าใจว่าเขียนถึงอะไร จากคุณ : อย่ารู้เลยว่าฉันเป็นใคร (อย่ารู้เลยว่าฉันเป็นใคร) เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 23:29:00

ความคิดเห็นที่ 10 ..."ฝัน ฝัน หวาน".....ผุสชาร้อง.....ไว้นานแล้ว "ใจรัก"แว่ว.....เสียงสุชาติ.....มิพลาดหา "แสนรัก"มี.....พี่แจ้พร่ำ.....พรรณา "แทนสัญญา".....วสันต์อยู่.....คู่อัสนี   "ทะเลใจ".....คาราบาว.....ร่วมป่าวร้อง "หยาดเพชร"ก้อง.....ชรินทร์ก่อน.....สุรสีห์ "ยากยิ่งนัก"....."รักครั้งแรก".....วงชาตรี อีกสุเทพ-.....สวลี....."รักฉันนานๆ"...         .....ทุกเพลงครวญ  ล้วนบอกรัก  ประจักษ์ใจ.....      (ฝนซาแล้ว...กลับก่อนนะครับ) แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 52 00:08:20 จากคุณ : เจียะป้าอู่สื่อ (tongboy) เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 23:58:00

ความคิดเห็นที่ 11   เห็นด้วยกับ คห. ที่ 9ครับ จขกท ใช้ศัพท์ ยากต่อการเข้าใจ เข้าใจเนื้อหายากมาก จากคุณ : ผ่านมาอ่าน เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 02:15:35 A:125.24.150.185 X:

ความคิดเห็นที่ 12   ชอบอ่านกลอนค่ะ  แต่ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่นัก เห็นว่าเป็นกระทู้แนะนำเลยแวะมาอ่าน ศัพท์สูงมากๆ นะคะ จขกท เก่งมากๆที่สรรหาคำเหล่านี้ มาเขียน  แต่ คนอ่านที่ไม่รู้คำเหล่านี้ จะไม่ค่อยเข้าใจค่ะ อยากยกตัวอย่าง นะคะ เช่น ประโยคนี้  ตรึงตระกองก่องวรงค์วาดวงไท้   คือ อะไรคะ? " วงเฉวียงเวียนฉวัดพนัสขาม" พนัส  แปลว่า ยินดี หรือ เปล่าคะ  แล้ว ขาม แปลว่า กลัว? พอเอามารวมกัน ประโยคนี้คืออะไรคะ? ที่ถามเพราะตัวเองไม่รู้ความหมายจริงๆค่ะ อยากอ่านกลอนแล้ว เข้าใจด้วยค่ะ ว่าคนเขียนต้องการสื่ออะไร ขอบคุณล่วงหน้ามากๆที่อธิบายนะคะ จากคุณ : ตาสวรรค์ เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 02:49:49

ความคิดเห็นที่ 13 รับเงินผ่อนขายเงินสดเพียรสะสม "ปฐม"บทเสื่อการค้าแผนเป้าหมาย ค้ากำไรเล็กเล็กเป้าหมายห่างไกล เลือกทางลัดปีนป่ายหุ้นส่วนกัน      สองแรงแข็งขันกิจการไปโลด หวานตโหนดหวานอ้อยเคล้าร่วมขัน เสกคาถาโปรดกำกับเลขลงยันต์ รับประกันหวานทั้งโลกตกเป็นรอง จากคุณ : ท่าราชวงศ์ (ท่าราชวงศ์) เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 08:14:57

ความคิดเห็นที่ 14 คร่ำครวญเพรียกหาเจ้า            ประภาเภายันไม่หวน ลืมครั้งตรีรัญจวน                   วังแก้วสวนถิ่นระยอง ท่องหาดพัทธยา                    ขับเมฆาพิรุณนอง กระหน่ำอาบซ้ำสอง                รวมใจปองใต้พิมพ์พรรณ ตัดสวาททรามเชย                  เคียงเขนยอรวรรณ สลักถ้อยจำนรรจ์                    ปราสาทสรรค์เช่นจำเลย ทำนบจ้กษ์พร่างพรู                 วิมานหรูกบทูเกย ล่มทำเนียบรักเห่ย                  บรรพ์เปรียบเปรยนวลโลเล จากคุณ : ท่าราชวงศ์ (ท่าราชวงศ์) เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 11:15:06

ความคิดเห็นที่ 15 กระทู้นี้  สงสัย..มด...ผึ้ง...ผีเสื้อ... คงต้องหายาระบายท้องไว้ข้างๆแล้วล่ะค่ะ k.ploy ..สัมผัสอุ่น ละมุนโอบ ซบจุมพิต ตะกองชิด พิศวาส พิลาสไข กระซิบข้าง ปรางน้อง ผ่องพิไล ลมหายใจ ในรัก สลักตรึง..                                    น้ำคำเอ่ย เฉลยนำ ร่ำข้างหู                                    พิศพธู คู่เคียง เพียงหวงหึง                                    จะถนอม อ้อมกอด ออดคลอคลึง                                    สื่อความถึง ซึ้ง..ในรัก   ...ฝากแก้วตา.. อยากยื้อยุด หยุดเวลา ตรงหน้าน้อง ให้มือสอง คล้องเห่  เสน่หา แก้มตรึงแก้ม แซมอุ่นไอ ไล้ตรึงตรา กระซิบว่า....จะรักมั่น....นิรันดร...ร...ร...ร............                                         บรรยายตามภาพข้างล่างน่ะค่ะ k.ploy จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 17:18:05

