Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สองเล่ห์เสน่หา  

“พี่ภัคมาแล้ว”
สาวน้อยหน้าตาน่ารักที่วิ่งมาหาเค้า เผยให้เห็นดวงหน้าที่แต่งแต้มด้วยคิ้วโค้งมนรับกับดวงตาที่ซุกซนตลอดเวลา ที่มองทีไรก็เข้ากับจมูกที่เชิดและริมฝีปากที่แต้มด้วยลิปสีใสวาบวับบนใบหน้าที่ขาวเนียนราวกับภาพวาดของจิตรกรฝีมือดีที่บรรจงวาดขึ้นให้จับใจคนมอง วิ่งเข้ามาโน้มกอดคอเค้าตามด้วยหอมแก้มสากๆที่พึ่งได้รับการโกนหนวดมาไม่นานนี้
“ว่าไงเด็กน้อย” เค้าทักเธอ “รู้ไหมว่าพ่อแม่เรียกพี่กลับมาด่วนมีเรื่องอะไร” ภัคไนยก้มลงไปหอมแก้มนวลของคนที่เค้าเรียกว่าเด็กน้อย
“ไม่รู้...แล้วก็ไม่น้อยแล้วนะ ดูสิโตเป็นสาวแล้วด้วย พิณไม่รู้ว่าคุณลุงคุณป้าพี่ภัคเรียกตัวกลับมาทำไม รู้แต่ว่าพิณต้องมารับพี่ชายกลับบ้าน”
หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าเด็กน้อยสวนทันควันพร้อมกับหมุนตัวหนึ่งรอบ ‘ใช่สิ เธอไม่ใช่เด็กแล้ว เธอโตเป็นสาวแล้ว แถมสวยอีกต่างหาก’
“พี่ภัคค่ะ พี่ภัค” พิณนาราเรียกเค้าให้ตื่นจากภวังค์
“ครับ...ครับ เรียกพี่เหรอ” ภัคไนยสะดุ้งเล็กน้อย
‘ภัคไนย’ เป็นลูกชายคนเล็กของคุณประภงษ์และคุณภีทรา เพชรสยามวารี เจ้าของโรงแรมวารีนาชื่อดังที่ไม่มีใครสู้ได้อยู่ในตอนนี้และกำลังเจริญรุ่งเรือง เค้ามีอายุประมาณ 27 ปี ภัคไนยบินไปเรียน บริหารเกี่ยวกับการโรงแรมเพื่อกลับมาบริหารโรงแรมในเครือวารีนา
“ใช่สิค่ะ เห็นพี่เงียบ เรากลับกันเถอะค่ะ คุณลุงกับคุณป้ารออยู่ที่บ้าน”
พิณนาราเดินนำหน้าชายหนุ่ม พิณนารามีหน้าที่มารับภัคไนยจากสนามบินในฐานะว่าที่คู่หมั้น โดยเค้าและเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลย เพราะผู้ใหญ่ทั่งสองฝ่ายเป็นคนจัดการ
“พี่ภัคซื้ออะไรมาฝากพิณมั่ง” หญิงสาวแบมือเพื่อรอของฝากหลังจากขึ้นรถที่ทางบ้านส่งมารับแล้ว
“นี่สิของฝาก” ชายหนุ่ม ตีไปที่มือของพิณนารา เป็นการหยอกล้อ
“โอ๊ย!...เจ็บนะ พี่ภัคชอบแกล้งพิณอยู่เรื่อยเลย” หญิงสาวนั่งกอดอกหันหน้าหนีเป็นการแสดงว่าเธองอนเค้า

“ถึงแล้ว ถึงแล้ว” หญิงสาวพูดขึ้นก่อนที่จะลงไปเปิดประตูรถให้ภัคไนย “เชิญค่ะ คุณผู้ชาย” หญิงสาวผายมือออกโค้งตัวเล็กน้อยเหมือนพนักงานบริการที่โรงแรมของชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับสาวน้อย” ภัคไนยบอกขอบคุณแล้วหอมแก้มพิณนาราหนึ่งทีแสดงความรักที่พี่ชายคนหนึ่งจะมอบให้น้องสาวเท่านั้น
