Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กลืนกิน  

กลืนกิน

“นี่…งานที่ผมสั่งน่ะ ถ้าคุณทำแบบนี้ไม่ต้องทำซะดีกว่า เสียเวลา เปลืองค่าจ้างบริษัท คุณรีบแก้ให้เสร็จภายในคืนนี้เลยนะ ไม่เสร็จไม่ต้องกลับเข้าใจมั้ย พรุ่งนี้ผมต้องได้งานนี้”

ใบหน้าของคนที่หญิงสาวเกลียดที่สุดหากแต่มีอำนาจตัดสินอนาคตของเธอในบริษัทแห่งนี้ยื่นเข้ามาใกล้ ใบหน้าเกรี้ยวกราด ริมฝีปากขยับขึ้นลงช้าๆ เหมือนต้องการจะย้ำสิ่งที่ต้องการพูด

“เข้าใจใช่มั้ย พรุ่ง…นี้…ผม…ต้อง…ได้…งาน…นี้”

“……………….”

“ทำไม ทำตาขวางทำไม มีปัญหาอะไรรึไงหา อย่าคิดนะว่า…”

…ผัวะ…

“โอ้ย นี่คุณกล้าดียังไงถึงขนาดมาชกผมแบบนี้”

หญิงสาวหน้าตาเกรี้ยวกราดไม่แพ้กัน เงื้อหมัดก่อนจะเหวี่ยงไปข้างหน้าสุดแรง

…พลั่ก…

“โอ้ยยยยย…ยยย อย่า อย่าทำผม”

“กรี๊งงงงงงงงงงงงงงง……….งงงงงงงงงงงงงงงงง”

…แกร๊ก…

เสียงเล็กแหลมเสียดประสาทส่งผลให้หญิงสาวจำต้องตื่นจากห้วงนิทราอย่างไม่ยินดีเท่าไหร่นัก เธอลืมตาขึ้นปล่อยให้สายตาและความคิดปรับสภาพอยู่ครู่หนึ่ง

…แหม…ไม่น่ารีบเช้าเลย…กำลังสนุกอยู่เชียว…

หญิงสาวหลับตาอย่างเสียเดียว อมยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก ก่อนจะลุกขึ้นนั่งบนเตียงพลางนึกถึงความฝันอีกครั้ง เธอเลื่อนมือขึ้นมาจับของบางอย่างที่เธอสวมอยู่ที่คอก่อนที่ห้วงความคิดจะหวนกลับไปที่ช่วงคืนก่อนที่ผ่านมา

หลายคืนก่อนที่หญิงสาวต้องอยู่ทำงานจนดึกดื่นก็เพราะด้วยคำสั่งของหัวหน้างานของเธอ ด้วยความเหนื่อยหน่ายกับทั้งหัวหน้างานและงานที่เธอรับผิดชอบ ก่อนกลับบ้านเธอจึงแวะจิบเครื่องดื่มที่ร้านประจำ

และในขณะที่เธอกำลังเดินเรื่อยเปื่อยไปตามทางเธอกลับพบว่าในคืนนั้นเองมีบรรยากาศอะไรบางอย่างที่ดูแปลกตาออกไป

บนบาทวิถีที่เธอเดินผ่านประจำกลับมีร้านแปลกๆ เปิดอยู่ที่นั่น ดูเหมือนไม่น่าสนใจอะไรแต่กลับรู้สึกดึงดูดอย่างประหลาด เธออ่านชื่อร้านที่จนแล้วจนรอดก็อ่านไม่ออกก่อนจะเปิดประตูเข้าไปด้านใน

…ในนั้นมีแต่ของแปลกตาที่เธอไม่เคยเห็น…

บางชิ้นทำให้หญิงสาวเกิดความรู้สึกแปลกประหลาด บางชิ้นก็ทำให้เธอขนลุกอย่างไม่มีสาเหตุ บางชิ้นก็ทำให้เกิดความรู้สึกพิเศษ และโดยเฉพาะของชิ้นนี้ที่เธอนำมันกลับมากับเธอด้วย