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีค่ะ มาทักทายอีกครั้งค่ะ ... ก่อนอื่นขอขอบคุณสำหรับ คะแนนเพิ่มเติมค่ะ คุณ Charlotte Russe , คุณ  tongboy , คุณ  black in black คห.9 , 11, 12 ขอบพระคุณมากค่ะ ขอเวลาสักหน่อย แล้วจะกลับมาตอบค่ะ ขอไปทำธุระก่อน ให้สบายตัวก่อนนะคะ ... คห.10 คุณ tongboy ขอแซวหน่อยเถอะค่ะ รู้จักครบทุกเพลงไหมคะเนี่ย ยังไงก็ขอบคุณมากค่ะ ที่สรรหาเพลงรุ่นเดียวกับพลอยเลย มาทักกันนะคะ 555.. ... (เดาอายุซิ... รุ่นนี้น่ะ ... จะรุ่น 1 รึเปล่าค๊า 666...) ...เพลงทุกเพลงเปล่งคำย้ำว่ารัก อย่างแน่นหนักด้วยเนื้อร้องคล้องจองหนุน ร้อยเรียบเรียงเสียงร้องก้องการุณย์ บรรเลงลุ้นอุ่นทำนองสนองความ... ...เนื้อเพลงโปรดโอดครวญชวนใจหวั่น บ้างเหมือนฝันพลันตื่นครื้นกลายหวาม ใครคนหนึ่งซึ้งอยู่เพียงครู่ยาม เหลือเพียงนามเพลงไว้ให้จดจำ... ..................จริงมั๊ยคะ คุณ tongboy คห.13-14 คุณท่าราชวงศ์ ... คนขยัน ... หมั่นเขียน ... ขอบคุณค่ะ พลอยจะยอมแพ้ ก็คนนี้แหละค่ะ แพ้ความขยันนะ ... ...ใครโลเลเฉไฉอ้างไร้เหตุ ใครแฝงเลศนัยป่วนปรวนถลำ หวานทั้งโลกหรือโศกคับแลกรับจำ จึงกระหน่ำคำหยอดให้บอดเมา... ...ใจก้อนนี้มีเนื้อมิเหลือนัก ด้วยถูกรักยักยอกมาตอดเร้า ใช่ยืนยงคงกระพันมิบรรเทา เพียงคำเว้าเศร้าแย้งการกระทำ... ....................จริงมั๊ยคะ คุณ ท่าราชวงศ์ คห.15 คุณหนุ่ย คนงาม สวัสดีค่ะ ดีใจจังที่แวะมาอีกค่ะ พร้อมกลอนหวานซะด้วยค่ะ  ... ...สัมผัสคล้อยรอยรักปักดวงจิต พรหมลิขิตนิมิตไว้ให้ดื่มด่ำ กายและใจให้หยิบยื่นมิคืนคำ พิสุทธิ์ล้ำก่ำใสในอุรา... ...หากว่าใช่ใครแน่กระแสจิต พึงผูกมิตรพิศรักเพิ่มคุณค่า ด้วยเราสองลองจ้องผ่านแววตา กระซิบว่า ... จะรักมั่น ... นิรันดร... ...............................นะคะคุณหนุ่ย *** มาส่งข่าวด้วยค่ะ ว่า กิฟท์เหลือน้อยแล้วค่ะ ขออนุญาตเก็บไว้ให้เพื่อน ที่ยังไม่ได้ค่ะ ... ให้ แทนค่ะ นะคะ ... ส่วนใครที่รู้ตัวว่า ไม่ค่อยได้แจกกิฟท์ใครเลย ก็ไม่ควรออมเก็บไว้ค่ะ ... เนอะ ..55*** จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 19:28:27

ความคิดเห็นที่ 17 คุณพลอยขา หัวใจหนูไอซ์พูดไม่ได้เพราะเสียงแหบจากการกรี๊ดดังเกินไป(ถ้าไม่กลัวคนที่บ้านจับส่งศีรธัญญาไอซ์คงกรี๊ดออกมาแล้วแน่ ๆ) ทั้งถ้อยคำพร่ำละมุนอุ่นละไม พาหัวใจละลายแล้วด้วยคำหวาน ถ้อยรักร้อยถักวจีกวีกานต์ ยามได้อ่านยังคิดเพ้อละเมอครวญ จากคุณ : ดอกไม้ป่า (Argent) เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 21:07:50

ความคิดเห็นที่ 18 ..รุ้ง ... รุ้ง ... รุ้ง ... เขียนกลอนไม่เป็น ... รุ้ง ... รุ้ง ... รุ้ง จากคุณ : D_AkIrA เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 23:36:24

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านแล้วนึกไปถึง รวมบทกวี "คำหยาด" ของคุณครู เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ฮะ Sense คล้ายกันมากเลย . . . . . . เหมือนไข่มุก เมื่อหล่น บนจานหยก วณิพก พ่ายสิ้น เพียงยินเสียง อ่อนโสตร โอษฐ์ฉะอ้อน ประอรเอียง ดาลเผดียง ดาเรศ เนตรอนงค์ . . . . . . ที่ยกบทนี้ของคุณครูขึ้นมากล่าว ก็เพราะคิดว่า น่าจะเป็น คำนิยม ที่ใกล้เคียงที่สุด สำหรับ บทกวีอันงดงาม บทนี้ ของคุณ ฮะ ดังนี้ ขอรับ. แฮ่ . . . จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 06:25:40

ความคิดเห็นที่ 20 ทอป่านใช่ยากเย็น        เรียมรวบเล็นหลุปุยฝ้าย ทอรักไร้เงาใย             ขาดเส้นสายขาดตัวตน มโนภาพฟองรัก           ใจพิงพักสนับดล มานะกล้ำฝึกฝน            มีวันยลภาพรางราง ปฏิทินบันทึก                ตกผลึกเมืองเขลางค์ สบกรอข้าจำห่าง           มืดหนทางท้อใจทอ ลอยเลื่อนล้อกุกกัก       ภวังค์ทักหนุ่มรีรอ ฉุดรั้งทอสานต่อ           มุซ่อมกรอปั่นเส้นใย จากคุณ : ท่าราชวงศ์ (ท่าราชวงศ์) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 12:25:49

