Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ข้าวโพดแมวติสต์แตก ตอน ชีวิตพลิกผัน  

เมื่อวานนี้หนวดผมกระตุกดุ๊กดิ๊ก ดุ๊กดิ๊ก ทั้งวัน ผมคิดว่ามันคงเป็นลางบอกเหตุอะไรบางอย่างก็เลยไปปรึกษากับไอ้เฉาก๊วย มันทายว่าผมกำลังจะมีลาภปาก ผมไม่ค่อยเชื่อมันซักเท่าไหร่เพราะเฉาก๊วยมันคิดเป็นเค่เรื่องกินอย่างเดียว

“ข้าวโพดเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่แก้วเค้าจะกลับมาหาแล้วนะ คิดถึงพี่เค้ารึเปล่า”

ใครจะมาหาผมนะ ผมไม่ค่อยชอบเวลามีคนมาที่บ้านเพราะมันช่างวุ่นวายรบกวนความสงบของผม ผมคิดในใจว่าคงต้องไปหาที่แอบซ่อนอีกแล้วล่ะ

“มาทาแป้งหน่อยดีกว่าเราจะได้หอมๆ พี่แก้วจะได้ชื่นใจเวลาหอมเรารู้มั้ย”

ผมล่ะเบื่อจริงๆไอ้ผงแป้งอะไรนี่มันหอมตรงไหน กลิ่นตัวผมหอมกว่าตั้งเยอะ บางทีโรยซะผมนึกว่าตัวเองเป็นปาท่องโก๋ที่เค้ากำลังจะเอาไปทอด

วันรุ่งขึ้น (เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก อิอิอิ)

มีเสียงคนมากดกริ่งหน้าบ้าน ผมรีบวิ่งไปแอบมองตรงหน้าต่างห้องนอน  สงสัยว่าเป็นใครกันเผื่อไม่คุ้นหน้าผมจะได้ไปแอบหลบ ไม่ทันที่ผมจะเห็นหน้าคนที่มากดกริ่ง ตัวผมก็โดนยกลอยขึ้นจากพื้น อ้าวจะพาผมไปไหนล่ะเนี่ย

“มาเร็วโพดไม่ต้องมาแอบดู ไปหาพี่แก้วกัน”

แก้วไหนแล้วจะพาผมไปหาเค้าทำไมเนี่ย ผมอยากแอบดูอยู่ตรงหน้าต่างมากกว่าจะไปเสวนากับแก้วอะไรนั่น

“เจส กรี๊ดดดด ดีใจจังไม่เจอกันนานตีนกาขึ้นเพียบเลยนะ”

“ย่ะแม่หน้าเด้ง หายไปหลายปีแกไปลับปากมาให้คมกว่าเดิมรึไงยะ เป็นไงแกสบายดีรึป่าว ผอมหยั่งกะปอบเลย ผู้ชายไม่ตกถึงท้องล่ะสิแก”

“เออก็สบายดี ผู้ชายที่ไหนมันจะตกถึงท้องชั้นได้ล่ะ ในเมื่อเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แปลงร่างเป็นแบบแกหมด ที่เหลือน้อยๆพวกแกก็ยังมาแย่งไปซะอีก อุ้ยข้าวโพดของพี่ หล่อจังเลยครับ โหอ้วนท้วนเลยนะเนี่ยพี่ไม่อยู่คิดถึงพี่บ้างมั้ยครับเนี่ย”

ว่าแล้วเธอก็อุ้มผมชูขึ้นเหนือหัว ผมตกใจหมดเลยอะไรเนี่ยเป็นสาวเป็นนางอยู่แท้ๆ มาจับตัวผมอย่างนี้ได้ยังไง แน่ะคิดยังไม่ทันขาดคำมาหอมผมอีก เฮ้อผู้หญิงสมัยนี้ช่างกล้ากันซะจริงๆ

“อี๋….ข้าวโพดน่ะเหม็นสาบจริงๆเลย ไม่ได้อาบน้ำมานานแล้วสิเรา”

“ใครจะไปอาบให้คุณชายได้ล่ะ ทั้งกัดทั้งข่วนไปร้านไหนเค้าก็ไม่เอา นึกว่าพาเสือไปอาบน้ำ”

