กลืนกิน
|
|
กลืนกิน
นี่
งานที่ผมสั่งน่ะ ถ้าคุณทำแบบนี้ไม่ต้องทำซะดีกว่า เสียเวลา เปลืองค่าจ้างบริษัท คุณรีบแก้ให้เสร็จภายในคืนนี้เลยนะ ไม่เสร็จไม่ต้องกลับเข้าใจมั้ย พรุ่งนี้ผมต้องได้งานนี้
ใบหน้าของคนที่หญิงสาวเกลียดที่สุดหากแต่มีอำนาจตัดสินอนาคตของเธอในบริษัทแห่งนี้ยื่นเข้ามาใกล้ ใบหน้าเกรี้ยวกราด ริมฝีปากขยับขึ้นลงช้าๆ เหมือนต้องการจะย้ำสิ่งที่ต้องการพูด
เข้าใจใช่มั้ย พรุ่ง
นี้
ผม
ต้อง
ได้
งาน
นี้
.
ทำไม ทำตาขวางทำไม มีปัญหาอะไรรึไงหา อย่าคิดนะว่า
ผัวะ
โอ้ย นี่คุณกล้าดียังไงถึงขนาดมาชกผมแบบนี้
หญิงสาวหน้าตาเกรี้ยวกราดไม่แพ้กัน เงื้อหมัดก่อนจะเหวี่ยงไปข้างหน้าสุดแรง
พลั่ก
โอ้ยยยยย
ยยย อย่า อย่าทำผม
กรี๊งงงงงงงงงงงงงงง
.งงงงงงงงงงงงงงงงง
แกร๊ก
เสียงเล็กแหลมเสียดประสาทส่งผลให้หญิงสาวจำต้องตื่นจากห้วงนิทราอย่างไม่ยินดีเท่าไหร่นัก เธอลืมตาขึ้นปล่อยให้สายตาและความคิดปรับสภาพอยู่ครู่หนึ่ง
แหม
ไม่น่ารีบเช้าเลย
กำลังสนุกอยู่เชียว
หญิงสาวหลับตาอย่างเสียเดียว อมยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก ก่อนจะลุกขึ้นนั่งบนเตียงพลางนึกถึงความฝันอีกครั้ง เธอเลื่อนมือขึ้นมาจับของบางอย่างที่เธอสวมอยู่ที่คอก่อนที่ห้วงความคิดจะหวนกลับไปที่ช่วงคืนก่อนที่ผ่านมา
หลายคืนก่อนที่หญิงสาวต้องอยู่ทำงานจนดึกดื่นก็เพราะด้วยคำสั่งของหัวหน้างานของเธอ ด้วยความเหนื่อยหน่ายกับทั้งหัวหน้างานและงานที่เธอรับผิดชอบ ก่อนกลับบ้านเธอจึงแวะจิบเครื่องดื่มที่ร้านประจำ
และในขณะที่เธอกำลังเดินเรื่อยเปื่อยไปตามทางเธอกลับพบว่าในคืนนั้นเองมีบรรยากาศอะไรบางอย่างที่ดูแปลกตาออกไป
บนบาทวิถีที่เธอเดินผ่านประจำกลับมีร้านแปลกๆ เปิดอยู่ที่นั่น ดูเหมือนไม่น่าสนใจอะไรแต่กลับรู้สึกดึงดูดอย่างประหลาด เธออ่านชื่อร้านที่จนแล้วจนรอดก็อ่านไม่ออกก่อนจะเปิดประตูเข้าไปด้านใน
ในนั้นมีแต่ของแปลกตาที่เธอไม่เคยเห็น
บางชิ้นทำให้หญิงสาวเกิดความรู้สึกแปลกประหลาด บางชิ้นก็ทำให้เธอขนลุกอย่างไม่มีสาเหตุ บางชิ้นก็ทำให้เกิดความรู้สึกพิเศษ และโดยเฉพาะของชิ้นนี้ที่เธอนำมันกลับมากับเธอด้วย
มันเป็นหินสีเขียวที่ผูกติดกับเชือกสีขาวหม่นๆ ซึ่งหากดูเผินๆ แล้วมันไม่ได้มีความสวยงามใดๆ เลยแม้แต่น้อย
แต่สำหรับหญิงสาวแล้ว เพียงแวบแรกที่เธอได้เห็น เธอก็รู้สึกราวกับตกหลุมรักมันแทบจะในทันที และก่อนที่หญิงสาวจะทันคิดอะไรเธอก็พบว่าข้างกายนั้นมีชายชราที่อ้างตัวเป็นผู้ดูแลร้านยืนรออยู่เรียบร้อยแล้ว
ร้านนี้ไม่ต้องการค่าใช้จ่ายใดๆ ครับ มันเป็นของคุณแล้ว เครื่องรางชิ้นนี้จะทำให้คุณฝันดี
ชายชราพูดด้วยไมตรีจิตก่อนจะหยิบยื่นสิ่งที่หญิงสาวต้องการให้ เมื่อแรกสัมผัสเธอรู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างแผ่ซ่านเข้าไปยังร่างกายของเธอ
หญิงสาวรู้สึกได้ว่าอารมณ์หงุดหงิดเบาบางลงจนราวกับเธอไม่เคยใส่ใจกับเรื่องราวเหล่านี้เลย
ขอให้มีความสุขกับมันนะครับ
ถึงจะยังคงนึกเสียดายเรื่องในความฝันอยู่ แต่หญิงสาวก็จำต้องลุกจากที่นอนเสียทีเมื่อเธอมองดูนาฬิกาแล้วพบว่าเธอจะสายอย่างแน่นอนหากยังอ้อยอิ่งอยู่บนเตียง
..