ความคิดเห็นที่ 21 มาทักทายกันสักรอบค่ะ ขอบคุณมากค่ะสำหรับคะแนนเพิ่มเติมค่ะ ... คุณ tonpalmy , คุณ  Argent , คุณ  พจนารถ๓๒๒ , คุณ  Badboy , คุณท่าราชวงศ์ ...................................................................................................... คห. 17 คุณ Argent... แค่น้องไอซ์ชอบ พี่พลอยก็ดีใจแล้วค่ะ ... ...ตะกอนหายละลายคั้นประกันหวาน พึงผสานพันผูกให้ถูกส่วน ค่อยคลุกเคล้าเข้าปั่นผลัดกันกวน รสชาติล้วนชวนลิ้มสุขอิ่มจัง... .....เรียนหนักแล้ว ผ่อนคลายนึดนึงเนอะน้องไอซ์ .. ................................... คห.18 คุณ D_AkIrA เขียนกลอนไม่เป็นก็มิเป็นไรเด้อ ... แต่ถ่ายภาพเนี่ย ไม่เป็นสองรองใครล่ะนะ ใช่ไหม ? ... เมื่อไหร่จะไปออกทริปกันอีกล่ะ ... ฝากถามด้วยเด้อ  ... ................................... คห.19 คุณ พจนารถ๓๒๒  ขอบคุณค่ะ ที่แวะเข้ามาพร้อมกับฝากบทกลอนอัน ทรงคุณค่าค่ะ  ... ...ตามตำราอาหารเชี่ยวชาญชด ทิพย์โอสถพจนารถปราชญ์วางผัง คหกรรมศาสตร์ล้ำเลิศประเสริฐดัง โองการขลังสะพรั่งห้วง ...จินตนา... ................................... คห.20 คุณ ท่าราชวงศ์ ... คนขยันที่หนึ่งเลยค่ะ ... ขอบคุณมากค่ะ .. สานต่อทอเสริมรัก..........มุเข็มปัก,สัก,สอย,คว้า เนา,เย็บ,ตะเข็บครา.........ขอฉันทามติครัน คนละไม้ละมือ...............ร่วมหารืออย่างสร้างสรรค์ ทอผ้าผืนเดียวกัน...........เส้นด้ายนั้นมั่นสายใย   ................นะคะ ................................... แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 52 20:18:52 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 20:16:48