ใครพูดคำว่าอาบน้ำอีกล่ะเนี่ย ผมไม่ยอมนะผมเกลียดน้ำ ผมพยามตะกายออกจากอ้อมกอดของเธอ แต่ดูท่าทางเธอช่างตื้อซะจริงๆกอดผมไว้แน่นไม่ให้ขยับไปไหนได้ จากนั้นก็อุ้มผมเข้ามาในบ้าน

“ข้าวโพดครับพี่คิดถึงข้าวโพดที่สุดเลยครับ โพดยังจำพี่ได้รึเปล่าเนี่ย”

นี่เธอพูดเพ้อเจ้ออะไรอยู่เนี่ย อกหักจากผู้ชายที่ไหนแล้วมาตู่ว่าผมเป็นแฟนเก่ารึเปล่า ขอโทษนะครับอย่างคุณน่ะไม่ใช่สเป็คผม ผมน่ะชอบขาวๆเปรียวๆหางยาว อย่างน้องส้มโอซอยถัดไปโน่น เฮ้ย อย่ามาหอมผมนะจั๊กจี๋ อีกอย่างถึงผมจะใจดีแต่ผมก็รักนวลสงวนตัวไม่ยอมให้ใครมาหอมง่ายๆนะ เชอะคิดว่าผมเป็นดอกไม้ข้างรั้วรึไง

“แง๊วววว”

“ข้าวโพดน่ะ ทำไมต้องตะกายหนีพี่ด้วยล่ะ ลืมพี่แล้วแน่เลย พี่น่ะจำโพดได้ไม่ลืมเลยนะ ข้าวโพดใจร้าย”

เธอยอมปล่อยผมในที่สุด เฮ้อรอดมาจนได้ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ผมรีบวิ่งไปแอบในห้องทันที

“ไอ้โพดมันคงยังจำแกไม่ได้น่ะ แมวก็อย่างนี้แหละความจำสั้น แต่พออยู่กันไปก็คุ้นเองให้เวลามันหน่อยละกันนะ”

“ชั้นไม่น่าทิ้งข้าวโพดไปนานอย่างนี้เลยเนอะเจส ดูสิก่อนที่ชั้นจะไปต่างประเทศชั้นวาดฝันไว้มากมาย สุดท้ายชั้นก็ไม่เหลือใคร แม้แต่แมวก็ยังจำชั้นไม่ได้เลย”

ผมแอบได้ยินเสียงเธอคุย น้ำเสียงของเธอฟังดูเศร้าจนผมเริ่มจะใจอ่อนลงนิดหน่อย

“อะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ลืมไปซะเถอะแก้ว คนเราจะพิสูจน์ได้ว่ารักกันแค่ไหน ก็ระยะทางกับเวลานั่นแหละพิสูจน์ได้ดีที่สุด อย่างน้อยแกก็พิสูจน์ให้เค้าเห็นแล้วไม่ใช่เหรอว่า แกไม่ใช่คนที่จะเปลี่ยนใจ"

“อืม ชั้นรู้แต่มันก็ยังเจ็บอยู่นะเจส แค่คิดว่าต้องเจอหน้าเค้าชั้นยังทำใจไม่ค่อยได้เลย แต่ไม่เป็นไรหรอกวันนึงชั้นก็ต้องผ่านมันไปให้ได้”

“แกหนีมันมานานพอแล้วนะ ห้าปีกว่าที่แกอยู่ต่างประเทศมันไม่ทำให้แกหนีความรู้สึกนั้นไปได้หรอก เผชิญหน้าสู้กับมันซะแล้วแกจะรู้ว่า มันก็แค่ผงที่เข้าตา เดี๋ยวมันก็หาย”

นั่นไงผมว่าแล้วว่าเธอคนนี้ต้องอกหักมา มิน่าล่ะพยามจะหาผมเป็นที่พึ่งทางใจ เกิดเป็นแมวหล่อก็อย่างนี้ล่ะครับ ไปไหนมีแต่สาวๆอยากให้ซับน้ำตา อิอิอิ