นี่คุณ มาเอาป่านนี้ หยุดไปเลยไม่ดีกว่าเรอะ แล้วงานของผมล่ะว่าไง ถ้าไม่ได้อย่างที่ผมบอกล่ะก็ คุณกับผมได้เห็นดีกันแน่
หญิงสาวได้แต่ยืนก้มหน้าก้มตาและรอฟังคำบ่นด่าของชายวัยกลางคนตรงหน้าเท่านั้น
บ่นเข้าไป ด่าเข้าไป วางอำนาจเข้าไป นี่ถ้าไม่ได้เป็นหัวหน้าของชั้น แล้วถ้าชั้นไม่ได้มีภาระอะไรต่อมิอะไรมากมายล่ะก็นะ แกปากแตกตั้งแต่คำแรกแล้ว
หญิงสาวนึกอาฆาตในใจ เรื่องจริงมันช่างผิดกับในความฝันเสียเหลือเกิน เมื่อไหร่ฝันของเธอจะเป็นจริงสักทีนะ เมื่อไหร่ที่เธอจะได้ทำอะไรอย่างในความฝันเสียที
ไป ไปได้แล้ว แล้วนี่ งานเมื่อวันก่อนที่ผมให้เอาไปแก้ คุณคิดว่าคุณแก้มาแล้วเหรอเนี่ย เอาไปแก้มาใหม่อีกรอบเดี๋ยวนี้
ค่ะ
เพียงคำเดียวเท่านั้นที่หญิงสาวกล้าที่จะพูดออกมา เธอรับปึกแฟ้มมากอดไว้แนบอกก่อนเดินกลับมายังโต๊ะทำงานด้วยอารมณ์ที่ผิดกับเมื่อเช้าอย่างลิบลับ
ถึงจะต้องเจอเรื่องอย่างนี้แทบทุกวัน แต่ก็ยังมีเรื่องที่ทำให้เธอชื่นใจอยู่ได้บ้าง หญิงสาวนั่งเหม่อมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่อีกฝั่งฟากห้องทำงาน อมยิ้มลืมตัว
..
พลั่ก
ตุ่บ
แน่นักใช่มั้ย ชอบด่านักใช่มั้ย นี่ ปากอย่างนี้มันต้องเจออย่างนี้
หญิงสาวประเคนหมัดใส่หัวหน้างานคู่กรณีไม่ยั้งด้วยความสะใจในขณะที่ผู้ถูกระบายได้แต่เพียงปัดป้องเท่านั้น
อย่า อย่าทำผม ผมกลัวแล้ว
ชายวัยกลางคนในขณะนี้ทำตัวราวกับทารกที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ก็ไม่ปาน น้ำหูน้ำตาไหลราวกับจะไม่มีให้ไหล เลือดสดๆ ไหลออกจากรอยช้ำหลายแห่ง
แกกลัวน่ะดีแล้ว กลัวก็อย่าทำอีกสิ หึ หึ
..
นี่ๆ แกรู้รึเปล่า
รู้
เรื่องอะไรเหรอ
หญิงสาวถามอย่างอารมณ์ดีหลังจากเพิ่งเดินผ่านประตูออฟฟิศเข้ามา ไม่แน่ใจว่าเธอคิดไปเองหรือไม่ แต่เธอรู้สึกว่าความฝันในพักหลังๆ มานี่มันมักจะเป็นอย่างที่เธออยากให้เป็น และมันทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นมาก
ราวกับว่ามันทำให้ความเก็บกดทั้งมวลได้ถูกปลดปล่อยออกไป
ก็ยัย
น่ะได้เลื่อนขั้นแล้วนะ
หา
ยายนั่นน่ะเหรอได้เลื่อนขั้น เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานแท้ๆ สงสัยมีเส้นแน่ๆ เลย โธ่ นี่ถ้าชั้นไม่มาเจอหัวหน้าแย่ๆ อย่างนี้ ต้องเป็นชั้นอยู่แล้วที่ได้เลื่อนขั้น
อารมณ์เดือนแค้นพลุ่งพล่านขึ้นมาในทันทีที่ได้รับข่าว อารมณ์ผิดกับเมื่อครู่อย่างน่าใจหาย แต่หญิงสาวก็ทำได้เพียงเก็บอารมณ์เอาไว้ในอกเพราะเธอเองรู้ดีกว่าไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้
แกเลื่อนตำแหน่งได้ก็เพราะว่าแกสวยเท่านั้นล่ะน่า ใครๆ ก็เลยรัก ใครๆ ก็เลยเข้าข้างแกกันหมด
โลกนี้ช่างไม่มีความยุติธรรมซะเลย
..