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีค่ะ มาทักทายสำหรับที่ติดค้างไว้ค่ะ ... ขออภัยค่ะ ที่ตั้งหลักนานไปหน่อย ... คห .9 คุณ อย่ารู้เลยว่าฉันเป็นใคร ขอบพระคุณมากค่ะที่ติดตามอ่านตลอดและข้อคิดเห็นอันมีค่าค่ะ คห.11 คุณ ผ่านมาอ่าน ขอบพระคุณเช่นกันค่ะที่แวะมาอ่าน และข้อคิดเห็นอันมีค่าค่ะ คห.12 คุณ ตาสวรรค์ ขอบพระคุณเช่นกันค่ะ ที่สละเวลาอันมีค่า(แม้จะไม่ค่อยมีเวลา) และข้อคิดเห็นอันมีค่าเช่นเดียวกันค่ะ - ตัวของ พลอย เอง เป็นมือใหม่หัดแต่งค่ะ และเพิ่งหัดแต่งกลอนมาได้ไม่นานค่ะ ก็ต้องออกตัวว่า ไม่มีความเชียวชาญในศัพท์ต่างๆ มากนักค่ะ และแน่นอนค่ะต้องอาศัย"พจนานุกรม" เป็นตัวช่วยอันดับหนึ่งค่ะ ศัพท์ทุกคำถ้าไม่ทราบ สามารถหาความหมายได้ในพจนานุกรมค่ะ ... - การใช้ศัพท์ยากหรือไม่นั้น อาจเป็นมุมมองหนึ่งที่ผู้อ่านใช้ดุลยพินิจในการตัดสินค่ะ ซึ่งผู้อ่านแต่ละท่านอาจมีมุมมองที่ต่างกันได้ ในมุมมองของ พลอย คือ การ อนุรักษ์ คำศัพท์ต่างๆ เอาไว้ โดยนำมาสอดแทรกในบทกลอน ซึ่งทำได้พยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว เท่าที่ความ สามารถจะมีค่ะ - อย่างไรก็ตาม พลอย ก็น้อมรับไว้ด้วยความขอบคุณค่ะ... - พลอยลองแต่งกลอนใหม่ค่ะ โดยมีจุดประสงค์ให้ความหมายคล้ายของเดิมมากที่สุด ซึ่งหากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ต้องขออภัยล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ... ต้นฉบับเดิม.........................................................กลอนแต่งใหม่ ...รุ้งเรืองรองผ่องละมุนพิรุณล่วง....................รุ้งเรืองรองผ่องครั้งหลังฝนแผ่ว ทาบแสงสรวงสราญอ้อมล้อมเรือนขวัญ...........แสงพรายแพรวสำราญปานสวรรค์ เทียมขอบฟ้าคราอรุณอุ่นอรัญ.......................ดังฟ้ารุ่งมุ่งแสดงแสงอุ่นอัน เกื้อไพรวัลย์แหล่งหล้าทิวากาล......................หนุนป่านั้นปรกวันสรรค์แหล่งดิน... ...ตรึงตระกองก่องวรงค์วาดวงไท้...................วงแหวนกอดพรอดสว่างวางเหนือเกล้า แก้วกำไลประไพล้ำประคำขาน......................วงแสงพราวป่าวคำพร่ำถวิล เรืองสลักอักษราฟ้าประทาน.........................ฟ้าสลักอักษรพรหลั่งริน พิสดารหวานชั้นเชิงอุไร...............................งามทั่วถิ่นอิงประหลาดวาดทองทา ...ร่มระแนงแฝงจุมพิตสนิทซ้อน....................อีกร่มเงาเคล้าสนิทแนบชิดจูบ เพรียงสิงขรปองศรัณย์วสันต์ใส.....................เผยเค้ารูปไพรสวยด้วยฝนหนา ชุ่มสวาทสาดกระเซ็นเยือกเย็นไพร.................ชุ่มน้ำใจใสเด่นเย็นวนา แผ่สายใยกิ่งก้านยิ่งทานทน..........................แผ่สาขากิ่งก้านรักทานทน... ...วงสลับซับซ้อนอาภรณ์พัสตร์.....................วงรังสรรค์รัญจวนดังม้วนไหม พร้อมสัมผัสชัดลึกจากเวหน..........................สัมผัสได้ชัดจากฟากเวหน แรกซาบซึ้งตรึงจิตนิมิตมนต์..........................แรกซาบซึ้งตรึงสะกดรดกมล คิดถึงจนไขว่คว้ายามลาเลือน........................คิดถึงจนไขว่คว้ายามลาเลือน ...ยิ่งแวะเวียนเพียรหยดประพจน์อ้อน..............ยิ่งแวะเวียนเพียรพร่ำคำออดอ้อน แข็งกลายอ่อนร้อนเร้นอุ่นเสมือน....................แข็งกลายอ่อนร้อนเร้นอุ่นเสมือน ควันหลงของละอองทิพย์กระซิบเตือน.............ควันหลงของละอองแดดแผดแสงเตือน มีใครเอื้อนเอ่ยฝากฟากฟ้าไกล......................มีใครเอื้อนเอ่ยฝากฟากฟ้าไกล... ...คนไกลโพ้นตะโกนไหม ...ไม่แจ้งชัด...........*** (คงตามเนื้อหาเดิมค่ะ) ในอาณัติสัญญานที่ขานไข แต่ฟ้ากว้างพลางสั้นแคบทันใด เมื่อหัวใจเชื่อมเข้าเพื่อเฝ้ารอ... ...เชื่อมช่องแสงตะแกรงสีทวีค่า ข้ามเวลาประภาผันจำนรรจ์ขอ ชดเชยภาพระนาบเสียงแค่เพียงพอ ไม่ย่อท้อหน่ายแหนงเคลือบแคลงคลาย .................................................. .................................................. ...สร้อยดอกรักถักร้อยด้วยพลอยสี คล้องใจพี่ที่จรุงดั่งรุ้งฉาย เลื่อมสลับรับลาวัณย์ผันประกาย ดั่งน้องหมายมุ่งสนองมาครองครัน... ...โค้งคำนับรับค้นมนต์เสน่ห์ นึกสนเท่ห์คราคะนึงหนึ่งนางฝัน ครวญคำเอกเสกขรมฝากลมรัน สัญญามั่นรักแท้แด่รุ้งงาม... .................................................. .................................................. ...เรื่อรงค์ทองผ่องละไมฤทัยเที่ยง..................เรืองแสงทองผ่องละไมฤทัยเที่ยง วงเฉวียงเวียนฉวัดพนัสขาม...........................วงเฉวียงเวียงพนาพาใจหวาม ตราบวรุณหนุนฤดูคู่ฟ้าคราม..........................ตราบพิรุณหนุนฤดูคู่ฟ้าคราม ทุกครู่ยามล้วนบอกรักประจักษ์ใจ...................ทุกครู่ยามล้วนบอกรักประจักษ์ใจ ................................................. ค่ะ สำหรับคำถาม ที่ฝากไว้ค่ะ ... ***ตรึงตระกองก่องวรงค์วาดวงไท้ *** ตรึง ในที่นี้ หมายถึง ตรึงตา ตรึงใจ (ตรึง - ติดอยู่) ตระกอง ในที่นี้ หมายถึง โอบกอด (ตระกอง - โอบ,กอด,รัด) ก่องวรงค์ ในที่นี้ หมายถึง ความงามสุกใสเหนือศีรษะ (ก่อง - สุกใส ,สว่าง, งาม ,วรงค์ - ศีรษะ) วาดวงไท้ - ตีวงอย่างยิ่งใหญ่ (ไท้ - ผู้ยิ่งใหญ่) ในความหมายของผู้เขียน (เอง) ต้องการสื่อออกมาว่า เป็นความตราตรึงใจของวงรุ้งที่ยิ่งใหญ่สว่างสุกใสอยู่ท่วมศีรษะบนฟากฟ้านั้นค่ะ) ***วงเฉวียนเวียนฉวัดพนัสขาม*** พนัส ในที่นี้ แปลว่า ป่า (มิใช่ ยินดี ค่ะ) ขาม ในที่นี้ สื่อถึง ความน่าหวาดหวั่น , น่าเกรงขาม ค่ะ -สำหรับมือใหม่หัดแต่งอย่าง พลอย คงต้องศึกษา เรียนรู้ และฝึกหัดอีกมากค่ะ ความผิดพลาดใดๆ หากเกิดขึ้น พลอย ก็ขอน้อมรับไว้ด้วยความเต็มใจยิ่งค่ะ -ขอบพระคุณมากค่ะ ที่ให้การติดตาม และข้อคิดเห็นต่างๆ อันจะเป็นประโยชน์สำหรับโอกาสต่อไปค่ะ ... ...  ... แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 52 21:05:42 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 21:02:05