คืนนั้นผมนอนฟังเธอเล่าเรื่องราวต่างๆมากมาย เธอลูบหัว เกาคอและเกาหลังหูให้ผมด้วย นี่เธอรู้ได้ไงเนี่ยว่าผมมักจะคันหลังหูข้างซ้ายเป็นประจำ

ตอนหัวค่ำเธอพยามนอนกับผม แต่ผมไม่ยอมหรอกอยู่ๆจะให้ผมไปนอนกับคนแปลกหน้าได้ยังไง ยิ่งเป็นสาวๆแล้วด้วยเดี๋ยวใครรู้เข้าชื่อเสียงผมเสียหายพอดี ผมหนีเธอไปนอนใต้ทีวี แต่พอตกดึกเธอหลับไปแล้วผมย่องมาบนเตียงแล้วล้มตัวลงนอนบนผ้าแพรของผม

ผมได้กลิ่นตัวจากเธอมันเป็นกลิ่นที่ผมคุ้นเคย แต่กลิ่นนั้นจางมากผมคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยได้กลิ่นนี้จากที่ไหนมาก่อน  แต่นึกไม่ออกว่ากลิ่นอะไร ผมแอบมองและแอบดมตัวเธอ รู้สึกเหมือนจะคุ้นแต่ไม่เคย ช่างเถอะง่วงแล้ว คิดแค่นี้ผมก็ผล็อยหลับไป

“เจส บัตรฉีดวัคซีนโพดอยู่ที่ไหนล่ะ หาไม่เจอ”

“อยู่ในกล่องโพดนั่นแหละ ปีนี้ฉีดครบแล้ว”

“แล้วหวีข้าวโพดล่ะ”

“แม่คุณจะไม่เหลืออะไรไว้ให้ชั้นชื่นชมเป็นของต่างหน้าไอ้โพดมั่งเลยเหรอยะ”

“ไม่ได้หวีมันแพงเอาจานข้าวไว้แทนละกันมันถูกกว่า”

“นังเค็มทะเลจืด”

“ขอบใจที่ชม ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

ผมสงสัยว่ามันจะวุ่นวายอะไรกันนักหนา แล้วทำไมต้องมายุ่งกับสมบัติของผมด้วย

“ข้าวโพดไปอยู่กรุงเทพกับพี่นะ ต่อไปนี้พี่จะไม่ทิ้งโพดไปไหนอีกแล้วนะจ๊ะ สุดหล่อของพี่”

ไปกรุงเทพ??????

“โชคดีนะโพดนะ พี่แกเค้ามารับแกไปแล้ว ชั้นจะคิดถึงแกนะโพด”

“ขอบใจนะเจสที่ช่วยดูแลโพดมาตลอด ขอบใจมากๆเลย”

“เออไม่เป็นไรหรอก รีบพาไอ้โพดไปเหอะ ชั้นไม่อยากให้มันเห็นชั้นร้องไห้เดี๋ยวมันจะหาว่าชั้นอ่อนแอ”

ผมยังงงๆอยู่ตอนที่เธออุ้มผมใส่กรงและพาผมขึ้นรถไป

“แง๊วววว แง๊วววว แง๊ววววว”

“ข้าวโพดไม่ต้องกลัวนะ พี่จะพาข้าวโพดไปอยู่ด้วยกัน เราจะได้เล่นกันแล้วก็นอนด้วยกันเหมือนเมื่อก่อนไง”

ไม่เอาจะพาผมไปไหน ผมไม่ไป ผมอยากกลับบ้านนนนนนน ช่วยผมด้วย ผมถูกลักพาตัว

เธอพาผมมายังที่ที่เค้าเรียกกันว่าสนามบิน ฮะแฮ่มถึงผมจะเป็นแมวแต่ผมก็มีความรู้นะครับเพราะผมดูหนังบ่อยๆ

“จะโหลดแมวขึ้นเครื่องไปด้วยน่ะค่ะ ไม่ทราบกิโลละเท่าไหร่คะ”

“เอาแมวกับกรงชั่งน้ำหนักก่อนค่ะ ถ้าไม่เกินสิบกิโลก็พาขึ้นเครื่องได้เลยเสียค่าน้ำหนักกิโลละห้าสิบบาทค่ะ”

