"เสือจอม"...เรื่องสั้น action drama ครับ
|
|
เสือจอม
เพียงสิบห้านาทีหลังจากได้พูดคุยกับสารวัตรธนู ผมนั่งบังคับพวงมาลัยอยู่ในรถด้วยชุดตำรวจนอกเครื่องแบบ บรรยากาศช่วงหน้าหนาวในคืนเดือนมืดไม่ได้ทำให้ผมเกิดอารมณ์สุนทรี ชื่นชมความงามของดวงดาวที่แปล่งแสงระยิบล้อลมหนาวในคืนนี้แต่อย่างใด จิตใจร้อนรนกระสับกระส่าย เพียงต้องการให้ถึงที่หมายโดยเร็ว
เสือจอมเคลื่อนไหวแล้ว สายของเรารายงานว่ามันกับพวกนี่ล่ะที่ก่อคดีปล้นและฆ่ากำนันเบิ้ม ผมยกคดีนี้ให้คุณนะ ผู้กอง สารวัตรธนูมอบหมายหน้าที่ติดตามจับกุมเสือจอมให้กับผม ตลอดหลายปีมานี้ ไม่ว่าจะคดีเล็กหรือใหญ่ ฆาตกรรม ปล้นชิงทรัพย์ ข่มขืนกระทำชำเรา หากผมเป็นคนจัดการด้วยตัวเองแล้ว เชื่อขนมกินได้เลยว่า ปิดคดีลงอย่างง่ายดายแน่นอน ไม่แปลกใจเลยที่คดีเสือจอม โจรที่ใครๆต่างพากันโจษจันถึงอิทธิฤทธิ์และปาฏิหาริย์ว่าล่องหนหายตัวได้เหมือนพ่อมด จะมาอยู่มือผมในเวลานี้
ชีวิตตำรวจของผมเปรียบไปก็เหมือนหนังแอ็คชั่นดราม่าดีๆนี่เอง ผมใช้เวลาจับปืนและเหนี่ยวไกมากกว่าเพื่อนร่วมรุ่นที่จมกับกองเอกสารคดีต่างๆ หลายเท่านัก ด้วยฝีมือการยิงปืนและมันสมองชั้นดี บวกกับความบ้าระห่ำทำให้ผมลงปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามอย่างเอาเป็นเอาตาย แฝงตัวไปเป็นสายตามซ่องโจรต่างๆก็หลายปี มองเห็นเพื่อนตำรวจที่ถูกจับได้ตายไปทีละคนสองคน ขณะเดียวกันก็มองดูเพื่อนตำรวจบางคนที่วันๆไม่ทำอะไรนอกจากเลียแข้งเลียขานายจนได้เลื่อนขั้น เป็นสารวัตร เป็นผู้กำกับ นานวันเข้าก็ท้อแท้ คิดจะลาออกอยู่หลายครั้ง แต่เมื่อมองรูปถ่ายที่ติดอยู่ข้างผนังทีไรก็เป็นต้องล้มความตั้งใจทุกที รูปที่แม่ยืนยิ้มน้ำตาคลอเมื่อวันที่ผมใส่ชุดตำรวจครั้งแรก
แม่อยากให้ผมเป็นตำรวจ.....ตำรวจที่คอยปกป้องอีกทั้งยังเป็นที่พึ่งของประชาชนและนั่นคือสิ่งที่ผมพึงระลึกมาตลอดสิบห้าปีในเครื่องแบบของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
ผมตะบันเท้าเหยียบคันเร่งจนมิด นาฬิกาบอกเวลาสี่ทุ่มครึ่ง รถบนท้องถนนยามนี้มีไม่มากนัก เนื่องด้วยไม่ใช่ถนนสายหลัก มองกระจกหลัง ไฟจากรถกระบะที่แซงมาเมื่อครู่นี้กลืนหายไปความมืดแล้ว แสงสว่างอื่นมีเพียงไฟสลัวจากท้ายรถบรรทุกที่วิ่งเอื่อยเฉื่อยอยู่ข้างหน้าระยะไม่เกินสามสิบเมตร ซึ่งผมกำลังจะแซงหน้าไปในอีกไม่กี่วินาทีนี้ รู้สึกถึงความชุ่มเปียกของเหงื่อจากมือทั้งสองข้างที่กำแน่นอยู่กับพวงมาลัย อาการกระสับกระส่ายในเวลานี้ ทำให้ผมนึกถึงการไล่จับคนร้ายครั้งแรกในชีวิตตำรวจ ผมขับรถกระบะไล่บี้คนร้ายที่เพิ่งได้รับรายงานว่าปล้นร้านทองมาหยกๆ ตำรวจนายหนึ่งวิทยุบอกพิกัดให้ทราบว่ามันกำลังมุ่งไปทางเดียวกันกับผม คะเนได้ว่ามันคงนำหน้าผมในระยะไม่เกินห้าร้อยเมตร ผมบึ่งรถตามทันที และก็เป็นจริงดังนั้น ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบห้า สะพายกระเป๋าเป้สีดำ และเลขทะเบียนรถตรงตามที่วิทยุรายงานมา ภาพของคนร้ายตัวเป็นๆอยู่ห่างจากรถที่ผมขับอยู่เพียงไม่กี่หลา หัวใจผมเต้นไม่เป็นส่ำ เหงื่อผุดเม็ดโชกทั่วใบหน้าจนถึงแผ่นหลัง ในใจคิดสารพัด จะยิงขู่มันดีไหม ต้องยิงขู่ขึ้นฟ้ารึยิงที่รถมันดี ไม่กี่อึดใจต่อมารถกระบะที่ผมขับอยู่ก็ถูกไอ้หนุ่มคนนั้นสอยเข้าที่ล้อด้านคนขับสองนัด รถเสียหลักพุงชนป้ายข้างทาง โจรหนีรอด และนั่นก็เป็นเพียงครั้งเดียวที่ผมจับคนร้ายไม่ได้ หลังจากนั้นเป็นปิดได้ทุกคดี