ความคิดเห็นที่ 23 ที่แท้มีพจนานุกรมอยู่กับตัวนี่เอง แสงแรกต่างหากที่เก็บพจนานุกรมไว้ในใจ แปลจากใจที่จำได้เมื่อตอนเรียน แต่งครั้งหลังนี้จะเข้าใจง่ายกว่านะ เราได้เปรียบเทียบความเร็วกับการไตร่ตรอง ช้าช้าได้พร้าเล่มงาม เรืองแสงทองผ่องละไมฤทัยเที่ยง วงเฉวียงเวียงพนาพาใจหวาม ตราบพิรุณหนุนฤดูคู่ฟ้าคราม ทุกครู่ยามล้วนบอกรักประจักษ์ใจ ................................................. จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 21:36:12

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีค่ะคุณแสงแรก ประดับดิน ... ดีใจจัง ... ที่ได้รับคำแนะนำดีๆ แบบนี้ค่ะ ขอบพระคุณมากๆนะคะ ... พลอยจำได้ว่า คุณแสงแรกฯ เคยบอกพลอยแล้ว ในกระทู้ของคุณ และก็จริงซะด้วยสิคะ ...555... เห็นผลทันตาเลยนะเนี่ย คงต้องใจเย็นมากขึ้น กลั่นกรองคำให้มากขึ้น เลยค่ะ ...666... ขอบพระคุณอีกครั้ง ที่แวะมาเยี่ยมอีกหนค่ะ จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 21:44:05

ความคิดเห็นที่ 25 เรื่อเรืองแรกแสงส่องมาท่องหล้า ไม่แปลกแยกแปลกหน้าแม้มาใหม่ อบอุ่นดีโดยมิรู้ฤดูใด ทบทวีกวีให้ชื่นใจจัง จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 21:57:23

ความคิดเห็นที่ 26 อยากจะบอกว่า พลอยมิกล้า ต่อกลอน กับคุณแสงแรกฯ แล้วคะ่ ขอเพียงอ่านอย่างชื่นชมก็พอค่ะ ... เดี๋ยวเอาตัวไม่รอดนะ ... เข็ดแล้วค่ะ จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 22:03:50

ความคิดเห็นที่ 27 กระซิบสั่ง            ตามสายลม         แนะทอต่อ คะเนพ้อ              คาดพนอ            ทอให้ถึง แพรแพรวพรรณ   สายใยรัก            ตราบตราตรึง ซึ้ง..คนึง             สำเร็จหมาย         กำลังใจ เปรียบน้ำทิพย์       ชโลมใจ             มุทอต่อ บนเครื่องกรอ        บานศาลกล่าว      ผลัดเจ็บไข้ ลาดตระเวร           เฟ้นหา               สุวรรณเส้นใย หิมะปุยฝ้าย          พันกรอ               เพื่อแม่พลอย จากคุณ : ท่าราชวงศ์ (ท่าราชวงศ์) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 12:01:44

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีค่ะ คุณท่าราชวงศ์ (คนขยัน) ... ค่ะ กิฟท์ใกล้หมดแล้วอ่ะค่ะ ถ้าไม่ให้จะเป็นไรมั๊ยน๊อ ... ให้ ดอกไม้แทนนะคะ ... และกลอนบทนี้ค่ะ ... ...กระซิบใยไฉนดังหวังทอต่อ คะเนพ้อพนอหาพาใจไหว แพรเพียงผืนยืนยันปั่นทรวงใคร ม้วนด้ายไนจักรกรอล้อรูปทรง... ...ดุจน้ำทิพย์วิบวับจับดวงจิต วันละนิดเปรยสนุกสุขเสริมส่ง เฝ้าแวะเวียนเพียรอ่านหวานบรรจง หวังส่งตรง ... ถึงผู้ให้ ... ได้เทียมกัน ... แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 52 13:17:13 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 13:10:20

ความคิดเห็นที่ 29 หยดน้ำกลิ้ง         บนใบเขียว      เหลียวสำนึก ชวนระทึก           ไหวหวั่น         ท้าวความหมาย คงติดภาพ           พฤติกรรม      แมลงพราย ฤาฝันร้าย            กาลครั้งหนึ่ง   จึ่งระอา ไพร่ขยัน             ใจสัตย์ซื่อ      ละครเห็น คราเดือนเพ็ญ       หมายจันทร์    คนึงหา ใครคนนั้น            เธอสถิต        ชิดจันทรา เมินดารา              รายเรียง       แปลกแต่จริง จากคุณ : ท่าราชวงศ์ (ท่าราชวงศ์) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 15:48:55

ความคิดเห็นที่ 30 ภาพหยดน้ำ ที่ใสสะอาดค่ะ สื่อถึงน้ำใจใสซื่อ สะอาด สัมผัสแล้วเยือกเย็นดีนะคะ ... ...หยอดน้ำใจใสสว่างหยดวางเย้า หล่นเพียงเบา บนใบ กิ่งไกวผัน กลายเร่งเร้า เกลากลึง ครึ่งค่อนวัน ชุ่มถึงชั้น ไมตรี กระพี้แกน... ...บริสุทธิ์ สดุดี วารีสาย ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว เจ้าแบบแผน ทดสัญชาติ ทาสน้อม จอมดูแคลน ตีคะแนน สงสาร ตื้นนานเนา... แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 52 16:14:04 แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 52 16:13:01 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 16:10:02

ความคิดเห็นที่ 31 คะแนนค้ำ       หยดน้ำใส       ผ่านใจจริง ใต้หล้านี้         เมินทุกสิ่ง        ตราเพียงขวัญ สลักจิต          ทาษผู้ซื่อ        ย้ำคืนวัน วรรณต่ำ         ฟันฝ่ากรอบ     ไขว่คว้าพลอย พลอยค่าล้ำ     กำมะหยี่          ใช่ควรคู่ ปราชญ์ท่านรู้   ชี้กาละ             เทศะถอย อุโมงค์มืด       มิดสนิท            มโนลอย กระแสจิต       จำรัสพลอย       พลอยธนา จากคุณ : ท่าราชวงศ์ (ท่าราชวงศ์) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 18:05:50

