Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
คัมภีร์กฤตยามนตร์  

บทที่ 1-2

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8226580/W8226580.html

บทที่ 3 เจ้าชายสองพี่น้องจากเมืองลับแล

“เอาล่ะ  วันนี้พอแค่นี้ก่อน”

ฤๅษีอังคตกล่าวอย่างอารี  ลูกศิษย์ทำความเคารพอาจารย์อย่างนอบน้อมก่อนจะหันหลังเดินไปอีกทาง  กรรณาภรณ์  ปิ่นสุวรรณ รัตนมณี ชวนกันคุยฟุ้งถึงวิชาที่ได้ร่ำเรียน  อมรสิงห์เดินไปฟังไปอย่างมิได้ใส่ใจนัก    ดวงตาทอดมองไปยังไพรสัณฑ์ที่ทอดไกลสุดสายตา  ใจนึกถึงเพื่อนอีกคนหนึ่งที่มิได้อยู่ร่วมด้วย

“วันนี้ท่านตาฝึกพวกเราหนักกว่าทุกวันนะ  ว่าอย่างนั้นไหม?” เสียงปิ่นสุวรรณบ่นเรื่อยเปื่อย “ไม่รู้ว่าป่านนี้จันทรรัตน์ฝึกวิชาไปถึงไหนแล้ว”

เขาทำท่าเหมือนนึกขึ้นได้

“นั่นสินะ  ช่วงนี้จันทรรัตน์ไม่อยู่  ข้าจึงมิได้ยินเสียงแว้ดๆของนางกับปิ่นสุวรรณ ป่าแถบนี้เงียบสงบลงเยอะเลย ว่าไหม?”

“ถูกของเจ้า  ในโลกนี้คงไม่มีใครกล้าต่อปากต่อคำกับปิ่นสุวรรณได้เท่านางอีกแล้ว”

รัตนมณีช่วยผสมโรง ผู้ถูกนินทาหันกลับมาโวยวายใส่

“อย่ามามองข้าอย่างนี้สิ  ข้ากับนางทะเลาะกัน  ก็ต้องบอกผิดทั้งสองฝ่ายมิใช่รึไง?”

“แต่เท่าที่พวกเราเห็น  มีแต่เจ้านั้นแหละที่เป็นฝ่ายยั่วโมโหนางก่อน”

กรรณาภรณ์เอ่ยตรงๆ  อมรสิงห์พยักหน้าเห็นด้วย  อีกฝ่ายแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ด้วยความคึกคะนอง  ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าใดนิสัยช่างแกล้งยียวนกวนโทสะของนางก็ยังคงแก้ไม่หาย

เดินมาถึงมุมสงบใต้ร่มไทรซึ่งห้อมล้อมไปด้วยไพรพฤกษาน้อยใหญ่เป็นบริวารอันเป็นถิ่นที่จับจองไว้นับแต่วันแรกที่เข้ามาในสำนัก  หลังจากฝึกวิชาศาสตราวุธแล้วพวกเขามักจะมาบำเพ็ญเพียรเพื่อฝึกฝนจิตใจอยู่ที่นี้เสมอ  หากแต่พักหลังมานี้เหลือเพียงพวกเขาสี่คนเท่านั้นที่ยังอยู่ที่นี้  ส่วนจันทรรัตน์นั้นต้องแยกตัวออกไปอยู่ตามลำพัง  เพื่อมิให้มีสิ่งใดรบกวนอันจะเป็นอุปสรรคในการฝึกวิชาของนางตามคำสั่งของผู้เป็นอาจารย์  แต่ละเดือนมีเพียงสองวันเท่านั้นที่นางจะได้กลับมาอยู่ร่วมกับพวกเขา  นี้ผ่านมาหลายวันแล้วเขายังมิเห็นวี่แววของนางกับเจษฎาที่ไปด้วยแม้แต่น้อย

“แล้วศิษย์พี่จะกลับมาด้วยหรือเปล่านะ?”

กรรณาภรณ์ถามอย่างไม่แน่ใจ  ด้วยเจษฎานั้นมักชอบปลีกวิเวกอยู่ตัวคนเดียวเสียมากกว่าการอยู่ร่วมสรวลเสเฮฮากับพวกนาง  แต่ถึงแม้เป็นเช่นนั้นเขาก็ยังมีความรับผิดชอบมากพอที่จะทำถึงสองหน้าที่พร้อมกันได้

“จะว่าไปศิษย์พี่ก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ”

รัตนมณีเอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวานสดใส  เห็นได้ชัดว่านางสิ้นความกินแหนงแคลงใจแล้ว  สายตาของนางยามนี้มีแต่เคารพเทิดทูนในศิษย์พี่แทบจะยอมเชื่อฟังทุกอย่างก็ว่าได้  

“อ๋อ เหรออออ... ?”