มันเป็นหินสีเขียวที่ผูกติดกับเชือกสีขาวหม่นๆ ซึ่งหากดูเผินๆ แล้วมันไม่ได้มีความสวยงามใดๆ เลยแม้แต่น้อย

แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว เพียงแวบแรกที่เธอได้เห็น เธอก็รู้สึกราวกับตกหลุมรักมันแทบจะในทันที และก่อนที่หญิงสาวจะทันคิดอะไรเธอก็พบว่าข้างกายนั้นมีชายชราที่อ้างตัวเป็นผู้ดูแลร้านยืนรออยู่เรียบร้อยแล้ว

“ร้านนี้ไม่ต้องการค่าใช้จ่ายใดๆ ครับ มันเป็นของคุณแล้ว เครื่องรางชิ้นนี้จะทำให้คุณฝันดี”

ชายชราพูดด้วยไมตรีจิตก่อนจะหยิบยื่นสิ่งที่หญิงสาวต้องการให้ เมื่อแรกสัมผัสเธอรู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างแผ่ซ่านเข้าไปยังร่างกายของเธอ

…หญิงสาวรู้สึกได้ว่าอารมณ์หงุดหงิดเบาบางลงจนราวกับเธอไม่เคยใส่ใจกับเรื่องราวเหล่านี้เลย…

“ขอให้มีความสุขกับมันนะครับ”

ถึงจะยังคงนึกเสียดายเรื่องในความฝันอยู่ แต่หญิงสาวก็จำต้องลุกจากที่นอนเสียทีเมื่อเธอมองดูนาฬิกาแล้วพบว่าเธอจะสายอย่างแน่นอนหากยังอ้อยอิ่งอยู่บนเตียง

…………………………..

“นี่คุณ มาเอาป่านนี้ หยุดไปเลยไม่ดีกว่าเรอะ แล้วงานของผมล่ะว่าไง ถ้าไม่ได้อย่างที่ผมบอกล่ะก็ คุณกับผมได้เห็นดีกันแน่”

หญิงสาวได้แต่ยืนก้มหน้าก้มตาและรอฟังคำบ่นด่าของชายวัยกลางคนตรงหน้าเท่านั้น

…บ่นเข้าไป ด่าเข้าไป วางอำนาจเข้าไป นี่ถ้าไม่ได้เป็นหัวหน้าของชั้น แล้วถ้าชั้นไม่ได้มีภาระอะไรต่อมิอะไรมากมายล่ะก็นะ แกปากแตกตั้งแต่คำแรกแล้ว…

หญิงสาวนึกอาฆาตในใจ เรื่องจริงมันช่างผิดกับในความฝันเสียเหลือเกิน เมื่อไหร่ฝันของเธอจะเป็นจริงสักทีนะ เมื่อไหร่ที่เธอจะได้ทำอะไรอย่างในความฝันเสียที

“ไป ไปได้แล้ว แล้วนี่ งานเมื่อวันก่อนที่ผมให้เอาไปแก้ คุณคิดว่าคุณแก้มาแล้วเหรอเนี่ย เอาไปแก้มาใหม่อีกรอบเดี๋ยวนี้”

“ค่ะ”

เพียงคำเดียวเท่านั้นที่หญิงสาวกล้าที่จะพูดออกมา เธอรับปึกแฟ้มมากอดไว้แนบอกก่อนเดินกลับมายังโต๊ะทำงานด้วยอารมณ์ที่ผิดกับเมื่อเช้าอย่างลิบลับ

ถึงจะต้องเจอเรื่องอย่างนี้แทบทุกวัน แต่ก็ยังมีเรื่องที่ทำให้เธอชื่นใจอยู่ได้บ้าง หญิงสาวนั่งเหม่อมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่อีกฝั่งฟากห้องทำงาน อมยิ้มลืมตัว

…………………………..

