Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บลูเบอรี่เค้ก 2  

2
ในโลกที่ทุกอย่างเคลื่อนไหวรวดเร็ว รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง กวินท์พอใจที่จะได้ละเลียด ค่อยๆ พูดคุย ทำความรู้จัก และแค่ได้รู้สึกว่ามือเรียวนุ่มสัมผัสหลังมือเขานิดหนึ่ง ก็มีความหมายมากเหลือเกิน

เป็นครั้งแรกที่กวินท์ยังไม่อยากกลับ...แต่งานที่ออฟฟิศรออยู่อีกมากมาย เขาจึงต้องโบกมือลา นิอรพยักหน้ารับโดยไม่ได้ตอบอะไร เพราะเธอกำลังยุ่งกับการบดเมล็ดกาแฟรอบใหม่

วันรุ่งขึ้น กวินท์พบว่าเขามาถึงร้านตั้งแต่เก้าโมงเศษ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องรีบมา คิดแค่ว่าอยากเห็นหน้านิอรเร็วๆ เท่านั้น

แต่สิ่งที่เขาเห็นก็ทำให้ควันออกหู

ในร้านไม่ได้มีแค่ร่างบางของหญิงสาว แต่ยังมีหนุ่มหล่อคมเข้มตัวโตยืนอยู่ด้วย!!! หมอนั่นเป็นใครกัน กวินท์ผลักประตูกระจกเข้าไปด้วยท่าทางราวกับเป็นเจ้าของร้าน

“คุณวินท์ ร้านยังไม่เปิดเลยค่ะ” นิอรร้องทักก่อนจะหันไปหาชายหนุ่มคนนั้นอีกครั้ง

“ยังไม่เปิดแล้วผมเข้ามาไม่ได้หรือ” นัยน์ตาสวยที่ปรายมาเริ่มจะฉายแววขวาง ปลายจมูกย่นนิดๆ หน้ามุ่ยริมฝีปากยื่นราวกับเด็กขี้โมโห

“ได้ค่ะ...ได้” นิอรงง ไม่เคยเห็นเขาเหวี่ยงมาก่อนเลยรีบเอาใจ “นั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวทำกาแฟให้”

คนหน้างอเดินไปทิ้งตัวบนโซฟา กอดอกจ้องแบบไม่ให้คลาดสายตา

“เนี่ยค่ะ ตอนนี้เหมือนไม่ค่อยเย็น ไฟก็ไม่สว่าง” นิอรชี้

คนซ่อมตู้ขนม? ใบหน้าที่ขมวดมุ่นเริ่มคลายกลายเป็นท่าทีเก้อเขิน นี่เขาหึงคนซ่อมตู้ขนมก็ได้ด้วย? แต่มองดูอีกที หมอนี่ก็ไม่น่าไว้ใจ ทำไมบริษัทตู้แช่ต้องจ้างคนหน้าตาดีหุ่นนายแบบขนาดนี้ด้วย แล้วมาอยู่กับนิอรสองต่อสอง...

ช่างผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่จดรายละเอียดก่อนจะบอกว่า “ผมเปลี่ยนหลอดไฟเติมน้ำยาให้แล้วนะครับ ถ้ายังมีปัญหาก็โทรเรียกผมได้ตลอด ช่วยเซ็นชื่อด้วยครับ”

“ขอบคุณค่ะ” นิอรยิ้มแบบที่กวินท์รู้สึกว่าหวานเกินไปหน่อย “ฝากบราวนี่ไปชิมนะคะ”

ทำไมต้องให้ขนม!!! คนมองควันออกหูจริงๆ แล้วคราวนี้ แต่ไม่ยอมพูดอะไร เสไปเปิดคอมพิวเตอร์ทำงานทั้งที่หน้างอหงิก

ตลอดสองชั่วโมงที่อยู่ในร้าน กวินท์แค่สั่งโทสต์อบเนยใส่ไอศกรีมกับน้ำเชื่อมเมเปิ้ล และคาปูชิโน่ โดยไม่พูดไม่คุย และไม่ลุกขึ้นช่วยงาน นิอรอุตส่าห์ตัดเค้กบลูเบอรี่ที่เพิ่งหัดทำใหม่ไปวางให้ เขาก็ยังไม่มีปฏิกริยา แถมชิมไปแค่ครึ่งชิ้นก็วางส้อม จนคนทำต้องปลอบใจตัวเองว่าเขาอาจจะอิ่มจากโทสต์ก็ได้

แต่ก่อนลากลับ เขาตัดสินใจเด็ดขาดว่า จะต้องก้าวไปอีกขั้น ปล่อยไว้อย่างนี้ เดี๋ยวคนอื่นก็มาฉวยนิอรไปก่อนจนได้

“เย็นนี้ทานข้าวด้วยกันไหม” เขาถามดื้อๆ
“อะไรนะคะ” นิอรกำลังช่วยเด็กเลือกเค้ก เลยฟังไม่ถนัด
นี่เขาต้องชวนซ้ำใช่ไหม “ไปทานข้าวกันนะ”
“ร้านในศูนย์นี้นะคะ” ถ้าให้ไปไกล เธอก็ยังไม่กล้าอยู่ดี

“ก็ได้” เขาตอบเสียงห้วนกว่าปกติ “ร้านอิตาเลี่ยนตรงหัวมุมนั่น หกโมงครึ่งผมจะมารับ”

มารับ...นิอรเกือบยิ้ม แค่พาเดินจากร้านนี้ไปตรงหัวมุม เขาเรียกมารับแล้วหรือ ว่าแต่ นี่เขาชวนเธอไปเพราะอะไร เห็นว่าเธอไม่ค่อยได้ไปไหน หรือว่าวันนี้ไม่มีเวลาคุยกัน

แต่ก็ช่างเถอะ ลองออกไปสักครั้ง ถึงอย่างไร เขาก็เป็นเพื่อนคนเดียวที่มีอยู่ในตอนนี้

นิอรไม่ใช่ผู้หญิงเก็บตัว และพอมีเพื่อนสนิทอยู่บ้าง แต่ความที่ร้านอยู่ชานเมือง และแต่ละคนก็มีภาระหน้าที่ เลยไม่ค่อยได้พบปะสังสรรค์กัน คุณพ่อคุณแม่ที่เกษียณแล้วก็เหมือนมีโลกส่วนตัวของท่าน อย่างช่วงนี้ ก็ไปทัวร์กับเพื่อนรุ่นเดียวกัน ท่านคงเห็นว่านิอรโตมีร้านของตัวเองแล้ว เลยไม่เป็นห่วงเท่าไหร่

บางที เธอก็เลยเหงาบ้างเหมือนกัน

จากคุณ : ยูสุ
เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 12:03:29 A:125.24.98.178 X: TicketID:114273




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com