“นี่...ตาภัค น้องเขาไม่ใช่เด็กแล้วนะ ถึงจะมาหอมแก้มกันได้” คุณกานดาติแบบหยอกล้อชายหนุ่มเล่น
“สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่ คุณลุง คุณป้า” ชายหนุ่มไหว้ทักทาย แล้วเดินมาโอบกอดคุณภีทรา และ คุณประภงษ์
“ดูสิกานดา ทีฉันนะไม่ยักหอม ทีสาวๆล่ะก็หอมจังเลยนะแก้มนะ” คุณภีทราพูดประชดบุตรชาย
“โธ่ คุณแม่ครับ อย่างอนสิครับ ผมหอมแล้วนะ” ว่าแล้วเค้าก็ยื่นหน้ามาหอมแก้มมารดา กับคุณกานดา ผู้ที่มีศักดิ์เป็นเพื่อนสนิทของมารดา ที่เลี้ยงเค้ามาตั้งแต่เล็กก่อนที่คุณกานดาจะแต่งงานแล้วมีลูก คือ ‘ยัยพิณจอมจุ้น หรือพิณนารา’ เธอเป็นลูกสาวเล็กของคุณกานดากับคุณพจน์ อนันต์เมษ เจ้าของธุรกิจส่งออกจิวเวอร์รี่รายใหญ่ที่สุดในเมืองไทย เธอมีพี่สาวอีกคน พี่สาวเธอไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่อายุ 7 ปีไม่เคยกลับมาเมืองไทยเลย จนอายุตอนนี้ก็น่าจะประมาณ 24-25 ปีแล้ว พิณนารายังติดต่อกับพี่สาวที่หน้าตาคล้ายเธอยังกับเป็นคน ๆเดียวกัน ตลอดเวลาพี่สาวเธอไม่คิดที่จะกลับมาเมืองไทยเลย แล้วคุณกานดากับคุณพจน์ ก็ไม่เคยเป็นห่วงเธอเลยเพราะเธอไปอยู่ที่โน้นกับป้าของเธอ แล้วก็ไม่ค่อยได้พูดถึงเรื่องลูกสาวคนโตเท่าไรนัก เพราะรู้ว่า ‘พิมวารี อนันต์เมษ’ คงไม่กลับมา จนกว่าพ่อแม่จะเสียชีวิตมั่ง คุณกานดามักจะบ่นแบบนี้ทุกครั้งที่นึกถึงพิมวารีแบบอาการน้อยใจ
“นี่ตาภัค พ่อว่าเราเข้าบ้านกันเถอะ ไปคุยกันหน่อย” คุณประภงษ์พูดขึ้น
“จริงด้วยค่ะ พิณเมื่อยขาแล้ว”
หญิงสาวเดินไปคล้องแขนชายหนุ่มกึ่งจูงกึ่งลาก (หัวแทบขมำนี่นะ กึ่งจูงกึ่งลาก คิดได้ไงเนี่ยนักเขียน: ภัคไนยฝากมา) เข้าบ้าน ภัคไนยรีบเดินเข้าไปในครัวก่อน ชะโงกหน้าทักแม่บ้าน
“หวัดดีครับป้าอ่อน” ชายหนุ่มเดินเข้าหอมแก้มแม่บ้าน
“คุณภัคนี่ ถ้าป้าหัวใจวายเพราะหนุ่มหล่อมาหอมแก้มจะทำไงค่ะ”
ป้าอ่อนหันมากอดเค้าพร้อมด้วยตีแขนอันกำยำของลูกชายเจ้าของบ้านหลังนี้ ป้าอ่อนยอมรับว่าลูกชายบ้านนี้หล่อเหลาเอาการเพราะได้ความหล่อเหลามาจากบิดามารดาโดยแท้ไม่ว่าจะเป็น ‘ภัคไนย’ ที่มีใบหน้าเข้ม แผงขนตางอนยาวที่ส่งผลให้ตาคมที่สามารถมองสาวๆ แล้วทำให้สาวๆใจละลายได้ดูมีเสน่ห์มากแล้วยังจะจมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากบางแล้วผิวที่ขาวซึ่งรับมาจากมารดาของเค้าทำให้เค้าเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์จนสาวๆแทบจะถวายตัวและใจให้ ‘ภัคไนย เพชรสยามวารี’ ที่มีความเจ้าชู้ และขี้เล่นเหมือนมารดาของเค้าอยู่ไม่น้อย ซึ่งผิดกับ ‘ภัทรวัต เพชรสยามวารี’ (สงสัยใช่ไหมล่ะว่าเค้าเป็นใคร จะบอกให้ก็ได้ *** อุตสาห์จะบอกตอนเปิดตัวนะเนี่ย ) เค้าเป็นพี่ชายของภัคไนยที่อายุห่างกันแค่สองสามปี ซึ่งอยู่ที่รีสอทร์ ในเครือสยามวารีแถวภาคใต้ภัทรวัตไม่ค่อยได้ขึ้นกรุงเทพเท่าไหร่ เค้าไม่ชอบรถที่ติดทุกวันและทุกเวลา ภัทรวัตมีหน้าตาที่คล้ายๆภัคไนยไม่มากเท่าไร แต่ภัทรวัตมีหน้าตาที่เข้มกว่าหล่อกว่า แล้วก็มีนิสัยที่หยิ่งทะนง ดุ โหด ( พระเอกหรือโจรฟ่ะนี่) เค้ามีนิสัย เงียบ ขรึมไม่ค่อยสุงสิงกับใคร (แต่อย่าให้ได้รักใคร แล้วจะรักจริงถวายชีวิตเช่นกัน) แล้วตาที่คมเหมือนเหยี่ยว นิสัยพวกนี้เค้าได้มาจากบิดาล้วนๆ นิสัยที่เหมือนกันจึงทำให้อยู่ด้วยกันไม่ค่อยจะได้ เลยทำให้เค้าเลือกที่จะมาอยู่ที่นี่ นี้คงเป็นเหตุผลที่เค้าไม่ค่อยอยากจะกลับบ้าน
“คุณแม่ครับเดี๋ยวผมขอตัวไปจัดกระเป๋าออกก่อนนะครับเดี๋ยวลงมาคุยด้วย” ภัคไนยพูดขึ้นขณะที่คุยกันอยู่ห้องนั่งเล่นหลังทานอาหารเสร็จไปนานแล้ว
“รอพิณด้วยสิ เดี๋ยวพิณไปช่วย” หญิงสาววิ่งมาคล้องแขนชายหนุ่มไว้
“คุณแม่ขาพิณขอไปช่วยพี่ภัคนะค่ะ” พิณนาราปล่อยแขนชายหนุ่มก่อนจะเดินไปโอบมารดาเพื่อขออนุญาต
“ได้จ๊ะ ไปช่วยนะ อย่าไปกวนพี่เค้าล่ะ” คุณกานดาบอกลูกสาว นางสามารถปล่อยให้พิณนาราไปกับภัคไนยได้เพราะเชื่อใจชายหนุ่มที่เป็นว่าที่คู่หมั้นของลูกสาวคนนี้
“ไปกันเถอะพี่ภัค รับรองว่าพิณจะไปช่วย” หญิงสาววิ่งตามไปคล้องแขนชายหนุ่มที่นับถือเป็นพี่ชาย “ไปช่วยรื้อของนะค่ะ พี่ภัค” หญิงสาวกระซิบบอกแล้วรีบวิ่งไปห้องของว่าที่คู่หมั้นในอนาคต
“พี่ภัคค่ะ รูปเด็กในกระเป๋านี่ใครเหรอค่ะ” พิณนาราหยิบกรอบรูปที่มีภาพเด็กวัยประมาณ 10-11 ปี ยืนอยู่ด้วยอารมณ์ไม่ค่อยจะอยากถ่ายรูปเท่าไร ขณะที่ภัคไนยกำลังจัดสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าเดินทาง
“ไหนพี่ดูหน่อย” หญิงสาวยื่นกรอบรูปนั้นไปให้ภัคไนย
“อ๋อ นี่พี่วัตพี่ชายพี่เองพิณจำได้ไหมล่ะ” พิณนาราหยิบกรอบรูปมาดูอีกครั้ง แล้วถามเค้าขึ้น
“พิณเคยเห็นด้วยเหรอค่ะ แล้วตอนนี้พี่เค้าอยู่ไหน”
“ไม่รู้สิ...เพราะพี่ก็ไม่ได้ติดต่อพี่เค้านานแล้วเหมือนกัน เค้าทะเลาะกับคุณพ่อบ่อยเลยหนีไป ก่อนพี่จะไปเรียนต่อ” ชายหนุ่มนั่งก้มหน้าอยู่ปลายเตียงนอน พิณนาราจ้องมองรูปเด็กชายในภาพนั้นเหมือนกับว่าเธอจะต้องมีส่วนเกี่ยวกับเค้าแน่ๆ