…พลั่ก…ตุ่บ…

“แน่นักใช่มั้ย ชอบด่านักใช่มั้ย นี่ ปากอย่างนี้มันต้องเจออย่างนี้”

หญิงสาวประเคนหมัดใส่หัวหน้างานคู่กรณีไม่ยั้งด้วยความสะใจในขณะที่ผู้ถูกระบายได้แต่เพียงปัดป้องเท่านั้น

“อย่า อย่าทำผม ผมกลัวแล้ว”

ชายวัยกลางคนในขณะนี้ทำตัวราวกับทารกที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ก็ไม่ปาน น้ำหูน้ำตาไหลราวกับจะไม่มีให้ไหล เลือดสดๆ ไหลออกจากรอยช้ำหลายแห่ง

“แกกลัวน่ะดีแล้ว กลัวก็อย่าทำอีกสิ หึ หึ”

…………………………..

“นี่ๆ แกรู้รึเปล่า”

“รู้…เรื่องอะไรเหรอ”

หญิงสาวถามอย่างอารมณ์ดีหลังจากเพิ่งเดินผ่านประตูออฟฟิศเข้ามา ไม่แน่ใจว่าเธอคิดไปเองหรือไม่ แต่เธอรู้สึกว่าความฝันในพักหลังๆ มานี่มันมักจะเป็นอย่างที่เธออยากให้เป็น และมันทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นมาก

…ราวกับว่ามันทำให้ความเก็บกดทั้งมวลได้ถูกปลดปล่อยออกไป…

“ก็ยัย…น่ะได้เลื่อนขั้นแล้วนะ”

หา…ยายนั่นน่ะเหรอได้เลื่อนขั้น เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานแท้ๆ สงสัยมีเส้นแน่ๆ เลย โธ่ นี่ถ้าชั้นไม่มาเจอหัวหน้าแย่ๆ อย่างนี้ ต้องเป็นชั้นอยู่แล้วที่ได้เลื่อนขั้น…

อารมณ์เดือนแค้นพลุ่งพล่านขึ้นมาในทันทีที่ได้รับข่าว อารมณ์ผิดกับเมื่อครู่อย่างน่าใจหาย แต่หญิงสาวก็ทำได้เพียงเก็บอารมณ์เอาไว้ในอกเพราะเธอเองรู้ดีกว่าไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้

…แกเลื่อนตำแหน่งได้ก็เพราะว่าแกสวยเท่านั้นล่ะน่า ใครๆ ก็เลยรัก ใครๆ ก็เลยเข้าข้างแกกันหมด…

…โลกนี้ช่างไม่มีความยุติธรรมซะเลย…

…………………………..

“นี่แน่ะ เก่งนักใช่มั้ย สวยนักใช่มั้ย มันต้องเจออย่างนี้”

หญิงสาวหน้าตาเกรี้ยวกราดยืนคร่อมอยู่บนร่างที่นอนหมดทางสู้อยู่บนพื้น มือยังคงตบคงจิกพัลวัน

“อย่า อย่าทำชั้นเลย”

“ดูซิว่าถ้าหน้าตาแกเยินแบบนี้แล้วยังจะมีใครรักใครหลงแกอีกมั้ย อยู่อย่างอัปลักษณ์ไปตลอดชีวิตเถอะแก”

…………………………..