นี่แน่ะ เก่งนักใช่มั้ย สวยนักใช่มั้ย มันต้องเจออย่างนี้
หญิงสาวหน้าตาเกรี้ยวกราดยืนคร่อมอยู่บนร่างที่นอนหมดทางสู้อยู่บนพื้น มือยังคงตบคงจิกพัลวัน
อย่า อย่าทำชั้นเลย
ดูซิว่าถ้าหน้าตาแกเยินแบบนี้แล้วยังจะมีใครรักใครหลงแกอีกมั้ย อยู่อย่างอัปลักษณ์ไปตลอดชีวิตเถอะแก
..
นั่นการ์ดอะไรน่ะ
ก่อนที่เพื่อนของเธอจะทันซ่อน หญิงสาวก็ฉวยการ์ดบนโต๊ะขึ้นมาดูเรียบร้อยแล้ว
ขอเชิญร่วมงานมงคลสมรสของ
กับ
เหมือนโลกของเธอแตกเป็นเสี่ยงเมื่อหญิงสาวอ่านชื่อของชายผู้เป็นเจ้าของงานมงคลนั้น
ที่เค้าไม่ได้ให้แกน่ะ เค้าคงไม่อยากให้แกเสียใจ
ทำไม
ทำไม
ทำไมไม่เป็นชั้น ถึงชั้นจะไม่เคยบอกเค้า แต่เค้าก็น่าจะรู้นี่ว่าชั้นชอบเค้า
คำพูดปลอบใจไม่ได้เข้าหูหญิงสาวแม้แต่น้อย เธอคิดกลับไปกลับมาในสิ่งที่เกิดขึ้น กับความสวยความเพียงไม่กี่อย่างในสถานที่ทำงานแห่งนี้
เชอะ บอกความจริงไปซียะ ที่เค้ารีบแต่งน่ะ เพราะเค้ารำคาญใครบางคนที่คอยตื้ออยู่นั่นไงล่ะ
เสียงเย้ยหยันเองก็เช่นกันที่หญิงสาวไม่ได้สนใจจะฟังเลย เธอปล่อยการ์ดในมือ น้ำตาปริ่มๆ ว่าจะไหลหากแต่สีหน้ากลับเรียบเฉยราวกับไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใด เท้าทั้งสองพาเธอเดินออกมาจากออฟฟิศท่ามกลางสายตาหลากหลายความคิดของเพื่อนร่วมงาน
ทำไม ทำไมเป็นอย่างนี้ ทำไมโลกต้องโหดร้ายกับชั้นถึงเพียงนี้
ทำไมไม่เหมือนในฝันเลยซักนิดเดียว
..
แต่งงานกับผมนะครับ คนดี
เสียงชายอันเป็นที่รักดังขึ้นในร้านอาหารที่เขาบรรจงเลือกมาเป็นอย่างดีสำหรับขอหญิงสาวแต่งงาน ชายหนุ่มหยิบแหวนสีทองออกจากกล่องกำมะหยี่สวยงาม
ต่อจากนี้เราจะมีกันตลอดไปนะครับ
หญิงสาวยื่นมือซ้ายออกไปวางอยู่บนมือของชายหนุ่ม ท่าทางเอียงอายแต่แววตากลับสดใสก่อนที่เธอจะตอบกลับเบาๆ
ค่ะ
..
