Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บลูเบอรี่เค้ก 3  

3
เช้าวันรุ่งขึ้น หญิงสาวมาทำงานตามปกติ บอกตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง เธอไม่เป็นอะไรมากแน่นอน แต่ความหดหู่ซึมเศร้าก็เริ่มครอบงำ เธอหงุดหงิดง่ายแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทั้งที่ปกติเป็นคนอารมณ์ดี

หลังจากผ่านไปอาทิตย์กว่าโดยไม่มีแม้แต่เงาของกวินท์ นิอรก็ยิ่งเงียบขรึม...แล้วความเศร้าก็กลายเป็นโกรธ...เมื่อนิตยสารปักษ์ใหม่ออกวางแผง

นายนักชิมใจร้ายเขียนไว้ในคอลัมน์ตอนล่าสุดว่า “สำหรับร้านขนมที่ผมวิจารณ์ไปในเล่มก่อน คุณควรลุกขึ้นสู้ แค่ปรับปรุงอีกไม่มาก เค้กของคุณก็จะอร่อยเลิศ ผมรอดูอยู่นะว่าคุณจะยอมแพ้ง่ายๆ หรือเป็นคนเก่งอย่างที่ผมคิดไว้...”

นิอรแทบกรี๊ดออกมา เขาใช้วิธีนี้ส่งข้อความถึงเธอหรือ แน่จริงเจอกันตัวต่อตัวเลยไหมล่ะ...คนท้าลืมไปว่าตัวเองนั่นแหละที่ไม่ยอมให้เขามาหาอีก และกวินท์ก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าเธอไม่อยู่ในอารมณ์รับฟัง ไม่ว่าเขาจะมีเหตุผลแค่ไหนก็ตาม

เธอจะรู้ไหมว่า เขาเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน แต่ถ้าเขาไม่พูดไม่บอก เธอก็ไม่มีทางเป็นเบกเกอร์ที่เก่งที่สุด เธอคงพอใจกับการทำร้านแค่นี้ กับเค้กที่พอใช้ ทั้งที่ฝีมือและจิตใจของเธอไปได้ไกลยิ่งกว่า

น้ำตาทุกหยดของนิอรกระทบใจเขา และตอนนี้ เขาก็ไม่มีความสุขเช่นกัน เพิ่งรู้ตัวก็เมื่อขาดเธอไป ว่านิอรกับดวงตาโตคู่นั้นมีความหมายต่อเขามากเพียงไร..

หลังจากมึนงงอยู่พักใหญ่ คืนหนึ่งนิอรก็ตัดสินใจเข้าไปหาคุณพ่อคุณแม่ในห้องนั่งเล่น เล่าเรื่องให้ฟังแล้วปรึกษาท่านว่า

“ออนขอปิดร้าน ไปเรียนเพิ่มเติมได้ไหมคะ”

“จะดีหรือลูก” คุณแม่ท้วง “ร้านของหนูเริ่มมีลูกค้า ปิดได้ยังไง”

“หนูไม่อยากทำต่อตอนนี้”

“ถ้าทำใจเป็นกลาง” คุณพ่อพูดช้าๆ “เขาก็ไม่ผิดหรอกนะออน เค้กของลูกยังอร่อยได้มากกว่านี้”

“แล้วคุณจะให้ลูกปิดร้านหรือคะ” คุณแม่ไม่ชอบใจเลย

“มีคนมาขอเซ้งอยู่นะคะ” นิอรเพิ่มข้อมูลเข้าไป

“ไหนว่าศูนย์การค้าเงียบ ทำไมยังมีคนอยากได้อีก”

“หนูก็ไม่ทราบค่ะ เขาอาจจะคิดว่าพอไปได้ คือที่นี่ไม่ถึงขนาดไม่มีคนเลยนะคะ ก็อย่างที่คุณพ่อเห็นเวลาไปร้านนั่นแหละค่ะ หลังๆ มานี้คนก็เริ่มติดมากขึ้นแล้ว ราคาที่เขาเสนอมาก็ได้กำไร ที่จริงเขาคุยตั้งแต่เปิดร้านเดือนแรก แต่ตอนนั้นหนูไม่สนใจ คิดว่าอยากทำเอง”

“น่าเสียดาย” คุณแม่ย้ำ แต่คุณพ่อส่ายหน้าห้ามไว้ “ให้ลูกตัดสินใจเองได้แล้ว คุณ ออนโตมากแล้วและร้านนี้ลูกก็ลงทุนเองด้วย ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตไป แล้วหนูจะเปลี่ยนงานเลยหรือไงลูก”

“ไม่ค่ะ” นิอรตอบเสียงหนักแน่น “ออนขอไปเรียนให้มั่นใจกว่านี้ แล้วเปิดร้านใหม่ ออนจะทำให้ดีกว่าเดิม สวยกว่าเดิมอีก ถึงยังไง ออนก็ไม่ชอบทำเลที่นี่อยู่แล้วค่ะ”

“ออนบอกว่าถ้าเซ้งก็มีกำไร...” คุณแม่ทำท่าครุ่นคิด

“ค่ะ มากพอที่ออนจะไปเรียนคอร์สสั้นๆ และลงทุนทำร้านใหม่ได้เมื่อเรียนจบ ออนอาจจะเสียค่าเรียน แต่ก็ถือว่าเป็นวิชาความรู้ติดตัวด้วยนะคะ”

“หนูจะไปเรียนที่ไหน”