ความคิดเห็นที่ 32 สวัสดีค่ะ คุณท่าราชวงศ์ ... - ทำไม ขยัน ได้ขนาดนี้คะ ... พลอยว่าแล้วเชียว จะแพ้ความขยันนี่เองนะเนี่ย .. - ขอบคุณมากมายเลยค่ะ สำหรับ น้ำใจ ที่มีให้มาโดยตลอดเลยค่ะ น่ารักมากค่ะ ................. ...หยอดน้ำใจ อุทัยฉ่ำ ดังคำหยาด มณีชาติ ไพลิน แค่หินเขา เทียมคำซึ้ง พึงย้ำ พร่ำกลั่นเกลา มีค่าเท่า เพชรหนึ่ง ซึ่งน้ำงาม ... ...เพียงรูปกาย ภายนอก ไม่บอกชัด จิตประหัต ภายใน ใคร่เกรงขาม ต่างชนชั้น วรรณะ แค่คละนาม พลอยพึงคร้าม พรั่นใจ ใช่ชั้นชน ... จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 52 22:05:17

ความคิดเห็นที่ 33 แม่คลายพรั่น        บ่าวผู้ซื่อ       รำพึงถึง เศษเสี้ยวหนึ่ง       แม่หยิบยื่น     ค่ามหรรณ์ มณีใด                ค่ามิเทียม      ถ้อยจำนรรจ์ พลอยแม่กลั่น      เกริ่นเพียรทอ  สายใยใจ รูปในนอก           เพาะจากกล้า  ไร้มลพิษ อมฤต                เทพพรม         กล้าเติบใหญ่ อธิคม                เสกสรร          นอกดั่งใน หิริกะไหล่           หิรัณย์            กระฎุมพี จากคุณ : ท่าราชวงศ์ (ท่าราชวงศ์) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 11:32:11

ความคิดเห็นที่ 34 ฝากความรักแซมสายรุ้งค่ะ...k.ploy ให้สายรุ้ง จรุงแสง แจ้งความหมาย ทอประกาย เส้นสายใย ในรัก.."ฉัน" เจ็ดเฉดสี มีความหมาย คล้ายรำพัน เปล่งสีสัน บรรยายรัก ฝากถึง.."เธอ"...                                             ม่วง..สูงศักดิ์ เทิดรักไว้ ใส่พานพุ่ม                                             คราม..นวลนุ่ม รุ่มรึงฝัน มั่นเสมอ                                             น้ำเงิน..ชู  รักสุขุม ลุ่มหลง.."เธอ"                                             เขียว..พบเจอ "เธอ"..ชุ่มชื่น รื่นรักตาม... เหลือง..เรืองสุข สนุกสนาน ความสรรค์สร้าง แสด..ความหวัง ทั้งมวล ชวนหวิวหวาม แดง..แสงสุก ปลูกรัก สลักตาม ผืนฟ้าคราม ยามนี้...... มีรัก.......ฝากถึง.."เธอ"............... ขอให้มีแต่ความรัก.....รัก......รัก......รัก....รัก...ก....ก.....นะคะ k.ploy จากคุณ : สิริชน เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 52 11:29:05

ความคิดเห็นที่ 35 ล้วนความผิด    บ่าวก้าวร้าว    มิเจียมตัว นายขุ่นมัว       เบื่อสาสะ       หรือขอรับ ไม่ปรากฎ        ลายอักษร     พิมพ์สดับ สะท้อนทับ       อกเด็กท่าฯ    กระวนกระวาย วอนแม่พลอย   อย่าชิงชัง       เจ้าเด็กทาษ บริภาษ           ถืงลงทัณฑ์     โบยด้วยหวาย ให้สำนึก          ที่สูงต่ำ           พึงระอาย หวังเพียงนาย    คงถ่ายทอด     กลกวี จากคุณ : ท่าราชวงศ์ (ท่าราชวงศ์) เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 52 12:46:02

ความคิดเห็นที่ 36 สวัสดีค่ะคุณท่าราชวงศ์ ... คนขยัน (ประกาศยอมแพ้ความขยันดีไหมเนี่ย..) - พอดีติดภาระกิจนิดหน่อยค่ะ เลยมิได้มาทักทายค่ะ ... - แหม เขียนกลอนตัดพ้อต่อว่ากันเชียว ... นะคะเนี่ย ... วันนี้กลับมาแล้วล่ะค่ะ .... ................................................................................................ ...เปรียบประทินหินแร่แปรสภาพ ระลึกทราบตอบสนองมิล่องหน อ้างเหลื่อมล้ำต่ำสูงมาปรุงปน ชวนฉงนระคนร้าวให้บ่าวคอย... ...นามมณีมีสง่าเพียงหน้านอก เหลี่ยมคมดอกเจียระไนตามใช้สอย เสริมพละวาระเพริศจนเลิศลอย จึงได้พลอยเม็ดงามตามจงจินต์... ...เกล็ดสีแสงแวงวาบฉาบระยิบ เกินมือหยิบกะพริบรู้ ... เธอคือหิน แหล่งกำเนิดเปิดชีวีธุลีดิน ย่อมพร้อมยินยลเยี่ยมได้เทียมทัน... ...ไม่อาจหยิ่งชิงชังดังรังเกียจ ด้วยละเมียดละไม...ใช่เย้ยหยัน และน้อมนับรับพร้อมยอมแบ่งปัน ประกายสรรค์ให้ส่องถึงซึ่งคนเชย... ................. จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 52 15:07:16