ประตูออฟฟิศเปิดออก หญิงสาวที่อยู่ในสภาพโทรมสุดขีดเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบเฉยจนขนาดที่แม้ใครๆ เห็นก็ยังนึกกลัว
ไงยะ ทำใจไม่ได้รึไงที่เค้าจะแต่งงานน่ะ สมน้ำหน้า อยากไม่เจียมตัวดีนัก โอ้ยยยย
หญิงสาวเงื้อมือตบคู่กรณีโดยปราศจากการเตือนใดๆ จนล้มคะมำไปกองอยู่กับพื้น ก่อนที่เธอจะเดินข้ามร่างนั้นไปราวกับผู้ที่ล้มไม่ได้อยู่ตรงนั้น
ดี มันต้องเจออย่างนี้ล่ะ สมน้ำหน้า อยากปากดีนัก
ชายวัยกลางคนหัวหน้างานแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆ หญิงสาวก็ผลักประตูห้องเข้ามา
นี่คุณ มาเอาป่านนี้แล้วยังกล้าใส่ชุดแบบนี้เข้ามาทำงานอีกเรอะ นี่มันที่ทำงานนะ ไม่ใช่
ยังไม่ทันจบหรือแม้แต่จะตั้งตัว หญิงสาวเงื้อหมัดขึ้นประเคนใส่ใบหน้าเจ้าของเสียงอย่างไร้ความปราณี
บ่นนักใช่มั้ย ไม่เข็ดใช่มั้ย
โอ้ย นี่คุณเป็นบ้าไปแล้วรึไง ใครก็ได้ช่วยผมด้วย เอานังนี่ออกไปที ผมไล่คุณออก
หึหึ ไล่ออกเรอะ ได้ อย่างนี้ล่ะ สะใจจริงๆ พวกแกมันก็แค่มดปลวกเมื่ออยู่ที่นี่ ในฝันนี่ชั้นจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น
นี่คุณ หยุดทำบ้าๆ อย่างนี้นะ
หญิงสาวหยุดแทบจะในทันทีที่ได้ยินเสียงของชายหนุ่มที่เธอหลงรักสุดหัวใจ
ที่รัก ชั้นรักคุณ มา เราไปอยู่ด้วยกันนะคะ
นี่คุณพูดบ้าอะไรน่ะ ผมกำลังจะแต่งงานแล้ว รู้ไว้ด้วยนะ
หญิงสาวหยิบของมีคมสีเงินวาวจากกระเป๋าถือ กวัดแกว่งอย่างไร้ความเกรงกลัว รอยยิ้มมุมปากช่างขัดกับสายตาอันเลื่อนลอยเป็นอย่างยิ่ง
ไม่หรอก ในนี้คุณปฏิเสธไม่ได้ คุณต้องรักษาสัญญา เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เราจะมีความสุขด้วยกันตลอดไปในนี้ ในฝันของฉัน
หญิงสาวเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม แสยะยิ้มอย่างน่ากลัว
นะคะ
..
หญิงสาวนอนนิ่งอยู่บนเตียง สายตาเลื่อนลอย ใบหน้าขาวจนปราศจากสีเลือด
ตื่นขึ้นมาทำไมบนโลกที่โหดร้ายแบบนี้ โลกที่ทุกคนคอยแต่จะกลั่นแกล้ง หัวเราะเยาะ และเอาเปรียบเราทุกๆ อย่าง
ในนี้ล่ะดีที่สุดแล้ว เราจะได้เป็นเจ้าของทุกสิ่ง โลกที่มีแต่ความสมปรารถนา ใช่ แบบนี้ล่ะ ดีที่สุดแล้ว
หญิงสาวหลับตาลงอีกครั้งพร้อมๆ กับรอยยิ้มจาง และเธอก็ไม่เคยตื่นอีกเลย
บัดนี้หินสีเขียวที่ยังคงคล้องคอหญิงสาวส่องแสงงดงามลึกล้ำกว่าครั้งไหนๆ ที่เธอเคยเห็น มันดูดกลืนความโกรธเกลียดและแปรเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นให้เป็นความสมหวังในโลกแห่งความฝัน
มันวางกับดักและค่อยๆ ฉุดดึงจิตใจของผู้ที่สวมใส่ให้ดำดิ่งลงสู่โลกแห่งความสมปรารถนาจอมปลอม จนในที่สุดทุกเรื่องก็จะกลายเป็นความฝัน
เมื่อพอใจอยู่กับโลกแห่งความฝัน เมื่อยินดีกับสิ่งหลอกลวง เมื่อนั้นโลกแห่งความจริงของเจ้าก็จะพินาศ
คำพูดสั้นๆ ที่ชายชราเปล่งออกมาให้กับหญิงสาวซึ่งปราศจากการรับรู้เรื่องราวใดๆ อีกต่อไป แววตาที่ถึงแม้จะดุดันแต่ก็แฝงความนัยบางอย่างไว้
หลังจากนี้ หินสีเขียวซึ่งได้เก็บความโกรธเกลียดครั้งใหม่จะกลับไปที่เดิมของมัน ในร้านที่อ่านชื่อไม่ออกซึ่งเปิดอยู่ในสถานที่ที่ไม่น่าจะขายอะไรได้ โดยมีผู้ดูแลร้านเป็นชายชราผู้ซึ่งยากจะหยั่งถึงในรอยยิ้ม
และ
รอคอยความโกรธเกลียดครั้งต่อไป
จากคุณ |
:
KTHc
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ต.ค. 52 19:05:32
|
|
|
|