“นั่นการ์ดอะไรน่ะ”

ก่อนที่เพื่อนของเธอจะทันซ่อน หญิงสาวก็ฉวยการ์ดบนโต๊ะขึ้นมาดูเรียบร้อยแล้ว

…ขอเชิญร่วมงานมงคลสมรสของ…กับ…

เหมือนโลกของเธอแตกเป็นเสี่ยงเมื่อหญิงสาวอ่านชื่อของชายผู้เป็นเจ้าของงานมงคลนั้น

“ที่เค้าไม่ได้ให้แกน่ะ เค้าคงไม่อยากให้แกเสียใจ”

…ทำไม…ทำไม…ทำไมไม่เป็นชั้น ถึงชั้นจะไม่เคยบอกเค้า แต่เค้าก็น่าจะรู้นี่ว่าชั้นชอบเค้า…คำพูดปลอบใจไม่ได้เข้าหูหญิงสาวแม้แต่น้อย เธอคิดกลับไปกลับมาในสิ่งที่เกิดขึ้น กับความสวยความเพียงไม่กี่อย่างในสถานที่ทำงานแห่งนี้

“เชอะ บอกความจริงไปซียะ ที่เค้ารีบแต่งน่ะ เพราะเค้ารำคาญใครบางคนที่คอยตื้ออยู่นั่นไงล่ะ”

เสียงเย้ยหยันเองก็เช่นกันที่หญิงสาวไม่ได้สนใจจะฟังเลย เธอปล่อยการ์ดในมือ น้ำตาปริ่มๆ ว่าจะไหลหากแต่สีหน้ากลับเรียบเฉยราวกับไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใด เท้าทั้งสองพาเธอเดินออกมาจากออฟฟิศท่ามกลางสายตาหลากหลายความคิดของเพื่อนร่วมงาน

…ทำไม ทำไมเป็นอย่างนี้ ทำไมโลกต้องโหดร้ายกับชั้นถึงเพียงนี้…

…ทำไมไม่เหมือนในฝันเลยซักนิดเดียว…

…………………………..

“แต่งงานกับผมนะครับ คนดี”

เสียงชายอันเป็นที่รักดังขึ้นในร้านอาหารที่เขาบรรจงเลือกมาเป็นอย่างดีสำหรับขอหญิงสาวแต่งงาน ชายหนุ่มหยิบแหวนสีทองออกจากกล่องกำมะหยี่สวยงาม

“ต่อจากนี้เราจะมีกันตลอดไปนะครับ”

หญิงสาวยื่นมือซ้ายออกไปวางอยู่บนมือของชายหนุ่ม ท่าทางเอียงอายแต่แววตากลับสดใสก่อนที่เธอจะตอบกลับเบาๆ

“ค่ะ”

…………………………..

ประตูออฟฟิศเปิดออก หญิงสาวที่อยู่ในสภาพโทรมสุดขีดเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบเฉยจนขนาดที่แม้ใครๆ เห็นก็ยังนึกกลัว

“ไงยะ ทำใจไม่ได้รึไงที่เค้าจะแต่งงานน่ะ สมน้ำหน้า อยากไม่เจียมตัวดีนัก โอ้ยยยย”

หญิงสาวเงื้อมือตบคู่กรณีโดยปราศจากการเตือนใดๆ จนล้มคะมำไปกองอยู่กับพื้น ก่อนที่เธอจะเดินข้ามร่างนั้นไปราวกับผู้ที่ล้มไม่ได้อยู่ตรงนั้น

…ดี มันต้องเจออย่างนี้ล่ะ สมน้ำหน้า อยากปากดีนัก…

ชายวัยกลางคนหัวหน้างานแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆ หญิงสาวก็ผลักประตูห้องเข้ามา

“นี่คุณ มาเอาป่านนี้แล้วยังกล้าใส่ชุดแบบนี้เข้ามาทำงานอีกเรอะ นี่มันที่ทำงานนะ ไม่ใช่…”

ยังไม่ทันจบหรือแม้แต่จะตั้งตัว หญิงสาวเงื้อหมัดขึ้นประเคนใส่ใบหน้าเจ้าของเสียงอย่างไร้ความปราณี

…บ่นนักใช่มั้ย ไม่เข็ดใช่มั้ย…

“โอ้ย นี่คุณเป็นบ้าไปแล้วรึไง ใครก็ได้ช่วยผมด้วย เอานังนี่ออกไปที ผมไล่คุณออก”