อมรสิงห์ถามพลางหรี่ตามองอย่างกังขา   ก็พวกนางมิใช่รึที่เคยสงสัยศิษย์พี่อย่างออกหน้า  ไม่ไว้ใจถึงขนาดตามสะกดรอยทุกอิริยาบถอยู่นานนับเดือน  แต่พอมิพบพิรุธใดก็กลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือหันมาชื่นชมเสียอย่างนั้น  ขึ้นชื่อว่าสตรีนี้ช่างเป็นสิ่งที่เข้าใจยากเสียจริง

“อย่ากังวลเกินเหตุไปหน่อยเล้ย  คิดว่าศิษย์พี่เป็นใครกัน?  จันทรรัตน์ก็อีก  อย่างพวกเขาไม่มีใครทำอันตรายได้หรอก”

ปิ่นสุวรรณฉีกยิ้ม  เชื่อว่าทั้งสองแข็งแกร่งพอ  ไม่มีทางตกเป็นเหยื่อให้ตัวอันตรายที่ไหนเข้ามาเหยียบได้ง่ายๆ  มีแต่พวกที่เข้ามายุ่มย่ามเท่านั้นแหละที่หาเรื่องใส่ตัว  

“นั่นสินะ  ป่านนี้คงกำลังฝึกวิชากันอยู่กระมัง  พูดก็พูดเถอะ  ตั้งแต่คบหากันมาศิษย์พี่ก็เป็นคนเงียบๆ  มิค่อยช่างพูดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว   จันทรรัตน์ก็เป็นพวกเดียวกันกับเขานั้นแหละ  ต่างฝ่ายต่างไม่พูด   ตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด  เพราะเหตุนี้จึงเข้ากันได้ดียิ่งกว่าใคร”

รัตนมณีกล่าวด้วยใจเป็นกลาง  

“บางทีอดีตของพวกเขาอาจอ้างว้างโดดเดี่ยวเหมือนกันก็เป็นได้”

อมรสิงห์เปรียบเปรย  เขายังจดจำอดีตของเพื่อนสาวได้ดี

จันทรรัตน์นั้นมีพลังบางอย่างติดตัวมาแต่กำเนิด  ทำให้นางสามารถล่วงรู้เหตุการณ์อันใกล้และยังอาจสามารถล่วงรู้ถึงความรู้สึกนึกคิดแม้เพียงปลายนิ้วสัมผัส  แม้นว่านางจะไม่เคยใช้พลังนั้นโดยเจตนาก็ตาม  แต่มิตรสหายล้วนประหวั่นพรั่นพรึงในพลังอันเหลือล้นนั้น  ต่างพากันตั้งแง่เดียดฉันท์นางราวกับนางมิใช่พวกพ้อง  ไม่ว่าไปแห่งหนใดล้วนมีแต่สายตาที่มองมาด้วยความหวาดหวั่นปนริษยาที่นางเหนือกว่า  มีเพียงพวกเขาที่ยอมรับนางเป็นเพื่อนอย่างเต็มใจ  หาได้ใส่ใจว่านางเป็นใครมาแต่ไหน  หรือน่ารังเกียจแต่ประการใดเลย

เจษฎาก็คงเป็นดุจเดียวกัน  

“ศิษย์พี่กับจันทรรัตน์มีหลายสิ่งที่เหมือนกัน  ข้าสัมผัสได้ตั้งแต่วันแรก  พลังของศิษย์พี่มีมากเกินกว่าเราเห็นมากมายนัก  แล้วไหนจะรูปร่างหน้าตา  เหมือนกันราวกับพี่น้องกันก็ว่าได้”

“ข้าก็คิดเช่นนั้น” กรรณาภรณ์เอ่ย  แววตาของนางเปี่ยมด้วยความเห็นใจ “พวกเขาคงเคยประสบทุกข์จากความอิจฉาริษยามาก่อน  จิตใจจึงเต็มไปด้วยความหวาดระแวง”

กรรณาภรณ์นึกถึงความสัมพันธ์ของทั้งสอง  เจษฎาเป็นชายหนุ่มรูปงาม สุขุม  เยือกเย็น  แต่แฝงความอ่อนโยน  เข้มแข็ง  และมีความเป็นผู้นำ  ส่วนจันทรรัตน์นั้นก็งดงามไม่น้อย  ทั้งสองมีความเหมือนกันอย่างน่าประหลาด  อีกทั้งนางยังเห็นความผูกพันราวกับมีสายใยบางเชื่อมทั้งสองไว้อย่างลึกซึ้งเกินกว่าจะพรรณนาเป็นถ้อยคำได้  

....ศิษย์พี่ทั้งรักทั้งเอ็นดูนางที่สุด  ไม่มีทางปล่อยให้ใครมาทำร้ายนางอยู่แล้ว  บางที่ศิษย์พี่อาจชอบนางก็เป็นได้...

จากคุณ : นักเขียนลึกลับ
เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 52 21:21:37




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com