“กอร์ดอง เบลอ ค่ะ”

“ทำไมเรียนที่นี่ เท่ากับเรียนเต็มวัน แล้วก็แพงอยู่นะ” คุณแม่ท้วง

“ก็เพราะอย่างนี้ไงคะหนูถึงจะเซ้งร้าน ไปเรียนให้รู้จริงก่อน ที่ผ่านมา หนูรีบร้อนเพราะเพิ่งออกจากงาน

แค่คนขายเครื่องชงกาแฟมาสอน แล้วก็อาศัยวิชาที่เคยทำขนมเมื่อยังเด็ก กับเปิดตำรา คิดว่าทำร้านได้ ซึ่งก็พอได้แต่ยังไม่ดี คราวนี้หนูขอไปเรียนให้เป็นเรื่องเป็นราวเลยนะคะ”

“คอร์สเขาต่างจากที่อื่นยังไงหรือลูก” คุณพ่อสนใจ

“เขาสอนพื้นฐาน ให้เรามาปรับใช้ทำขนมได้ทุกอย่างค่ะ ไม่ใช่แค่ทำตามสูตรโรงเรียน แต่ออนจะได้เรียนตั้งแต่การใช้เครื่องมือที่ถูกต้อง พื้นฐานแป้งขนมแบบต่างๆ และการใช้เตาอบไปจนถึงแต่งหน้าขนม มีขนมอบทุกอย่างและช็อกโกแลตด้วยนะคะไม่ใช่แค่เค้ก”

นิอรบรรยายจนคุณพ่อคุณแม่อดยิ้มไม่ได้

“เอาละ” คุณพ่อสรุป “ถ้าหนูตัดสินใจแล้ว และรับผิดชอบตัวเองได้ ก็ลองดู”

“โชคดีนะลูก” คุณแม่โอบกอด “แม่เสียดายร้าน แต่ถ้าหนูเซ้งได้กำไรก็ยังดี ไว้ค่อยเริ่มใหม่นะจ๊ะ”

ทุกเช้าก่อนออกไปเรียน นิอรจะอ่านคอลัมน์ของนักชิมใจร้าย เพื่อกระตุ้นตัวเองให้มีพลัง ความแค้นผลักดันให้เธอตั้งใจจนเรียนเก่งที่สุดในชั้น และความเสียใจก็หล่อหลอมให้เข้มแข็ง ถึงตอนนี้ เธอฟังคำวิจารณ์ได้ทุกรูปแบบ และชอบให้คนติ มากกว่าชม เพื่อปรับปรุงตัวเอง

ระหว่างที่นิอรมุ่งมั่นกับการเรียน กวินท์คิดถึงเธอมากขึ้นทุกวัน เขาเคยคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไป เธอน่าจะจางหายจากความทรงจำ แต่ไม่เลย ยิ่งนานเขาก็ยิ่งอยากรู้ว่าเธอเป็นอย่างไร และป่านนี้ เธอก็คงจะหายโกรธ เย็นลงแล้ว

สิบโมงครึ่ง เวลาเดิม กวินท์เดินขึ้นบันไดหน้าร้านขนมด้วยสีหน้ามุ่งมั่น เธอคงจะงอน ข้อนี้เขาแน่ใจ แต่ถ้าเธอมีเหตุผลบ้าง หลังจากคิดดูแล้ว เธอก็น่าจะเข้าใจในความหวังดีของเขา

สิ่งแรกที่เขาสังเกตเห็นผ่านกระจกใสก็คือ ร้านเปลี่ยนไปมาก นิอรคงตกแต่งใหม่ ตัวร้านสีขาว เมื่อเปลี่ยนหมอนอิงจากลายดอกไม้เป็นผ้าพื้นสีสด และใช้โคมไฟสมัยใหม่ แทนลายลูกไม้แบบเดิม ร้านก็แปลงโฉมเป็นสไตล์โมเดิร์นได้ไม่ยาก

เธอเปลี่ยนชื่อร้านด้วย...เขามองป้าย...คอลัมน์ของเขาส่งผลร้ายขนาดนี้ทีเดียวหรือ?

มือแข็งแรงผลักประตูกระจกเข้าไป จะทักนิอรยังไงดี ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือว่าขอโทษเธอ

นัยน์ตาคู่สวยเป็นประกายด้วยความคาดหวัง ไม่ได้พบกันหลายเดือน เธอจะเป็นอย่างไรบ้างนะ...

เขาชะงักเมื่อเห็นหญิงสาวร่างสูงโปร่งหลังเคาน์เตอร์ เธอกล่าวทักทาย และเชิญให้เขานั่งที่โซฟา กวินท์ขยับกระเป๋าคอมพิวเตอร์วางลงอย่างงุนงง

“นิอรไม่อยู่หรือครับ”

“อะไรนะคะ” สาวสวยย้อนถาม

“นิอร...เจ้าของร้าน”

แสงสว่างรอบตัวเหมือนจะมืดลง เมื่อเขาได้รับคำตอบว่า “เธอไปแล้วค่ะ ฉันซื้อร้านนี้มาแต่งใหม่ คุณจะรับอะไรดีคะ”
........................................
คุณ scottie คะ กวินท์เขาไม่กล้าพูดตรงๆ น่ะค่ะ
ขอบคุณมากนะคะที่ตามมาอ่าน

จากคุณ : ยูสุ
เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 02:17:52 A:125.24.162.185 X: TicketID:114273




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com