“ไม่เป็นไรนะ พี่ภัค เดี๋ยวเราช่วยกันตามหาพี่วัตพี่ชายของพี่กันพิณจะช่วยหาเต็มที่เลย”
หญิงสาวขยับเข้ามากอดเอวเค้าจากด้านหลังปลอบเหมือนผู้ใหญ่ปลอบเด็ก เค้ากลับมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้นแต่ทำไมเค้าถึงกลับไม่มีอารมณ์ทางเพศเหมือนเจอสาวๆคนอื่นกอดเลย สงสัยเธอกับเค้าคงจะมีแต่ความเป็นพี่น้องกันจริงๆ แล้วเค้าก็หันมากอดเธอตอบ
“เออ...พิณว่าพี่ภัคปล่อยพิณได้แล้วหายใจไม่ออก ดูซิหน้าเขียวหมดแล้ว” ชายหนุ่มได้แต่ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเท่านั้น
“จริงด้วย...ตายแล้วน้องสาวพี่ไม่สวยแล้ว” เค้ายิ้มสวยให้ก่อนที่จะปล่อยเธอจากอ้อมแขนที่แข็งแรง
“เออ...พิณไปรอพี่ข้างล่างนะ จะกลับบ้านแล้ว ไปส่งพิณด้วย” หญิงสาวบอกเค้าแล้วเดินออกจากห้องไป อีกสักพักเค้าก็เดินลงมา
“อย่าลืมที่พูดกันไว้นะ” คุณกานดาบอกเพื่อนรักพร้อมขอตัวกลับบ้าน “ฉันกับครอบครัวกลับก่อนดีกว่านะภีทรา ตาภัคจะได้พักผ่อนด้วย”
“จ๊ะ... รับรองเลยนะว่าจะต้องเรียบร้อยยังไงฉันก็อยากได้หนูพิณ แต่รู้สึกว่ายัยหนูพิณก็คงจะง่วงนอนแล้วล่ะดูสิ” แล้วทั้งหมดก็หันมามองหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังหาวแบบว่าหมดกุลสตรีเลย (ยัยพิณนาราเธอเป็นนางเอกนะทำตัวให้สมกับบทนางเอกหน่อยสิ) หญิงสาวก็ได้แต่ยิ้มแหยะๆให้ทุกคน
“หมดราคาเลย” ไม่ใช่เสียงใครที่ไหนหรอกเสียงของภัคไนยเอง
“ว่าใครพี่ภัค ถึงหมดราคาแต่ก็ยังมีพี่ภัครออยู่ พิณไม่กลัว” หญิงสาวพูดขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะของทุกคนที่ได้ยิน (ใครจะไม่ได้ยินพูดซะดัง)
“เดินทางปลอดภัยจ๊ะ” คุณภีทราบอกเพื่อน ก่อนที่รถของบ้านอนันต์เมษจะแล่นออกไป

“เดี๋ยวตาภัค แม่มีเรื่องจะคุยด้วย”
“คุณแม่ครับพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ ผมง่วงนอนจะตายอยู่แล้ว” พูดจบชายหนุ่มกำลังจะเดินขึ้นข้างบน
“เตรียมตัวแต่งงานกับหนูพิณด้วยนะภัค แม่ขอร้อง” ประโยคนี้ทำให้ภัคไนยถึงกับหยุดชะงักจับราวบันไดไว้แล้วหันกลับมาแต่ก็ไม่เจอผู้เป็นมารดาแล้ว (คนหรือผีเร็วจัง) ชายหนุ่มวิ่งลงมาเรียกหามารดา
“คุณแม่ครับ...คุณแม่ ไม่เอานะผมไม่แต่ง คุณแม่ ออกมาเถอะครับ” ชายหนุ่มร้องโอดครวญเสียงดังลั่นบ้าน แต่คุณภีทราก็ไม่ออกมา มีแต่เสียงของคุณหญิงท่านเท่านั้นที่ดังขึ้นมา