ผมหักพวงมาลัยเลี้ยวซ้าย วิ่งตามถนนลูกรังขรุขระ สองข้างทางมืดสนิท อย่าว่าแต่ข้างทางเลย มองเพ่งไปข้างหน้าก็ยากจะคาดเดาได้ว่าจะมีแสงสว่างแรกโผล่มาเมื่อไหร่ ลักษณะของถนนคล้ายกับมีลูกอุกาบาตตกกระหน่ำใส่จนพื้นเป็นหลุมโดยทั่ว ต้นไม้น้อยใหญ่สองข้างทางลู่ตามแรงลมหนาว มองผาดๆคล้ายกับมือของปิศาจกวักเรียกอยู่ในที มีอยู่ช่วงหนึ่งสติของผมหล่นวูบ เมื่อเห็นใบหน้าของใครคนหนึ่งแสยะยิ้มให้ มันมีแต่หัวและหัวของมันก็ใหญ่ผิดวิสัยมนุษย์ ใบหน้าของมันตระหง่านอยู่ข้างหน้า ผมตัวแข็งทื่ออยู่พักหนึ่งก่อนที่รถจะเคลื่อนเข้าไป ใกล้พอที่จะรู้ว่ามันคือป้ายหาเสียงของนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งเมื่อหลายปีที่แล้วถูกทิ้งไว้ข้างทาง แม้จะรู้ว่าเป็นเพียงป้ายแต่ใบหน้าของมันก็ยังน่ากลัวอยู่ดี หากทีมงานสร้างหนังสร้างละครแนวสยองขวัญมาพบกับถนนสายนี้เข้าคงถูกอกถูกใจเป็นแน่แท้ เพราะมันชวนขนหัวลุกจริงๆ แม้ใจอยากจะเพิ่มความเร็วของรถ แต่หน้าปัดก็ค้างอยู่ที่สามสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้ามากกว่านี้อะไหล่รถคงจะถูกสั่นคลอนถึงขั้นหลุดตามสภาพถนนเป็นแน่ ผมนั่งโงนเงนอยู่ในรถนานพอดู จนรถแล่นมาถึงบ้านไม้สองชั้นหลังหนึ่ง ตั้งตระหง่านกลางป่าอย่างโดดเดี่ยว ผมดับเครื่องรถ คลำดูที่เอว ปืนคู่ใจวางตัวอยู่เช่นเคย ไฟชั้นสองดับวูบลง มีเงาตะคุ่มเคลื่อนไหวภายในบ้าน ผมเดินอย่างช้าๆไปที่ประตู อาการร้อนรนที่ก่อกวนมาตลอดทางหายไปแล้วแต่มีอากาศหนาวยะเยือกเข้ามาแทน กลิ่นเหม็นเน่าชวนอาเจียนลอยฟุ้งมาจากทางด้านหลัง จู่ๆเสียงหมาหอนก็ดังขึ้น ผมรีบเปิดประตูเข้าไปในบ้าน
หวัดดีครับ แม่ ผมกล่าวทักทาย แม่ยิ้มตอบกินข้าวมารึยังล่ะเราแม่ทำจมูกฟึดฟัดเหมือนคนเป็นหวัด ผมส่ายหน้ายิ้มแห้ง อยากอาบน้ำเต็มชำระร่างกายเต็มแก่ พลันหันไปเห็นชายคนหนึ่งเดินออกมา
ว่ายังไง ผู้กองมือปราบ เสือจอมเอ่ยขึ้น หวัดดีครับ พ่อเดี๋ยวผมมา ผมทักตอบ หวัดดีพี่ เฮ้ย!!! พี่เอกขี้แตกนี่หว่า ไอ้อ๊อดน้องบังเกิดเกล้าเอ่ยทัก ไอ้นี่!!! รู้งี้กูยิงไส้แตกตั้งแต่ครั้งมันปล้นร้านทองแล้ว ไม่ปล่อยให้มันยิงล้อรถแล้วหนีไปง่ายดายอย่างนั้นหรอก แล้วก็ไม่ใช่ผู้กองคนนี้หรอกหรือที่คอยให้ข่าวกับเสือจอม เสือที่ใครเค้าว่ามีเวทย์มนต์คาถา ได้หนีรอดจากตำรวจทุกครั้งไป :-) กูรีบมาดูพ่อหรอก อั้นมาตั้งแต่โรงพักแล้ว ผมพูดกลั้วเสียงหัวเราะ ก่อนเดินปรี่เข้าห้องน้ำ .....................................................................................
ขอบคุณมากครับ km_kee@hotmail.com
จากคุณ |
:
pldf
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ต.ค. 52 01:33:10
|
|
|
|