“ทั้งหมดแปดกิโลค่ะ เอาขึ้นเครื่องได้เลยค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ”

ผมมองออกไปนอกกรงที่ผมนอนอยู่ เห็นมีผู้คนมากมาย มันตื่นตาตื่นใจจนผมลืมความกลัวไปเลยครับ เธอพาผมไปนั่งด้านใน ระหว่างที่นั่งรอก็มีแต่คนมองมาที่ผม ผมรู้สึกภูมิใจนิดหน่อยก็แหมความหล่อของผมใช่ย่อยที่ไหน ใครๆเค้าก็ปลื้มผมกันทั้งนั้น นี่ถ้าผมเป็นคนนะ พี่เคนไม่ได้เกิดหรอกค้าบ อิอิอิ

“นั่นไง แมวที่หนักแปดกิโลน่ะ”

“โหตัวอ้วนเนอะ”

“น่าฟัดจัง กินอะไรเนี่ยทำไมตัวอ้วนอย่างนี้

ไหนใครอ้วน ผมพยามหันไปดูว่ามีใครที่อ้วนอยู่แถวนี้รึเปล่าเห็นคนเค้าฮือฮากัน ว่าไปแล้วก็สงสารเค้านะค้าบ อ้วนแล้วมีปมด้อย  มีแต่คนล้อเลียน เห็นมั้ยนอกจากผมหล่อแล้วยังจิตใจดีอีกต่างหาก ถ้าเป็นดาราสาวๆคงกรี๊ดผมตรึม อิอิอิ

ซักพักผมได้ยินเสียงประกาศอะไรบางอย่าง กรงผมถูกยกจนลอย แล้วพาเดินไปตามทาง ตอนแรกมันก็เป็นทางกว้างๆแหละครับจากนั้นมันกลายเป็นทางแคบๆ เข้าไปสู่ห้องอะไรก็ไม่รู้ มีแต่เก้าอี้สีฟ้าเต็มไปหมด เสียงคนพูดคุยกันจ๊อกแจ๊กและเสียงหงึ่งๆบางอย่างที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน กลิ่นที่นี่มันก็แปลกๆ ตกลงเธอจะพาผมไปที่ไหนกันล่ะเนี่ย

“ที่นั่งเอ32เขิญด้านขวาเลยค่ะ”
“สวัสดีครับ มีแมวมาด้วยนะครับ ผมขออนุญาตเอากรงแมววางไว้ตรงที่นั่งด้านขวามือติดๆกันนะครับเวลาเครื่องขึ้นลงจะได้ไม่เลื่อนไปไหน”

“ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

“ขออนุญาตรัดเข็มขัดที่กรงด้วยนะครับ แมวน่ารักจังชื่ออะไรครับ”

“ชื่อข้าวโพดค่ะ”

“ต้องเป็นข้าวโพดฝรั่งแน่เลยตัวโตน่าดู อ้วนน่ารักดีนะครับ”

“ค่ะ”

กรงผมถูกยกมาวางบนเก้าอี้สีฟ้า ผมนอนดูลาดเลาอยู่ในกรงสงสัยในความเป็นไปรอบตัว ซักพักใหญ่ๆผมก็ได้ยินเสียงอะไรดังๆ แล้วกรงผมมันก็รู้สึกเอียงขึ้นนิดๆ ผมรู้แค่ว่าผมกำลังจะไปที่ไหนซักแห่ง ด้วยไอ้ห้องที่เต็มไปด้วยเก้าอี้สีฟ้านี้ อากาศเย็นสบายทำให้ผมคลายกังวลไปได้บ้าง แต่ไม่รู้ว่าจากนี้ผมจะเจออะไรอีก

“รับชาหรือกาแฟดีคะ”

ผมคิดในใจ ผมไม่ดื่มคาแฟอีน ขอเป็นทาโร่แทนได้มั้ยค้าบ แง๊วววว

ปล. ข้าวโพดหายไปนานมาก หวังว่ายังคงจำวีรกรรมน่ารัก น่ากวนของข้าวโพดได้อยู่นะค้าบ แง๊วววว

 
 

จากคุณ : ข้าวโพดแมวติสต์แตก
เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 10:32:15




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com