ความคิดเห็นที่ 37 สวัสดีค่ะคุณหนุ่ย - เที่ยวเก่งจริงนะ ตัวแค่เนี๊ยะ น่าอิจฉาจริงๆ เลยค่ะ .. ว่าแต่เก็บทรายและ เปลือกหอยมาฝากกันหรือเปล่าคะ ... แต่ขอแค่กลิ่นอายก็พอนะ ... ส่งมา ทางกระแสจิตได้นะคะ ... ...เมื่อสายรุ้งจรุงคำย้ำสาดแสง ประกายแปลงสายใยให้เปิดเผย เฉกสีสันอันอิ่มพริ้มรำเพย บรรยายเอ่ยคำนั้น ..ฉันและเธอ... ...ม่วงชมช่อละอองชวนเย้ายวนจิต ครามนวลนิจนุ่มเนียนเวียนเสมอ น้ำเงินเข้มเต็มใจให้ละเมอ เขียวเสนอไอเย็นมิเว้นวาย... ...เหลืองผ่องใสฤทัยโล่งโยงทายทัก แสดสานหลักสลักใจให้มั่นหมาย แดงสดตราบกุหลาบพันธุ์จนบั้นปลาย ทั้งสิ้นสายเจ็ดพรายน้ำ ... ฉัน “รัก” เธอ... แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 52 16:56:49 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 52 15:25:48

ความคิดเห็นที่ 38 เริงร่าสราญรมณ์              พลอยนิยมคืนสู่เหย้า งามแสงคลายบรรเทา        สยบเงาเถาถั่วปรีดิ์ ยากพ้นราตรีหนึ่ง              เพ้อรำพึงท้วงวารี ปั้นปึ่งจามจุรี                    ก้ามปูพลีถูกจำจอง ปีกผีเสื้อพราวสี                กูลนรีจรัสปอง   ดอกเหมยเบียดสอดซอง    เจิดนวลผ่องม่วงอาภรณ์ เทพธิดาใต้หล้า                เย้ยทายท้าปวงภมร ไฉไลสโมสร                    ภาพบังอรข้อยบ่วาง จากคุณ : ท่าราชวงศ์ (ท่าราชวงศ์) เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 52 23:31:59

ความคิดเห็นที่ 39 ส่วนนี้ก็ ... ภาพงาม ... ความรัก ... จากคุณ : D_AkIrA เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 08:23:05