“ต้องแต่ง นี่เป็นคำสั่ง แกอย่าริมาดื้อกับพ่อกับแม่นะตาภัค” เสียงบังคับลอยตามมา พร้อมกับเสียงหวานๆที่อ้อนเค้าได้ตามมาด้วย “แม่รักลูกนะลูกรัก”
“เอาเถอะลูก พ่อว่าน้องเค้าก็น่ารักดีนะ อยู่กันไปก็รักกันไปเอง” คุณประภงษ์พูดขึ้นพร้อมกับตบบ่าบุตรชายเพื่อเป็นการปลอบใจ
สรุปว่าตั้งแต่วันนั้นเค้าก็เป็นคู่หมั้นของพิณนาราโดยที่มี มารดาทั้งสองคอยจัดการเรื่องต่างๆให้ ภายในอาทิตย์เดียวเรื่องทุกอย่างก็เข้าที่เตรียมตัวอีกสองอาทิตย์ก็แต่งกันได้เลย (ดูสิครับคุณแม่ผมอยากได้อะไรก็ต้องได้เร็วทันใจ – ช่างเก่งกันซะจริงๆ)
‘โอ๊ยอยากจะบ้าตาย.....ช่วยด้วย’



“แต่งงานเหรอค่ะ ไม่นะค่ะคุณแม่ คุณพ่อ หนูไม่ได้คิดอะไรกับพี่ภัคเค้าแบบนั้นนะค่ะ แล้วหนูก็ไม่ได้รักพี่ภัคด้วย” หญิงสาวพูดขึ้นหลังจากลงจากรถแล้ว
“ยัยพิณถือว่าแม่ขอร้องนะ” แกมบังคับล่ะซิไม่ว่า พิณนาราคิดในใจ คุณกานดาเดินมาเกาะแขนลูกสาว
“หรือลูกอยากให้พ่อกับแม่ผิดคำสัญญากับป้าภีทรา และลุงประภงษ์เค้าเหมือนที่พี่สาวเราเค้าหนีไปเรียนต่อนะเหรอ” (ว๊าว...คุณกานดาตีบทแตกอีกแล้ว ไอ้บทเจ้าน้ำตาเนี้ย) หญิงสาวเชื่อว่าบิดาและมารดาของเธอเป็นคนรักษาสัญญามากแค่ไหนเพราะเธอก็ได้นิสัยเช่นนี้มาจากท่านทั้งสองคนเหมือนกัน
“แต่พี่ภัคเค้าจะยอมแต่งเหรอค่ะ” หญิงสาวดูอ่อนลงกว่าเหมือนกี้นี้เพราะมารดาเธอเอาสัญญามาอ้าง
“ยอมสิลูก เพราะลูกแม่ออกจะสวยแบบนี้” คุณกานดาหอมแก้มพิณนาราหนึ่งที
“ไปนอนได้แล้วเดี๋ยวเรื่องนี้แม่จัดการเอง”
“ค่ะ...คุณแม่ เรื่องนี้หนูแล้วแต่พี่ภัคนะค่ะ ถ้าเค้าไม่แต่ง หนูก็ไม่แต่ง หนูไปนอนนะค่ะคุณแม่ คุณพ่อราตีสวัสดิ์”
พิณนาราหอมแก้มคุณกานดาแล้วเดินไปหอมแก้มคุณพจน์ ก่อนจะเดินขึ้นห้องไป
“ฉันว่าแล้ว ยัยพิณต้องยอมแน่ เพราะแกรักตาภัค” คุณกานดาหันไปบอกสามีด้วยความมั่นใจ
“ผมว่าไม่หรอกคุณหญิง...เพราะยัยพิณยังบอกอยู่เลยว่าไม่ได้รักตาภัค” คุณพจน์ ผู้เป็นสามีแย้งขึ้น
“คุณน่ะไม่รู้อะไร ไปนอนได้แล้วค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะรีบไปบ้านภีทรา บอกข่าวดี”
คุณพจน์ แม้จะไม่ค่อยจะเห็นด้วยสักเท่าไหร่แต่เค้าก็ยินดีที่จะรับภัคไนยเป็นลูกเขย

จากคุณ : ทิตยา
เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 20:00:43 A:115.67.120.25 X:




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com