…หึหึ  ไล่ออกเรอะ ได้ อย่างนี้ล่ะ สะใจจริงๆ พวกแกมันก็แค่มดปลวกเมื่ออยู่ที่นี่ ในฝันนี่ชั้นจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น…

“นี่คุณ หยุดทำบ้าๆ อย่างนี้นะ”

หญิงสาวหยุดแทบจะในทันทีที่ได้ยินเสียงของชายหนุ่มที่เธอหลงรักสุดหัวใจ

“ที่รัก ชั้นรักคุณ มา เราไปอยู่ด้วยกันนะคะ”

“นี่คุณพูดบ้าอะไรน่ะ ผมกำลังจะแต่งงานแล้ว รู้ไว้ด้วยนะ”

หญิงสาวหยิบของมีคมสีเงินวาวจากกระเป๋าถือ กวัดแกว่งอย่างไร้ความเกรงกลัว รอยยิ้มมุมปากช่างขัดกับสายตาอันเลื่อนลอยเป็นอย่างยิ่ง

“ไม่หรอก ในนี้คุณปฏิเสธไม่ได้ คุณต้องรักษาสัญญา เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เราจะมีความสุขด้วยกันตลอดไปในนี้ ในฝันของฉัน”

หญิงสาวเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม แสยะยิ้มอย่างน่ากลัว

“นะคะ”

…………………………..

หญิงสาวนอนนิ่งอยู่บนเตียง สายตาเลื่อนลอย ใบหน้าขาวจนปราศจากสีเลือด

…ตื่นขึ้นมาทำไมบนโลกที่โหดร้ายแบบนี้ โลกที่ทุกคนคอยแต่จะกลั่นแกล้ง หัวเราะเยาะ และเอาเปรียบเราทุกๆ อย่าง…

…ในนี้ล่ะดีที่สุดแล้ว เราจะได้เป็นเจ้าของทุกสิ่ง โลกที่มีแต่ความสมปรารถนา ใช่ แบบนี้ล่ะ ดีที่สุดแล้ว…

หญิงสาวหลับตาลงอีกครั้งพร้อมๆ กับรอยยิ้มจาง และเธอก็ไม่เคยตื่นอีกเลย

บัดนี้หินสีเขียวที่ยังคงคล้องคอหญิงสาวส่องแสงงดงามลึกล้ำกว่าครั้งไหนๆ ที่เธอเคยเห็น มันดูดกลืนความโกรธเกลียดและแปรเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นให้เป็นความสมหวังในโลกแห่งความฝัน

มันวางกับดักและค่อยๆ ฉุดดึงจิตใจของผู้ที่สวมใส่ให้ดำดิ่งลงสู่โลกแห่งความสมปรารถนาจอมปลอม จนในที่สุดทุกเรื่องก็จะกลายเป็นความฝัน

“เมื่อพอใจอยู่กับโลกแห่งความฝัน เมื่อยินดีกับสิ่งหลอกลวง เมื่อนั้นโลกแห่งความจริงของเจ้าก็จะพินาศ”

คำพูดสั้นๆ ที่ชายชราเปล่งออกมาให้กับหญิงสาวซึ่งปราศจากการรับรู้เรื่องราวใดๆ อีกต่อไป แววตาที่ถึงแม้จะดุดันแต่ก็แฝงความนัยบางอย่างไว้

หลังจากนี้ หินสีเขียวซึ่งได้เก็บความโกรธเกลียดครั้งใหม่จะกลับไปที่เดิมของมัน ในร้านที่อ่านชื่อไม่ออกซึ่งเปิดอยู่ในสถานที่ที่ไม่น่าจะขายอะไรได้ โดยมีผู้ดูแลร้านเป็นชายชราผู้ซึ่งยากจะหยั่งถึงในรอยยิ้ม

…และ…รอคอยความโกรธเกลียดครั้งต่อไป…

จากคุณ : KTHc
เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 19:05:32




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com