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบพระคุณสำหรับคะแนนทุกคะแนน , ตัวอักษรทุกตัวอักษรค่ะ รวมถึงทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ .................................................................... ...แว่วกระซิบละลิบซ้องทำนองหวาน             ***ตอบคุณ สิริชน*** ก้องกังวานซ่านซึ้งคำนึงหวน คัดสะเด็ดเมล็ดสายพันธุ์ไม้นวล แปลงดินร่วนพรวนพร้อมยิ่งผูกพัน... ...รดน้ำใจใสสะอาดปราศมัวหม่น ร่วมกุศลสกลรักจากสวรรค์ ลมหายใจนี้เพื่อกันและกัน กระซิบหวาน ... นิจนิรันดร์ ... ฉันรักเธอ ...ขนมหวานปานลิ้นมิสิ้นรส                     ***ตอบคุณ ท่าราชวงศ์*** เปรียบเปรยพจน์พี่ล้ำนำเสนอ ย่อมไร้หวานปานลิ้นชาชินเลอ เมื่อพลั้งเผลอขายเชื่อเจือขาจร... ...แม้นอาสาว่าไว้ให้หวานยิ่ง พิรุณกลิ้งบนใบบัวมัวสมร จำเนียรกาลผ่านโฉมตรูรู้ลุ่มดอน ยอมขายผ่อนขาประจำค้ำขาดทุน... ...เพลงทุกเพลงเปล่งคำย้ำว่ารัก               ***ตอบคุณ tongboy*** อย่างแน่นหนักด้วยเนื้อร้องคล้องจองหนุน ร้อยเรียบเรียงเสียงร้องก้องการุณย์ บรรเลงลุ้นอุ่นทำนองสนองความ... ...เนื้อเพลงโปรดโอดครวญชวนใจหวั่น บ้างเหมือนฝันพลันตื่นครื้นกลายหวาม ใครคนหนึ่งซึ้งอยู่เพียงครู่ยาม เหลือเพียงนามเพลงไว้ให้จดจำ... ...ใครโลเลเฉไฉอ้างไร้เหตุ                        ***ตอบคุณ ท่าราชวงศ์*** ใครแฝงเลศนัยป่วนปรวนถลำ หวานทั้งโลกหรือโศกคับแลกรับจำ จึงกระหน่ำคำหยอดให้บอดเมา... ...ใจก้อนนี้มีเนื้อมิเหลือนัก ด้วยถูกรักยักยอกมาตอดเร้า ใช่ยืนยงคงกระพันมิบรรเทา เพียงคำเว้าเศร้าแย้งการกระทำ... ...สัมผัสคล้อยรอยรักปักดวงจิต                       ***ตอบคุณ สิริชน*** พรหมลิขิตนิมิตไว้ให้ดื่มด่ำ กายและใจให้หยิบยื่นมิคืนคำ พิสุทธิ์ล้ำก่ำใสในอุรา... ...หากว่าใช่ใครแน่กระแสจิต พึงผูกมิตรพิศรักเพิ่มคุณค่า ด้วยเราสองลองจ้องผ่านแววตา กระซิบว่า ... จะรักมั่น ... นิรันดร.. ...ตะกอนหายละลายคั้นประกันหวาน               ***ตอบคุณ Argent*** พึงผสานพันผูกให้ถูกส่วน ค่อยคลุกเคล้าเข้าปั่นผลัดกันกวน รสชาติล้วนชวนลิ้มสุขอิ่มจัง... ...ตามตำราอาหารเชี่ยวชาญชด             ***ตอบคุณ พจนารถ๓๒๒ *** ทิพย์โอสถพจนารถปราชญ์วางผัง คหกรรมศาสตร์ล้ำเลิศประเสริฐดัง โองการขลังสะพรั่งห้วง ...จินตนา... สานต่อทอเสริมรัก..........มุเข็มปัก,สัก,สอย,คว้า    ***ตอบคุณ ท่าราชวงศ์*** เนา,เย็บ,ตะเข็บครา.........ขอฉันทามติครัน คนละไม้ละมือ...............ร่วมหารืออย่างสร้างสรรค์ ทอผ้าผืนเดียวกัน...........เส้นด้ายนั้นมั่นสายใย   ...กระซิบใยไฉนดังหวังทอต่อ คะเนพ้อพนอหาพาใจไหว แพรเพียงผืนยืนยันปั่นทรวงใคร ม้วนด้ายไนจักรกรอล้อรูปทรง... ...ดุจน้ำทิพย์วิบวับจับดวงจิต วันละนิดเปรยสนุกสุขเสริมส่ง เฝ้าแวะเวียนเพียรอ่านหวานบรรจง หวังส่งตรง ... ถึงผู้ให้ ... ได้เทียมกัน ... ...หยอดน้ำใจใสสว่างหยดวางเย้า หล่นเพียงเบา บนใบ กิ่งไกวผัน กลายเร่งเร้า เกลากลึง ครึ่งค่อนวัน ชุ่มถึงชั้น ไมตรี กระพี้แกน... ...บริสุทธิ์ สดุดี วารีสาย ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว เจ้าแบบแผน ทดสัญชาติ ทาสน้อม จอมดูแคลน ตีคะแนน สงสาร ตื้นนานเนา... ...หยอดน้ำใจ อุทัยฉ่ำ ดังคำหยาด มณีชาติ ไพลิน แค่หินเขา เทียมคำซึ้ง พึงย้ำ พร่ำกลั่นเกลา มีค่าเท่า เพชรหนึ่ง ซึ่งน้ำงาม ... ...เพียงรูปกาย ภายนอก ไม่บอกชัด จิตประหัต ภายใน ใคร่เกรงขาม ต่างชนชั้น วรรณะ แค่คละนาม พลอยพึงคร้าม พรั่นใจ ใช่ชั้นชน ... ...เปรียบประทินหินแร่แปรสภาพ ระลึกทราบตอบสนองมิล่องหน อ้างเหลื่อมล้ำต่ำสูงมาปรุงปน ชวนฉงนระคนร้าวให้บ่าวคอย... ...นามมณีมีสง่าเพียงหน้านอก เหลี่ยมคมดอกเจียระไนตามใช้สอย เสริมพละวาระเพริศจนเลิศลอย จึงได้พลอยเม็ดงามตามจงจินต์... ...เกล็ดสีแสงแวงวาบฉาบระยิบ เกินมือหยิบกะพริบรู้ ... เธอคือหิน แหล่งกำเนิดเปิดชีวีธุลีดิน ย่อมพร้อมยินยลเยี่ยมได้เทียมทัน... ...ไม่อาจหยิ่งชิงชังดังรังเกียจ ด้วยละเมียดละไม...ใช่เย้ยหยัน และน้อมนับรับพร้อมยอมแบ่งปัน ประกายสรรค์ให้ส่องถึงซึ่งคนเชย... ...เมื่อสายรุ้งจรุงคำย้ำสาดแสง                         ***ตอบคุณ สิริชน*** ประกายแปลงสายใยให้เปิดเผย เฉกสีสันอันอิ่มพริ้มรำเพย บรรยายเอ่ยคำนั้น ..ฉันและเธอ... ...ม่วงชมช่อละอองชวนเย้ายวนจิต ครามนวลนิจนุ่มเนียนเวียนเสมอ น้ำเงินเข้มเต็มใจให้ละเมอ เขียวเสนอไอเย็นมิเว้นวาย... ...เหลืองผ่องใสฤทัยโล่งโยงทายทัก แสดสานหลักสลักใจให้มั่นหมาย แดงสดตราบกุหลาบพันธุ์จนบั้นปลาย ทั้งสิ้นสายเจ็ดพรายน้ำ ... ฉัน “รัก” เธอ... จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 10:30:41

ความคิดเห็นที่ 41 "...สร้อยดอกรักถักร้อยด้วยพลอยสี คล้องใจพี่ที่จรุงดั่งรุ้งฉาย " แจ่มครับ นึกว่าอ่านบทกวีของครูเนาวรัตน์ฯ ยุคเริ่มแรกอยู่ อิอิ ไม่ค่อยได้เข้าเน็ตเท่าไหร่ มาอีกทีก็ตะลึง น้องพลอยแต่งกลอนได้ไพเราะมากครับ ขอชมด้วยใจจริง ยังไม่มีกลอนมาฝาก ติดไว้คราวหน้าละกันครับ จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 08:03:03

ความคิดเห็นที่ 42 สวัสดีค่ะ พี่ศาลายา ... ขอบพระคุณมากค่ะ ที่เข้ามาเยี่ยมชมในกระทู้ของพลอยค่ะ .. พลอยเองก็ระลึกเสมอค่ะ ว่าเคยได้รับคำแนะนำดีๆ จากพี่ในเรื่องโคลง,กลอนค่ะ ถ้าการเขียนของพลอย จะพัฒนาขึ้น ... พี่ศาลายาก็มีส่วนช่วยด้วยนะคะพี่ ... ... ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ ... จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 19:08:25